กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ณ ดินแดนอันไกลโพ้น มีเด็กชายคนหนึ่งชื่อว่า "ฮยอน" เขาเป็นลูกของปีศาจแมงมุมที่ดุร้ายและเลือดเย็น มันคร่าชีวิตคนในเมืองไปเป็นว่าเล่น
ด้วยความที่สัญชาตญาณดังกล่าวอยู่เหนืออำนาจการควบคุมของจิตใจ ฮยอนจึงถูกเลี้ยงดูโดยมารดาซึ่งเป็นมนุษย์ ด้วยเหตุว่าหากเขายังคงอาศัยอยู่กับปีศาจแมงมุมผู้เป็นบิดานั้น เมื่อชะตาถึงฆาต เขาก็จะถูกกินเป็นอาหารไปด้วยเช่นกัน
ฮยอนมีร่างกายเหมือนกับเด็กคนอื่นทั่วไป เพียงแต่ทุกครั้งที่เขาพูดจะมีใยแมงมุมไหลออกมาจากปาก นั่นจึงทำให้เขาไม่ยอมปริปากพูดกับใครเลยนอกจากผู้เป็นแม่
และในเย็นวันหนึ่ง ฮยอนกลับมาบ้านด้วยใบหน้าฟกช้ำปูดบวม รวมถึงมีแผลแตกที่กลางกระหม่อมด้วย เขาเดินตรงไปยังหลังบ้านบริเวณที่เป็นครัวทันทีเมื่อกลับมาถึง
"ทำไมข้าถึงเล่นกับใครไม่ได้เลยล่ะท่านแม่?" เด็กน้อยพูดกับแม่ที่กำลังก่อไฟเพื่อหุงอาหารอยู่ด้วยท่าทีไร้เดียงสา ส่วนผู้เป็นแม่นั้นเมื่อเห็นสภาพลูกชายก็ถึงกับร้องไห้โฮออกมาในทันใด
"เกิดอะไรขึ้นกับเจ้า?"
"ข้าไปวิ่งเล่นกับบงฮีที่ลำธารเหมือนทุกครั้ง ข้าก็ทำตามที่ท่านแม่บอก คือห้ามพูดอะไรจนใยแมงมุมไหลออกมาเป็นอันขาด แต่ท่านลุงตัวใหญ่ๆ ที่บงฮีเรียกว่าท่านพ่อน่ะ เข้ามาต่อยตีข้าจนล้มหัวฟาดกับโขดหิน" ฮยอนเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดให้แม่ฟังด้วยความไม่เข้าใจ เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าการมีใยแมงมุมไหลออกมาจากปากเป็นความผิดตรงไหน
"คราวหน้าถ้าเจ้าเหงา เจ้ามาเล่นกับแม่นะลูก" สองแม่ลูกโอบกอดกันด้วยความเจ็บช้ำอย่างน่าเวทนาที่สุด
แล้วเวลาก็ล่วงเลยไปหลายปี ฮยอนเติบโตขึ้นจนเป็นวัยรุ่น เช้าวันนี้เขาเดินทางออกจากบ้านเพื่อหาฟืนกลับไปให้แม่อันเป็นกิจวัตรประจำวันที่ทำมาเสมอ
อาจเพราะความบังเอิญหรือโชคชะตานำพา ฮยอนได้กลับมาพบกับบงฮีเพื่อนสาวในวัยเด็กอีกครั้ง ทั้งสองดีใจเป็นอย่างมากเพราะคิดว่าคงไม่มีโอกาสได้เจอกันอีกแล้วในชีวิตนี้
"ฮยอน.. เจ้าไปอยู่ที่ใดมา?" บงฮีถามด้วยท่าทีดีอกดีใจ ทว่าเด็กหนุ่มกลับไม่พูดอะไรตอบกลับ เขาเอาแต่โบกมือเป็นสัญลักษณ์คล้ายกับว่าจะไล่ให้เธอไปไกลๆ
"อ๋อ.. ข้าลืม!" เด็กสาวหยิบผ้าเช็ดหน้าผืนใหญ่ขึ้นมาปิดตาไว้ ก่อนจะกลับตัวยืนหันหลังให้เพื่อนชายอย่างรู้ใจกัน เพราะในครั้งยังเป็นเด็ก ฮยอนก็จะให้เธอทำเช่นนี้เสมอยามต้องพูดคุยกัน
"สามวันให้หลังจากวันที่ข้าเล่นกับเจ้าที่ลำธาร ท่านพ่อของเจ้ากับพรรคพวกบุกมาพังบ้านและทำร้ายข้ากับท่านแม่ พวกเราจึงต้องหนีไปอยู่ที่อื่น" ฮยอนตอบคำถาม พร้อมๆ กับยกมือขึ้นรองใยแมงมุมของตัวเองที่ไหลย้อยออกมาแล้วรีบโยนทิ้งไป
"ข้าไม่รู้เรื่องนี้มาก่อนเลย.. ข้าขอโทษนะฮยอน"
"เจ้าไม่ได้ทำอะไรผิด ไม่จำเป็นต้องขอโทษอะไรข้า"
"ท่านพ่อของข้าป่วยตายไปแล้วเมื่อฤดูฝนปีก่อน จะไม่มีใครตีเจ้าอีกแล้วนะ เรากลับมาเป็นเพื่อนกันเถอะนะ ข้าคิดถึงเจ้ามาตลอดเลย เจ้าเป็นเพื่อนที่ข้ารักมากที่สุด"
"เจ้ารู้หรือไม่ว่าทำไมท่านพ่อของเจ้าจึงเกลียดชังข้า?"
