มีคนเอา ดาบพิฆาตอสูร มาประกอบเพลง 「泥中に咲く」 (บานสะพรั่งในโคลน) ของ Wolpis Carter
ฟังแล้วดูเข้ากันดีเหมือนกัน เลยเอามาแชร์กัน
บานสะพรั่งในโคลน
「 kudaketa kokoro ga roka dekinakute 」
หัวใจที่แหลกสลายเป็นผง
「 namida wa sotto karete yuku 」
และน้ำตาที่ค่อยๆ แห้งเหือดไป
「 mou hitotsubu mo nagare nakute 」
แม้แต่หนึ่งหยดก็ไม่อาจรินไหล
「 okashii yo nette 」
“แปลกจังเลยนะ”
「 waratteru 」
ฉันพูดแล้วก็หัวเราะออกมา
「 kokuretsuna jinsei 」
ชีวิตโหดร้ายทารุณ
「 anata wo saegiru meiro no keikyoku 」
ราวกับวงกตไม้หนามขวางกั้นเธอไว้
「 joukusei no yami tachihadakaru 」
ตัวเธอที่ยืนเบื้องหน้าความมืดของโลกใบนี้
「 kimi wa dare yori mo ureu hito 」
คือคนที่โศกเศร้ายิ่งกว่าใครๆ
「 dakara ima bokura wa obore kaketeru 」
ดังนั้นตัวของพวกเราในตอนนี้น่ะ
「 sunzen darou 」
ใกล้จะจมดิ่งลงไปทุกที
「 tadashii kokyuu ni sukuwareta 」
จนได้แต่ประคองลมหายใจ
「 ima wa itsuka shinu tame ni ikiteru 」
มีชีวิตต่อไปเพียงเพื่อเฝ้ารอความตายในซักวัน
「 dake da 」
ก็เท่านั้น
「 ame ga kiraina wake wo shiru to 」
ที่เราตระหนักว่าเหตุใดจึงเกลียดฝน
「 fukai tokoro de omoidasu koto 」
เพราะยังระลึกได้จากส่วนลึกของความทรงจำ
「 sou ootsubu no shabondama nara 」
ใช่แล้ว ถ้าหากมันเป็นฟองสบู่ลูกใหญ่แทนละก็
「 kitto fuwafuwa de shitoshito 」
มันจะต้องโปรยปรายลงมาอย่างนุ่มนวลแน่
「 jimen no iro wo mite aruku 」
ยามที่เราก้มหน้ามองดูสีสันของผืนดิน
「 mizu tamari no nai basho eranderu 」
เพื่อเลือกเดินบนบริเวณซึ่งไร้แอ่งน้ำขัง
「 sate wa fuguuna michi wo soreru tame 」
และการที่เราทำเช่นนั้น
「 jiko bouei datte surun deshou 」
ก็เพื่อป้องกันตัวไม่ให้เดินไปบนเส้นทางที่ผิดพลาดไม่ใช่หรือไง
「 boku wa ima ningen desu 」
และตอนนี้ตัวฉันเป็นมนุษย์
「 kyou mo ashita mo sono tsugi no hi mo 」
ทั้งวันนี้ พรุ่งนี้ และนับต่อจากนี้ไป
「 mitomeru no wa sono kurai de ii 」
ยอมรับเพียงเท่านั้นก็พอแล้ว
「 minna betsubetsu no iki wo tabeteru 」
เพราะทุกคนต่างมีลมหายใจที่แตกต่างกัน
「 sou kimi mo ima ningen desu 」
ใช่แล้ว ตอนนี้ตัวเธอเองก็เป็นมนุษย์
「 sono sugata ga kiraina dake de 」
เธอแค่ไม่อยากยอมรับเท่านั้นเอง
「 nikumenai yo 」
เธอไม่ได้เกลียดชังมันหรอก
「 yasashii kara 」
เพราะว่าเธอนั้นอ่อนโยน
「 kimi wa dare no tame ni mo negau hito 」
และคอยภาวนาเพื่อใครสักคนมาตลอด
「 hitohira no hana ga chiru tame ni 」
เพื่อที่ดอกไม้จะได้ร่วงโรย
