เมื่อลูกป่วย ประสบการณ์แม่ เมื่อลูกชายเข้าโรงพยาบาลครั้งแรก 🧒

เมื่อลูกชาย 🧒 ต้องเข้าโรงพยาบาลครั้งแรก บอกเลยว่าท้าทายสำหรับลูกคนแรกมาก ตอนนั้นเราก็กำลังตั้งท้องอยู่ 8 เดือน🤰 (ใกล้คลอดละ) ความอ่อนแอทางจิตใจบอกเลยว่า – 10 สุดๆ แต่ความเป็นแม่เราต้องสตรองเพื่อลูก และมันก็ผ่านมาได้ด้วยดี วันนี้จึงอยากเอาเรื่องราวประสบการณ์เมื่อลูกต้องเข้าโรงพยาบาลครั้งแรก จะเป็นอย่างไร พีคขนาดไหน น้ำตาต้องไหลวันละกี่ครั้ง บอกเลยว่าหนักมากสำหรับช่วงเวลานั้น แต่มันก็ผ่านมาได้ หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับแม่ๆ ที่กำลังท้อใจอยู่นะคะ ไม่มีอะไรที่คนอย่างแม่ทำไม่ได้ บอกเลย!!!


👦อาการของลีออง (ลูกชายคนโต) คือ มีไข้ ตัวร้อน พอเช็ดตัวไข้ก็ลดลง ไม่มีเรี่ยวแรง เดินไม่ไหว ต้องอุ้มตลอด และมีน้ำมูกก่อนคืนวันไปหาหมอ เราไปทำธุระที่โคราช คืนนั้นทั้งคืน เช็ดตัว เช็ดทุกชั่วโมง ตื่นเช้ามาอาการดีขึ้น แต่พอเริ่มพลบค่ำ อาการไข้ขึ้นสูงก็มา เราไม่รอช้า รีบไปรพ. ทันที

>>>>>> ณ โรงพยาบาล 👨‍⚕️👩‍⚕️
คุณหมอบอกว่าโชคดีที่ไม่มีอาการช็อค บางรายถ้าไข้สูงมากๆ อาจทำให้ช็อกได้ ซึ่งผลที่ตามมาคือเรื่องพัฒนาการทางสมองของเด็กที่อาจกระทบกระเทือน  ฉะนั้นเมื่อน้องมี่ไข้ถ้าเช็ดตัวไม่หาย และยังไข้สูง ให้รีบไป รพ. ทันที ห้ามรอ!!

หลังจากตรวจไข้เสร็จ 👩‍⚕️หมอก็ให้ทานยาลดไข้สูง พยาบาลเช็ดตัวให้ พร้อมดูดน้ำมูก ช็อตนี้ ลีอองร้องลั่นเลย เราได้แต่จับมือพร้อมก้มหน้า 😫ไม่อยากให้ลูกเห็นว่าเรากำลังร้องไห้ พอเสร็จก็รีบอุ้มและกอดเค้า พร้อมปลอบประโลม 😫(เรานั่งบนเก้าอี้แล้วอุ้มน้องนะคะ ไม่ได้ยืน มี้ท้องอยู่)  และคุณหมอให้ Admit แอดมิด ทันที ตอนนั้นบอกเลยว่า ไม่มีอะไรจะดีไปกว่าการแอดมิดแล้ว เพราะไม่รู้กลับไปบ้านอาการจะเป็นอย่างไร  รอห้อง ทำเอกสารเข้าห้องพักไม่เกิน 1 ชั่วโมง  หลังจากนั้นอาการไข้ลดลง หายใจคล่องขึ้น 

เจ้าหน้าที่หรือบุรุษพยาบาลก็เข็นรถ Wheel chair มารับเลยจ้ะ นั่งตักไปทั้งแม่ทั้งลูกนี่แหละ ไปถึงห้องวอร์ด หรือห้องพักคนไข้ ก็ถึงคิวลูกชายที่ต้องต่อสายสำหรับให้ยาและน้ำเกลือ คุณพระ....เสียงกรีดร้อง 👦😫 แบบไม่มีเรี่ยวแรงก มันบีบหัวใจเรามากๆ น้ำตาไหลแหมะๆ คือลูกร้องด้วยความแบบ ไม่มีเรี่ยวแรง ดิ้นแบบไม่มีแรงจะดิ้น เราทนไม่ไหวต้องเบือนหน้าหนี ถ้าเปลี่ยนได้ เราก็ไม่อยากให้ลูกต้องทรมานแบบนั้นเลย ...ช็อตนี้บีบหัวใจเรามาก  😫