"ข้าไม่รู้"
"ถ้าเจ้ารู้ เจ้าจะไม่อยากเป็นเพื่อนกับข้าอีกเลย"
"ทำไมข้าถึงจะไม่เป็นเพื่อนกับเจ้าล่ะ? ข้ารักเจ้าจะตายไปฮยอน เจ้าเป็นเพื่อนผู้ชายคนเดียวที่ไม่ดูถูกข้า เจ้าปฏิบัติกับข้าอย่างดี ข้าจำได้ทุกอย่าง"
"เจ้าแน่ใจหรือ?"
"ข้าแน่ใจ เจ้าบอกข้ามาได้เลย"
"ข้ามีพ่อเป็นปีศาจแมงมุม" ฮยอนหย่อนก้นลงนั่งบนโคนต้นไม้ใหญ่ด้วยท่าทีกระอักกระอ่วนใจ
บงฮีที่ได้ฟังดังนั้นก็ถึงกับนิ่งอึ้งไป ไม่ใช่ว่าเธอไม่เคยได้ยินเรื่องแบบนี้มาก่อน เธอแค่เลือกจะไม่เชื่อสิ่งที่พวกบิดาของตนพูดออกมาเพียงเท่านั้น
เพื่อนผู้แสนดีคนนี้จะเป็นปีศาจแมงมุมไปได้อย่างไร?
"ขะ.. ข้าไม่เชื่อ"
"ถ้าไม่เชื่อก็เปิดตาแล้วหันมามองข้าสิ" ฮยอนปล่อยให้ใยแมงมุมห้อยย้อยเต็มปากอยู่อย่างนั้น เขามองดูเพื่อนสาวซึ่งกำลังแก้ปมผ้าเช็ดหน้าที่ปิดบังจักษุประสาทอยู่ด้วยแววตาอันสิ้นหวัง
และแล้วบงฮีก็แก้ผ้าปิดตาออกได้สำเร็จ เธอสูดหายใจเข้าช้าๆ ก่อนจะค่อยๆ หันมามองเพื่อนชายที่เธอเฝ้ารอจะพบเจอมานานแสนนาน
"กรี๊ด!" สาวน้อยถึงกับเข่าอ่อนหน้าถอดสี เธอล้มทั้งยืนด้วยความตกใจถึงขีดสุด ปากของฮยอนนั้นเต็มไปด้วยใยแมงมุมจำนวนมากไหลย้อยลงมาถึงตัก บัดนี้.. ทุกข้อสงสัยซึ่งเคยค้างคาในใจถูกคลี่คลายจนหมดสิ้นแล้ว
"ถ้าอยากหนีก็ไปเถอะ" ฮยอนพูดด้วยท่าทีสงบนิ่ง เขาเตรียมใจมาตลอดว่าสักวันหนึ่งจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นมา
"ขะ.. ข้าแค่ตกใจเฉยๆ น่ะ" บงฮีกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก "ยังไงซะเจ้าก็เป็นเพื่อนของข้า ข้าจะหนีเจ้าทำไมล่ะฮยอน?"
