เบนนี่จิ้งจอกจอมซ่าส์ได้ขับรถโดยประมาทจนเกิดอุบัติเหตุรถชนกับเสาไฟฟ้า เบนนี่รอดชีวิตมาได้แต่ต้องเสียหางของมันไป เบนนี่จิ้งจอกจอมซ่าส์ได้แต่คิดว่า"โธเอ๊ยเราไม่น่าขับรถโดยประมาทเลย ตอนนี้หางกูก็ไม่มีอีก กูคงต้องโดนเพื่อนล้อแน่เลย กูจะทำไงดีวะ" ทันใดนั้นเบนนี่ก็เกิดความคิดขึ้นมา"คิดออกแล้ว เราทำเพจเบนนี่จิ้งจองไร้หางลงใน facebookดีกว่า พอเพจดังขึ้นมาแล้วเราจะได้ชวนเพื่อนๆจิ้งจอกตัดหางกัน ที่นี่เราจะไม่ได้เป็นจิ้งจอกหางด้วนตัวเดียวแล้ว555" เมื่อคิดได้ดังนั้นเบนนี่จึงทำเพจเบนนี่จิ้งจอกไร้หางขึ้นมา โดยในเพจเบนนี่ได้โพสเกี่ยวกับไลฟ์สไตล์และคำคมเท่ๆแบบไลฟ์โค้ชจนมีผู้ติดตามมากมาย จนกระทั่งวันหนึ่งเบนนี่ได้ทีจึงโพสต์ว่า ผมภูมิใจที่ไม่มีหางเพราะว่าผมเห็นว่าหางเป็นสัญลักษณ์ของกรอบแบบโบราณ ซึ่งพวกเราชาวสัตว์ทั้งหลายที่ ล้าหลังไม่ทันมนุษย์เพราะว่าเวลาพวกมนุษย์ทำอะไรมันไม่มีหาง พวกมันไม่มีหางแต่มันยังสร้างสรรค์ความทันสมัยได้ ในขณะที่พวกเราชาวสัตว์ทั้งหลายต่างก็มีหางซึ่งไม่ได้เอาไปใช้ทำประโยชน์อะไรเลย ผมจึงขอให้พวกสัตว์ทั้งหลายมาตัดหางกันครับ" แต่กระแสที่ได้กลับตรงกันข้ามทันทีที่โพสต์เพราะสังคมโซเชียลสัตว์ต่างให้ความเห็นที่แตกต่างกันอย่างเพราะเบนนี่เสียหางจากอุบัติเหตุถึงได้อยากให้บรรดาสัตว์ไม่มีหางเพื่อให้ตัวเองไม่รู้สึกแย่ บ้างก็เห็นว่าสัตว์บางชนิดก็ไม่มีหางแต่กำเนิดอย่างลิงชิมแพนซี แต่กลับสร้างสรรค์วัฒนธรรมไม่ได้เหมือนคน บ้างก็ให้ความเห็นว่าที่มนุษย์สร้างสรรค์ความทันสมัยได้เพราะมีสติปัญญา แต่ก็ใช่ว่าความทันสมัยของมนุษย์จะดีพราะมนุษย์ยังคงมีชนชั้น ความเหลื่อมล้ำกันอยู่ซึ่งต่างจากสังคมสัตว์ที่ถึงแม้จะมีผู้ล่ากับผู้ถูกล่าแต่ก็เป็นไปตามวิถีธรรมชาติ ไม่มีเล่ห์เหลี่ยมกลโกงมากอย่างสังคมมนุษย์ บ้างก็ให้ความเห็นว่าสังคมสุนัขจิ้งจอกไม่เคยแบ่งแยกชนชั้นอย่างสังคมมนุษย์ ถ้าเบนนี่รู้สึกแย่ที่หางด้วนก็ระบายได้นี่ บ้างก็ให้ความเห็นว่าตัวเองก็เป็นจิ้งจอกหางด้วนแบบเบนนี่แต่ไม่เคยคิดอะไรแบบนั้นเลย เบนนี่ที่อ่านความเห็นได้แต่หน้าซืดอยู่หน้าคอมแต่เพียงผู้เดียว
นิทานทันยุค ตอน เบนนี่จอกหางด้วน