ขอกล่าวทักทายอย่างเป็นทางการ สวัสดีทุกท่านค่ะ นี่จะเป็นการเล่าประสบการณ์เวิร์คครั้งแรกสุด exclusive หลังจากที่ยื้อมาเรื่อยๆจนล่วงเลยมาเกือบ 6 ปี ตอนนี้ก็คงเป็นฤกษ์ที่ดีที่เราจะได้มาเล่าประสบการณ์การไปเวิร์คอย่างจริงจัง เราไปเวิร์ค 4 ครั้ง (เรียกได้ว่าไปเกือบทุกปี) ไปจนเพื่อนเอือม ไปจนที่บ้านเพลียจะห้าม ไปให้สุดแล้วหยุดที่ไปต่อ เรื่องราวจะเป็นยังไง ไปติดตามอ่านกันได้เลยจ้า
ป.ล. เวลาผ่านมาค่อนข้างหลายปี เราจะพยายามรวบรวมข้อมูลและรายละเอียดให้มากที่สุด พร้อมภาพประกอบ เผื่อจะเป็นประโยชน์ให้กับคนที่สนใจไม่มากก็น้อย
EP. 1 WAT 2014 ที่ AC (Atlantic City), New Jersey เมืองนี้เราต้องรอด!
Work and Travel 2014 Atlantic City, New Jersey (Housekeeper at Revel Casino Hotel, Rate: $9.15/hr.)
Work and Travel 2015 Hilton Head Island, South Carolina (Produce Clerk at Publix Supermarket, Rate: $10/hr.)
EP. 3 WAT 2016 ที่ AC (Atlantic City), New Jersey
Work and Travel 2016 Atlantic City, New Jersey (Guest Room Attendant (Housekeeper) at Caesars Atlantic City Hotel & Casino, Rate: $8.66/hr.)
...Coming Up
EP. 4 WAT 2018 ที่ Reno, Nevada
Work and Travel 2018 Reno, Nevada (Beverage Server at Silver Legacy Resort Casino, Rate: $7.25/hr. + tips)
...Coming Up
EP. 1 WAT 2014 ที่ AC (Atlantic City), New Jersey เมืองนี้เราต้องรอด!
Work and Travel 2014 Atlantic City, New Jersey (Housekeeper at Revel Casino Hotel, Rate: $9.15/hr.)
เริ่มด้วยปีแรกของประสบการณ์เวิร์ค เป็นปีแรกของมหาลัยเช่นกัน เราเองรู้จักโครงการนี้จากการหาข้อมูลเอง หาทุกอย่างว่าทำยังไงเราถึงจะได้ไปเที่ยวอเมริกาแบบไม่แพงมาก อยู่ได้นานๆ และก็มาเจอโครงการนี้ ซึ่งตอนม. 6 มีความตั้งใจว่า จะต้องไปเวิร์คให้ได้ทุกช่วงปิดเทอมของมหาวิทยาลัย พอเข้ามหาวิทยาลัยเราก็ทำให้ความตั้งใจนั้นเป็นจริง (เราเรียน 5 ปี ในปี 2017 เราต้องฝึกสอน ต้องเว้นไป 1 ปี)
ปีแรกของการไปเวิร์ค ประเดิมด้วยการโดนหลอก แต่โชคดีที่เป็นแค่ค่าแรกเข้าประมาณ 3,000 กว่าบาท ซึ่งตอนนั้นก็คิดอยู่นานว่าจะสมัครที่นี่ดีไหม ถึงขนาดเดินทางไปที่ออฟฟิศแต่ก็ยังโดนหลอกอยู่ดี ฮ่าๆ แต่เพราะเราอยากไปทำงาน Supermarket ที่ Florida มาก แต่เราสมัครช้า หลายๆเอเจ้นก็งานเต็มและปิดรับสมัครไปแล้ว เลยตกลงปลงใจไปที่นี่ สุดท้ายบริษัทปิดหนีและหายหน้าไปเลย เราไม่ได้คิดจะตามแต่เสียดายที่ต้องล้มเลิกแพลนที่จะไปเวิร์ค แต่แล้วโชคชะตาก็เข้าข้างที่มีงานหลุดเข้ามาของเอเจ้นหนึ่ง เราจึงสอบถามทางเอเจ้นนี้และสมัครงานนี้ไป เป็นงานที่เราไม่เคยคิดที่จะไปทำมาก่อนและเป็นเมืองที่เราไม่รู้จัก ข้อมูลก็น้อยมาก รู้แค่ว่าติดอันดับเมืองอันตรายในอเมริกาด้วย แต่เอาไงเอากัน ความอยากมักมาก่อนเสมอ ลุยโลด!
