คือผมมีเพื่อนอยู่คนนึง เรารู้จักตั้งแต่ ม.4
จนตอนนี้ก็อายุจะ 26-27 กันแล้วครับ ถือว่าเป็น
เพื่อนสนิทกันเลย นิสัยใจคอรู้กันหมดครับ
เพื่อนคนนี้นิสัยดีครับ ยอมคน ใจเย็นยิ่งกว่าอะไร
เต็มที่กับเพื่อนทุกอย่างครอบครัวก็เช่นกันครับ
ช่วงประมาณมอ 6 ปู่ของเพื่อนผมเสียครับ
แล้วเรื่องก็เกิดขึ้นครับ ช่วงนั้นคือเพื่อนผมทะเลาะกับแม่มันครับ(น้องชายเพื่อนเล่าให้ฟัง) ประมาณว่า
ตอนปู่เสีย แม่ของเพื่อนเค้าเสียใจมากครับ
น้องมันเล่าว่าเพื่อนผมไม่แสดงความเสียใจใดๆ
แม่บอกปู่เสียแล้วนะ มันก็ตอบว่าอือ แล้วขึ้นไปเล่นเกม
ทำให้แม่เพื่อนโกรธมันมาก ชนิดที่ว่าไม่ให้เงินมา
โรงเรียน ไม่ให้ตังกินข้าวจนพวกเพื่อนๆต้องลงขันให้
ตอนฟังรอบแรกก็คิดว่ามันแปลกอยู่นิดหน่อย
เราเลยคิดว่าความสัมพันธ์ของปู่กับเพื่อนผมไม่ดี
รึเปล่า แต่น้องมันบอกว่าไม่นะพี่ ตอนปู่อยู่ปู่รักพี่มาก
ไปเยี่ยมครั้งนึงชอบปู่ให้ตังพี่มากินหนมทีละหลายๆพัน
ช่วยค่าเทอม ซื้อชุดให้ และอีกมากมาย ซึ่งเหตุการณ์
ครั้งนั้นทำให้ผมมองเพื่อนคนนี้ไปอีกมุม แต่คือเราเป็นเพื่อนกันครับเลยไม่คิดจะถามเรื่องนี้กับมันเพราะมัน
ค่อยข้างส่วนตัวด้วย ซึ่งเวลาก็ผ่านมาหลายๆเดือน
น้องมันบอกว่าพี่ไม่เคยไหว้ปู่เลยสักครั้งเดียว ไอ้เราก็ไม่สนใจครับก็ปล่อยๆมันไป จนเราจบมัธยม
จบมหาวิทยาลัย เรากับเพื่อนคนนี้คุยกันตลอดครับ
เรามีไลน์กลุ่มเพื่อนที่สนิทจริงๆ ก็คุยกันมาทุกวัน
แล้ววันนั้นก็มาถึง วันที่ผมไม่รู้จักเพื่อนผม
แม่เพื่อนเสียครับ เป็นโรคมะเร็งแล้วเสียไป
มันบอกในกลุ่มไลน์ซึ่งเพื่อนๆ
เราก็แสดงความเสียใจทุกคนเป็นห่วงมันมากครับ
จริงๆวันที่มันบอกผมจะโทรไปคุยด้วยว่า โอเคมั้ย
ไหวอยู่ใช่มั้ย สรุปคือมันไม่ให้ผมโทรครับ
ตอบกลับมาแค่ว่า “กูโอเค ขอบใจมากนะ”
ผมก็คิดว่ามันเสียใจ อยากอยู่คนเดียวอะไรแบบนั้น
แล้วมันก็ชวนมางานศพครับ พวกเราก็ไปกันเกือบหมด
พอถึงวันงานครับ ทุกคนที่มาต่าง งง เพราะสิ่งที่เห็นคือ
ส
ตั้
น
ห
มู่
ง
ง
ไ
ก่
ต
า
แ
ต
ก
.
.
.
