วันหนึ่งฉันเดินเข้าป่า ฉันเจอเสือตัวใหญ่ ถามฉันว่าจะไปไหน ฉันจึงตอบไปตี...
few minutes later.... วันหยุดวันหนึ่งในฤดูร้อน ชายหนุ่มรักการผจญภัยแบบไม่มีแบบแผน ได้แว๊นจักรยานยนต์ 2 จังหวะ คู่ใจของเขา ออกจากแม่กลองไปยังน้ำตก 9 โจร อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี แบบมึนๆ งงๆ ว่าฉันมาทำอะไรที่นี้ เขาเดินผ่านผู้คนที่มาท่องเที่ยว นั่งตั้งวงกินอาหาร เล่นน้ำ ปริมาณไม่มาก และค่อยๆ ลดน้อยลง ตามระดับชั้นของน้ำตกที่เดินขึ้นไปได้เรื่อยๆ จนเหลือแต่ผมคนเดียวในป่าอันแห้งแล้ง น้ำน้อย ในหน้าแล้งเช่นนี้ จึงทำให้มีนักท่องเที่ยวไม่มากนัก การเดินชมวิวทิวทัศน์ไปเรื่อยๆ ของผมก็ยังสนุก เหมือนเด็กน้อยได้ออกสำรวจโลกกว้าง พอหมดคนก็รู้สึก เออดี ไม่วุ่นวาย เดินไปชิวๆ เรื่อยๆ ตามทางที่เดินที่จัดสรรไว้ให้ แต่พอเดินมาไกลเรื่อยไป อยู่กับความเงียบและเสียงลมหายใจของตัวเอง ก็หยุดชะงักอยู่ครู่หนึ่ง และคิดในใจขึ้นมาว่า เฮ้ย เอาไงดี wa จะไปต่อหรือกลับดี ในใจเริ่มกลัว เพราะความรู้สึกวังเวงในป่า มันเริ่มย่างกลายเข้ามาในความคิด ตัดสินใจเอา wa เดินกลับไปก็เดินมาไกลขนาดนี้แล้ว ไปต่อ ! เดินไปตามทางของเขา คงไม่หลงแน่ๆ เดี๋ยวก็เจอทางออก....แต่มันไม่เป็นอย่างที่คิด...ยิ่งเดินยิ่งไกล ยิ่งเงียบ ไม่มีวี่แววจะเจอทางออก หรือเสียงผู้คนใดๆ ความกลัวทะลุทะลวงเข้ามาทุกอนูของรูขุมขน โคร่ม ! เสียงอะไรไม่รู้ดังมาจากป่าทึบด้านข้าง ห่างจากผมไม่เกิน 5 เมตร หัวใจผมแทบหยุดเต้น ขนหัวลุกชูชัน รูม่านตาเบิกโพรง ด้วยความกลัว อกสั่นขวัญผวา.....เสือ....กระทิง....ช้าง....ผี !!! .....
