[CR] EP. 2 WAT 2015 ที่ HHI (Hilton Head Island), South Carolina ตามติดชีวิตติดเกาะ!

EP. 2 WAT 2015 ที่ HHI (Hilton Head Island), South Carolina ตามติดชีวิตติดเกาะ!

Work and Travel 2015 Hilton Head Island, South Carolina (Produce Clerk at Publix Supermarket, Rate: $10/hr.)

กลับมาพบกันอีกครั้งกับ EP. 2 ของการไปเวิร์ค หากใครต้องการติดตาม EP อื่นๆของการไปเวิร์ค สามารถแวะไปอ่านกันได้ที่นี่
รีวิว เวิร์ค 4 ปี (1 Spring + 3 Summers) เวิร์ค เวิร์ค เวิร์ค เวิร์ค เวิร์ค ไปเวิร์คยังไงให้ได้….....ประสบการณ์!

ปีนี้เราได้สมหวังตามตั้งใจ (หรอ!) เพราะเราได้ไปทำงานที่เราอยากทำตั้งแต่ปีแรก แต่ถ้าไม่มีอุปสรรค ชีวิตก็จะไม่ท้าทาย งานที่ต้องการในรัฐที่ใฝ่ฝันอย่าง Florida แต่ไหงกลับกลายมาเป็น South Carolina พร้อมกับเพื่อนร่วมชะตากรรมอีก 11 คน กับการเดินทางที่เหมือนจะราบรื่น ชีวิตติดเกาะที่เริ่มต้นก็ไม่สวยแล้วจะเป็นยังไง จะรุ่งหรือจะร่วง จะสนุกหรือจะปวดหัวแค่ไหน ไปตามอ่านกันได้เลยจ้า

เราเริ่มเดินทางวันที่ 1 มิถุนายน เดินทางไปพร้อมกันทั้งกลุ่มลงที่ SAV ที่ Savannah, Georgia ค่ะ เอเจ้นติดต่อ Shuttle bus ให้เป็นของ Kell’s Tour  เราพักที่ Suburban Extended Stay ใน Bluffton, South Carolina จากสนามบินไปที่พักเกือบๆ 1 ชั่วโมง ถึงที่พักก็ 5 ทุ่มกว่าแล้วค่ะ ที่พักปิดเงียบ เลยรบกวนคนขับรถโทรเข้าเบอร์ emergency ของที่พักเพราะยังไม่มีใครเปิดเบอร์ที่นี่ สักพักก็มีคนมาเปิด ก็ต้องรีบ unpack และพักผ่อนเลย เพราะพรุ่งนี้ต้องไปปฐมนิเทศแต่เช้า

Suburban Extended Stay
ที่นี่เป็นโรงแรม แต่มี kitchenette ในตัว พักห้องละ 4 คนค่ะ ซึ่งกลุ่มเราเป็นหญิงล้วน เลยจัดแจงง่าย แต่ห้องพักขนาดกะทัดรัดมาก ฮ่าๆ เดินเข้าไปซ้ายมือเป็นครัว ขวามือเป็นห้องน้ำ ติดกับห้องน้ำเป็นเตียงแบบ single bed 2 เตียง (คือต้องนอนท่าไหนท่านั้น เดี๋ยวตกเตียง) ปลายเตียงถัดจากครัวคือ ชั้นวางกับทีวี แต่มีฟิตเนสเล็กๆและสระว่ายน้ำให้ทำกิจกรรมได้บ้าง และ laundromat ที่ชั้น 1 


ปัญหาไม่ใช่ที่พักค่ะ แต่คือการเดินทางไปทำงาน เพราะที่ทำงานอยู่ Hilton Head Island ซึ่งต้องขึ้นทางด่วนและข้ามน้ำ ถ้าขับรถหรือขึ้นบัสใช้เวลาประมาณ 15-25 นาที (แนบภาพประกอบเพื่ออรรถรสในการจินตนาการ)