ปี 2014 เป็นปีสุดท้ายของการไปเวิร์คช่วง Spring ที่อเมริกา เพราะมหาวิทยาลัยได้เลื่อนการเปิดเทอมจากช่วงเดือนพฤษภาคมมาเป็นช่วงเดือนสิงหาคมแบบสากล ซึ่งมันเป็นกำไรของเหล่าเด็กเวิร์คปีนี้มากๆ เพราะทราบกันดีอยู่แล้วว่าผู้เข้าร่วมโครงการ Work and Travel สามารถท่องเที่ยวในประเทศสหรัฐอเมริกาได้เป็นเวลา 30 วันหลังจากวันสุดท้ายที่ทำงานเสร็จตาม Job Offer หรือวันที่วีซ่าหมดนั่นเอง
เราเดินทางออกจากประเทศไทยวันที่ 24 มีนาคม 2014 กับเพื่อนหนึ่งคนที่รู้จักกันในวันปฐมนิเทศ เราบินไปลงที่ JFK และทางเอเจ้นได้ติดต่อรถมารับให้ ซึ่งเราก็ให้เงินสดเมื่อเดินทางถึงที่พักเลย จาก JFK ไปถึง AC ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงได้
เรากับเพื่อนไปถึงค่อนข้างช้า เลยไม่มีสิทธิ์เลือกบ้าน ฮ่าๆๆ โดยพวกเราสองคนโดนเอาไปปล่อยบ้านหลังที่สองที่มีคนอยู่ก่อนแล้ว แล้วก็ไกลออกมาจากบ้านหลังอื่นๆนิดหน่อย แต่ใกล้ที่ทำงานมากกว่าและค่อนข้างเป็นส่วนตัว ที่บ้านอยู่ด้วยกันทั้งหมด 10 คน บ้านมี 4 ห้องนอน แต่แค่ 1 ห้องน้ำเท่านั้น ห้องน้ำจะไม่เป็นปัญหาถ้าเราไม่ได้ทำงานเวลาเดียวกัน แต่งานแม่บ้านเริ่มงานเวลาเดียวกันหมดเลย ก็เลยต้องมีคนเสียสละเริ่มอาบน้ำตั้งแต่ตี 5 หรือบางคนก็เสียสละไม่อาบเลย เพราะหนาวมาก ฮ่าๆ ซึ่งเพื่อนเราหรือไม่ก็เราจะเป็นคนแรก โดยได้รับเกียรติและการปลุกจากพี่ๆทุกเช้าให้ตื่นมาอาบน้ำก่อน ใช้เวลานานกว่าเครื่องทำน้ำอุ่นจะทำงาน คนอาบแรกๆไม่ต่างอะไรกับการอาบน้ำเย็นเฉียบ เรียกได้ว่าขนลุกเลยทีเดียว
Revel Casino Hotel
ตั้งอยู่สุดทางเดิน boardwalk ติดโรงแรม Showboat เป็นโรงแรมใหญ่ พนักงานเยอะมาก รวมทั้งพนักงานประจำและ J1 อย่างเรา รวมแล้วเด็ก J1 จากไทยน่าจะมีกว่า 35 คน และมีเด็ก J1 จากประเทศอื่นๆด้วยโดยเฉพาะจากฝั่งยุโรปตะวันออก
ในส่วนของเรื่องอาหารกลางวัน มีให้ทานฟรี จริงๆแล้วเราสามารถทานอาหารได้ทั้งเช้า กลางวัน เย็น ซึ่งพวกเราทานทุกมื้อและกลับไปทำอาหารไทยทานต่อที่บ้านทุกเย็น ทานคุ้มมากแต่ก็ไม่ยอมขาดอาหารไทยแม้แต่วันเดียว
อาหารที่โรงแรมก็ค่อนข้างดีเลย โดยเฉพาะวันไหนที่มี pork chop
การเดินทางไปทำงาน