"เจ้ารับข้าได้งั้นหรือ?" เด็กหนุ่มถามด้วยประกายตาลุกวาวสุกใส
"แน่นอน" สาวน้อยหัวเราะแห้งๆ รอยยิ้มเล็กๆ ปรากฏชัดต่อสายตาของเด็กหนุ่ม ปฏิกิริยาของบงฮีทำให้จิตใจของเขาชุ่มชื้นขึ้นเป็นอย่างมาก
"ขอบใจเจ้ามากนะ" ฮยอนฉีกยิ้มกว้างด้วยความสุข ก่อนที่จู่ๆ เขาจะนึกถึงสิ่งที่ต้องทำขึ้นมาได้
"บงฮี.. ข้าต้องไปหาฟืนต่อแล้ว พรุ่งนี้เจ้ามาพบข้าที่นี่ได้หรือไม่? ข้าอยากพูดคุยกับเจ้า ไม่ได้เจอกันนานมากเลย"
"ได้สิ.. เจ้ารีบไปเถอะ พรุ่งนี้เจอกันที่นี่"
"ตกลง.. วันนี้ข้าจะหาฟืนเผื่อในส่วนของวันพรุ่งนี้ไปเลย"
ฮยอนเดินจากบงฮีมาด้วยรอยยิ้ม เขาเองก็คิดถึงเด็กสาวมากเช่นเดียวกัน เด็กหนุ่มเป็นกังวลมาตลอดระยะเวลาหลายปีว่าถ้าเธอรู้ความจริงทั้งหมดขึ้นมา ความสัมพันธ์ของพวกเขาจะจบลงไม่สวยนัก
วันรุ่งขึ้น ฮยอนออกจากบ้านมาตั้งแต่เช้าด้วยความเบิกบานใจ รอยยิ้มอ่อนโยนไร้เดียงสาไม่ได้ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขามานานเท่าไรแล้วนะ? ในที่สุดเรื่องหนักใจทั้งหมดก็คลี่คลายไปแล้ว ต่อไปนี้เขาจะได้นั่งเผชิญหน้าพูดคุยกับเพื่อนสาวสุดที่รักเหมือนคนปกติเสียที
ทว่า.. ตั้งแต่เช้าสายจนเย็นย่ำ บงฮีก็ไม่มาหาฮยอนตามสัญญา เด็กหนุ่มคิดว่าบางทีเพื่อนสาวอาจจะติดธุระบางประการอยู่ เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็คงจะมาหาเขาเป็นแน่ เมื่อคิดเช่นนั้น เขาจีงมานั่งรอที่เดิมทุกวัน ไม่ว่าแดดจะร้อน ฝนจะตก หรือหิมะโปรยปราย
แต่ฮยอนก็ไม่เคยได้พบหน้าบงฮีอีกเลย..
[เรื่องสั้น] ทายาทปีศาจแมงมุม
ด้วยความที่สัญชาตญาณดังกล่าวอยู่เหนืออำนาจการควบคุมของจิตใจ ฮยอนจึงถูกเลี้ยงดูโดยมารดาซึ่งเป็นมนุษย์ ด้วยเหตุว่าหากเขายังคงอาศัยอยู่กับปีศาจแมงมุมผู้เป็นบิดานั้น เมื่อชะตาถึงฆาต เขาก็จะถูกกินเป็นอาหารไปด้วยเช่นกัน
ฮยอนมีร่างกายเหมือนกับเด็กคนอื่นทั่วไป เพียงแต่ทุกครั้งที่เขาพูดจะมีใยแมงมุมไหลออกมาจากปาก นั่นจึงทำให้เขาไม่ยอมปริปากพูดกับใครเลยนอกจากผู้เป็นแม่
และในเย็นวันหนึ่ง ฮยอนกลับมาบ้านด้วยใบหน้าฟกช้ำปูดบวม รวมถึงมีแผลแตกที่กลางกระหม่อมด้วย เขาเดินตรงไปยังหลังบ้านบริเวณที่เป็นครัวทันทีเมื่อกลับมาถึง
"ทำไมข้าถึงเล่นกับใครไม่ได้เลยล่ะท่านแม่?" เด็กน้อยพูดกับแม่ที่กำลังก่อไฟเพื่อหุงอาหารอยู่ด้วยท่าทีไร้เดียงสา ส่วนผู้เป็นแม่นั้นเมื่อเห็นสภาพลูกชายก็ถึงกับร้องไห้โฮออกมาในทันใด
"เกิดอะไรขึ้นกับเจ้า?"