มันยืนยิ้มยืนไหว้แขกที่มางานครับ ซึ่งถ้าไม่บอกว่า
มันคืองานศพ เราคงนึกว่ามางานแต่ง ซึ่งน้องมัน
กับพ่อนั่งร้องไห้อยู่หน้าโรง ญาติของแม่ยังร้องเลยครับ
พวกเราเดินไปเจอมัน ต่างคนต่างมองหน้ากัน
เหมือนสื่อสารอะไรบ้างอย่างโดยที่ไม่ต้องพูดกันเลย พอมันเห็นเพื่อนมายิ้มกว้างกว่าเดิมอีก
เราก็ทักทายเพื่อน ถามว่า”โอเคมั้ย”
มันบอกว่า”โอเคครับเพื่อน หิวไรเดินไปกินได้เลยนะ”
จากนั้นเราก็ช่วยมันในงานศพครับ ช่วยทุกอย่าง
จนมาถึงวันเผาครับ พ่อกับน้องมัน
ร้องไห้แบบแถบตาย เราเห็นเรายังน้ำตาคลอเลยครับ
แต่กับเพื่อนผม ไม่มีอาการใดๆครับ
สีหน้าเหมือนคนปกติ แค่หน้ามันนิ่งมาก
ไม่มีน้ำตาสักหยด พอเผาเสร็จ เราก็ช่วยจนจบงาน
แล้วเราเพื่อนๆก็มานั่งกินข้าวกันครับ
จนมีเพื่อนคนหนึ่งพูดว่า“จะไม่พูดเรื่องนี้จริงๆอ่อวะ”
เราต่างมองหน้ากัน แล้วกินข้าวอย่างเงียบๆ
จนเราเริ่มพูดกัน
“มันไม่ร้องไห้เลยอ่อวะ”
“มันทำได้ไงวะ ไม่เสียใจเลยอ่อ อยากรู้”
“มันมีปัญหาไรกับแม่มันปะวะ”
เราเลยเรียกน้องมันมาคุยในกลุ่มเราครับ
เราถามว่า
“เพื่อนพี่ทะเลาะกับแม่ตลอดเลยมั้ย”
น้องบอกว่า
“พี่ไม่ได้มีปัญหาอะไรกับแม่เลยนะพี่ ตั้งแต่จบมอปลายมา แม่กับพี่ก็ดีกันตลอดครับ ตอนพี่จบมหาลัย
เราไปงานรับปริญญา พี่ก็กอดแม่ กราบเท้าแม่ด้วย
พวกพี่ๆก็เห็น”
เราก็ “เออวะ แล้วทำไมมันเป็นแบบนี้อ่ะ”
น้อง “ผมก็ไม่รู้เหมือนกันครับ ไม่เคยรู้ว่าพี่คิดไรเลย
แต่ที่ผ่านมา พี่กับแม่ไม่ได้ทะเลาะไรแรงๆเลยครับ
เงินที่พี่ผมหามาได้ ก็ให้แม่มาเกินครึ่งที่ได้ตลอด
โดยที่แม่ไม่ได้ขอเลย ผมมั่นใจว่าพี่ไม่ได้เกลียดไรแม่เลย”
พวกเราเงียบกันทั้งกลุ่ม
จนงานเสร็จแขกกลับกันหมดแล้ว แต่พวกเพื่อนๆยัง
คงนั่งกันอยู่ แล้วมันก็เดินมาบอกว่า
“ขอบคุณเพื่อนมากเลยนะ ทุกๆคน”
พวกเราก็ต่างตอบไปว่า ไม่เป็นไรเพื่อนๆ
จนมีประโยคนึงทำให้เราช็อก อีกรอบนึง
“ไปตี้กัน เดะกูเลี้ยงเลย เต็มที่เลยนะสุดเหวี่ยง”
เราต่างคนต่างตกใจที่เพื่อนของเราชวนไปกินเหล้า
ใบหน้าของมันเหมือนไม่มีไรเกิดขึ้นเลย ยังคงมีเสียงขำออกมาในวันที่แย่ที่สุดของคนๆหนึ่ง แต่ไม่ใช่
กับเพื่อนผม เราตกลงจะไปตามที่มันชวน
เพราะไม่อยากปล่อยมันไว้คนเดียวในช่วงเวลาแบบนี้
เราก็ไปกินกัน เพื่อนผมกินเยอะมาก เยอะสุดเท่าที่
รู้จักกันมาเลย พอเริ่มเมา เราก็เริ่มคุยกันสนุก
ผมยังเมาเลย กินกันเยอะมาก จนมีอยู่ช่วงนึง
ผมจำได้ลางๆว่า มันไปนั่งแยก แล้วหมอบนอนไป
โต๊ะ ผมเดินไปกอดคอแล้วพูดประมาณว่า
“มีไรบอกก็บอกพวกกูได้นะ มีเรื่องไรไม่สบายใจก็เล่ามานะเพื่อนรัก”
เพื่อนผมตอบมาว่า
“ไม่เป็นไรเลย ขอบใจพวกมาก ดีใจที่มีพวกนะ”
ผมถามต่อ(มั้ง)
“ถามไรหน่อย ไม่ร้องไห้เลยอ่อ ไม่เสียใจเลยอ่อ
ทะเลาะไรกับแม่เปล่า ทำได้ไงอ่ะ คิดไรอยู่อ่ะ บอกได้เปล่า”
มันตอบ
“กูแค่ไม่อยากคิดถึงสิ่งที่มันผ่านมาแล้วอ่ะ....”