「 mizu mo tsuchi mo hikari mo sono tane mo 」
ต้องอาศัยน้ำ ผืนดิน แสงแดดและเมล็ดพันธุ์
「 boku no me no mae ni aru mono ga 」
สิ่งที่อยู่เบื้องหน้าของฉัน
「 sono imi mo kako mo mirai mo 」
คือความหมายทั้งของอดีตและของอนาคต
「 hitotsu to kakeru to umarenaize 」
ถ้าหากว่ามีสิ่งใดสิ่งหนึ่งหายไป
「 boku mo kimi mo ano hito mo 」
ทั้งฉัน ทั้งเธอ และไม่ว่าใครคงไม่อาจมีชีวิตอยู่
「 nan demo nai to ii nagara 」
“มันไม่มีอะไรหรอกน่า”
「 kako no nimotsu wo kimi ni seowaseru 」
ทุกคนปล่อยให้เธอแบกรับอดีตไว้ พร้อมพูดออกมาเช่นนั้น
「 unmei ga toosenbo suru 」
“โชคชะตาเล่นตลกกับเรา”
「 kanchigai jigou jitoku da yo 」
เข้าใจผิดแล้ว พวกเราทำตัวเองต่างหาก
「 demo joukyou ga yokunai kara ne 」
แต่ที่ทำลงไปเพราะทุกอย่างมันเลวร้ายใช่ไหม
「 nigetai yo ne 」
เธออยากจะหนีไปใช่ไหม
「 ikitai yo ne 」
อยากจะมีชีวิตอยู่สินะ
「 kono karada o nagedasu 」
หากมีเพียงสักชั่ววินาที
「 sono shunkan ga aru to sureba 」
ที่จะได้หลุดพ้นจากร่างกายนี้
「 kono yo no yami kirisaite sa 」
คงต้องตามหาความหมายที่ได้เกิดมา
「 koko ni umareta imi wo sagasou ka 」
เพื่อฉีกกระชากความมืดมิดของโลกใบนี้
「 owari no hajimari 」
หากจุดเริ่มต้นของจุดจบได้เริ่มขึ้น
「 hajimareba saigo no jinsei dakara 」
คงเป็นวาระสุดท้ายของชีวิตนี้
「 tohou mo nai tabi no sue ni 」
ปลายทางของจุดหมายคงไม่มีหนทางใดแล้ว
「 ima shika nai "toki" ga aru no darou 」
แต่สิ่งที่เรายังมีในตอนนี้ก็คือ”เวลา”เพื่อจะใช้ชีวิตต่อไป
( ame ni oboreru koto wa nai na )
“เป็นไปไม่ได้หรอกที่คนเราจะจมน้ำในสายฝน”
「 soredemo nandaka ikigurushii na 」
แต่ถึงกระนั้นก็ยังหายใจลำบากเหลือเกิน
( itsuka shinu tame ni ikiteru nante )
“คนเรามีชีวิตอยู่เพื่อรอความตายเท่านั้น”
「 sore nara sa sore naraba 」
ถ้าเป็นแบบนั้นละก็ หากเป็นอย่างนั้นละก็
「 mou kowarenai 」
ฉันจะไม่แหลกสลาย
「 kowarenai 」
ไม่แตกกระจาย
「 kowarenai kokoro no 」
ไม่มีวันพังทลาย
「 kane o narasou 」
หัวใจของฉันจะต้องร่ำร้อง
「 donten darou doromamire sa 」
แม้ฟ้ามืดครึ้มเพียงใดหรือต้องล้มลุกคลุกคลาน
「 doko mo kashiko mo 」
จนร่างเต็มไปด้วยโคลน
「 ima 」
ตอนนี้
「 kono yo no yukue wo saegiru meiro ni 」
เรามาวาดเส้นในวงกตไม้หนาม
「 sen wo hikouze 」
ที่ขวางกั้นจุดยืนของเราบนโลกใบนี้ดีกว่า
「 sono sen ga sa kasa naru chizu 」
และเส้นเหล่านั้น จะกลายเป็นแผนที่ทับซ้อน
「 kimi wo terasu tame ni saku hana sa 」
กลายเป็นดอกไม้สะพรั่งเพื่อส่องสว่างแด่เธอ
