คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 2
โครงการยังกล้าจะมาเสนอทางเลือกกับคุณอีกนะ
เรามีสิทธิ์ได้คืนทั้งหมดครับ ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 219 และมาตรา 372 และในกรณีของคุณตามความจริงความเป็นไปได้สูงที่จะผ่านการอนุมัติไปตั้งนานแล้ว แต่ต้องมายืดเยื้อและเกิดโควิดพอดีทำให้อาชีพของคุณได้รับผลกระทบเต็มๆ แบบนี้ปัญหามันไมไ่ด้เกิดที่เราครับ มันเกิดที่โควิด คุณไปร้องเรียนยังไงคุณก็ชนะ แต่อาจจะต้องรอ สคบ เขาดำเนินการหน่อยนะครับ และอย่าไปยอมให้โครงการหัวหมอยึดเงินไปนะครับ อย่างน้อย เงินค่าสัญญา เงินดาวน์ต้องได้คืน เงินจองถ้าไม่ได้คืนก็ให้คิดซะว่าเป็นค่าเสียลูกค้าของโครงการไปนะครับ ( แต่กรณีของคุณต้องได้คืนทั้งหมด )
ผมว่ารอผลจากแบงค์ให้แน่นอน และไปคุยกับโครงการถึงที่เลยดีกว่าครับ เอาให้จบภายในวันเดียว ถามเลยครับว่า เงินต้องคืนให้เรา และจะใช้เวลากี่วัน วันไหน เวลาไหน เอาให้ชัดเจน อัดเสียงไว้ด้วยก็ดี บอกถ้าจะหาคนผิด ให้เขาไปยึดเงินกับโควิด 19 แทน โครงการอะไรเห็นแก่ตัวมาก
ไม่ต้องรอโครงการอื่นของบริษัทนี้ด้วยครับ เอาเงินคืนมาให้หมด บ้านมีให้เลือกมากมายครับคุณ และอย่าไปเชื่อคำพูดของเซลล์มากตอนเราไปดูบ้านจองบ้านอะไรพวกนี้ เขามักจะพูดว่า มีคนมาดูเยอะไม่จองตอนนี้เดียวคนอื่นมาจองนะ อย่าไปหลงกลนะครับ บ้านไม่ใช่ขายกันง่ายๆ บางคนจองก็จริง แต่กู้ไม่ผ่าน และบางโครงการมีการให้จองทับกันด้วย
เพราะฉะนั้นเราต้องชนครับ อย่าไปกลัวครับ เราเป็นลูกค้า เงินก็เงินเราอย่าให้เขายึดไป
อย่าคิดมากนะครับ สุดท้ายแล้วเงินของเรามันก็ต้องได้คืนมา
ปล. (1) ตั้งแต่ เรามีปัญหา เซลล์ของทางโครงการพูดกับเราแย่มากค่ะ เราพยายามขอเจรจาทั้งยืดระยะเวลาออกไปหรือยอมให้ยึดเงินจองก็ได้ แต่ค่าทำสัญญาเราขอคืน ทางเซลล์ปฏิเสธเรามาตลอด พอเราบอกว่าคงต้องขอความช่วยเหลือจากสคบ. ทางเซลล์ก็บอกว่าเชิญค่ะ ถ้าจะให้ขึ้นโรงขึ้นศาลก็ยินดี --- ตรงนี้ผมอ่านแล้วต้องรีบยืนขึ้นเลย แบบนี้เหมือนเซลล์มั่นใจเลยนะครับว่าโครงการจะหนุนหลังเต็มที่ในการพูดจากับลูกค้าเช่นนี้ คุณหาเวลาไปโครงการไปช่วงที่มีลูกค้าเยอะๆ แล้วไปพูดให้ลูกค้าคนอื่นได้ยินเลยครับ ว่าทำไมทำแบบนี้ เอาให้ลุกค้าคนอื่นรับรู้ไปเลย **วิธีนี้คือความคิดผมนะครับ ไม่ต้องทำก็ได้ แต่ถ้าเป็นผม ผมทำแน่นอนโดนพูดจาแล้วยังท้าทายอีก