>>>> ห้องพัก
หลังจากเข้าห้องพัก เราเลือกแบบเป็นเตียง เพราะกลัวลูกนอนตกเตียง ถึงเวลาลูกชายจับมือเราตลอด ก็เลยต้องนอนกับลูกไปด้วย ระหว่างนอนเค้าจะจับมือเราตลอด เหมือนไม่อยากให้เราไปไหน เราก็นอนกอดลูกตลอดเวลา จากนั้นไม่น่าเกิน 2 -3 ชม. พยาบาลเปิดประตูเข้ามา แค่นั้นแหละ ลูกชายร้องไห้โหใหญ่เลย ถึงเวลาต้องพาลูกไปดูดน้ำมูก ที่ห้องๆหนึ่ง (จำชื่อไม่ได้) ขั้นตอนคือให้น้องนอนบนเตียง พยาบาลเอาผ้าห่อตัวน้องและกอดไม่ให้น้องดิ้น ตอนที่เครื่องจ่อที่จมูก คือ เสียงกรีดร้องมาอีกแล้ว น้ำตาเราไหลอีกแล้ว มามี้ก็ก้มหน้า ไม่ให้ลีอองเห็นน้ำตา หลังเสร็จ ปะป๊าก็อุ้มน้องกลับห้อง เราก็เข้าไปนอนกอดลูก จนเข้าหลับไป 



เรื่องการเช็คอัพ ทุกๆ  2 -3 ชม. พยาบาลจะเข้ามาวัดชีพจรน้อง และแล้วก็ถึงเวลาพ้นยา น้ำตามามี้มาอีกแล้ว แค่พยาบาลเดินเข้ามาก็ร้องงอแงแล้ว ลีอองได้แต่ปฏิเสธ บอกไม่เอาๆๆ โวยวายจนหลับ พยาบาลก็เอามาจ่อใกล้ๆ น้องระหว่างหลับ (การพ้นยาช่วยให้ขยายหลอดลม ให้น้องหายใจให้สะดวกขึ้น) ดูดน้ำมูก ตอนนี้น้องมีน้ำมูกเยอะ ทำให้หายใจไม่สะดวก - ภาพไม่ชัด snap มาจากวีดีโอ

ผ่านไปสองคืน อาการน้องเริ่มดีขึ้น อาหารการกิน ก็เริ่มกินได้ แต่ยังมีน้ำมูกอยู่ เราก็เลยเปลี่ยนจากเตียงเป็นฟูกแทน เอ้อ ซนเป็นลิงเลยจ้ะ เรื่องพ้นยา ก็ดีขึ้น เพราะรู้ว่าไม่เจ็บก็ไม่ปฎิเสธล่ะ แต่ยังร้องไห้เรื่องการดูดน้ำมูกอยู่ 



ระหว่างช่วงเวลาการรักษาตัว เราก็ต้องพาออกมาเที่ยวด้านนอก คลายเครียดบ้าง ก่อนออกก็ต้องเอาสายน้ำเกลือออกก่อน แล้วก็ไปซิ่ง แวะซื้อโกโก้ปั่น โดนัท ขนมปัง เซเว่น  คุณเค้าก็ดู Relax ขึ้น


สรุปคือนอน โรงพยาบาลไป 5 วัน 4 คืน  เป็นการอยู่รพ. ที่ยาวนานมากๆ  
👦แล้วทำไมต้องนอนนานขนาดนี้ นั้นเพราะ 👩‍⚕️คุณหมอยังไม่แน่ใจว่าสาเหตุสิ่งที่น้องเป็นคืออะไร และเพื่อความแน่ใจจริงๆ สุดท้ายคือ น้องติดไวรัสชนิดหนึ่ง ซึ่งไม่ใช่ไข้หวัดใหญ่หรือ RSV แต่อาการคล้ายกัน  
 
👦 เวลาลูกป่วย คนที่เจ็บมากกว่าคือ พ่อแม่ ที่เป็นห่วง และกลัวว่าเค้าจะเป็นอันตรายขนาดไหน ตอนพยาบาลจิ้มเข็มน้อง ทุกเสี่ยววินาทีมันเต็มไปด้วยความกังวล มี้ไม่เคยรู้เลยว่าจะรักลูกได้ขนาดนี้ จนถึงเวลาที่เค้าไม่สบายหนัก 

 
ทั้งนี้ทั้งนั้น สิ่งที่มี้อยากพูดถึงคือ...... 
>>ขอบคุณหัวหน้า เราโชคดีมากที่มีหัวหน้าที่เข้าใจ และยอมให้เรา Work From Home ได้   
>>ขอบคุณเพื่อนและญาติ ที่มาเยี่ยม ทำให้เราและลูกก็รู้สึกผ่อนคลายขึ้น
>> ขอบคุณพยาบาลและคุณหมอ ที่ช่วยให้การรักษาและดูแลลีออง ผ่านไปได้ด้วยดี
>> ขอบคุณสามี 🧔 ที่ช่วยดูแลเรื่องอาหารการกิน คอยช่วยปลอบเรา และลูก ตอนนั้นบอกเลยว่า หัวใจอ่อนแรงมาก ไหนจะต้องเรื่องตั้งครรภ์ที่ใกล้จะคลอด ไหนจะลูกที่ป่วย มันถาโถมมาก  แต่สุดท้ายเราก็ผ่านมันมาได้ คำว่าแม่ มันยิ่งใหญ่จริงๆ 


ฝากกดติดตามเพจน้อยๆ ด้วยนะคะ รีวิวเรื่องแม่และเด็ก
👦🤰🧔💉🦠😫👨‍🔬👩‍⚕️👨‍⚕️