JJNY : 4in1 สนท.โวยอ้างใบรับรองแพทย์ต่อพรก./พท.แนะฟังกลุ่มCARE/ก้าวหน้าสุรินทร์ประณามคุกคาม/อุตตมสั่งทำแผนรีดภาษี-กู้

สนท. ออกแถลง นิสิต-นศ. โวยรัฐอ้างใบรับรองแพทย์ ต่อ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน
https://www.khaosod.co.th/politics/news_4389848
 

 
สนท. ออกแถลงการณ์ จี้ รัฐบาล ไม่ต่ออายุ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน หวัง มิ.ย. เป็นเดือนสุดท้าย ชี้ รัฐบาล อ้างใบรับรองแพทย์ ละเมิดสิทธิประชาชน
 
เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน สหภาพนักเรียน นิสิต นักศึกษาแห่งประเทศไทย ได้ออกแถลงการณ์ "สนท. ขอต่อต้านการยืดอายุพ.ร.ก. ฉุกเฉิน" โดยระบุว่า

การที่สมช.มีมติเสนอให้รัฐบาลขยายเวลาการประกาศใช้พระราชกำหนดการบริหารแผ่นดินใน สถานการณ์ฉุกเฉินพ.ศ. 2548 หรือ พ.ร.ก. ฉุกเฉิน ออกไปอีกหนึ่งเดือน
 
โดยอ้างว่าเพื่อรับมือกับสถานการณ์แพร่ระบาดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ได้อย่างมีประสิทธิภาพซึ่งการอ้างของรัฐบาลนั้นเป็นข้ออ้างที่ฟังไม่ขึ้นเพราะสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ในประเทศไทยนั้นได้ทุเลาลงมาก จะเห็นได้ว่าประเทศไทยไม่มีผู้ติดเชื้อภายในประเทศติดต่อกันเป็นระยะเวลากว่าหนึ่งเดือนแล้ว จึงควรถือว่าสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 ในประเทศไทยไม่อยู่ในสภาวะฉุกเฉินที่จะต้องใช้กฎหมายพิเศษอีกต่อไป
 
การประกาศใช้ พ.ร.ก. ฉุกเฉิน เป็นระยะเวลากว่าสามเดือน รัฐบาลมิได้ใช้อำนาจในทางที่เป็นประโยชน์ต่อการควบคุมโรค แต่กลับใช้อำนาจดังกล่าวออกมาตรการที่ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตของประชาชน เช่น การห้ามออกนอกเคหสถานยามวิกาล (เคอร์ฟิว) ควบคุมสิทธิเสรีภาพของประชาชนที่ไม่เห็นด้วยกับรัฐบาล
 
ซึ่งจะเห็นได้ว่ามีนักศึกษา เยาวชน และประชาชนจำนวนมากที่เคลื่อนไหววิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลถูกดำเนินคดีด้วยกฏหมายดังกล่าว และที่สำคัญคือส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ นักลงทุนต่างชาติขาดความเชื่อมั่น ประชาชนจำนวนมากขาดแคลนรายได้โดยที่รัฐบาลไม่สามารถจัดมาตรการช่วยเหลือเยียวยาแก่ประชาชนอย่างทั่วถึงและมีประสิทธิภาพ
 
ดังนั้นการประกาศใช้ พ.ร.ก. ฉุกเฉิน ถือเป็นการกระทำอันเกินกว่าเหตุไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ใดต่อประเทศชาติ มีแต่จะสร้างความเสียหายเดือดร้อนแก่ประชาชน สนท. จึงขอเรียกร้องให้รัฐบาลพิจารณาไม่ต่ออายุ รวมถึงยกเลิกการประกาศใช้ พ.ร.ก. ฉุกเฉิน และใช้กฎหมายทั่วไปซึ่งสามารถควบคุมโรคแต่ไม่สามารถควบคุมประชาชนได้
 
เช่น พระราชบัญญัติโรคติดต่อร้ายแรงพ.ศ. 2558 เพื่อรับมือกับสถานการณ์แทน โดยหวังเป็นอย่างยิ่งว่าเดือนมิถุนายนจะเป็นเดือนสุดท้ายที่รัฐบาลประกาศใช้ พ.ร.ก. ฉุกเฉิน ไม่เช่นนั้นรัฐบาลจะได้ชื่อว่า อ้างใบรับรองแพทย์ละเมิดสิทธิประชาชน
 

