เราเป็นมหาบัณฑิตปโทจบใหม่
เราจบมหาวิทยาลัยย่านสนามหลวงค่ะ
เรามีประสบการณ์จะมาแชร์เรื่องการตกงานกระทันหัน(หมดสัญญา โดนเลิกจ้าง)
เราทำงานบ.เอกชน เป็นงานสัญญาจ้างค่ะ ไปทำงานที่หน่วยงานของรัฐแห่งหนึ่ง
เรากลายเป็นคนตกงาน2020
เรายอมรับว่าเราทำงานพลาด หัวหน้าของหน่วยงานรัฐพูดจากดดันเราจนเราอยู่ไม่ได้ คือเรามีอาการซึมเศร้าเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว
เขาพูดจากดดันเรา ถามว่ารอบงานหน้าจะกลับมาทำงานอีกไหม เราบอกไม่แน่ใจ เค้าบอกถ้าไม่มาก็แล้วไป จะได้สอนงานน้องใหม่ จบปโทแล้วไปหางานอื่นที่ดีกว่านี้ทำเถอะ
วันรุ่งขึ้นเราคุยกับเขา เขาบอกพนง.คนอื่นที่มาทำงานที่นี่ติดมือถือ เล่นโทร.เค้าเปนหัวหน้าหน่วยงานราชการ ถ้าเค้าไม่เอาเค้าก็ไม่เอา
เราก็เครียดๆพยายามปลอบใจตัวเอง ด้วยการพิมแบบ เออ ไปสอบโน่นนี่นั้นในไลน์ดีกว่า
ตอนนั้นเราเครียดมากค่ะ เราติดมือถือ
เราโพสว่าเราจะสอบบรรจุ สอบกพ. สอบโทอิก
2วันต่อมาเราโดนต้นสังกัดเรียกคุยไม่ต่อสัญญางาน หาว่าเราไม่มีผลงาน ตั้งสเตตัสไลน์ ทั้งๆที่เราไม่ได้พาดพิงใครนะ เราแค่บอกว่าเราจะไปสอบโน่นนี่นั่น หาความรู้ให้ตัวเองก้าวหน้าในสายงานในอนาคต เขาบอกต้นสังกัดและผู้ว่าจ้างไม่มั่นใจในตัวเรา
คือเราโดนการเมืองภายในเล่นงานน่ะค่ะ มีคนแคปไปฟ้องนาย เราเลยโดนเรียกคุยและให้ทำงานอีกวันเปนวันสุดท้าย
ชีวิตการทำงานเราจบลงเลยค่ะ##
ตอนนี่เราว่างงานมาตั้งแต่เดือนเมษายน กำลังจะไปสอบโทอิคเพื่อหางานใหม่
เราอยากจะบอกทุกคน ให้กำลังใจและข้อคิดเอาไว้นะคะ
1.การที่เราไม่ได้ทำผิดอะไร ถึงแม้เราจะตั้งสถานะว่าจะไปแสวงหาความก้าวหน้าให้ตัวเอง ก็เป็นประเด็นให้ต้องออกจากงานได้
คือ เรามองว่าเราอยากก้าวหน้ามากกว่าที่เป็นอยู่ แต่จริงๆก็ไม่เห็นต้องเอาเหตุผลนี้มาบอกหรอกค่ะ เรายินดีที่จะออกจากงานนี้อยู่แล้ว
เชื่อไหมคะ เราทำงานที่นี่แค่พิมพ์งานแต็กๆคีย์คะแนน กวาดห้อง ถูพื้น เก็บขยะมาตลอด1ปี
กศษ.