พูดไรต่อไม่รู้ผมจำได้แค่นี้แหละแล้ว
ผมก็กลับมานั่งโต๊ะเผื่อดื่มต่อ สักพักผมเผลอมอง
เห็นมันนั่งร้องไห้โฮเลยครับ เพื่อนก็มองครับ
แต่ไม่ได้เข้าไปพูดไรปล่อย มันร้องไห้อยู่แบบนั้น
จนค่ำคืนนั้นผ่านไปหลายปี เราก็ยังสนิทกันอยู่ครับ
ผมเคยแอบทักน้องมันไปว่า มันเป็นไงบ้าง
น้องบอกว่าพี่ไม่เคยพูดถึงแม่อีกเลย ไม่เคยไหว้แม่เลย
ของๆแม่ก็เก็บไว้ มีแต่พ่อกับผมที่เปิดดูมัน แต่พี่ไม่เลย
เอาแต่ทำงาน หาเงินเลี้ยงพ่อและยังส่งเงินเล็กน้อยมาให้ผมด้วย
ผมฟังเสร็จถอนหายใจแรงๆ แล้วนึกถึงคืนนั้น
ตอนที่มันเมา ว่ามันพูดอะไรต่อผมจำมันไม่ได้
แต่ก็นะผมก็ไม่กล้าถามเรื่องนั้น แค่ปัจจุบัน
เราเป็นเพื่อนกันและเพื่อนยังสบายดีก็พอละ
ผมอยากทราบว่าคนแบบนี้มันมีอยู่จริงๆหรอครับ
คนที่มองอยู่กับแค่ปัจจุบัน ไม่คิดถึงอดีต
ไม่คิดถึงคนที่ผูกพัน ไม่คิดถึงคนที่จากไป?
ขอบคุณที่อ่านจนจบครับ
คนเราจะใช้ชีวิตอยู่กับปัจจุบัน ไม่คิดถึงอดีตและไม่คิดถึงคนที่จากไปได้หรอครับ?
จนตอนนี้ก็อายุจะ 26-27 กันแล้วครับ ถือว่าเป็น
เพื่อนสนิทกันเลย นิสัยใจคอรู้กันหมดครับ
เพื่อนคนนี้นิสัยดีครับ ยอมคน ใจเย็นยิ่งกว่าอะไร
เต็มที่กับเพื่อนทุกอย่างครอบครัวก็เช่นกันครับ
ช่วงประมาณมอ 6 ปู่ของเพื่อนผมเสียครับ
แล้วเรื่องก็เกิดขึ้นครับ ช่วงนั้นคือเพื่อนผมทะเลาะกับแม่มันครับ(น้องชายเพื่อนเล่าให้ฟัง) ประมาณว่า
ตอนปู่เสีย แม่ของเพื่อนเค้าเสียใจมากครับ
น้องมันเล่าว่าเพื่อนผมไม่แสดงความเสียใจใดๆ
แม่บอกปู่เสียแล้วนะ มันก็ตอบว่าอือ แล้วขึ้นไปเล่นเกม
ทำให้แม่เพื่อนโกรธมันมาก ชนิดที่ว่าไม่ให้เงินมา
โรงเรียน ไม่ให้ตังกินข้าวจนพวกเพื่อนๆต้องลงขันให้
ตอนฟังรอบแรกก็คิดว่ามันแปลกอยู่นิดหน่อย
เราเลยคิดว่าความสัมพันธ์ของปู่กับเพื่อนผมไม่ดี
รึเปล่า แต่น้องมันบอกว่าไม่นะพี่ ตอนปู่อยู่ปู่รักพี่มาก
ไปเยี่ยมครั้งนึงชอบปู่ให้ตังพี่มากินหนมทีละหลายๆพัน
ช่วยค่าเทอม ซื้อชุดให้ และอีกมากมาย ซึ่งเหตุการณ์
ครั้งนั้นทำให้ผมมองเพื่อนคนนี้ไปอีกมุม แต่คือเราเป็นเพื่อนกันครับเลยไม่คิดจะถามเรื่องนี้กับมันเพราะมัน
ค่อยข้างส่วนตัวด้วย ซึ่งเวลาก็ผ่านมาหลายๆเดือน
น้องมันบอกว่าพี่ไม่เคยไหว้ปู่เลยสักครั้งเดียว ไอ้เราก็ไม่สนใจครับก็ปล่อยๆมันไป จนเราจบมัธยม
