สวัสดีค่ะ แค่อยากจะมาระบายบ้าง คือเราเป็นลูกคนเดียวค่ะ ตอนแรกครอบครัวเราก้มีปัญหาเรื่องทั่วๆไป พ่อแม่ทะเลาะกัน หรือต่างๆนาๆตามครอบครัวทั่วไปค่ะ แต่ปัจจุบันนี้มีปัญหาหลากหลายอย่างมากๆ จนเครียดกันทั้งครอบครัว ตอนแรกพ่อทำงานที่เชียงใหม่ค่ะ แม่ก็ขายของ แต่เพราะแม่เราอยากกลับบ้านมากๆ พ่อแม่ทะเลาะกันบ่อย จนพ่อก้เลยยอม ว่าไปก้ไปเถอะ (แม่เราเป็นคนใหญ่ที่สุดในบ้านแล้วค่ะ ไม่มีใครขัดคำพูดแม่ได้ มันก้ไม่ได้นาดนั้นหรอก แต่ถ้าขัดแล้ว คือจะเกิดการทะเลาะกันตามมาตลอดเลย )แล้วครอบครัวเราก้เลยย้ายมาอยู่ที่ภาคใต้ มาหางานทำ เพราะแม่บอกว่ามาทำงานที่นี่ที่บ้านเรา ทำงานง่าย ได้มาอยู่บ้านตัวเองด้วย เลยสร้างบ้านค่ะ หมดไปเยอะมาก เพราะเหตุผลหลายอย่างเลยเสียไปเยอะค่ะ แม่ก็เครียด ที่เสียเงินเยอะมาก เพราะมันเยอะจริงๆค่ะ งานก้หาทำไม่ได้ค่ะ เลยเครียดกันไปใหญ่ ตัวเราก้พยายามหางานทำ ง่ายๆที่บ้านไม่ต้องเสียเงิน เพราะจะไปซื้อของมาขายก้ไม่มีงบค่ะ แล้วเวลาพ่อแม่เราทะเลาะกัน เราก้มักจะเป็นคนที่ให้คำปรึกษา พยายามช่วย (เราเป็นคนกลาง)แต่ผลที่ได้คือ ถ้าเราบอกความจริงหรือในสิ่งที่เราเห็น แต่มันไม่เหมือนอย่างที่แม่เราคิด แม่เราก้จะบอกว่า "ลูกไม่เข้าใจหรอก ลูกลองมาเป็นแม่ดูมั้ย" คือเราเข้าใจการเป็นแม่ว่ามันลำบากกว่าเรามากๆค่ะ แต่ส่วนตัวแล้ว ทุกครั้งที่พ่อแม่ทะเลาะกัน คนที่คอยเป็นคนลองรับอารมณ์โมโหของพวกเขาก้คือเราอ่ะค่ะ เวลาเราแค่ถามหรืออะไรก้โดนตะคอกโดนด่า ทั้งๆที่เราแค่อยากถาม เหมือนพ่อแม่ทะเลาะกัน อยู่ดีๆก้โยงมาด่าเรา เอาเราไปเปรียบเทียบกับลูกคนอื่นบ้าง เห็นก้มีคนบอกนะคะ ว่าเวลามีอะไรให้ปรึกษาพ่อแม่ เราก้เคยใช้ความกล้าของตัวเองพูดกับแม่ ตอนนั้นแม่บอกว่าแม่เครียด เราก็เลยบอกว่าเราก้เครียดเหมือนกัน แม่เราก้เลยพูดว่า "เป็นเด็กมันจะเครียดอะไร" เราก้เลยแบบ ไม่รู้อ่ะค่ะ แต่เวลาที่เราจะปรึกษา ก้จะโดนว่า โดนติ ว่าเด็กมันจะคิดอะไร จะเครียดอะไร เราก้เป็นคนชอบเก็บความรู้สึกค่ะ พ่อแม่ไม่เห็นเราร้องไห้มานานมากแล้วค่ะ ตั้งแต่โตมา เพราะเราจะไม่มีทางร้องต่อหน้าท่านเด็ดขาด