หัวใจหยุดเต้นไปชั่วขณะ ไม่ได้ใจถึงหรือใจแข็งอะไร แต่ขามันก้าวไม่ออก ยืนมองไปที่ต้นเสียงนั้น ประดุจเหมือนโดนสะกดจิต ลุ้นเหงื่อแตก ว่าในพุ่มป่าอันรกทึบนั้นมันคือตัวอะไร หรือสิ่งใด สรุปแป๊ปเดียว พี่แกโผล่พรวดออกมาครับ....ไก่ป่า....ไม่ได้แต่งเรื่องมาอำนะครับ เรื่องจริง กลัวจริง และไก่จริงๆ
ผ่านนาทีวิกฤติมาได้ ใจชื่นไปนิดหน่อย หันกลับมาเครียดเรื่องจะออกจากป่ายังไงต่อ เดินต่อไปตามทาง เร่งฝีเท้าเร็วขึ้น พร้อมเสียงหัวใจที่เต้นรัวและลมหายใจที่ ถี่ขึ้นๆ เพราะในป่านั้น แม้ตอนนั้นเป็นเวลาประมาณบ่ายโมงถึงบ่ายสอง มองไปริบๆ ปลายยอดไม้เห็นว่ามีแสงแดด แต่ตรงพื้นดินที่ผมยืนนั้นกลับมืดครึ้ม และอุณหภูมิเย็นแบบสยองขวัญวันพุธ มันเป็นบรรยากาศที่ถ้ามาเดินเที่ยวกับกลุ่มเพื่อนสัก 4-5 คน และรู้เส้นทางชัดเจน ไม่มีทางหลง มีคนอื่นเที่ยวมากมาย คงจะไม่รู้สึกอะไร เพราะผมเคยไปเดินป่าในเส้นเดินป่าสายน้ำตกบนภูกระดึงมาแล้ว 2 หน ทั้งทึบทั้งไกล แต่ไม่รู้สึกน่ากลัวเลย เพราะด้วยปัจจัยตามที่กล่าวด้านบน แต่ในสถานการณ์หลงป่าคนเดียวนั้น ต่างกันโดยสิ้นเชิง ความกลัว ความเครียด ทุกความรู้สึกนึกคิด บาปบุญคุณโทษ ภาพการกระทำดีชั่ว ภาพคนที่เรารักเราเกลียด ทุกอย่างประดังกันเข้ามาถล่มตีกันในหัวสมองผมอย่างไม่สามารถควบคุมอะไรได้เลย เมื่อตั้งสติได้นิดหน่อย สิบนิ้วประนมยกขึ้นเหนือหัว ทุกสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เรานับถือและนึกถึงได้ในตอนนั้น ช่วยลูกช้างด้วยเทอญ เจ้าป่าเจ้าเขา เจ้ากรรมนายเวร ทุกภพทุกชาติ ที่เคยล่วงเกิน ทั้งกายวาจาใจ ทั้งตั้งใจและไม่ตั้งใจ ลูกช้างขอขมาลาโทษ ขอให้อภัย อโหสิกรรม ขอให้ลูกช้างออกจากป่านี้ไปได้ด้วยเทอญ สาธุ....เดินต่อไปสักพัก อย่างเร็วกว่าเดิม จ้ำๆ อย่างเดียว ก็ได้ยินเสียงสวรรค์ นั้นคือเสียงคน เสียงรถยนต์...สวรรค์ได้อยู่บนฟ้าครับ นาทีนี้สำหรับผม อยู่ตรงหน้านี้เองครับ
ผมเดินตามเสียงไปอย่างกับนักวิ่ง 100 เมตรที่เร็วที่สุดในสามโลก ตอนนั้นยังไม่เห็นนะครับ ได้ยินแต่เสียง ยังมีแต่ป่าๆๆ และป่ารอบทิศ เดินไปจนเห็นเหมือนริมหน้าผาเล็กๆ จึงพอมองเห็นว่าข้างล่างเป็นถนน เพิ่มความเร็ว ตอนนี้น่าจะเร็วกว่าสถิติโลก 100 เมตร ในความรู้สึกตัวเอง ไต่ระดับตามทางไปเรื่อยๆ จนเจอประตูทางออก น่าจะเป็นประมาณสังกะสีและไม้ลวกเก่าๆ เหมือนเป็นทางที่ปิดปรับปรุง ผมรีบเดินออกจากป่าผ่านประตูนั้นออกมายังลานจอดรถ....gu รอดตายแล้ววว ! ขอบคุณทุกสิ่งสักดิ์สิทธิ์ที่กล่าวขอชีวิตให้รอดออกมาได้ แบบวนไปวนมา พรึมพรัมๆๆ ด้วยความปิติ ประดุจได้เหรียญทองโอลิมปิก..... เดินออกมาแบบมึนงงครับ ว่ามาโผล่ที่ไหนกันเนี่ย โชคดีเจอเจ้าหน้าที่ป่าไม้ขี่มอเตอร์ไซต์ที่ถนนจึงโบกครับ เล่าเรื่องให้เขาฟังว่าเดินหลงป่าจากน้ำตกมาโผล่ที่นี้ พี่เขาบอก เฮ้ย มาได้ไง ไกลนะนั้น ผมบอกผมก็งงครับ ว่าผมมาได้ไง แต่ตอนนี้พี่ช่วยไปส่งผมหน่อย พี่เขาใจดีพามาส่งที่น้ำตก จุดที่ผมจอดมอเตอร์ไซต์คู่ใจเอาไว้ แว๊นกลับแม่กลองแบบสุดชีวิต รักบ้านขึ้นมาทันที....
เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า
1.ไม่ควรเดินป่าคนเดียว หากไม่ชำนาญพื้นที่ กรณีของผมเดินตามทางที่จัดสรรไว้ให้ แต่ด้วยระยะทางที่ไกลของเส้นทาง โดยที่ผมเองไม่ได้ศึกษามาก่อน จึงทำให้เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น
2.ในป่า 360 องศารอบตัวเราเหมือนกันไปหมด ขนาดกลางวันแสกๆ ยังน่ากลัวสุดๆ หลงป่าของจริง สยองขวัญกว่าที่คิด ไม่มีความตลกเลยสักนิด
3.ความดีความไม่ดี ทุกสิ่งที่เราทำไว้ มันไม่ได้หายไปไหน มันอยู่กับเราตลอดเวลา เวลาเราสุขสบายเราอาจลืมมันไป แต่ในเวลาที่คุณกลัวตาย สิ้นหวัง มันจะกลับมา
4.จงทำดีๆๆๆ
5.สิ่งศักดิ์สิทธิ์มีจริง แต่สุดท้าย สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม
เรื่องนี้อาจมีสาระบ้าง ไม่มีสาระบ้าง ตลกบ้าง ฝืดบ้าง ผิดบ้าง ถูกบ้าง แต่ทุกเรื่องคือพื้นฐานจากเรื่องจริงที่ผมประสบมาด้วยตัวเองจริงๆ ครับ หากมีข้อความใดพิมพ์ หรือใช้คำผิด ให้คำหรือเนื้อหาไม่เหมาะสม ข้าพเจ้ากราบขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับ
ขอบคุณที่สละเวลาอ่านบทความนี้ ขอให้ท่านได้รับความบันเทิงกลับไป ไม่มากก็น้อย หรือน้อยมาก หรือไม่เลย
ขอบคุณครับ
สวัสดี
ประสบการณ์หลงป่าน้ำตก 9 โจร
few minutes later.... วันหยุดวันหนึ่งในฤดูร้อน ชายหนุ่มรักการผจญภัยแบบไม่มีแบบแผน ได้แว๊นจักรยานยนต์ 2 จังหวะ คู่ใจของเขา ออกจากแม่กลองไปยังน้ำตก 9 โจร อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี แบบมึนๆ งงๆ ว่าฉันมาทำอะไรที่นี้ เขาเดินผ่านผู้คนที่มาท่องเที่ยว นั่งตั้งวงกินอาหาร เล่นน้ำ ปริมาณไม่มาก และค่อยๆ ลดน้อยลง ตามระดับชั้นของน้ำตกที่เดินขึ้นไปได้เรื่อยๆ จนเหลือแต่ผมคนเดียวในป่าอันแห้งแล้ง น้ำน้อย ในหน้าแล้งเช่นนี้ จึงทำให้มีนักท่องเที่ยวไม่มากนัก การเดินชมวิวทิวทัศน์ไปเรื่อยๆ ของผมก็ยังสนุก เหมือนเด็กน้อยได้ออกสำรวจโลกกว้าง พอหมดคนก็รู้สึก เออดี ไม่วุ่นวาย เดินไปชิวๆ เรื่อยๆ ตามทางที่เดินที่จัดสรรไว้ให้ แต่พอเดินมาไกลเรื่อยไป อยู่กับความเงียบและเสียงลมหายใจของตัวเอง ก็หยุดชะงักอยู่ครู่หนึ่ง และคิดในใจขึ้นมาว่า เฮ้ย เอาไงดี wa จะไปต่อหรือกลับดี ในใจเริ่มกลัว เพราะความรู้สึกวังเวงในป่า มันเริ่มย่างกลายเข้ามาในความคิด ตัดสินใจเอา wa เดินกลับไปก็เดินมาไกลขนาดนี้แล้ว ไปต่อ ! เดินไปตามทางของเขา คงไม่หลงแน่ๆ เดี๋ยวก็เจอทางออก....แต่มันไม่เป็นอย่างที่คิด...ยิ่งเดินยิ่งไกล ยิ่งเงียบ ไม่มีวี่แววจะเจอทางออก หรือเสียงผู้คนใดๆ ความกลัวทะลุทะลวงเข้ามาทุกอนูของรูขุมขน โคร่ม ! เสียงอะไรไม่รู้ดังมาจากป่าทึบด้านข้าง ห่างจากผมไม่เกิน 5 เมตร หัวใจผมแทบหยุดเต้น ขนหัวลุกชูชัน รูม่านตาเบิกโพรง ด้วยความกลัว อกสั่นขวัญผวา.....เสือ....กระทิง....ช้าง....ผี !!! .....
