ล็อกอินเข้าไปเอาย่อยาว จาก ศาลฏีกา มาให้อ่านครับ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2578/2530
แหล่งที่มา: เนติบัณฑิตยสภา
โจทก์ฟ้องว่า สลากกินแบ่งของโจทก์ถูกรางวัลที่ 4 แต่สลากฉบับนี้หายไป โจทก์นำภาพถ่ายสลากที่สูญหายพร้อมทั้งหลักฐานการแจ้งความไปขอรับรางวัลจากจำเลย แต่จำเลยไม่ยอมจ่ายให้ขอให้บังคับให้จำเลยจ่ายเงินรางวัล 20,000 บาท และดอกเบี้ยจำเลยให้การว่า โจทก์ไม่ใช่ผู้ถูกรางวัล เพราะโจทก์ไม่นำสลากกินแบ่งฉบับที่ถูกรางวัลมาขอรับรางวัล และสลากกินแบ่งทุกฉบับมีเงื่อนไขที่ระบุไว้ด้านหลังสลากว่า เงินรางวัลจะจ่ายแก่ผู้ถือสลากฉบับที่ถูกรางวัลนำมาขอรับเท่านั้น ขอให้ยกฟ้องศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยใช้เงินให้แก่โจทก์ 20,000 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ย จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า "คดีนี้ต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง จำเลยฎีกาในปัญหาข้อกฎหมายว่าจำเลยได้ระบุเงื่อนไขการรับรางวัลไว้ที่ด้านหลังสลากกินแบ่งทุกฉบับว่าเงินรางวัลจะจ่ายแก่ผู้ถือสลากฉบับที่ถูกรางวัลนำมาขอรับ เงื่อนไขการรับเงินรางวัลดังกล่าวถือได้ว่าเป็นสัญญาข้อหนึ่งซึ่งโจทก์จำเลยต้องปฏิบัติตาม โจทก์มาขอรับเงินรางวัลโดยไม่ถือสลากที่ถูกรางวัลมาแสดงต่อจำเลยถือได้ว่าโจทก์ผิดสัญญาไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขในการรับเงินรางวัลดังกล่าว จำเลยจึงไม่มีหน้าที่ต้องจ่ายเงินรางวัลแก่โจทก์ ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยข้อเท็จจริงจากพยานหลักฐานในสำนวน ซึ่งศาลฎีกาต้องถือตามว่าโจทก์เป็นเจ้าของสลากกินแบ่งที่ถูกรางวัลตามฟ้อง เมื่อเป็นดังนี้ศาลฎีกาพิเคราะห์แล้วเห็นว่า ข้อกำหนดดังกล่าวที่จำเลยเรียกว่าเงื่อนไขนั้นเป็นข้อกำหนดที่มีไว้เพื่อจำเลยจะจ่ายเงินให้เจ้าของสลากกินแบ่งที่แท้จริง โดยป้องกันผู้ทุจริตแอบอ้างมารับเงินรางวัล เพื่อให้จำเลยมีหลักฐานในการที่จะจ่ายเงินให้แก่ผู้ถูกรางวัลเท่านั้น ไม่ใช่ข้อกำหนดที่จะไม่จ่ายเงินรางวัลแก่ผู้ถูกรางวัลที่สลากหายไป เมื่อคดีฟังได้ว่าโจทก์เป็นเจ้าของสลากกินแบ่งที่ถูกรางวัลตามฟ้อง โจทก์จึงมีสิทธิที่จะได้รับเงินรางวัลจากจำเลย จำเลยจะอ้างข้อกำหนดนี้เพื่อไม่จ่ายเงินรางวัลให้แก่โจทก์หาได้ไม่ ปัญหาเช่นนี้ศาลฎีกาได้เคยวินิจฉัยไว้แล้วในคำพิพากษาฎีกาที่ 222/2497 ระหว่างนายภัทร บูรณะบุตร โจทก์ กระทรวงการคลังกับพวก จำเลยคำพิพากษาฎีกาที่ 468/2515 ระหว่าง จ่าเอกมาโนช เชาว์ฉลาดโจทก์ กระทรวงการคลัง กับพวก จำเลย และคำพิพากษาฎีกาที่3409/2525 ระหว่างนางสมหมาย ปอดีเสมอ โจทก์ สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล จำเลย ศาลล่างทั้งสองพิพากษาชอบแล้ว ฎีกาจำเลยฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน ให้จำเลยใช้ค่าทนายความชั้นฎีกา 500 บาทแทนโจทก์"
กฎหมายที่เกี่ยวข้อง
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 368
พระราชบัญญัติจัดตั้งสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล พ.ศ.2517 มาตรา 368