ที่นี่มี Jitney ให้บริการ ค่าบริการ single ride คือ $2.25 หรือถ้าซื้อเหมาต่อเดือนเลยน่าจะถูกกว่า แต่เราและทุกคนที่บ้านไม่ซึ้อ เพราะไม่ค่อยจะคุ้ม ที่นั่งค่อนข้างจำกัด และทุกครั้งที่มาถึงป้ายเราคือเต็มตลอด และรอนานหน่อย แต่ถ้าเดินทางเช้ากว่านี้ไม่น่ามีปัญหา พวกเราส่วนใหญ่เอาแค่ทันเวลา และอยากออกกำลังกายก็เลือกเดินบน boardwalk ใช้เวลาประมาณ 40 นาทีจากบ้าน (จริงๆแล้วคืออยากประหยัดเงิน) กว่าจะถึงที่ทำงานก็เหนื่อยหอบ แต่พอเข้างานแล้วเห็นห้องที่ due out แรงก็จะมาทันที ฮ่าๆ
การทำงานแม่บ้านและประสบการณ์สุดระทึก
ในการทำงานทุกเช้าจะมี house briefing หลังจากนั้นก็แจกงาน การทำห้องจะแบ่งออกเป็น 1 คนต่อ 1 โซน ในแต่ละชั้นจะมี 3 โซน แบ่งเป็น a b และ c โรงแรมมีหลายชั้นมาก ในทุกๆเช้าเราต้องมาลุ้นว่าชื่อจะอยู่ชั้นไหน โซนอะไร ได้ใครเป็น supervisor (บางคนก็เข้มงวดมาก บางคนก็ขึ้นชื่อเรื่องเปิดห้องก่อนเพื่อเข้าไปหยิบทิป ซึ่งเราต้องหูตาไว รักษาผลประโยชน์เราเอง ฮ่าๆ) ใครเป็น houseman ประจำชั้น (houseman คอยช่วยเก็บผ้าที่เราเปลี่ยนไปส่งห้องซักผ้า ถ้าเกิดว่าใจดีหน่อยเราห้องเยอะก็จะเข้ามาดึงผ้าปูเตียงออกให้ แต่ต้องระวังว่าจะแอบเปิดห้องก่อนเพื่อมาขโมยทิปไหม) มีใครเป็นเพื่อนร่วมชั้น (บางชั้น cart ไม่พอ อาจจะต้องมีการยื้อยุดฉุดกระชากหรือผ่านการมีปากมีเสียงมาก่อน บางทีสู้ป้าๆไม่ได้ก็ต้องใช้วิธีโฉบไปมาขโมยของมาใช้ทีละนิดละหน่อย) เหมือนเราลงสนามรบในทุกวัน ที่นี่จะใช้ ipod ในการทำงาน ไม่ว่าจะเกิดปัญหาอะไรขึ้นให้ report ผ่านตัว ipod ค่ะ รวมถึงส่งห้องที่ clean แล้วให้ supervisor ด้วย
ห้องในแต่ละวันจะได้ไม่เท่ากัน เพราะให้เป็นโซน ถ้าโชคดีก็จะได้ห้อง occupied/stay over room เยอะหน่อยและแขกติด DND ไม่เรียกบริการ ถ้าโชคร้ายหน่อยอาจโดนเพิ่มห้อง due out แทน DND หรือบางโซนได้ due out ทั้ง 13 ห้องเลย ยิ่งถ้ามี suite ด้วยจะเหนื่อยมาก แล้วยิ่งถ้าได้ชั้นที่ให้สุนัขเข้ามาพักด้วย บอกเลยว่าร้องไห้ กลิ่นแรงมากและสกปรกมาก ฮ่าๆๆ ยังดีที่บ้านเราคือทุกคนช่วยกันหมด ไม่เสร็จไม่กลับ ใครเสร็จเร็วก็จะวิ่งไปช่วยเพื่อนที่ยังไม่เสร็จ ถ้าเสร็จกันหมดก่อนเวลาจะไปแอบรอที่ห้องของคนใดคนหนึ่งเพื่อรอเวลา clock out กลัวลงเร็วละโดนเพิ่มห้อง ฮ่าๆ
ที่นี่จะมีการประเมินรายเดือนด้วยว่าใครทำห้องได้สะอาด ปูเตียงเรียบร้อย ถ้าติดอันดับจะได้ 100USD เป็นขวัญและกำลังใจให้พนักงาน เราเคยได้ 1 ครั้ง ได้คะแนน 82 เต็ม 100 ว่าแล้วก็ขออวดนิดนึง ฮ่าๆๆ