MV เพลง 泥中に咲く X ดาบพิฆาตอสูร ดูแล้วทำมาเข้ากันดีเลยเอามาแชร์กัน
ฟังแล้วดูเข้ากันดีเหมือนกัน เลยเอามาแชร์กัน
บานสะพรั่งในโคลน
「 kudaketa kokoro ga roka dekinakute 」
หัวใจที่แหลกสลายเป็นผง
「 namida wa sotto karete yuku 」
และน้ำตาที่ค่อยๆ แห้งเหือดไป
「 mou hitotsubu mo nagare nakute 」
แม้แต่หนึ่งหยดก็ไม่อาจรินไหล
「 okashii yo nette 」
“แปลกจังเลยนะ”
「 waratteru 」
ฉันพูดแล้วก็หัวเราะออกมา
「 kokuretsuna jinsei 」
ชีวิตโหดร้ายทารุณ
「 anata wo saegiru meiro no keikyoku 」
ราวกับวงกตไม้หนามขวางกั้นเธอไว้
「 joukusei no yami tachihadakaru 」
ตัวเธอที่ยืนเบื้องหน้าความมืดของโลกใบนี้
「 kimi wa dare yori mo ureu hito 」
คือคนที่โศกเศร้ายิ่งกว่าใครๆ
「 dakara ima bokura wa obore kaketeru 」
ดังนั้นตัวของพวกเราในตอนนี้น่ะ
「 sunzen darou 」
ใกล้จะจมดิ่งลงไปทุกที
「 tadashii kokyuu ni sukuwareta 」
จนได้แต่ประคองลมหายใจ
「 ima wa itsuka shinu tame ni ikiteru 」
มีชีวิตต่อไปเพียงเพื่อเฝ้ารอความตายในซักวัน
「 dake da 」
ก็เท่านั้น
「 ame ga kiraina wake wo shiru to 」
ที่เราตระหนักว่าเหตุใดจึงเกลียดฝน
「 fukai tokoro de omoidasu koto 」
เพราะยังระลึกได้จากส่วนลึกของความทรงจำ
「 sou ootsubu no shabondama nara 」
ใช่แล้ว ถ้าหากมันเป็นฟองสบู่ลูกใหญ่แทนละก็
「 kitto fuwafuwa de shitoshito 」
มันจะต้องโปรยปรายลงมาอย่างนุ่มนวลแน่
「 jimen no iro wo mite aruku 」
ยามที่เราก้มหน้ามองดูสีสันของผืนดิน
「 mizu tamari no nai basho eranderu 」
เพื่อเลือกเดินบนบริเวณซึ่งไร้แอ่งน้ำขัง
「 sate wa fuguuna michi wo soreru tame 」
และการที่เราทำเช่นนั้น
「 jiko bouei datte surun deshou 」
ก็เพื่อป้องกันตัวไม่ให้เดินไปบนเส้นทางที่ผิดพลาดไม่ใช่หรือไง
「 boku wa ima ningen desu 」
และตอนนี้ตัวฉันเป็นมนุษย์
「 kyou mo ashita mo sono tsugi no hi mo 」
ทั้งวันนี้ พรุ่งนี้ และนับต่อจากนี้ไป
「 mitomeru no wa sono kurai de ii 」
ยอมรับเพียงเท่านั้นก็พอแล้ว
「 minna betsubetsu no iki wo tabeteru 」
เพราะทุกคนต่างมีลมหายใจที่แตกต่างกัน
「 sou kimi mo ima ningen desu 」
ใช่แล้ว ตอนนี้ตัวเธอเองก็เป็นมนุษย์
「 sono sugata ga kiraina dake de 」
เธอแค่ไม่อยากยอมรับเท่านั้นเอง
「 nikumenai yo 」
เธอไม่ได้เกลียดชังมันหรอก
「 yasashii kara 」
เพราะว่าเธอนั้นอ่อนโยน
「 kimi wa dare no tame ni mo negau hito 」
และคอยภาวนาเพื่อใครสักคนมาตลอด
「 hitohira no hana ga chiru tame ni 」
เพื่อที่ดอกไม้จะได้ร่วงโรย
