หน้าแรก
คอมมูนิตี้
ห้อง
แท็ก
คลับ
ห้อง
แก้ไขปักหมุด
ดูทั้งหมด
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
แท็ก
แก้ไขปักหมุด
ดูเพิ่มเติม
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
{room_name}
{name}
{description}
กิจกรรม
แลกพอยต์
อื่นๆ
ตั้งกระทู้
เข้าสู่ระบบ / สมัครสมาชิก
เว็บไซต์ในเครือ
Bloggang
Pantown
PantipMarket
Maggang
ติดตามพันทิป
ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้
เกี่ยวกับเรา
กฎ กติกา และมารยาท
คำแนะนำการโพสต์แสดงความเห็น
นโยบายเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล
สิทธิ์การใช้งานของสมาชิก
ติดต่อทีมงาน Pantip
ติดต่อลงโฆษณา
ร่วมงานกับ Pantip
Download App Pantip
Pantip Certified Developer
[CR] วันที่ 1 ลุยเดี่ยวเยือนถิ่นหนาว Salzburg, Austria
กระทู้รีวิว
Backpack
เที่ยวยุโรป
บันทึกนักเดินทาง
เที่ยวต่างประเทศ
ทริปนี้ไปแบบไม่ได้ตั้งใจ่าจะไป ตอนแรกคิดอยู่สอง สามที่ เอ๊ะ! จะไปที่ไหนดี ไปดูแสงเหนือนอนอิกลู หรือไปทะเลรับลมร้อนแถบๆ เมดิเตอร์เรเนี่ยนดี เพราะคิดว่าค่อยไปยุโรปช่วงสปริงดีกว่า แต่โชคชะตาพาไปเห็นสถานที่หนึ่งที่ถือว่าเป็นไฮไลท์ของทริปนี้เลย สวยเหมือนอยู่ในเทพนิยาย โดยเฉพาะเวลาหิมะตก ว่าแล้วก็ซื้อตั๋วกันเลย อีกสองวันบินกัน ทริปนี้เรียกว่าเป็นทริปทิ้งท้ายก่อนเจอโควิดระบาดทั่วโลกเลยจริงๆ และก่อนที่จะต้องระงับแพลนทั้งหมด 20 ประเทศของเราในปีนี้ ช่างเศร้าใจยิ่งนัก
เราออกเดินทางจากลอนดอนช่วงบ่าย กับสายการบิน Britist Airways ใช้เวลาบินประมาณสองชั่วโมงก็มาถึงสนามบิน Salzburg, Austria ละ ทริปนี้มีลุ้นและเป็นทริปที่ตื่นเต้นมากตั้งแต่ยังไม่ออกจากบ้าน มั่วแต่ห่วงซักผ้า เป็นไงละวิ่งสิค่ะ เหลือครึ่งชั่วโมงบรอดดิ้งจ้า พอเข้ามาปรากฎเกทยังไม่โชว์เลย เฮ้ย!! ถือว่าออกกำลังกายก่อนขึ้นเครื่องละกัน เหงื่อแตกพลักๆๆ เลย ถือว่าซ้อมวิ่งก่อนเที่ยวไปในตัว คริๆ ระหว่างทางที่นั่งเครื่องมาแสงแดดดีจัง กะว่ามาถึง Salzburg ปุ๊บกะว่าจะเห็นวิวสวยๆ ภูเขาหิมะเหมือนที่เขารีวิวกันงิ ที่ไหนได้ ฝนตก ปิดฟ้า เห็นเพียงแต่หมอกครื้มเชียว
ซึ่งก็ใกล้มืดแล้ว เพราะเป็นหน้าหนาว สนามบินที่นี่เล็กมากกกกกกกกกกก จนเดินไม่ถูกเลย ด้อมๆ มองๆ เห็นตัว i เอาละ ได้เวลาสอบถามแล้ว เราเข้าไปถาม จนท เพื่อจะถามเส้นทางเข้าไปที่พักของเราและขอแมพ รวมถึงรายละเอียดการซื้อพาสนิดหน่อย ได้ความว่าสามารถซื้อพาสบนรถได้เลย หรือที่ป้ายบัสจะมีตู้กดก็ซื้อได้เหมือนกัน แต่ถ้าไปซื้อจากร้าน The Corner ในสนามบินจะถูกกว่าหน่อย แล้วค่อยเดินไปขึ้นรถ หาไม่ยากค่ะ