หัวใจหยุดเต้นไปชั่วขณะ ไม่ได้ใจถึงหรือใจแข็งอะไร แต่ขามันก้าวไม่ออก ยืนมองไปที่ต้นเสียงนั้น ประดุจเหมือนโดนสะกดจิต ลุ้นเหงื่อแตก ว่าในพุ่มป่าอันรกทึบนั้นมันคือตัวอะไร หรือสิ่งใด สรุปแป๊ปเดียว พี่แกโผล่พรวดออกมาครับ....ไก่ป่า....ไม่ได้แต่งเรื่องมาอำนะครับ เรื่องจริง กลัวจริง และไก่จริงๆ
ผ่านนาทีวิกฤติมาได้ ใจชื่นไปนิดหน่อย หันกลับมาเครียดเรื่องจะออกจากป่ายังไงต่อ เดินต่อไปตามทาง เร่งฝีเท้าเร็วขึ้น พร้อมเสียงหัวใจที่เต้นรัวและลมหายใจที่ ถี่ขึ้นๆ เพราะในป่านั้น แม้ตอนนั้นเป็นเวลาประมาณบ่ายโมงถึงบ่ายสอง มองไปริบๆ ปลายยอดไม้เห็นว่ามีแสงแดด แต่ตรงพื้นดินที่ผมยืนนั้นกลับมืดครึ้ม และอุณหภูมิเย็นแบบสยองขวัญวันพุธ มันเป็นบรรยากาศที่ถ้ามาเดินเที่ยวกับกลุ่มเพื่อนสัก 4-5 คน และรู้เส้นทางชัดเจน ไม่มีทางหลง มีคนอื่นเที่ยวมากมาย คงจะไม่รู้สึกอะไร เพราะผมเคยไปเดินป่าในเส้นเดินป่าสายน้ำตกบนภูกระดึงมาแล้ว 2 หน ทั้งทึบทั้งไกล แต่ไม่รู้สึกน่ากลัวเลย เพราะด้วยปัจจัยตามที่กล่าวด้านบน แต่ในสถานการณ์หลงป่าคนเดียวนั้น ต่างกันโดยสิ้นเชิง ความกลัว ความเครียด ทุกความรู้สึกนึกคิด บาปบุญคุณโทษ ภาพการกระทำดีชั่ว ภาพคนที่เรารักเราเกลียด ทุกอย่างประดังกันเข้ามาถล่มตีกันในหัวสมองผมอย่างไม่สามารถควบคุมอะไรได้เลย เมื่อตั้งสติได้นิดหน่อย สิบนิ้วประนมยกขึ้นเหนือหัว ทุกสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เรานับถือและนึกถึงได้ในตอนนั้น ช่วยลูกช้างด้วยเทอญ เจ้าป่าเจ้าเขา เจ้ากรรมนายเวร ทุกภพทุกชาติ ที่เคยล่วงเกิน ทั้งกายวาจาใจ ทั้งตั้งใจและไม่ตั้งใจ ลูกช้างขอขมาลาโทษ ขอให้อภัย อโหสิกรรม ขอให้ลูกช้างออกจากป่านี้ไปได้ด้วยเทอญ สาธุ....เดินต่อไปสักพัก อย่างเร็วกว่าเดิม จ้ำๆ อย่างเดียว ก็ได้ยินเสียงสวรรค์ นั้นคือเสียงคน เสียงรถยนต์...สวรรค์ได้อยู่บนฟ้าครับ นาทีนี้สำหรับผม อยู่ตรงหน้านี้เองครับ