แต่ว่าหลังจากที่เรากลับไม่นานโรงแรมก็ปิดตัวไปเพราะเศรษฐกิจไม่ค่อยดี น่าเสียดายมากเพราะตัวโรงแรมสวยและวิวสวยมาก
ชั่วโมงการทำงานและรายได้
เรทที่เราได้คือ $9.15/hr. ถ้ามี OT จะคิดเป็น 1.5xRate($9.15)/hr. แรกๆได้ค่อนข้างเยอะ แต่ตอนหลังมีเด็ก J1 ช่วง Summer มา คนเยอะเลยไม่ค่อยได้ ส่วนชั่วโมงการทำงานก็ 40 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ทำ 5 วัน วันละ 8 ชั่วโมง และหยุด 2 วันต่อสัปดาห์
เราอยู่เต็ม 4 เดือน คือทำงาน 3 เดือน และเที่ยวอีก 1 เดือน ไม่ได้มีการหางานเพิ่มเพราะช่วงนั้นหายากมากยังไม่เข้า Summer ไม่ค่อยมีคนมาเที่ยว และเสี่ยงดวงไม่ได้เพราะอายุยังไม่ถึง 21 ปี ถ้ารวมๆรายได้แล้วเท่าทุน เพราะเราเที่ยวค่อนข้างเยอะ
บ้านพัก
เดือนละ 300USD ค่ะ เดือนแรกมีค่ามัดจำ 150USD แต่ตอนย้ายออกได้คืนครบค่ะ ไม่มีข้าวของเสียหาย
การใช้ชีวิตใน AC
ค่อนข้างต้องระวังตัว ไม่ออกไปไหนตอนกลางคืนคนเดียว ควรจะไปกันเป็นกลุ่มใหญ่ ตรง boardwalk ค่อนข้างปลอดภัย แต่ออกจากโซนนั้นจะมืดมากและค่อนข้างอันตราย เป็นเมืองที่ติดทั้งมหาสมุทรและอ่าว
เดินทางไปเที่ยวเมืองอื่นง่าย ห่างจาก New York City แค่ 2 ชั่วโมง เดินทางโดย Greyhound bus ถ้าถูกหน่อยก็ขึ้นบัสรับส่งคนที่มาคาสิโน จะมีเป็นรอบๆ แต่อาจจะขอดูไอดีเพื่อดูอายุว่าถึง 21 หรือยัง
เดินทางไป Philadelphia ประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที โดยรถไฟ แค่ 10USD ถ้าเดินทางไป Washington DC จะอยู่ที่ประมาณ 3 ชั่วโมง ตอนนั้นเราไปถึงแค่ Baltimore, Maryland ไม่ได้ไป DC น่าเสียดายอยู่เหมือนกัน
หรือมีเมืองท่องเที่ยวรอบๆเช่นกันที่สามารถขึ้นบัสไปเที่ยวได้ เช่น Wildwood, Ocean City เป็นต้น
แต่ถ้าพูดถึงแหล่งท่องเที่ยวสุดฮิตของเหล่า J1 ใน AC คงหนีไม่พ้น Tanger Outlets เดินเกือบจะทุกวัน กลับจากที่ทำงานก็ต้องเดิน วันหยุดก็ไปเดิน ไม่ได้ซื้อให้ได้ผ่านก็ยังดี ฮ่าๆๆ
สรุปแล้วประสบการณ์การมาเวิร์คในครั้งนี้ไม่ผิดหวังเลยค่ะ เราได้ทำอะไรสนุกๆเยอะมากกับเพื่อนๆ และได้เรียนรู้อะไรหลากหลายจากการทำงาน ได้เที่ยว ซึ่งเราว่าคุ้มมากๆกับสิ่งที่เราลงทุนไป
ป.ล. นี่เป็นกระทู้แรก ผิดพลาดประการใดก็ขออภัยด้วยนะคะ และถ้า
[CR] รีวิว เวิร์ค 4 ปี (1 Spring + 3 Summers) เวิร์ค เวิร์ค เวิร์ค เวิร์ค เวิร์ค ไปเวิร์คยังไงให้ได้….....ประสบการณ์!