จะร้องก้ต่อเมื่อ ไปอาบน้ำหรือเข้าห้องน้ำ พ่อแม่ไปข้างนอก ตอนนอน ก้ร้องแบบเก็บเสียงค่ะ เพราะเรานอนห้องเดียวกับพ่อแม่ ถ้าตอนพ่อแม่ออกไปข้างนอก ถ้าพ่อแม่มา หรือร้องไห้เสร็จก้ต้องพยายามทำเหมือนไม่ได้ร้อง เช่น ทาแป้ง หรือใส่แว่น ทำเป็นยิ้มหัวเราะ เป็นอะไรก้จะเก็บมาเครียดคนเดียวค่ะ จะไปปรึกษาเพื่อน ก้กลัวเล่าเข้าข้างตัวเองจนเกินไปทำให้เพื่อนคิดว่าแม่เราเป็นอย่างนู้นอย่างงี้ ท่านเป็นคนที่น่ารัก รักลูกค่ะ พ่อแม่เรารักเรา ท่านเป็นคนดีมากๆ เรารักท่านมากๆ มากที่สุดยอมเสียสละยังได้เลย เรารู้ แค่ท่านอาจจะไม่ได้คำนึงถึงความรู้สึกเราแค่นั้นเอง เพราะแม่บอกเราหลายทีแล้ว ว่าเด็กมันจะไปรู้สึกอะไร ท่านบอกเราสบายเกินไป ไม่เคยลำบาก ทั้งๆที่แต่ก่อนเคยผ่านช่วงลำบากมาด้วยกัน ปลาทู1ตัวกับน้ำพริกแล้วก็ข้าว กินกัน3คน แต่สำหรับท่านคงไม่คิดว่ามันลำบากล่ะมั้งคะ แล้วเมื่อผ่านมาไม่นาน ท่านก้บอกว่า ตอนนี้โควิดหางานก็ยาก ที่ที่เราอยู่กันมันหาร้านขายของยากค่ะ แทบไม่มี เลยคิดจะกลับไปเชียงใหม่ เราดีใจมากค่ะ เพราะเราอยากหลับเชียงใหม่อยู่แล้ว พ่อก็อยากกลับ โคต้าที่เคยสอบได้ก้โดนสละสิทธิ์ไปแล้วเพราะย้ายออก แต่ก้นั้นแหละค่ะ ถ้าอยากกลับก้กลับไม่ได้ถ้าแม่ไม่อยากกลับ แม่ก้คิดค่ะ ตอนแรกพูดแบบ กลับแน่นอน แม่ไม่อยากอยู่แล้ว กลับเถอะ เราก้ไม่กล้าเชื่อค่ะ ในใจลึกๆคือดีใจมาก หัวใจเต้นแรงมาก จนต้องหยุดหายใจลึกๆ แต่เราก้เผลอเชื่อไปค่ะ สุดท้ายแล้ว ท่านก้บอกไม่ต้องไปหรอกเนอะ 555 อยู่บ้านเราดีกว่าแม่ไม่อยากไปอดกิน หัวเราะไรงี้อ่ะค่ะ เราก้เลยเงียบแล้วบอก "ลูกเชื่อใจแม่ไม่ได้จิงแหละ" แม่ก็บอก "5555 ลูกก็รู้ แม่เปลี่ยนใจได้เสมอ " แล้วก้หัวเราะ ส่วนพ่อกับเราก้เงียบค่ะ แล้วก็นอน พ่อเราไม่ได้อะไรมาก เพราะถึงอยากกลับยังไง แล้วอ่ะก้ไม่ได้กลับอ่ะ ก้ตามๆแม่ไป กี่รอบแล้ว ที่ต้องร้องไห้เพราะท่าน เรารักท่าน แต่ต่อจากนี้เราคงจะไม่เชื่อท่านอีกแล้ว เราเชื่อกี่รอบ เราก้ถูกหลอกอีกแล้ว แต่เรารักท่านมากนะ มากที่สุดในชีวิต แต่เราอาจจะงี่เง่าไปเองก้ได้ค่ะ อาจจะเอาแต่ใจไปหน่อย.
ผิดหวังและเสียใจเรื่องครอบครัว