ผมเดินตามเสียงไปอย่างกับนักวิ่ง 100 เมตรที่เร็วที่สุดในสามโลก ตอนนั้นยังไม่เห็นนะครับ ได้ยินแต่เสียง ยังมีแต่ป่าๆๆ และป่ารอบทิศ เดินไปจนเห็นเหมือนริมหน้าผาเล็กๆ จึงพอมองเห็นว่าข้างล่างเป็นถนน เพิ่มความเร็ว ตอนนี้น่าจะเร็วกว่าสถิติโลก 100 เมตร ในความรู้สึกตัวเอง ไต่ระดับตามทางไปเรื่อยๆ จนเจอประตูทางออก น่าจะเป็นประมาณสังกะสีและไม้ลวกเก่าๆ เหมือนเป็นทางที่ปิดปรับปรุง ผมรีบเดินออกจากป่าผ่านประตูนั้นออกมายังลานจอดรถ....gu รอดตายแล้ววว ! ขอบคุณทุกสิ่งสักดิ์สิทธิ์ที่กล่าวขอชีวิตให้รอดออกมาได้ แบบวนไปวนมา พรึมพรัมๆๆ ด้วยความปิติ ประดุจได้เหรียญทองโอลิมปิก..... เดินออกมาแบบมึนงงครับ ว่ามาโผล่ที่ไหนกันเนี่ย โชคดีเจอเจ้าหน้าที่ป่าไม้ขี่มอเตอร์ไซต์ที่ถนนจึงโบกครับ เล่าเรื่องให้เขาฟังว่าเดินหลงป่าจากน้ำตกมาโผล่ที่นี้ พี่เขาบอก เฮ้ย มาได้ไง ไกลนะนั้น ผมบอกผมก็งงครับ ว่าผมมาได้ไง แต่ตอนนี้พี่ช่วยไปส่งผมหน่อย พี่เขาใจดีพามาส่งที่น้ำตก จุดที่ผมจอดมอเตอร์ไซต์คู่ใจเอาไว้ แว๊นกลับแม่กลองแบบสุดชีวิต รักบ้านขึ้นมาทันที....
เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า
1.ไม่ควรเดินป่าคนเดียว หากไม่ชำนาญพื้นที่ กรณีของผมเดินตามทางที่จัดสรรไว้ให้ แต่ด้วยระยะทางที่ไกลของเส้นทาง โดยที่ผมเองไม่ได้ศึกษามาก่อน จึงทำให้เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น
2.ในป่า 360 องศารอบตัวเราเหมือนกันไปหมด ขนาดกลางวันแสกๆ ยังน่ากลัวสุดๆ หลงป่าของจริง สยองขวัญกว่าที่คิด ไม่มีความตลกเลยสักนิด
3.ความดีความไม่ดี ทุกสิ่งที่เราทำไว้ มันไม่ได้หายไปไหน มันอยู่กับเราตลอดเวลา เวลาเราสุขสบายเราอาจลืมมันไป แต่ในเวลาที่คุณกลัวตาย สิ้นหวัง มันจะกลับมา
4.จงทำดีๆๆๆ
5.สิ่งศักดิ์สิทธิ์มีจริง แต่สุดท้าย สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม
เรื่องนี้อาจมีสาระบ้าง ไม่มีสาระบ้าง ตลกบ้าง ฝืดบ้าง ผิดบ้าง ถูกบ้าง แต่ทุกเรื่องคือพื้นฐานจากเรื่องจริงที่ผมประสบมาด้วยตัวเองจริงๆ ครับ หากมีข้อความใดพิมพ์ หรือใช้คำผิด ให้คำหรือเนื้อหาไม่เหมาะสม ข้าพเจ้ากราบขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับ
ขอบคุณที่สละเวลาอ่านบทความนี้ ขอให้ท่านได้รับความบันเทิงกลับไป ไม่มากก็น้อย หรือน้อยมาก หรือไม่เลย
ขอบคุณครับ
สวัสดี