เรามีสิทธิ์ได้คืนทั้งหมดครับ ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 219 และมาตรา 372 และในกรณีของคุณตามความจริงความเป็นไปได้สูงที่จะผ่านการอนุมัติไปตั้งนานแล้ว แต่ต้องมายืดเยื้อและเกิดโควิดพอดีทำให้อาชีพของคุณได้รับผลกระทบเต็มๆ แบบนี้ปัญหามันไมไ่ด้เกิดที่เราครับ มันเกิดที่โควิด คุณไปร้องเรียนยังไงคุณก็ชนะ แต่อาจจะต้องรอ สคบ เขาดำเนินการหน่อยนะครับ และอย่าไปยอมให้โครงการหัวหมอยึดเงินไปนะครับ อย่างน้อย เงินค่าสัญญา เงินดาวน์ต้องได้คืน เงินจองถ้าไม่ได้คืนก็ให้คิดซะว่าเป็นค่าเสียลูกค้าของโครงการไปนะครับ ( แต่กรณีของคุณต้องได้คืนทั้งหมด )
ผมว่ารอผลจากแบงค์ให้แน่นอน และไปคุยกับโครงการถึงที่เลยดีกว่าครับ เอาให้จบภายในวันเดียว ถามเลยครับว่า เงินต้องคืนให้เรา และจะใช้เวลากี่วัน วันไหน เวลาไหน เอาให้ชัดเจน อัดเสียงไว้ด้วยก็ดี บอกถ้าจะหาคนผิด ให้เขาไปยึดเงินกับโควิด 19 แทน โครงการอะไรเห็นแก่ตัวมาก
ไม่ต้องรอโครงการอื่นของบริษัทนี้ด้วยครับ เอาเงินคืนมาให้หมด บ้านมีให้เลือกมากมายครับคุณ และอย่าไปเชื่อคำพูดของเซลล์มากตอนเราไปดูบ้านจองบ้านอะไรพวกนี้ เขามักจะพูดว่า มีคนมาดูเยอะไม่จองตอนนี้เดียวคนอื่นมาจองนะ อย่าไปหลงกลนะครับ บ้านไม่ใช่ขายกันง่ายๆ บางคนจองก็จริง แต่กู้ไม่ผ่าน และบางโครงการมีการให้จองทับกันด้วย
เพราะฉะนั้นเราต้องชนครับ อย่าไปกลัวครับ เราเป็นลูกค้า เงินก็เงินเราอย่าให้เขายึดไป
อย่าคิดมากนะครับ สุดท้ายแล้วเงินของเรามันก็ต้องได้คืนมา
ปล. (1) ตั้งแต่ เรามีปัญหา เซลล์ของทางโครงการพูดกับเราแย่มากค่ะ เราพยายามขอเจรจาทั้งยืดระยะเวลาออกไปหรือยอมให้ยึดเงินจองก็ได้ แต่ค่าทำสัญญาเราขอคืน ทางเซลล์ปฏิเสธเรามาตลอด พอเราบอกว่าคงต้องขอความช่วยเหลือจากสคบ. ทางเซลล์ก็บอกว่าเชิญค่ะ ถ้าจะให้ขึ้นโรงขึ้นศาลก็ยินดี --- ตรงนี้ผมอ่านแล้วต้องรีบยืนขึ้นเลย แบบนี้เหมือนเซลล์มั่นใจเลยนะครับว่าโครงการจะหนุนหลังเต็มที่ในการพูดจากับลูกค้าเช่นนี้ คุณหาเวลาไปโครงการไปช่วงที่มีลูกค้าเยอะๆ แล้วไปพูดให้ลูกค้าคนอื่นได้ยินเลยครับ ว่าทำไมทำแบบนี้ เอาให้ลุกค้าคนอื่นรับรู้ไปเลย **วิธีนี้คือความคิดผมนะครับ ไม่ต้องทำก็ได้ แต่ถ้าเป็นผม ผมทำแน่นอนโดนพูดจาแล้วยังท้าทายอีก
