ดีครับ รีวิวนี้ คงเป็นอีกรีวิวนึงที่หลายๆคน อยากหาความรู้เพิ่มก่อนจะตัดสินใจทำเลสิค ก่อนอื่นเลยต้องบอกว่าตัวผมใส่แว่นมาตั้งแต่ประถมแล้ว จนปัจจุบัน 30 กว่า สั้นรวมเอียงได้ 900 เลยทีเดียว ทีแรกจะไปตัดแว่น ตัดเลนส์ใหม่เพราะตอนขับรถเริ่มมองเห็นป้ายไม่ชัด
แต่พอมาคิดๆแล้ว ค่าเลนส์ก็แพงโข สำหรับค่าสายตาที่เยอะขนาดนี้ ไหนจะต้องทำเลนส์ให้ย่อบางอีก (เป็นหมื่นเลยนะครับเลนส์แบบอย่างดี บวกกับราคาที่ต้องย่อบางมากๆ ไม่งั้นเลนส์หนาทะลุแว่นแน่ๆ 555)
การทำครั้งนี้ ได้รับแรงบันดาลใจจากพี่เจ้าของกระทู้ท่านหนึ่งในพันทิปนี้ ทำให้เกิดการตัดสินใจได้อย่างรวดเร็วพอสมควร ที่จะหาข้อมูล ที่จะเตรียมตัวตรวจสภาพตา การลางาน หรือจัดการงานต่างๆ ในช่วงโควิด หลังจากศึกษาข้อมูลมา 2-3 ที่ ผมจึงตัดสินใจโทรไปนัดและสอบถามที่ศูนย์เลสิค รัตนินกิมเบลแถวอโศกครับ เจ้าหน้าที่แจ้งว่า ต้องตรวจสภาพตาก่อน ใช้เวลา 3-4 ชม.และต้องมีผู้ติดตามมาด้วยเนื่องจากตาของเราต้องขยายม่านตาครับ
Step แรกพอได้วันนัด ก็กรอกข้อมูลเรื่องสภาพตา การใช้งาน โรคประจำตัว ต่างๆของเราเพื่อเป็นประวัติคนไข้เบื้องต้น
จากนั้นเจ้าหน้าที่จะพาเราไปวัดค่าสายตา ตั้งแต่เครื่องวัดที่สายตาทั่วๆไป ที่เราเห็นภาพเป็นบอลลูนแล้วมันก็จะมัวๆชัดๆ ปริ๊นเป็นกระดาษออกมา จนถึง การมองผ่านเครื่องแสงแวบวาบ อะไรอีก 3-4เครื่อง และจะมีเจ้าหน้าที่พาเข้าห้องวัดอย่างละเอียดอีกที จับเลนส์หมุนเลนส์ไปมาให้เราเลือก แบบ1 หรือแบบ2 อันไหนสว่างกว่า บลาๆๆ จนถึงขั้นตอนหยอดขยายม่านตา
Step 2 เจอคุณหมอ หมอก้จะวัดสายตาคล้ายๆกับเจ้าหน้าที่คนเมื่อกี๊อีกครั้ง เพื่อดูว่าสิ่งที่หมอวัด กับสิ่งที่เจ้าหน้าที่วัด ใกล้เคียงหรือต่างกันเพียงใด จากนั้นก็ใส่แผ่นย้อมสีตา ตรวจตาแห้ง ปรากฏว่ามีอาการตาแห้งที่ลูกตาดำด้านล่างเป็นจุดๆ พอสมควร (คุณหมอจะถ่ายรูปและเอาขึ้นจอให้ดูครับ ว่ามันเป็นจุดๆๆ) ต้องหยอดน้ำตาเทียมบ่อยๆ ทุก 1 ชม.เลยยิ่งดี ส่วนกระจกตาเราหน้าประมาณ 600 หน่วยเป็นอะไรไม่รู้ หมอบอกหนาพอที่จะทำได้ แต่ให้ไปหยอดน้ำตาเทียมอีกสัก 2 อาทิตย์ก่อน ค่อยมาทำ เพราะไอ้ตัวจุดๆในตาดำเพราะความแห้งนี้ มีผลต่อค่าสายตาที่วัดได้ด้วยครับ จากนั้นหมอก็จะอธิบายว่ากระบวนการทำเป็นอย่างไร เช่น หมอจะเปิดฝาครอบตาด้วยเลเซอร์นะ แล้วคนไข้ต้องลุกไปอีกเตียงนะ ช่วงนี้ให้มองจุดสีแดงนะ ช่วงนี้สำคัญห้ามขยับนะ พร้อมกับให้ดูจอทีวีตัวอย่างการทำประกอบไปด้วยอย่างละเอียด ว่าเราต้องเจออะไรบ้างในวันผ่าตัดครับ