เราเป็นเอาท์ซอส คือเราทำแบบนี่มาตลอดจนหมดสัญญา เราคิดในใจ ศักดิ์ศรีจะเหลือเหรอคะ มาทำงานแบบวันๆไม่มีอะไรให้ทำแล้วยังจะต้องมาเปนแม่บ้านอีก ทำงานไปวันๆ
จบปโท แต่ต้องทำงานที่เป็นแม่บ้านทำความสะอาดสถานที่ ทำทุกอย่างค่ะ แต่โดนปลดออกแค่อยากได้ดีและก้าวหน้ากว่านี้
2.ตกงาน อย่าตกใจนะคะ ใช้สิทธิรับเงินว่างงาน6เดือน
3.อย่าไว้ใจหรือสนิทสนมกับเพื่อนร่วมงานคนไหนเป็นพิเศษ คนที่ไว้ใจสุดท้ายนี่ละตัวเลวเลยค่ะ
4.การตกงานช่วงโควิด สอนให้เรารู้จักประหยัดและอดออม โชคดีที่เรามีเงินเก็บเปนแสนและพ่อแม่เปนข้าราชการบำนาญ เลยไม่ลำบาก
5.อย่าฝากชีวิตไว้กับการทำงานสัญญาจ้างเลยค่ะ บ.เอาซอสเห็นเราเปนแค่สินค้า หมดราคาหรือไม่มีปย.เตรียมหางานใหม่ได้เลย
6.จงเพิ่มพูนทักษะของตัวเองตลอดเวลา บ.เอกชนมันหมดรักเราเมื่อไหร่เราลำบากแน่ถ้าเราไม่มีวิชาความรู้
7.ถ้าทำงานแล้ว เราป่วยมีใบรับรองแพทย์แล้วหักเงิน ทำงานไม่มีโอที คุณหางานใหม่เลยค้ะ ถ้ามีความสามารถ เน้นย้ำนะคะ อย่ามาทำงานบ.เอ้าซอส ถ้าไม่มีทางเลือกทำไปก่อนได้ค่ะ แต่เจ้าของกระทู้ อายุ 28 จบปโท แล้วเลยไม่ทนกับอะไรแบบนี้
8.จงทำงานให้คุ้มค่าเงินเดือน ถ้ารู้สึกโดนเอาเปรียบ อย่าทน ฝึกทักษะ หาความรู้เพิ่มเติม หางานใหม่ได้แล้วไปเลย
ตั้งแต่เราออกจากตรงนั้นมา เรามีความสุขมาก เพราะเราไม่ต้องทนทำงานเปนเบ๊ข้าราชการโดนหักค่าหัวคิว แล้ว
เรามองหางานประจำทำอยู่ค่ะ
ฟ้าหลังฝนย่อมสวยงามเสมอ...
ขอให้ทุกคนจำไว้ว่า
'โควิด ทำให้เราใช้ชีวิตไม่ประมาท'
เงินทองเป็นของนอกกาย แต่เก็บออมไว้ดีกว่า
ความรู้ความสามารถ พัฒนาได้ตลอด อยู่ที่เรา
ตกงานช่วงโควิด ถึงเวลาแล้วไหมคะที่จะพัฒนาตัวเอง
เราจบมหาวิทยาลัยย่านสนามหลวงค่ะ
เรามีประสบการณ์จะมาแชร์เรื่องการตกงานกระทันหัน(หมดสัญญา โดนเลิกจ้าง)
เราทำงานบ.เอกชน เป็นงานสัญญาจ้างค่ะ ไปทำงานที่หน่วยงานของรัฐแห่งหนึ่ง
เรากลายเป็นคนตกงาน2020
เรายอมรับว่าเราทำงานพลาด หัวหน้าของหน่วยงานรัฐพูดจากดดันเราจนเราอยู่ไม่ได้ คือเรามีอาการซึมเศร้าเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว
เขาพูดจากดดันเรา ถามว่ารอบงานหน้าจะกลับมาทำงานอีกไหม เราบอกไม่แน่ใจ เค้าบอกถ้าไม่มาก็แล้วไป จะได้สอนงานน้องใหม่ จบปโทแล้วไปหางานอื่นที่ดีกว่านี้ทำเถอะ
วันรุ่งขึ้นเราคุยกับเขา เขาบอกพนง.คนอื่นที่มาทำงานที่นี่ติดมือถือ เล่นโทร.เค้าเปนหัวหน้าหน่วยงานราชการ ถ้าเค้าไม่เอาเค้าก็ไม่เอา
เราก็เครียดๆพยายามปลอบใจตัวเอง ด้วยการพิมแบบ เออ ไปสอบโน่นนี่นั้นในไลน์ดีกว่า
ตอนนั้นเราเครียดมากค่ะ เราติดมือถือ
เราโพสว่าเราจะสอบบรรจุ สอบกพ. สอบโทอิก