ป.ล. เวลาผ่านมาค่อนข้างหลายปี เราจะพยายามรวบรวมข้อมูลและรายละเอียดให้มากที่สุด พร้อมภาพประกอบ เผื่อจะเป็นประโยชน์ให้กับคนที่สนใจไม่มากก็น้อย
EP. 1 WAT 2014 ที่ AC (Atlantic City), New Jersey เมืองนี้เราต้องรอด!
Work and Travel 2014 Atlantic City, New Jersey (Housekeeper at Revel Casino Hotel, Rate: $9.15/hr.)
Work and Travel 2016 Atlantic City, New Jersey (Guest Room Attendant (Housekeeper) at Caesars Atlantic City Hotel & Casino, Rate: $8.66/hr.)
...Coming Up
EP. 4 WAT 2018 ที่ Reno, Nevada
Work and Travel 2018 Reno, Nevada (Beverage Server at Silver Legacy Resort Casino, Rate: $7.25/hr. + tips)
...Coming Up
EP. 1 WAT 2014 ที่ AC (Atlantic City), New Jersey เมืองนี้เราต้องรอด!
Work and Travel 2014 Atlantic City, New Jersey (Housekeeper at Revel Casino Hotel, Rate: $9.15/hr.)
ปีแรกของการไปเวิร์ค ประเดิมด้วยการโดนหลอก แต่โชคดีที่เป็นแค่ค่าแรกเข้าประมาณ 3,000 กว่าบาท ซึ่งตอนนั้นก็คิดอยู่นานว่าจะสมัครที่นี่ดีไหม ถึงขนาดเดินทางไปที่ออฟฟิศแต่ก็ยังโดนหลอกอยู่ดี ฮ่าๆ แต่เพราะเราอยากไปทำงาน Supermarket ที่ Florida มาก แต่เราสมัครช้า หลายๆเอเจ้นก็งานเต็มและปิดรับสมัครไปแล้ว เลยตกลงปลงใจไปที่นี่ สุดท้ายบริษัทปิดหนีและหายหน้าไปเลย เราไม่ได้คิดจะตามแต่เสียดายที่ต้องล้มเลิกแพลนที่จะไปเวิร์ค แต่แล้วโชคชะตาก็เข้าข้างที่มีงานหลุดเข้ามาของเอเจ้นหนึ่ง เราจึงสอบถามทางเอเจ้นนี้และสมัครงานนี้ไป เป็นงานที่เราไม่เคยคิดที่จะไปทำมาก่อนและเป็นเมืองที่เราไม่รู้จัก ข้อมูลก็น้อยมาก รู้แค่ว่าติดอันดับเมืองอันตรายในอเมริกาด้วย แต่เอาไงเอากัน ความอยากมักมาก่อนเสมอ ลุยโลด!