Step 3 หยอดน้ำตาเทียม แบบ Non-Stop ---หลังจากกลับมาเราก็กลัวว่าเด๋วตาแห้งแล้วจะทำไม่ได้ ก็เลยตั้งนาฬิกาปลุกที่มือถือมันทุกชั่วโมง เสียงร้องดังเมื่อไร หยิบมาหยอดตาเมื่อนั้น ซื้อแบบทีเดียวมา 3 กล่องอัดให้จุใจ จุลูกกะตาไปเลย555
Step 4 ถึงวันเชือดดด เอ้ยย ผ่าตัด หมอจะตรวจความแห้งอีกครั้งก่อนทำ ผลคือไอ้ที่เป็นจุดๆ หายไปแล้ว เราก็ดีใจมาก คุ้มค่ากับการรักษาด้วยน้ำตาเทียมทุกชั่วโมงตลอดศกที่ผ่านมาเกือบ 2 อาทิตย์
พยาบาลก็ให้รอคิวก่อนหน้า 1 คิว เราได้เข้าไป 11 โมงกว่าๆ ออกมาเที่ยงกว่าได้มั้ง เพราะตอนออกมาไม่ได้ดูเวลาละ
********ก้าวแรกที่เข้าไป พยาบาลจะให้เก็บของ ล้างมือ ล้างหน้า ใส่ชุดสวมเพิ่ม ใส่หมวก ถอดแว่นแล้วจูงเข้าไปบนเตียงเชือด 55
จากนั้น จะทำความสะอาดรอบตา ซึ่งจะแสบหน่อย ช่วงไหนที่บอกให้หลับตาต้องหลับ ให้ลืมคือลืม ห้ามไปอยากรู้ลืมตาดูอะไรนะครับ เด๋วบางทีน้ำยามันเข้าตาแล้วมีผลต่อการทำ //ต่อมาก็หยอดยาชา ฉีดน้ำเข้าตา เอาที่ถ่างตามาขึงพาดฉันให้ตายดีกว่า...ไม่ใช่ๆ //เอามาถ่างตาไม่ให้เรากระพริบครับ จากนั้นหมอจะเช็คเอาอุปกรณ์มาแตะๆตา ถามว่าเจ็บไหมๆ ถ้าไม่เจ็บคือยาชาออกฤทธิ์แล้ว เตรียมเชือดได้ เหมือนทำฟันเลยแฮะ 55
เทคโนโลยีที่หมอเลือกให้คือ Femto Lasik ขั้นแรก หมอจะเปิดกระจกตาเราก่อนนะครับ โดยจะมีจุดสุญญากาศเหมือนมาแปะที่ตา เราต้องนิ่งมองแสงที่หมอบอกเป็นระยะ ตอนแรกเป็นแสงสีขาว ต่อมารู้สึกจะเขียว ทำไปทีละข้างจนเสร็จ จากนั้นเราก็ลุกไปอีกเตียงนึง ตอนนั้นก็ยังไม่เจ็บอะไร แต่ตัวเราเกร็งมาก มีอาการสั่น หนาวผ้าห่ม Requestพยาบาล 2 ผืนยังสั่น 555/หมอบอกเด๋วก็ร้อน บอกได้นะ (แต่จนจบกระบวนการหนาวตลอดคับ แอร์เย็นมาก บวกกับความตื่นเต้นด้วยมั้ง) ดีนะที่อาการสั่นดีขึ้น นิดหน่อยเลยทำต่อได้ เพราะได้ยินหมอพูดสั่นแบบนี้ทำไม้ได้นะ
ไอ้เราก็ เอาดิวะ สู้ๆ เหลือยิงเลเซอร์รักษาขั้นตอนสุดท้ายแล้ว
พออยู่อีกเตียง หมอให้จ้องแสงสีแดง จนมันนิ่งๆหายไป ก็ตามมองตามมันนะ หมอบอก เสร็จหนึ่งข้าง หมอจะฉีกกพลาสติกเหมือนเป็นฉากกั้นตาออก แอบเจ็บและเสียวมากตอนนั้น เพราะห้ามหลับตาโดยเด็ดขาด