ฎีกา 2578/2530 ที่ ผบ.ตร. ยกมาอ้าง เป็นเรื่องเกี่ยวกับนำสลากถ่ายเอกสารไปขึ้นเงิน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2578/2530
แหล่งที่มา: เนติบัณฑิตยสภา
โจทก์ฟ้องว่า สลากกินแบ่งของโจทก์ถูกรางวัลที่ 4 แต่สลากฉบับนี้หายไป โจทก์นำภาพถ่ายสลากที่สูญหายพร้อมทั้งหลักฐานการแจ้งความไปขอรับรางวัลจากจำเลย แต่จำเลยไม่ยอมจ่ายให้ขอให้บังคับให้จำเลยจ่ายเงินรางวัล 20,000 บาท และดอกเบี้ยจำเลยให้การว่า โจทก์ไม่ใช่ผู้ถูกรางวัล เพราะโจทก์ไม่นำสลากกินแบ่งฉบับที่ถูกรางวัลมาขอรับรางวัล และสลากกินแบ่งทุกฉบับมีเงื่อนไขที่ระบุไว้ด้านหลังสลากว่า เงินรางวัลจะจ่ายแก่ผู้ถือสลากฉบับที่ถูกรางวัลนำมาขอรับเท่านั้น ขอให้ยกฟ้องศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยใช้เงินให้แก่โจทก์ 20,000 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ย จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า "คดีนี้ต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง จำเลยฎีกาในปัญหาข้อกฎหมายว่าจำเลยได้ระบุเงื่อนไขการรับรางวัลไว้ที่ด้านหลังสลากกินแบ่งทุกฉบับว่าเงินรางวัลจะจ่ายแก่ผู้ถือสลากฉบับที่ถูกรางวัลนำมาขอรับ เงื่อนไขการรับเงินรางวัลดังกล่าวถือได้ว่าเป็นสัญญาข้อหนึ่งซึ่งโจทก์จำเลยต้องปฏิบัติตาม โจทก์มาขอรับเงินรางวัลโดยไม่ถือสลากที่ถูกรางวัลมาแสดงต่อจำเลยถือได้ว่าโจทก์ผิดสัญญาไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขในการรับเงินรางวัลดังกล่าว จำเลยจึงไม่มีหน้าที่ต้องจ่ายเงินรางวัลแก่โจทก์ ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยข้อเท็จจริงจากพยานหลักฐานในสำนวน ซึ่งศาลฎีกาต้องถือตามว่าโจทก์เป็นเจ้าของสลากกินแบ่งที่ถูกรางวัลตามฟ้อง เมื่อเป็นดังนี้ศาลฎีกาพิเคราะห์แล้วเห็นว่า ข้อกำหนดดังกล่าวที่จำเลยเรียกว่าเงื่อนไขนั้นเป็นข้อกำหนดที่มีไว้เพื่อจำเลยจะจ่ายเงินให้เจ้าของสลากกินแบ่งที่แท้จริง โดยป้องกันผู้ทุจริตแอบอ้างมารับเงินรางวัล เพื่อให้จำเลยมีหลักฐานในการที่จะจ่ายเงินให้แก่ผู้ถูกรางวัลเท่านั้น ไม่ใช่ข้อกำหนดที่จะไม่จ่ายเงินรางวัลแก่ผู้ถูกรางวัลที่สลากหายไป เมื่อคดีฟังได้ว่าโจทก์เป็นเจ้าของสลากกินแบ่งที่ถูกรางวัลตามฟ้อง โจทก์จึงมีสิทธิที่จะได้รับเงินรางวัลจากจำเลย จำเลยจะอ้างข้อกำหนดนี้เพื่อไม่จ่ายเงินรางวัลให้แก่โจทก์หาได้ไม่ ปัญหาเช่นนี้ศาลฎีกาได้เคยวินิจฉัยไว้แล้วในคำพิพากษาฎีกาที่ 222/2497 ระหว่างนายภัทร บูรณะบุตร โจทก์ กระทรวงการคลังกับพวก จำเลยคำพิพากษาฎีกาที่ 468/2515 ระหว่าง จ่าเอกมาโนช เชาว์ฉลาดโจทก์ กระทรวงการคลัง กับพวก จำเลย และคำพิพากษาฎีกาที่3409/2525 ระหว่างนางสมหมาย ปอดีเสมอ โจทก์ สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล จำเลย ศาลล่างทั้งสองพิพากษาชอบแล้ว ฎีกาจำเลยฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน ให้จำเลยใช้ค่าทนายความชั้นฎีกา 500 บาทแทนโจทก์"
กฎหมายที่เกี่ยวข้อง
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 368
พระราชบัญญัติจัดตั้งสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล พ.ศ.2517 มาตรา 368