"ข้าไปวิ่งเล่นกับบงฮีที่ลำธารเหมือนทุกครั้ง ข้าก็ทำตามที่ท่านแม่บอก คือห้ามพูดอะไรจนใยแมงมุมไหลออกมาเป็นอันขาด แต่ท่านลุงตัวใหญ่ๆ ที่บงฮีเรียกว่าท่านพ่อน่ะ เข้ามาต่อยตีข้าจนล้มหัวฟาดกับโขดหิน" ฮยอนเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดให้แม่ฟังด้วยความไม่เข้าใจ เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าการมีใยแมงมุมไหลออกมาจากปากเป็นความผิดตรงไหน
"คราวหน้าถ้าเจ้าเหงา เจ้ามาเล่นกับแม่นะลูก" สองแม่ลูกโอบกอดกันด้วยความเจ็บช้ำอย่างน่าเวทนาที่สุด
แล้วเวลาก็ล่วงเลยไปหลายปี ฮยอนเติบโตขึ้นจนเป็นวัยรุ่น เช้าวันนี้เขาเดินทางออกจากบ้านเพื่อหาฟืนกลับไปให้แม่อันเป็นกิจวัตรประจำวันที่ทำมาเสมอ
อาจเพราะความบังเอิญหรือโชคชะตานำพา ฮยอนได้กลับมาพบกับบงฮีเพื่อนสาวในวัยเด็กอีกครั้ง ทั้งสองดีใจเป็นอย่างมากเพราะคิดว่าคงไม่มีโอกาสได้เจอกันอีกแล้วในชีวิตนี้
"ฮยอน.. เจ้าไปอยู่ที่ใดมา?" บงฮีถามด้วยท่าทีดีอกดีใจ ทว่าเด็กหนุ่มกลับไม่พูดอะไรตอบกลับ เขาเอาแต่โบกมือเป็นสัญลักษณ์คล้ายกับว่าจะไล่ให้เธอไปไกลๆ
"อ๋อ.. ข้าลืม!" เด็กสาวหยิบผ้าเช็ดหน้าผืนใหญ่ขึ้นมาปิดตาไว้ ก่อนจะกลับตัวยืนหันหลังให้เพื่อนชายอย่างรู้ใจกัน เพราะในครั้งยังเป็นเด็ก ฮยอนก็จะให้เธอทำเช่นนี้เสมอยามต้องพูดคุยกัน
"สามวันให้หลังจากวันที่ข้าเล่นกับเจ้าที่ลำธาร ท่านพ่อของเจ้ากับพรรคพวกบุกมาพังบ้านและทำร้ายข้ากับท่านแม่ พวกเราจึงต้องหนีไปอยู่ที่อื่น" ฮยอนตอบคำถาม พร้อมๆ กับยกมือขึ้นรองใยแมงมุมของตัวเองที่ไหลย้อยออกมาแล้วรีบโยนทิ้งไป
"ข้าไม่รู้เรื่องนี้มาก่อนเลย.. ข้าขอโทษนะฮยอน"
"เจ้าไม่ได้ทำอะไรผิด ไม่จำเป็นต้องขอโทษอะไรข้า"
"ท่านพ่อของข้าป่วยตายไปแล้วเมื่อฤดูฝนปีก่อน จะไม่มีใครตีเจ้าอีกแล้วนะ เรากลับมาเป็นเพื่อนกันเถอะนะ ข้าคิดถึงเจ้ามาตลอดเลย เจ้าเป็นเพื่อนที่ข้ารักมากที่สุด"
"เจ้ารู้หรือไม่ว่าทำไมท่านพ่อของเจ้าจึงเกลียดชังข้า?"
"ข้าไม่รู้"
"ถ้าเจ้ารู้ เจ้าจะไม่อยากเป็นเพื่อนกับข้าอีกเลย"
"ทำไมข้าถึงจะไม่เป็นเพื่อนกับเจ้าล่ะ? ข้ารักเจ้าจะตายไปฮยอน เจ้าเป็นเพื่อนผู้ชายคนเดียวที่ไม่ดูถูกข้า เจ้าปฏิบัติกับข้าอย่างดี ข้าจำได้ทุกอย่าง"
"เจ้าแน่ใจหรือ?"
"ข้าแน่ใจ เจ้าบอกข้ามาได้เลย"
"ข้ามีพ่อเป็นปีศาจแมงมุม" ฮยอนหย่อนก้นลงนั่งบนโคนต้นไม้ใหญ่ด้วยท่าทีกระอักกระอ่วนใจ
บงฮีที่ได้ฟังดังนั้นก็ถึงกับนิ่งอึ้งไป ไม่ใช่ว่าเธอไม่เคยได้ยินเรื่องแบบนี้มาก่อน เธอแค่เลือกจะไม่เชื่อสิ่งที่พวกบิดาของตนพูดออกมาเพียงเท่านั้น
เพื่อนผู้แสนดีคนนี้จะเป็นปีศาจแมงมุมไปได้อย่างไร?
