ส่องดวงเมืองผ่านดวงดาว 2568 (ตอนที่ 1)
ดาวมฤตยู ๐ ในราศีพฤษภ

ในการพยากรณ์ดวงเมืองในปี พ.ศ. 2568 จะใช้ดวงดาวสำคัญที่มีอิทธิพลในการก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงมาเป็นหลักในการพยากรณ์คือ ดาวพฤหัสบดี 5 ประธานดาวศุภเคราะห์ ดาวเสาร์ 7 ประธานดาวบาปพระเคราะห์ ราหู 8 และดาวมฤตยู ๐ ซึ่งกำลังโคจรในจักรราศีและสัมพันธ์ถึงดาวต่างๆ ในพื้นดวงเมืองอันเป็นจุดตั้งรับสำคัญ การพยากรณ์นี้จะเป็นเพียงภาพรวมของสถานการณ์ที่มีโอกาสเกิดขึ้นเท่านั้น

ทั้งนี้ ในปีนี้มีดาวสำคัญคือ ดาวพฤหัสบดี 5 ดาวเสาร์ 7 และ ราหู 8 มีการย้ายราศีในช่วงเวลาใกล้เคียงกันในเดือนพฤษภาคม 2568 โดยวันที่ 5 พ.ค. ราหู 8 ย้ายเข้าราศีกุมภ์ ถัดมาวันที่ 13 พ.ค. ดาวพฤหัสบดี 5 ย้ายเข้าราศี มิถุน และ วันที่ 19 พ.ค. ดาวเสาร์จึงย้ายเข้าราศีมีน ซึ่งโหรที่ดีต้องมีความเข้าใจในระยะเชิงมุมดีร้ายของดวงดาวที่กระทำต่อกันและต้องเข้าใจความหมายของดวงดาวและคู่ดาวที่มีปฏิสัมพันธ์ต่อกัน

ในต้นปี พ.ศ. 2568 ดาวมฤตยู ๐ ยังโคจรย้อนวิถีจักรในราศีพฤษภ ตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมาจนถึง 29 ม.ค. 2568 จึงกลับมาเดินหน้า และอยู่ในราศีนี้ถึงกลางปี 2572 ราศีพฤษภ ภพกดุมภะ เป็นภพที่สองของดวงเมือง มีดาวศุกร์ ๖ เป็นดาวเจ้าเรือน และมีดาวอังคาร ๓ ตนุลัคน์ของเมืองสถิตอยู่ ในโหราศาสตร์ชะตาบ้านเมือง ภพกดุมภะ มีความหมายถึง การเงิน การคลัง รายได้ ความมั่งคั่งร่ำรวยของประเทศและประชาชน ทรัพย์สินและการเงินของชาติ ภาษี ศุลกากร การค้า ตลาดหุ้น ธนาคาร พันธบัตร การติดต่อแลกเปลี่ยนและการปริวรรตเงินตรา องค์กรและหน่วยงานที่ดำเนินการเกี่ยวกับความมั่นคงทางการเงินและการจัดการเกี่ยวกับระบบการเงินของชาติ

ดาวมฤตยู ๐ เป็นดาวที่ให้ผลทั้งแง่ดีและร้ายอย่างถึงที่สุด มีอิทธิพลทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสภาพต่างๆ ที่เป็นอยู่เดิมให้เป็นสิ่งใหม่ขึ้นมา ความต้องการเป็นอิสระ ไม่เป็นไปตามกรอบประเพณี ระเบียบแบบแผนเดิมที่ปฏิบัติสืบทอดต่อกันมา การสร้างแนวทางของตนเอง การกบฏ การปฏิวัติ ทำให้เกิดเหตุการณ์ใหญ่ การเกิดขึ้นของเหตุการณ์แบบคาดไม่ถึง การเปลี่ยนแปลงแบบถอนรากถอนโคน การใช้อำนาจ ความเด็ดขาด ความรุนแรง ความลึกลับ ความวุ่นวาย

ดาวมฤตยู ๐ ยังเป็นตัวแทนของประมุขแห่งรัฐ สภานิติบัญญัติโดยทั่วไป เมื่อดาวมฤตยู ๐ โคจรในราศีพฤษภอยู่นานหลายปี ย่อมนำความเปลี่ยนแปลงขนานใหญ่มาสู่สิ่งที่เป็นความหมายของภพกดุมภะ โดยในวันที่ 29 ม.ค. 2568เป็นต้นไป ดาวมฤตยู ๐ โคจรถอยองศามาอยู่ในต้นราศีพฤภและเริ่มเปลี่ยนวิถีโคจรเดินหน้ามุ่งเข้าหาดาวอังคาร ๓ ตนุลัคน์ของเมือง 