เวลาช่างผ่านไปช้าเหลือเกินนน555 จริงๆแล้วมันไม่น่ากลัวนะคับ แต่พอดีเป็นคนตื่นเต้น สั่นง่าย หนาวง่าย ขนาดวันไปเตรียมเสื้อแขนยาวหนาๆไว้แล้วนะ ด้วยความสายตาเยอะก็คงจะมองเลเซอร์นานหน่อย พอผมลุกออกจากเตียงเสร็จ พยาบาลก็ถามมึนหัวไหม ไหวไหม เราก็โอเคไหว ลุกไปตรวจความเรียบร้อยกับเครื่องอีกครั้ง (หมอนั่งรออยู่) เสร็จแล้ว!!! พยาบาลเอาที่ครอบตามาปิด ตอนนั้นรู้สึกเป็นฝ้าๆ สลัวๆ แต่เหมือนรู้สึกว่ามันชัดขึ้นนะ กลับบ้านไปช่วงบ่ายผมก็กินยานอนหลับ จะให้มันหลับไปยันเช้า แต่ดันตื่นมาตอนเย็น กินข้าวแปปนึง (แม่ยกข้าวต้มมาให้ครับ) แล้วกินยานอนหลับอีกเม็ดต่อ เพราะหมอบอกให้นอนอย่างเดียว จบกระบวนการวันผ่าตัดนะครับ เรียบร้อย
จากนั้นหมอก็จะนัดดูแผลเป็นระยะตามนัดครับ เรายังต้องหยอดน้ำตาเทียมอีกเยอะ เพราะตาจะแห้งมาก เป็นผลจากการทำ ห้ามโดนน้ำตามที่หลายๆกระทู้บอก 7 วัน ใส่แว่นที่หมอจัดให้มากันน้ำกันลมตามรูปด้านบนครับ การโฟกัสระยะใกล้ๆจะยากหน่อยในอาทิตย์แรก เพราะค่าสายตาตอนใส่แว่นกับเลนส์เราห่างกันเยอะ ต้องรอการปรับสัก 1 เดือน แต่โดยรวมก็ชัด กว่า 90% แล้วคับ ตอนวัดสายตาก็อ่านค่าตัวเลขได้หมดปกติเลย ดีใจมาก โลกสดใสจริงๆ
ตอนนี้ทำมาได้อาทิตย์กว่าๆแล้วครับ ทุกอย่างโอเค เน้นหยอดน้ำตาเทียมตลอด ใครที่จะทำก็ลองตัดสินใจดูนะครับ ส่วนตัวคิดว่าค่าเลนส์สะสมมาหลายปีนี่ก็เอาเงินไปทำเลสิคได้แล้วนะ สำหรับคนสายตาเยอะ สู้ๆครับ
[CR] รีวิวเลสิค ที่รัตนินครับ
แต่พอมาคิดๆแล้ว ค่าเลนส์ก็แพงโข สำหรับค่าสายตาที่เยอะขนาดนี้ ไหนจะต้องทำเลนส์ให้ย่อบางอีก (เป็นหมื่นเลยนะครับเลนส์แบบอย่างดี บวกกับราคาที่ต้องย่อบางมากๆ ไม่งั้นเลนส์หนาทะลุแว่นแน่ๆ 555)
จากนั้น จะทำความสะอาดรอบตา ซึ่งจะแสบหน่อย ช่วงไหนที่บอกให้หลับตาต้องหลับ ให้ลืมคือลืม ห้ามไปอยากรู้ลืมตาดูอะไรนะครับ เด๋วบางทีน้ำยามันเข้าตาแล้วมีผลต่อการทำ //ต่อมาก็หยอดยาชา ฉีดน้ำเข้าตา เอาที่ถ่างตามาขึงพาดฉันให้ตายดีกว่า...ไม่ใช่ๆ //เอามาถ่างตาไม่ให้เรากระพริบครับ จากนั้นหมอจะเช็คเอาอุปกรณ์มาแตะๆตา ถามว่าเจ็บไหมๆ ถ้าไม่เจ็บคือยาชาออกฤทธิ์แล้ว เตรียมเชือดได้ เหมือนทำฟันเลยแฮะ 55
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้
ข้อมูลเพิ่มเติม