จบมหาวิทยาลัย เรากับเพื่อนคนนี้คุยกันตลอดครับ
เรามีไลน์กลุ่มเพื่อนที่สนิทจริงๆ ก็คุยกันมาทุกวัน
แล้ววันนั้นก็มาถึง วันที่ผมไม่รู้จักเพื่อนผม
แม่เพื่อนเสียครับ เป็นโรคมะเร็งแล้วเสียไป
มันบอกในกลุ่มไลน์ซึ่งเพื่อนๆ
เราก็แสดงความเสียใจทุกคนเป็นห่วงมันมากครับ
จริงๆวันที่มันบอกผมจะโทรไปคุยด้วยว่า โอเคมั้ย
ไหวอยู่ใช่มั้ย สรุปคือมันไม่ให้ผมโทรครับ
ตอบกลับมาแค่ว่า “กูโอเค ขอบใจมากนะ”
ผมก็คิดว่ามันเสียใจ อยากอยู่คนเดียวอะไรแบบนั้น
แล้วมันก็ชวนมางานศพครับ พวกเราก็ไปกันเกือบหมด
พอถึงวันงานครับ ทุกคนที่มาต่าง งง เพราะสิ่งที่เห็นคือ
ส
ตั้
น
ห
มู่
ง
ง
ไ
ก่
ต
า
แ
ต
ก
.
.
.
มันยืนยิ้มยืนไหว้แขกที่มางานครับ ซึ่งถ้าไม่บอกว่า
มันคืองานศพ เราคงนึกว่ามางานแต่ง ซึ่งน้องมัน
กับพ่อนั่งร้องไห้อยู่หน้าโรง ญาติของแม่ยังร้องเลยครับ
พวกเราเดินไปเจอมัน ต่างคนต่างมองหน้ากัน
เหมือนสื่อสารอะไรบ้างอย่างโดยที่ไม่ต้องพูดกันเลย พอมันเห็นเพื่อนมายิ้มกว้างกว่าเดิมอีก
เราก็ทักทายเพื่อน ถามว่า”โอเคมั้ย”
มันบอกว่า”โอเคครับเพื่อน หิวไรเดินไปกินได้เลยนะ”
จากนั้นเราก็ช่วยมันในงานศพครับ ช่วยทุกอย่าง
จนมาถึงวันเผาครับ พ่อกับน้องมัน
ร้องไห้แบบแถบตาย เราเห็นเรายังน้ำตาคลอเลยครับ
แต่กับเพื่อนผม ไม่มีอาการใดๆครับ
สีหน้าเหมือนคนปกติ แค่หน้ามันนิ่งมาก
ไม่มีน้ำตาสักหยด พอเผาเสร็จ เราก็ช่วยจนจบงาน
แล้วเราเพื่อนๆก็มานั่งกินข้าวกันครับ
จนมีเพื่อนคนหนึ่งพูดว่า“จะไม่พูดเรื่องนี้จริงๆอ่อวะ”
เราต่างมองหน้ากัน แล้วกินข้าวอย่างเงียบๆ
จนเราเริ่มพูดกัน
“มันไม่ร้องไห้เลยอ่อวะ”
“มันทำได้ไงวะ ไม่เสียใจเลยอ่อ อยากรู้”
“มันมีปัญหาไรกับแม่มันปะวะ”
เราเลยเรียกน้องมันมาคุยในกลุ่มเราครับ
เราถามว่า
“เพื่อนพี่ทะเลาะกับแม่ตลอดเลยมั้ย”
น้องบอกว่า
“พี่ไม่ได้มีปัญหาอะไรกับแม่เลยนะพี่ ตั้งแต่จบมอปลายมา แม่กับพี่ก็ดีกันตลอดครับ ตอนพี่จบมหาลัย
เราไปงานรับปริญญา พี่ก็กอดแม่ กราบเท้าแม่ด้วย
พวกพี่ๆก็เห็น”
เราก็ “เออวะ แล้วทำไมมันเป็นแบบนี้อ่ะ”
น้อง “ผมก็ไม่รู้เหมือนกันครับ ไม่เคยรู้ว่าพี่คิดไรเลย
แต่ที่ผ่านมา พี่กับแม่ไม่ได้ทะเลาะไรแรงๆเลยครับ