2วันต่อมาเราโดนต้นสังกัดเรียกคุยไม่ต่อสัญญางาน หาว่าเราไม่มีผลงาน ตั้งสเตตัสไลน์ ทั้งๆที่เราไม่ได้พาดพิงใครนะ เราแค่บอกว่าเราจะไปสอบโน่นนี่นั่น หาความรู้ให้ตัวเองก้าวหน้าในสายงานในอนาคต เขาบอกต้นสังกัดและผู้ว่าจ้างไม่มั่นใจในตัวเรา
คือเราโดนการเมืองภายในเล่นงานน่ะค่ะ มีคนแคปไปฟ้องนาย เราเลยโดนเรียกคุยและให้ทำงานอีกวันเปนวันสุดท้าย
ชีวิตการทำงานเราจบลงเลยค่ะ##
ตอนนี่เราว่างงานมาตั้งแต่เดือนเมษายน กำลังจะไปสอบโทอิคเพื่อหางานใหม่
เราอยากจะบอกทุกคน ให้กำลังใจและข้อคิดเอาไว้นะคะ
1.การที่เราไม่ได้ทำผิดอะไร ถึงแม้เราจะตั้งสถานะว่าจะไปแสวงหาความก้าวหน้าให้ตัวเอง ก็เป็นประเด็นให้ต้องออกจากงานได้
คือ เรามองว่าเราอยากก้าวหน้ามากกว่าที่เป็นอยู่ แต่จริงๆก็ไม่เห็นต้องเอาเหตุผลนี้มาบอกหรอกค่ะ เรายินดีที่จะออกจากงานนี้อยู่แล้ว
เชื่อไหมคะ เราทำงานที่นี่แค่พิมพ์งานแต็กๆคีย์คะแนน กวาดห้อง ถูพื้น เก็บขยะมาตลอด1ปี
กศษ.
เราเป็นเอาท์ซอส คือเราทำแบบนี่มาตลอดจนหมดสัญญา เราคิดในใจ ศักดิ์ศรีจะเหลือเหรอคะ มาทำงานแบบวันๆไม่มีอะไรให้ทำแล้วยังจะต้องมาเปนแม่บ้านอีก ทำงานไปวันๆ
จบปโท แต่ต้องทำงานที่เป็นแม่บ้านทำความสะอาดสถานที่ ทำทุกอย่างค่ะ แต่โดนปลดออกแค่อยากได้ดีและก้าวหน้ากว่านี้
2.ตกงาน อย่าตกใจนะคะ ใช้สิทธิรับเงินว่างงาน6เดือน
3.อย่าไว้ใจหรือสนิทสนมกับเพื่อนร่วมงานคนไหนเป็นพิเศษ คนที่ไว้ใจสุดท้ายนี่ละตัวเลวเลยค่ะ
4.การตกงานช่วงโควิด สอนให้เรารู้จักประหยัดและอดออม โชคดีที่เรามีเงินเก็บเปนแสนและพ่อแม่เปนข้าราชการบำนาญ เลยไม่ลำบาก
5.อย่าฝากชีวิตไว้กับการทำงานสัญญาจ้างเลยค่ะ บ.เอาซอสเห็นเราเปนแค่สินค้า หมดราคาหรือไม่มีปย.เตรียมหางานใหม่ได้เลย
6.จงเพิ่มพูนทักษะของตัวเองตลอดเวลา บ.เอกชนมันหมดรักเราเมื่อไหร่เราลำบากแน่ถ้าเราไม่มีวิชาความรู้
7.ถ้าทำงานแล้ว เราป่วยมีใบรับรองแพทย์แล้วหักเงิน ทำงานไม่มีโอที คุณหางานใหม่เลยค้ะ ถ้ามีความสามารถ เน้นย้ำนะคะ อย่ามาทำงานบ.เอ้าซอส ถ้าไม่มีทางเลือกทำไปก่อนได้ค่ะ แต่เจ้าของกระทู้ อายุ 28 จบปโท แล้วเลยไม่ทนกับอะไรแบบนี้
8.จงทำงานให้คุ้มค่าเงินเดือน ถ้ารู้สึกโดนเอาเปรียบ อย่าทน ฝึกทักษะ หาความรู้เพิ่มเติม หางานใหม่ได้แล้วไปเลย
ตั้งแต่เราออกจากตรงนั้นมา เรามีความสุขมาก เพราะเราไม่ต้องทนทำงานเปนเบ๊ข้าราชการโดนหักค่าหัวคิว แล้ว
เรามองหางานประจำทำอยู่ค่ะ
ฟ้าหลังฝนย่อมสวยงามเสมอ...
ขอให้ทุกคนจำไว้ว่า
'โควิด ทำให้เราใช้ชีวิตไม่ประมาท'
เงินทองเป็นของนอกกาย แต่เก็บออมไว้ดีกว่า
ความรู้ความสามารถ พัฒนาได้ตลอด อยู่ที่เรา