แสดงความคิดเห็น
กู้บ้านไม่ผ่าน เพราะพิษโควิด ขอเงินคืนได้ไหม
ปลายปี 62 ที่ผ่านมา (กย.62) เราตัดสินใจจะซื้อทาวโฮมหลังหนึ่งแถวถนนเฉลิมพระเกียรติร.9 มีกำหนดแล้วเสร็จพร้อมโอนบ้านภายในเดือนธันวาคมโดยชำระเงินจองจำนวน 20,000 บาท เงินทำสัญญาจำนวน 50,000 บาท และเงินดาวน์จำนวน 92,000 บาท พร้อมกับให้ทางโครงการทำเรื่อง Pre-approved กู้เงินผ่านทางธนาคาร 2 แห่ง ซึ่ง ณ ตอนนั้นธนาคารทั้ง 2 แห่งสามารถให้เรากู้ซื้อบ้านได้เต็มจำนวน
พอเดือน ตค. 62 ทางโครงการส่งจดหมายขอเลื่อนการโอนเป็นเวลา 60วัน ตอนนั้นเราไม่ได้ขัดข้องอะไรเพราะไม่ได้มีปัญหาด้านการเงิน แต่เมื่อถึงเดือนมีนาคม(บ้านเสร็จแล้ว) เราซึ่งเป็นพนักงานตอนรับบนเครื่องบินได้รับผลกระทบจากcovid19 โดยตรง ไม่สามารถทำงานได้และรายได้ไม่เท่าเดิม ทำให้ธนาคารไม่อนุมัติเงินกู้ซื้อบ้านแล้ว
ทางโครงการกำหนดให้เราโอนบ้านให้เสร็จภายในเดือน กค. ซึ่งเราเองก็ไม่แน่ใจว่ายะสามารถกู้ได้ไหม(มีโอกาสกู้ไม่ผ่านสูงมาก)
ทางโครงการจึงให้เราเลือกระหว่าง
1. ริบจำนวนเงิน 162,000 ไป แต่จะได้เงินจำนวนนี้เป็นส่วนลดในการซื้อโครงการอื่นของบริษัท
2. ทำหนังสือขอคืนเงิน แต่คืนเฉพาะเงินดาวน์ (ได้คืน 92,000 และยึดเงินจอง+ ทำสัญญา รวม 70,000)
เราไม่ได้อยากเอาเปรียบทางโครงการนะคะ เพราะเราได้รับผลกระทบจริงๆ ถ้าไม่มีเหตุการณ์ covid19 บ้านจะเป็นหนี้ก้อนแรกของเรา แล้วเราก็วางแผนอย่างดี ถ้าจะให้เรารอโครงการอื่นของบริษัทนี้ เรากลัวว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการนำเงิน 162,000 บาทมาเป็นส่วนลดเหมือนกันค่ะ
ทั้งนี้เลยอยากขอความช่วยเหลือว่าเราสามารถขอเงินส่วนไหนคืนได้บ้าง แล้วควรทำอย่างไร
หรือใครพอจะมีคำแนะนำเพิ่มเติมก็ยินดีนะคะ
ปล. (1) ตั้งแต่ เรามีปัญหา เซลล์ของทางโครงการพูดกับเราแย่มากค่ะ เราพยายามขอเจรจาทั้งยืดระยะเวลาออกไปหรือยอมให้ยึดเงินจองก็ได้ แต่ค่าทำสัญญาเราขอคืน ทางเซลล์ปฏิเสธเรามาตลอด พอเราบอกว่าคงต้องขอความช่วยเหลือจากสคบ. ทางเซลล์ก็บอกว่าเชิญค่ะ ถ้าจะให้ขึ้นโรงขึ้นศาลก็ยินดี
ปล. (2) เรายืนเรื่องออนไลน์ทาง สคบ. มา 10 วันแล้วยังไม่ได้รับการติดต่อกลับนะคะ