เงินที่พี่ผมหามาได้ ก็ให้แม่มาเกินครึ่งที่ได้ตลอด
โดยที่แม่ไม่ได้ขอเลย ผมมั่นใจว่าพี่ไม่ได้เกลียดไรแม่เลย”
พวกเราเงียบกันทั้งกลุ่ม
จนงานเสร็จแขกกลับกันหมดแล้ว แต่พวกเพื่อนๆยัง
คงนั่งกันอยู่ แล้วมันก็เดินมาบอกว่า
“ขอบคุณเพื่อนมากเลยนะ ทุกๆคน”
พวกเราก็ต่างตอบไปว่า ไม่เป็นไรเพื่อนๆ
จนมีประโยคนึงทำให้เราช็อก อีกรอบนึง
“ไปตี้กัน เดะกูเลี้ยงเลย เต็มที่เลยนะสุดเหวี่ยง”
เราต่างคนต่างตกใจที่เพื่อนของเราชวนไปกินเหล้า
ใบหน้าของมันเหมือนไม่มีไรเกิดขึ้นเลย ยังคงมีเสียงขำออกมาในวันที่แย่ที่สุดของคนๆหนึ่ง แต่ไม่ใช่
กับเพื่อนผม เราตกลงจะไปตามที่มันชวน
เพราะไม่อยากปล่อยมันไว้คนเดียวในช่วงเวลาแบบนี้
เราก็ไปกินกัน เพื่อนผมกินเยอะมาก เยอะสุดเท่าที่
รู้จักกันมาเลย พอเริ่มเมา เราก็เริ่มคุยกันสนุก
ผมยังเมาเลย กินกันเยอะมาก จนมีอยู่ช่วงนึง
ผมจำได้ลางๆว่า มันไปนั่งแยก แล้วหมอบนอนไป
โต๊ะ ผมเดินไปกอดคอแล้วพูดประมาณว่า
“มีไรบอกก็บอกพวกกูได้นะ มีเรื่องไรไม่สบายใจก็เล่ามานะเพื่อนรัก”
เพื่อนผมตอบมาว่า
“ไม่เป็นไรเลย ขอบใจพวกมาก ดีใจที่มีพวกนะ”
ผมถามต่อ(มั้ง)
“ถามไรหน่อย ไม่ร้องไห้เลยอ่อ ไม่เสียใจเลยอ่อ
ทะเลาะไรกับแม่เปล่า ทำได้ไงอ่ะ คิดไรอยู่อ่ะ บอกได้เปล่า”
มันตอบ
“กูแค่ไม่อยากคิดถึงสิ่งที่มันผ่านมาแล้วอ่ะ....”
พูดไรต่อไม่รู้ผมจำได้แค่นี้แหละแล้ว
ผมก็กลับมานั่งโต๊ะเผื่อดื่มต่อ สักพักผมเผลอมอง
เห็นมันนั่งร้องไห้โฮเลยครับ เพื่อนก็มองครับ
แต่ไม่ได้เข้าไปพูดไรปล่อย มันร้องไห้อยู่แบบนั้น
จนค่ำคืนนั้นผ่านไปหลายปี เราก็ยังสนิทกันอยู่ครับ
ผมเคยแอบทักน้องมันไปว่า มันเป็นไงบ้าง
น้องบอกว่าพี่ไม่เคยพูดถึงแม่อีกเลย ไม่เคยไหว้แม่เลย
ของๆแม่ก็เก็บไว้ มีแต่พ่อกับผมที่เปิดดูมัน แต่พี่ไม่เลย
เอาแต่ทำงาน หาเงินเลี้ยงพ่อและยังส่งเงินเล็กน้อยมาให้ผมด้วย
ผมฟังเสร็จถอนหายใจแรงๆ แล้วนึกถึงคืนนั้น
ตอนที่มันเมา ว่ามันพูดอะไรต่อผมจำมันไม่ได้
แต่ก็นะผมก็ไม่กล้าถามเรื่องนั้น แค่ปัจจุบัน
เราเป็นเพื่อนกันและเพื่อนยังสบายดีก็พอละ
ผมอยากทราบว่าคนแบบนี้มันมีอยู่จริงๆหรอครับ
คนที่มองอยู่กับแค่ปัจจุบัน ไม่คิดถึงอดีต
ไม่คิดถึงคนที่ผูกพัน ไม่คิดถึงคนที่จากไป?
ขอบคุณที่อ่านจนจบครับ