 
พท.แนะฟังสัญญาณกลุ่ม CARE เผย 150 วัน ประเทศอันตราย อย่างไร? 
https://www.khaosod.co.th/politics/news_4387297
 
เมื่อวันที่ 26 มิ.ย. พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขานุการคณะกรรมการกิจการพิเศษพรรคเพื่อไทยอดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กล่าวถึงการสื่อสัญญาณ 150 วันอันตรายของเศรษฐกิจไทยโดยกลุ่มแคร์ภาคประชาชนว่า ส่อเค้าเป็นจริง
 
เพราะแบงค์ชาติได้สั่งให้ธนาคารพาณิชย์งดจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้น เป็นสิ่งบอกเหตุว่าธนาคารจะมีหนี้เสียที่ปริมาณสูง จึงต้องให้สำรองเงินเอาไว้แก้หนี้สูญ ขนาดผู้ว่าแบงค์ชาติยังไม่ขอต่อเทอมเป็นผู้ว่าสมัยที่สอง แสดงว่า เห็นความหายนะที่รออยู่ข้างหน้าแน่ๆ วิกฤติการณ์โควิด-19 เพียง 2 เดือนไม่เป็นเหตุให้เศรษฐกิจไทยต้องพังพินาศขนาดนี้หรอก
 
แต่ที่เป็นเช่นนี้เพราะเศรษฐกิจมันย่อยยับสะสมมาตั้งแต่ 6 ปีก่อนหน้านี้แล้ว ด้วยน้ำมือของรัฐบาลสืบทอดอำนาจ พอมาเจอโควิดซ้ำเติม บวกการใช้อำนาจ พ.ร.ก.ฉุกเฉินเกินความจำเป็น เพราะความขลาดกลัว ทำให้นักลงทุนทั้งไทยและเทศยิ่งขยาด ไม่กล้ามาลงทุนในประเทศไทย มันจึงสาหัสเกินกว่าที่ควรจะเป็น
 
พล.ท.ภราดร กล่าวอีกว่า ทางรอดพ้นจากวิกฤติการณ์นี้คือ เราต้องได้ผู้นำที่เป็นคนรู้จริง รอบคอบครบถ้วน และก้าวไกลเข้ามาแก้ไข แต่นายกฯ สืบทอดอำนาจ ไม่มีคุณลักษณะดังกล่าวเลยแม้แต่ข้อเดียว เมื่อมาเจอภาคประชาชนผู้รักประชาธิปไตยเคลื่อนไหวจัดกิจกรรม 24 มิถุนา 2475 รำลึกครบรอบ 88 ปีเปลี่ยนแปลงการปกครอง
 
ซึ่งจะไม่นำไปสู่เหตุการณ์ความวุ่นวายทางการเมืองในอนาคตแต่ประการใด ความต้องการของเขาก็คือ ให้กองทัพเป็นทหารอาชีพ มีสำนึกประชาธิปไตย ไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเมือง และเคียงข้างรับใช้ประชาชน ถ้ารัฐบาลรู้จริงเข้าใจความมุ่งหมายของประชาชน มองการณ์ไกล เร่งปฏิรูปกองทัพแต่เนิ่นให้เป็นไปตามเจตจำนงของประชาชน การต่อต้านคัดค้านย่อมไม่มี
 
แต่มันจะไม่เกิดขึ้นในรัฐบาลนี้เพราะพฤติการณ์ของผู้นำสืบทอดอำนาจที่ผ่านมา บ่งบอกว่าเขาเป็นคนมักใหญ่ใฝ่สูง กล้าทำทุกวิถีทางให้ได้อำนาจ โดยไม่คำนึงถึงศีลธรรมจรรยาแต่อย่างใด อย่าไปหวังสปิริตจากตัวเขา จึงเป็นที่มาว่าทำไมแฟลชม็อบต้องกลับมาลุกฮือขับไล่ ประชาชนเขาไม่แคร์ พ.ร.ก.ฉุกเฉินกันแล้ว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่