Publix Supermarket (Palmetto Bay Road หรือ Southern Publix)
แบรนด์นี้หลักๆจะอยู่ที่ southeast ของอเมริกา ใน Hilton Head Island ที่เรารู้จักคือมี 2 สาขา เรียก Northern Publix กับ Southern Publix ที่ Northern Publix ค่อนข้างใหญ่ เราได้ไปปฐมนิเทศที่นี่ แต่ทำงานที่ Southern Publix ที่นี่จะแบ่งออกเป็นแผนก Front Service (มี cashier, ผู้ช่วย cashier (งานคร่าวๆคือ ช่วยเอาของใส่ถุง, เก็บ cart ตามลานจอดรถ) เป็นต้น, Grocery, Produce, Deli, Bakery, Meat ทุกคนจะรู้แผนกของตัวเองวันปฐมนิเทศเลย ทางซุปเปอร์จะเลือกให้เลย ซึ่งทุกคนกระจายไปทุกแผนกตามความต้องการคน และเราหวยออกที่ Produce กับเพื่อนอีกคน ไม่เคยคิดถึงแผนกนี้มาก่อน บุคคลที่ skill การหั่นเป็นศูนย์ ความรู้เรื่องผักผลไม้คือติดลบ ต้องมาอยู่แผนกผักผลไม้สดคือร้องไห้ ฮ่าๆ

Produce Department และการทำงาน
แผนกนี้ทำงานกับผักสด ผลไม้สด ดอกไม้และผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับผักและผลไม้ น้ำผลไม้, น้ำสลัด, อาหารแปรรูป เป็นต้น การทำงานในฐานะ produce clerk และเป็นผู้หญิง (อย่างเรา) ที่มองเผินๆอาจจะมีทักษะการปอก หั่น แพ็คมาบ้าง หัวหน้าเลยให้มาช่วยป้าๆในส่วนของการเตรียมผลไม้สดค่ะ (ภาพประกอบข้างล่างเพื่ออรรถรสเช่นกัน)
 
[Source: publix.com]

ซึ่งป้าต้องสอนใหม่จากศูนย์ สงสารป้าๆเหมือนกัน หั่นผลไม้ว่ายากแล้ว สำเนียงฝั่ง south ฟังยากกว่า ไปแรกๆคือต้องใช้สมาธิในการฟังประมาณนึงเลย แต่หลังๆสบายมาก ในส่วนงานหั่น ถ้าวันไหนเราเตรียมผลไม้ไว้พอแล้ว หัวหน้าจะให้ออกมาลง floor จัดของ stocking ช่วยลูกค้า ประมาณนี้ ซึ่งเราชอบจัดของมากกว่าเพราะเราได้คุยกับลูกค้า ไม่ต้องกังวลว่าจะหั่นผลไม้ทันเวลาไหม ฮ่าๆ ลูกค้าจะชอบมาขอคำแนะนำเรื่องการเลือกผลไม้ค่ะ แตงโมเอย แคนตาลูปเอย แรกๆคือวิชาการเดา เดาไปก่อนแล้ววิ่งไปถามหัวหน้าทีหลัง หลังๆมามี J1 มาเพิ่มเป็นผู้หญิงจากตุรกี และทำงานหั่นเข้าท่ากว่าเราก็เลยได้อยู่ประจำ ส่วนเราที่พอจะสนิทกับหัวหน้าและเพื่อนร่วมงานก็ให้งานตัวเองไปอยู่หน้า floor เลย เข้างานปุ๊ปออกไปจัดของปั๊ปไม่ต้องรอถูกใช้งาน และครอบครอง section ดอกไม้ด้วย เพราะเค้าบอกเราจัดดอกไม้สวย แต่ความจริงแล้วแผนกส่วนใหญ่เป็นผู้ชายและไม่มีใครชอบจัดดอกไม้เลย ฮ่าๆ

