คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 4
ผมเคยอยู่ในสถานการณ์เดียวกับคุณ ผมเลือกกู้ครับ
ให้แจ้งธนาคารว่าจะไม่ทำประกัน MRTA
โปะได้ไม่จำกัด
ปิดก่อน 3 ปีไม่มีค่าปรับ
ของผมได้ดอกเบี้ย
ปีแรก 0.6%
ปีที่สอง 4.x%
ปีที่สาม 5.x%
เคลมภาษีคืน 20%-25% เหมือนได้ส่วนลดดอกเบี้ย
ค่าจดจำนอง 1% ก็เอาไปคิดรวมในต้นทุน
ปกติเงินลงทุนมันก็กระจายอยู่ในแหล่งต่างๆอยู่แล้ว
เราก็เลือกแหล่งที่ผลตอบแทนต่ำกว่าดอกเบี้ยปีแรก + ค่าจดจำนอง เอามาเป็นเงินดาวน์
หมดปีแรกก่อนดอกเบี้ยขึ้นไปเป็น 4.x% ผมก็เอาเงินที่ผลตอบแทนต่ำกว่า 4% มาโปะไป (โยนใส่ไป 67% ของยอดหนี้ เหลือนิดเดียวให้ผ่อนแล้ว)
ปีที่ 3 ก็ทำปบบเดียวกัน
ทำแบบนี้ไม่ขาดทุนทั้งดอกเบี้ย และรักษาสภาพคล่องทางการเงิน
สรุป ลองไปหาดอกเบี้ย 3 ปีแรก แล้วมาวางแผนอีกทีก็ได้ครับ
กับคนไม่มีเงิน ไม่มีสภาพคล่อง ผมไม่สนับสนุนให้กู้
แต่กับคนที่ไม่มีโอกาสเกิดหนี้เสีย การกู้เป็นการบริหารเงินลงทุน สภาพคล่อง หนี้สิน ภาษี ที่น่าสนใจ ทำดีๆประหยัดได้ปีละหลายหมื่นบาท
ให้แจ้งธนาคารว่าจะไม่ทำประกัน MRTA
โปะได้ไม่จำกัด
ปิดก่อน 3 ปีไม่มีค่าปรับ
ของผมได้ดอกเบี้ย
ปีแรก 0.6%
ปีที่สอง 4.x%
ปีที่สาม 5.x%
เคลมภาษีคืน 20%-25% เหมือนได้ส่วนลดดอกเบี้ย
ค่าจดจำนอง 1% ก็เอาไปคิดรวมในต้นทุน
ปกติเงินลงทุนมันก็กระจายอยู่ในแหล่งต่างๆอยู่แล้ว
เราก็เลือกแหล่งที่ผลตอบแทนต่ำกว่าดอกเบี้ยปีแรก + ค่าจดจำนอง เอามาเป็นเงินดาวน์
หมดปีแรกก่อนดอกเบี้ยขึ้นไปเป็น 4.x% ผมก็เอาเงินที่ผลตอบแทนต่ำกว่า 4% มาโปะไป (โยนใส่ไป 67% ของยอดหนี้ เหลือนิดเดียวให้ผ่อนแล้ว)
ปีที่ 3 ก็ทำปบบเดียวกัน
ทำแบบนี้ไม่ขาดทุนทั้งดอกเบี้ย และรักษาสภาพคล่องทางการเงิน
สรุป ลองไปหาดอกเบี้ย 3 ปีแรก แล้วมาวางแผนอีกทีก็ได้ครับ
กับคนไม่มีเงิน ไม่มีสภาพคล่อง ผมไม่สนับสนุนให้กู้
แต่กับคนที่ไม่มีโอกาสเกิดหนี้เสีย การกู้เป็นการบริหารเงินลงทุน สภาพคล่อง หนี้สิน ภาษี ที่น่าสนใจ ทำดีๆประหยัดได้ปีละหลายหมื่นบาท
แสดงความคิดเห็น
ถาม : ซื้อคอนโด+มีเงินเย็น จ่ายสด หรือ กู้ธนาคาร วิธีไหนคุ้มกว่ากันครับ?
ผมกำลังจะซื้อ คอนโด ราคาประมาณ 4 ล้าน
กำหนดสร้างเสร็จ ปีหน้า(ผ่อนดาวอยู่)
ผมมีเงินอยู่ สามารถจ่ายเต็มจำนวนได้
โดยเงินเหล่านี้อยุ่ในหุ้น(ปันผลประมาณ3-4%) / กองทุน(ปันผลประมาณ 2%) / ทองคำแท่ง(ไม่มีปันผล) / เงินสด
เนื่องจากผมเห็นดอกเบี้ยเงินกู้ที่อยู่อาศัย ในช่วง 3 ปีแรก ราคาถูกลง(ผมคิดว่าปันผลหุ้น ได้มากกว่าดอกเบี้ยเงินกู้)
ประกอบกับ การกู้จะได้สิทธิหักลดหย่อนภาษีจากดอกเบี้ยได้อีก 100,000 บาท/ปี(ฐานภาษีประมาณ 20-25%)
จึงคิดว่าการกู้ธนาคารก่อน 3 ปี แล้วค่อยจ่ายปิดอีกทีจะคุ้มกว่า
อยากทราบว่าผมคิดถูกหรือไม่
และ ถ้าต้องการกู้ให้ลดหย่อนภาษีดอกเบี้ยบ้านได้ 100,000 บาท/ปี มีวิธีคำนวนมั้ยครับ ว่าต้องกู้เท่าไหร/ระยะเวลากี่ปี