ตั้งอยู่สุดทางเดิน boardwalk ติดโรงแรม Showboat เป็นโรงแรมใหญ่ พนักงานเยอะมาก รวมทั้งพนักงานประจำและ J1 อย่างเรา รวมแล้วเด็ก J1 จากไทยน่าจะมีกว่า 35 คน และมีเด็ก J1 จากประเทศอื่นๆด้วยโดยเฉพาะจากฝั่งยุโรปตะวันออก
ในส่วนของเรื่องอาหารกลางวัน มีให้ทานฟรี จริงๆแล้วเราสามารถทานอาหารได้ทั้งเช้า กลางวัน เย็น ซึ่งพวกเราทานทุกมื้อและกลับไปทำอาหารไทยทานต่อที่บ้านทุกเย็น ทานคุ้มมากแต่ก็ไม่ยอมขาดอาหารไทยแม้แต่วันเดียว
ที่นี่มี Jitney ให้บริการ ค่าบริการ single ride คือ $2.25 หรือถ้าซื้อเหมาต่อเดือนเลยน่าจะถูกกว่า แต่เราและทุกคนที่บ้านไม่ซึ้อ เพราะไม่ค่อยจะคุ้ม ที่นั่งค่อนข้างจำกัด และทุกครั้งที่มาถึงป้ายเราคือเต็มตลอด และรอนานหน่อย แต่ถ้าเดินทางเช้ากว่านี้ไม่น่ามีปัญหา พวกเราส่วนใหญ่เอาแค่ทันเวลา และอยากออกกำลังกายก็เลือกเดินบน boardwalk ใช้เวลาประมาณ 40 นาทีจากบ้าน (จริงๆแล้วคืออยากประหยัดเงิน) กว่าจะถึงที่ทำงานก็เหนื่อยหอบ แต่พอเข้างานแล้วเห็นห้องที่ due out แรงก็จะมาทันที ฮ่าๆ
ในการทำงานทุกเช้าจะมี house briefing หลังจากนั้นก็แจกงาน การทำห้องจะแบ่งออกเป็น 1 คนต่อ 1 โซน ในแต่ละชั้นจะมี 3 โซน แบ่งเป็น a b และ c โรงแรมมีหลายชั้นมาก ในทุกๆเช้าเราต้องมาลุ้นว่าชื่อจะอยู่ชั้นไหน โซนอะไร ได้ใครเป็น supervisor (บางคนก็เข้มงวดมาก บางคนก็ขึ้นชื่อเรื่องเปิดห้องก่อนเพื่อเข้าไปหยิบทิป ซึ่งเราต้องหูตาไว รักษาผลประโยชน์เราเอง ฮ่าๆ) ใครเป็น houseman ประจำชั้น (houseman คอยช่วยเก็บผ้าที่เราเปลี่ยนไปส่งห้องซักผ้า ถ้าเกิดว่าใจดีหน่อยเราห้องเยอะก็จะเข้ามาดึงผ้าปูเตียงออกให้ แต่ต้องระวังว่าจะแอบเปิดห้องก่อนเพื่อมาขโมยทิปไหม) มีใครเป็นเพื่อนร่วมชั้น (บางชั้น cart ไม่พอ อาจจะต้องมีการยื้อยุดฉุดกระชากหรือผ่านการมีปากมีเสียงมาก่อน บางทีสู้ป้าๆไม่ได้ก็ต้องใช้วิธีโฉบไปมาขโมยของมาใช้ทีละนิดละหน่อย) เหมือนเราลงสนามรบในทุกวัน ที่นี่จะใช้ ipod ในการทำงาน ไม่ว่าจะเกิดปัญหาอะไรขึ้นให้ report ผ่านตัว ipod ค่ะ รวมถึงส่งห้องที่ clean แล้วให้ supervisor ด้วย
เรทที่เราได้คือ $9.15/hr. ถ้ามี OT จะคิดเป็น 1.5xRate($9.15)/hr. แรกๆได้ค่อนข้างเยอะ แต่ตอนหลังมีเด็ก J1 ช่วง Summer มา คนเยอะเลยไม่ค่อยได้ ส่วนชั่วโมงการทำงานก็ 40 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ทำ 5 วัน วันละ 8 ชั่วโมง และหยุด 2 วันต่อสัปดาห์
เราอยู่เต็ม 4 เดือน คือทำงาน 3 เดือน และเที่ยวอีก 1 เดือน ไม่ได้มีการหางานเพิ่มเพราะช่วงนั้นหายากมากยังไม่เข้า Summer ไม่ค่อยมีคนมาเที่ยว และเสี่ยงดวงไม่ได้เพราะอายุยังไม่ถึง 21 ปี ถ้ารวมๆรายได้แล้วเท่าทุน เพราะเราเที่ยวค่อนข้างเยอะ
บ้านพัก
เดือนละ 300USD ค่ะ เดือนแรกมีค่ามัดจำ 150USD แต่ตอนย้ายออกได้คืนครบค่ะ ไม่มีข้าวของเสียหาย
การใช้ชีวิตใน AC
ค่อนข้างต้องระวังตัว ไม่ออกไปไหนตอนกลางคืนคนเดียว ควรจะไปกันเป็นกลุ่มใหญ่ ตรง boardwalk ค่อนข้างปลอดภัย แต่ออกจากโซนนั้นจะมืดมากและค่อนข้างอันตราย เป็นเมืองที่ติดทั้งมหาสมุทรและอ่าว
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้