การเดินทางและชีวิตที่ต้องสู้ (ทำไม)
เกริ่นก่อนว่าบริษัทบัสที่เอเจ้นที่ไทยติดต่อให้คือสำหรับเด็กไทย J1 ภายใต้เอเจ้นเดียวกันที่ไปอยู่เมืองนี้ทั้งหมด และก็ J1 ประเทศอื่นที่พักอยู่ด้วยกันด้วย
กลุ่มเราที่ไป Publix เป็นส่วนน้อย เด็กไทยส่วนใหญ่ทำงานอีกซุปเปอร์นึง แต่รู้มาว่าได้จ่ายค่าเดินทางตั้งแต่อยู่ไทยแล้ว ของเราก็มีสัญญาเช่นกันแต่ให้มาจ่ายเองที่นี่เพราะกลุ่มเรา process ทีหลัง ค่าเดินทางตกคนละ $58 ต่อสัปดาห์
ปัญหาไม่ใช่แค่ราคาที่แพงแต่ตารางการเดินรถและการให้บริการถือว่าแย่มาก ตารางรถคร่าวๆคือ ออกจากที่พักเรารอบ 05.00, 08.00, 10.00,11.00, 13.00 (จำได้คร่าวๆ) และกลับจาก Publix เริ่มจาก 14.00 รอบสุดท้าย 23.55 น. แต่ละเที่ยวเวลาค่อนข้างห่าง ส่วนใหญ่ J1 จะเริ่มงานช่วง 9 โมง ก็ต้องขึ้นรอบ 8 โมง ซึ่งหลายครั้งที่รถรับไปไม่หมด ต้องทิ้งบางส่วนให้ตกรถ บอกว่าจะคันใหม่มารับแต่ก็ไม่มา ต้องหาทางออกกันเอาเอง หรือบางครั้งมาก่อนเวลาแล้วไม่รอ ก็ตกรถไปตามๆกันค่ะ ซึ่งเราและเพื่อนเจอบ่อยมาก ต้อง save เบอร์ yellow cab ไว้เลย ถ้าตีสนิทคนไว้เยอะๆจะดีมากเพราะพวกเราอาศัยเพื่อนร่วมงานไปกลับก็บ่อย บ้างครั้งก็ hitchhiking เลย ฮ่าๆ เพราะแบบนี้ทำให้กลุ่มเราที่ยังไม่ได้จ่ายค่ารถ ไม่ยอมจ่ายค่ารถสักที ยื้อจนสุดท้ายบริษัทบัสติดประกาศไม่ให้กลุ่มเราขึ้นรถพร้อมมีภาพพวกเราติดอยู่ แต่ไม่ใช่เพราะจะไม่จ่าย แต่ช่วงนั้นเป็นช่วงที่เราคุยกับเอเจ้น รวมไปถึงเข้าไปคุยกับบริษัทบัสเลย ไปแจ้งว่าพวกเราต้องเจอปัญหาอะไรบ้าง ซึ่งเค้าบอกจะแก้ให้แต่สุดท้ายแล้วเหมือนเดิม ก็เลยทำใจจ่ายเงินและอยู่กับมัน ฮ่าๆ

ป.ล. เราไม่สามารถปั่นจักรยานได้เพราะทางจากที่พักไปที่ทำงานต้องขึ้น expressway ซึ่งถ้าปั่นจริงๆอันตรายและน่าจะปั่นไม่ถึง หมดแรงก่อน