ในโหราศาสตร์ชะตาบ้านเมืองได้กล่าวถึงการที่ดาวมฤตยู ๐ กุมดาวอังคาร ๓ หรือมีสัมพันธ์ร้ายต่อกันว่า จะยังความอับโชคให้กับฝ่ายที่มีอำนาจปกครองประเทศ ทำให้เกิดความยุ่งยากโดยฉับพลันทันทีและไม่ทันคาดหมายล่วงหน้า ก่อความรบกวนให้กับรัฐบาลและรัฐสภา เสียงข้างมากของรัฐบาลอาจตกหรือด้อยลงไป รัฐบาลอาจพ่ายแพ้คะแนนเสียง มีการเปลี่ยนแปลงในคณะรัฐบาล การแตกแยกของพรรค เกิดความล้มเหลวในการพยายามออกกฎหมายบางอย่าง เกิดความปั่นป่วนวุ่นวาย การนัดหยุดงาน การชุมนุมที่ไม่สงบ การระเบิดและแผ่นดินไหว

ดาวมฤตยู ๐ เป็นดาวแห่งการปฏิวัติเปลี่ยนแปลงแบบถอนรากถอนโคน การไม่ยึดติดกับระเบียบแบบแผนที่เป็นมาในอดีต เมื่อเข้ามาโคจรในภพการเงินการคลังของดวงเมือง พยากรณ์ว่า จะมีความพยายามแก้ไขเปลี่ยนแปลงระเบียบ กฎหมาย กฎเกณฑ์ เกี่ยวกับการเงินการคลังของหน่วยงานที่ดูแลด้านการเงิน การคลังของประเทศ เพื่อให้รัฐบาลมีความคล่องตัวในการบริหารมากขึ้น อย่างไรก็ดี ความพยายามดังกล่าวจะได้รับการต่อต้านขัดขวางจากกลุ่มคนที่ไม่เห็นด้วย เนื่องจากเกรงว่าจะสร้างความเสียหายอย่างใหญ่หลวงแก่ระบบการเงินการคลังและเศรษฐกิจของประเทศ

ทางด้านการเงิน การธนาคาร การทำธุรกรรมการเงินจะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างสำคัญยิ่งในช่วงเวลาที่ดาวมฤตยู ๐ โคจรในราศีพฤษภ โดยจะเป็นไปอย่างช้าๆ มีการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาใช้มากขึ้น สาขาย่อยของธนาคารจะทยอยปิดตัวลงเป็นจำนวนมาก ซึ่งก็ได้เกิดมาอย่างต่อเนื่อง รวมถึงพนักงานธนาคารจะถูกลดจำนวนลง เกิดการเปลี่ยนแปลงผู้บริหารระดับสูงของสถานบันการเงิน และการสูญเสียบุคคลสำคัญในแวดวงธุริจ การเงิน การคลัง การธนาคาร ตลาดหลักทรัพย์

องค์กรธุรกิจภาคเอกชนจะปรับเปลี่ยนการทำงานโดยการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่มาแทนที่แรงงานมนุษย์ เพื่อลดต้นทุนและความอยู่รอดขององค์กร มีการพัฒนารูปแบบธุรกิจใหม่ๆ ผู้คนที่อยู่ในวัยทำงานจะตกงานเป็นจำนวนมาก คนที่มีงานทำอยู่ก็มีภาระที่ต้องเรียนรู้ หาความรู้มาพัฒาตนเองมากขึ้นเพื่อให้สอดคล้องกับรูปแบบการทำงานที่เปลี่ยนแปลงไป นักศึกษาจบใหม่จะว่างงานจำนวนมาก ผู้ประกอบการอิสระรายเล็กรายน้อยจะเกิดขึ้นเป็นมากมาย นักท่องเที่ยวในกลุ่มประเทศที่ปกครองด้วยระบอบคอมมิวนิสต์ อินเดียและตะวันออกกลางจะกลายเป็นนักท่องเที่ยวกลุ่มสำคัญของผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยว

ขณะที่ดาวเสาร์ 7 โคจรอยู่ในราศีกุมภ์จนถึงวันที่ 19 พ.ค. 2568 ทำมุมจตุโกณฑ์กับอังคาร ๓ ตนุลัคน์ของเมืองและดาวมฤตยู ๐ จรในราศีพฤษภ เป็นระยะเชิงมุมที่มีสัมพันธ์ร้ายต่อกัน ในโหราศาสตร์ชะตาบ้านเมืองได้กล่าวถึงการที่ดาวเสาร์ 7 และดาวมฤตยู ๐ มีสัมพันธ์ร้ายต่อกันไว้ว่า จะนำความยุ่งยากมาสู่รัฐบาลและผู้มีอำนาจปกครองประเทศ การเมืองของประเทศจะถูกรบกวนและเกิดการเปลี่ยนแปลง มีความผันแปรและมีอุปสรรคขัดขวางการทำงานของผู้มีอำนาจ รัฐบาลต้องเผชิญหน้ากับความปั่นป่วนซึ่งอาจทำให้สูญเสียความนิยมหรือพ่ายแพ้ เกิดการเปลี่ยนแปลงในคณะรัฐมนตรี อาจมีการตายหรือลาออก การแตกแยกภายในพรรคการเมือง มีการเลือกตั้งทั่วไปหรือการเปลี่ยนแปลงขนานใหญ่ที่ยังผลถึงรัฐสภา

ดาวเสาร์ 7โคจรในราศีกุมภ์ทำมุมจตุโกณฑ์กับดาวอังคาร ๓ ตนุลัคน์ของเมืองถึงวันที่ 19 พ.ค. 2568 เป็นระยะเชิงมุมที่มีสัมพันธ์ร้ายต่อกัน ซึ่งจะยังความอับโชคมาสู่รัฐบาล เกิดความยุ่งยากภายในประเทศ ความไม่พอใจของประชาชน เกิดความวุ่นวาย อาชญากรรม ฆาตกรรม รัฐบาลอาจถึงกับเสื่อมเสียความนิยมหรือการสนับสนุน คนสำคัญบางคนอาจถึงแก่ความตายหรือถูกลอบปองร้ายชีวิต ความไม่พอใจอาจพาดพิงมาถึงกองทัพ และอาจเกิดการปฏิวัติ รัฐประหารขึ้นได้

ดาวมฤตยู (๐) โคจรในราศีพฤษภ ภพกดุมภะ เรือนของดาวศุกร์ ขณะที่ราหู 8 โคจรในภพวินาศของดวงเมืองจนถึงวันที่ 5 พ.ค. 68และสัมพันธ์ถึงดาวศุกร์ (๖) เจ้าเรือนกดุมภะ ในพื้นดวงเมือง จะก่อให้เกิดความผันผวนทางด้านเศรษฐกิจภายในประเทศ อันเป็นผลสืบเนื่องมาจากเศรษฐกิจโลก ธุรกิจ การค้าขายเกิดภาวะฝืดเคือง เจ้าของกิจการ ห้างร้าน บริษัท โรงงานอุตสาหกรรมหลายแห่งปิดตัวลง เนื่องมาจากต้นทุนการผลิตสูงขึ้นมาก ประสบภาวะขาดทุนเพราะประชาชนไม่มีกำลังซื้อ และเกิดภาวะว่างงานเป็นจำนวนมาก ทำให้รัฐบาลต้องเพิ่มงบประมาณในการช่วยเหลือประชาชนและเพื่อพยุงเศรษฐกิจ ขณะที่รายได้จากภาษีอากรไม่สอดคล้องกับภาระค่าใช้จ่ายของรัฐบาล 

รัฐบาลจะออกพันธบัตรขายให้แก่นักลงทุนและประชาชนทั่วไป รวมถึงการกู้เงินเพื่อมาใช้จ่ายในกิจการของรัฐ ขณะที่หน่วยงานที่ดำเนินการเกี่ยวกับความมั่นคงทางการเงินและการจัดการเกี่ยวกับระบบการเงินของชาติต้องทำงานกันอย่างหนัก เพื่อดูแลระบบการเงินให้มีเสถียรภาพ มีการปรับปรุงระบบการจัดเก็บภาษีอากรให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และอาจมีการเพิ่มภาษีบางอย่าง ปรับปรุงกฎหมายเกี่ยวกับสวัสดิการของรัฐและเงินบำเหน็จบำนาญให้เหมาะสมกับสภาพเศรษฐกิจ มีการติดต่อเจรจาค้าขายรวมถึงการใช้สกุลเงินของประเทศที่ปกครองในระบอบคอมมิวนิสต์มากขึ้นและสกุลเงินเหล่านี้จะมีบทบาทมากขึ้นในเวทีการค้าโลกซึ่งได้ปรากฎให้เห็นมาแล้วเป็นระยะ