"ขะ.. ข้าไม่เชื่อ"
"ถ้าไม่เชื่อก็เปิดตาแล้วหันมามองข้าสิ" ฮยอนปล่อยให้ใยแมงมุมห้อยย้อยเต็มปากอยู่อย่างนั้น เขามองดูเพื่อนสาวซึ่งกำลังแก้ปมผ้าเช็ดหน้าที่ปิดบังจักษุประสาทอยู่ด้วยแววตาอันสิ้นหวัง
และแล้วบงฮีก็แก้ผ้าปิดตาออกได้สำเร็จ เธอสูดหายใจเข้าช้าๆ ก่อนจะค่อยๆ หันมามองเพื่อนชายที่เธอเฝ้ารอจะพบเจอมานานแสนนาน
"กรี๊ด!" สาวน้อยถึงกับเข่าอ่อนหน้าถอดสี เธอล้มทั้งยืนด้วยความตกใจถึงขีดสุด ปากของฮยอนนั้นเต็มไปด้วยใยแมงมุมจำนวนมากไหลย้อยลงมาถึงตัก บัดนี้.. ทุกข้อสงสัยซึ่งเคยค้างคาในใจถูกคลี่คลายจนหมดสิ้นแล้ว
"ถ้าอยากหนีก็ไปเถอะ" ฮยอนพูดด้วยท่าทีสงบนิ่ง เขาเตรียมใจมาตลอดว่าสักวันหนึ่งจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นมา
"ขะ.. ข้าแค่ตกใจเฉยๆ น่ะ" บงฮีกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก "ยังไงซะเจ้าก็เป็นเพื่อนของข้า ข้าจะหนีเจ้าทำไมล่ะฮยอน?"
"เจ้ารับข้าได้งั้นหรือ?" เด็กหนุ่มถามด้วยประกายตาลุกวาวสุกใส
"แน่นอน" สาวน้อยหัวเราะแห้งๆ รอยยิ้มเล็กๆ ปรากฏชัดต่อสายตาของเด็กหนุ่ม ปฏิกิริยาของบงฮีทำให้จิตใจของเขาชุ่มชื้นขึ้นเป็นอย่างมาก
"ขอบใจเจ้ามากนะ" ฮยอนฉีกยิ้มกว้างด้วยความสุข ก่อนที่จู่ๆ เขาจะนึกถึงสิ่งที่ต้องทำขึ้นมาได้
"บงฮี.. ข้าต้องไปหาฟืนต่อแล้ว พรุ่งนี้เจ้ามาพบข้าที่นี่ได้หรือไม่? ข้าอยากพูดคุยกับเจ้า ไม่ได้เจอกันนานมากเลย"
"ได้สิ.. เจ้ารีบไปเถอะ พรุ่งนี้เจอกันที่นี่"
"ตกลง.. วันนี้ข้าจะหาฟืนเผื่อในส่วนของวันพรุ่งนี้ไปเลย"
ฮยอนเดินจากบงฮีมาด้วยรอยยิ้ม เขาเองก็คิดถึงเด็กสาวมากเช่นเดียวกัน เด็กหนุ่มเป็นกังวลมาตลอดระยะเวลาหลายปีว่าถ้าเธอรู้ความจริงทั้งหมดขึ้นมา ความสัมพันธ์ของพวกเขาจะจบลงไม่สวยนัก
วันรุ่งขึ้น ฮยอนออกจากบ้านมาตั้งแต่เช้าด้วยความเบิกบานใจ รอยยิ้มอ่อนโยนไร้เดียงสาไม่ได้ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขามานานเท่าไรแล้วนะ? ในที่สุดเรื่องหนักใจทั้งหมดก็คลี่คลายไปแล้ว ต่อไปนี้เขาจะได้นั่งเผชิญหน้าพูดคุยกับเพื่อนสาวสุดที่รักเหมือนคนปกติเสียที
ทว่า.. ตั้งแต่เช้าสายจนเย็นย่ำ บงฮีก็ไม่มาหาฮยอนตามสัญญา เด็กหนุ่มคิดว่าบางทีเพื่อนสาวอาจจะติดธุระบางประการอยู่ เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็คงจะมาหาเขาเป็นแน่ เมื่อคิดเช่นนั้น เขาจีงมานั่งรอที่เดิมทุกวัน ไม่ว่าแดดจะร้อน ฝนจะตก หรือหิมะโปรยปราย
แต่ฮยอนก็ไม่เคยได้พบหน้าบงฮีอีกเลย..