งานอื่นๆที่ทำ
Second Job (งานสอง) เป็น Busser ที่คาเฟ่อาหารเม็กซิกันแห่งหนึ่ง
งานนี้มาแบบบังเอิญมากๆ เรากับเพื่อนไปเดินเล่น ตั้งต้นจากที่ Publix เดินไปเรื่อยตามถนน ตรอก ซอก ซอยที่พอจะเดินได้ แล้วไปเจอร้านนี้ประกาศรับสมัคร เลยเข้าไปกรอกใบสมัครทิ้งไว้ ไม่นานก็ได้งานทั้งคู่เลยเพราะชั่วโมงการทำงานไม่ชนกัน เราหลักๆจะเข้าช่วง dinner ถึงร้านปิด เพื่อนเข้าช่วง lunch ร้านนี้ใช้เวลาเดินจาก Publix ประมาณ 15-20 นาที ซึ่งต้องเดินไปกลับทุกวันเพราะเราต้องขึ้นบัสจาก Publix กลับที่พัก ตอนเลิกงานคือทางเดินมืดและไม่มีไฟเลย แต่เราเลือกเดินแบบมืดๆเพราะกลัวคนมากกว่า ถึงจะกลัวผีด้วยก็เถอะ
งานนี้คือเหนื่อยมาก เพราะ busser คือเป็นทุกอย่างให้เธอแล้วจริงๆ ตั้งแต่ปัด กวาด เช็ด เก็บตรง dining area แล้วก็ต้อง stock ของทุกอย่างในร้าน จนเป็นผู้ช่วยในครัวเตรียมของแต่ละวัน แต่เรทที่ได้คือไม่คุ้มเหนื่อยถ้าเทียบกับงาน
แต่ถ้าเทียบกับความชอบอาหารเม็กซิกันคือสามผ่าน และสนุกค่ะ ได้มิตรภาพจากป้า prep cook ที่ชอบทำน้ำพีชสดให้ทุกวันด้วย แถมพาไปเที่ยวฟรี ฮ่าๆ

Third Job (งานสาม) เป็น cashier/clerk ที่ Walgreens
งานนี้มาด้วยเพราะอยากทำงาน cashier บวกกับอยู่ติด Publix เลยไปสมัครดู ปรากฏว่าได้ แต่ก่อนจะรับคือเค้าให้เราไปทำข้อสอบออนไลน์ มีตอบคำถามเกี่ยวกับสินค้าและการคิดเงิน เช่น ถ้าสินค้าราคานี้ ลูกค้าจ่ายมาเท่านี้ เราจะทอนเท่าไหร่ให้คืนเหรียญน้อยที่สุด เพราะเหรียญที่นี่จะมีหลายแบบและแทนค่าต่างกัน หลังสอบออนไลน์ประมาณ 30 นาที ก็สอบสัมภาษณ์ เป็นการตอบคำถาม 6 ข้อ เราจะได้สถานการณ์มา ซึ่งเราต้องตอบและยกตัวอย่างว่าจะทำยังไง เราก็พยายามสุดความสามารถ ถึงจะไม่รู้ว่าถูกผิดแค่ไหนก็ตาม ฮ่าๆ แต่สุดท้ายก็ได้งานค่ะ ทราบผลตอนนั้นเลย 
เราถูกฝึกให้ทำเกือบทุกอย่างในร้าน เพราะในแต่ละกะจะมีพนักงานประมาณ 2-3 คนและผู้จัดการ หลักๆคือ stock ของ มีทำ cashier บ้าง แต่จะไม่ได้ประจำเพราะอายุยังไม่ถึง 21 ยังขายบุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไม่ได้ ผิดกฎหมาย งานที่นี่ค่อนข้างสบายเลย บางครั้งต้องหาอะไรทำหรือเดิน blocking ทั้ง store ว่างจนเผลอยืนหลับไปบ้างจนต้องหยิกตัวเอง ทำงานที่นี่ต้องระวังตัว เพราะเพื่อนพนักงานที่ Publix ไม่รู้ว่าเราทำงานที่นี่ บางทีเราก็เลี่ยงๆ หลบๆ แต่ตอนหลังเราบอกหัวหน้าเพราะจะได้คุยเรื่องตาราง
ชื่อสินค้า:   EP. 2 WAT 2015 ที่ HHI (Hilton Head Island), South Carolina ตามติดชีวิตติดเกาะ!
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่