「 mizu mo tsuchi mo hikari mo sono tane mo 」
ต้องอาศัยน้ำ ผืนดิน แสงแดดและเมล็ดพันธุ์
「 boku no me no mae ni aru mono ga 」
สิ่งที่อยู่เบื้องหน้าของฉัน
「 sono imi mo kako mo mirai mo 」
คือความหมายทั้งของอดีตและของอนาคต
「 hitotsu to kakeru to umarenaize 」
ถ้าหากว่ามีสิ่งใดสิ่งหนึ่งหายไป
「 boku mo kimi mo ano hito mo 」
ทั้งฉัน ทั้งเธอ และไม่ว่าใครคงไม่อาจมีชีวิตอยู่
「 nan demo nai to ii nagara 」
“มันไม่มีอะไรหรอกน่า”
「 kako no nimotsu wo kimi ni seowaseru 」
ทุกคนปล่อยให้เธอแบกรับอดีตไว้ พร้อมพูดออกมาเช่นนั้น
「 unmei ga toosenbo suru 」
“โชคชะตาเล่นตลกกับเรา”
「 kanchigai jigou jitoku da yo 」
เข้าใจผิดแล้ว พวกเราทำตัวเองต่างหาก
「 demo joukyou ga yokunai kara ne 」
แต่ที่ทำลงไปเพราะทุกอย่างมันเลวร้ายใช่ไหม
「 nigetai yo ne 」
เธออยากจะหนีไปใช่ไหม
「 ikitai yo ne 」
อยากจะมีชีวิตอยู่สินะ
「 kono karada o nagedasu 」
หากมีเพียงสักชั่ววินาที
「 sono shunkan ga aru to sureba 」
ที่จะได้หลุดพ้นจากร่างกายนี้
「 kono yo no yami kirisaite sa 」
คงต้องตามหาความหมายที่ได้เกิดมา
「 koko ni umareta imi wo sagasou ka 」
เพื่อฉีกกระชากความมืดมิดของโลกใบนี้
「 owari no hajimari 」
หากจุดเริ่มต้นของจุดจบได้เริ่มขึ้น
「 hajimareba saigo no jinsei dakara 」
คงเป็นวาระสุดท้ายของชีวิตนี้
「 tohou mo nai tabi no sue ni 」
ปลายทางของจุดหมายคงไม่มีหนทางใดแล้ว
「 ima shika nai "toki" ga aru no darou 」
แต่สิ่งที่เรายังมีในตอนนี้ก็คือ”เวลา”เพื่อจะใช้ชีวิตต่อไป
( ame ni oboreru koto wa nai na )
“เป็นไปไม่ได้หรอกที่คนเราจะจมน้ำในสายฝน”
「 soredemo nandaka ikigurushii na 」
แต่ถึงกระนั้นก็ยังหายใจลำบากเหลือเกิน
( itsuka shinu tame ni ikiteru nante )
“คนเรามีชีวิตอยู่เพื่อรอความตายเท่านั้น”
「 sore nara sa sore naraba 」
ถ้าเป็นแบบนั้นละก็ หากเป็นอย่างนั้นละก็
「 mou kowarenai 」
ฉันจะไม่แหลกสลาย
「 kowarenai 」
ไม่แตกกระจาย
「 kowarenai kokoro no 」
ไม่มีวันพังทลาย
「 kane o narasou 」
หัวใจของฉันจะต้องร่ำร้อง
「 donten darou doromamire sa 」
แม้ฟ้ามืดครึ้มเพียงใดหรือต้องล้มลุกคลุกคลาน
「 doko mo kashiko mo 」
จนร่างเต็มไปด้วยโคลน
「 ima 」
ตอนนี้
「 kono yo no yukue wo saegiru meiro ni 」
เรามาวาดเส้นในวงกตไม้หนาม
「 sen wo hikouze 」
ที่ขวางกั้นจุดยืนของเราบนโลกใบนี้ดีกว่า
「 sono sen ga sa kasa naru chizu 」
และเส้นเหล่านั้น จะกลายเป็นแผนที่ทับซ้อน
「 kimi wo terasu tame ni saku hana sa 」
กลายเป็นดอกไม้สะพรั่งเพื่อส่องสว่างแด่เธอ