ได้พาสขึ้นรถมาแล้ว ใส่แอดเดรสไปโรงแรมกันก่อน
เราเปิดโรมมิ่ง EE ข้อดีของซิมยุโรปคือใช้เน็ตฟรี เน็ตไวเท่ากับอยู่ประเทศแม่เลย แถมไม่ต้องจ่ายเพิ่มด้วยค่ะ ตามโปร
ระหว่างที่ยืนรอรถก็เริ่มรู้สึกหนาวและวังเวง ไม่รู้เพราะอากาศไม่ดีหรือว่ามาคนเดียวนะ (แหม!! พูดเหมือนไม่ชินเลยเน้อะ ฮ่าๆ) จากสนามบินใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมงก็มาถึงโรงแรมของเราละค่ะ เราพักใน centre เลย เพราะติดความสะดวก แปบเดียวเองมืดแล้ว สายฝนก็โปรยปรายลงมาต้อนรับเราเลยเชียว
เช็คอินเสร็จก็หิวข้าว อยากกินแมค ออกไปเดินสำรวจกันดีกว่า ดีนะที่เราพกเจ้าพวกนี้มาด้วยเวลามาเที่ยวยุโรป ถือว่าเป็นสิ่งจำเป็นมาก โดยเฉพาะพวกชอบพกกล้องแบบเรา
ระหว่างที่เดินมานั้นก็เจออุโมงค์ ซึ่งอุโมงค์นี้เป็นอุโมงค์เจาะเส้นทางผ่าภูเขาไว้ให้คนขับรถผ่านไปมาได้สะดวก บรรยากาศในอุโมงค์ก็วังเวงหน่อยนะ แต่คลาสลิคอยู่
รู้สึกเหมือนปิดเมืองเที่ยวเลย แฮะ!! ในอุโมงค์นี้ก็จะมีงานโชว์ประปราย แน่นอนว่ามาถึงบ้านเกิดของโมสาร์ททั้งที ต้องมีของยั่วใจบ้างละ
เดินจนสุดอุโมงก็จะทะลุมาเจอมิวเซี่ยมซึ่งแน่นอนว่าปิดแล้ว (ขณะที่เรากำลังเดินอยู่ประมาณหกโมงครึ่ง) บรรยกาศเหงาๆ ทั้งด้านหน้าและข้างในเลยละ
ร้านค้าที่นี่ปิดไวมาก ทุกร้านจะปิด ทุ่มนึง เราเหลือบไปเห็น DM อยู๋ริบรี่ ขอแวะไปหาของกักตุนสักนิดก่อน จริงๆ มีของตามหาที่ DM ด้วย คือวิตามินละลายน้ำ เคยซื้อตอนไปเยอรมันจากร้านเดียวกัน คือดีงาม และถูกมาก แต่หาไม่เจอ สงสัยต้องไป DM ใหญ่
หลังจากที่ได้น้ำมาสองขวด เราลองเดินมาโผล่อีกมุมหนึ่งของร้าน มองไปทางซ้ายจะเห็น Rathausplatz อยู่ตรงหน้าเลย
อยู่ๆ ก็อยากหม่ำแมคขึ้นมา ไปเดินตามหาแมคกันดีกว่า เดินออกมานิดนึงก็เจอโบสถ์อยู๋ทางขวาเมือง
ยังคงเงียบเหงา และอ้างว้างเหมือนเดิม นี่ถ้าฝนไม่ตก คนจะเยอะมั้ยนะเมืองนี่??? เดินมาอีกนิดก็เจอกอปปี้ลูฟว์ ดีงาม
เดินมาหน่อย แล้วมองย้อนกลับไป จะได้มุมนี้ ช่างเป็นช่วงเวลาที่ดีในการมาเก็บภาพจริงๆ
แถวนี้เป็นย่านที่น่าจะคึกคักสุดละ เนื่องจากเป็นย่านชอปปิ้งนั่นเอง ตอนนี้เริ่มอยากตามหาของ rare item แต่ร้านปิดแล้ว ต้องรีบดึงสติกลับมาก่อน ไปหาของกินต่อดีกว่า แมคๆๆๆๆ อยู่ไหนน๊า google maps บอกอยู่ใกล้ๆ นี่นา เดินมาสักพักเจอร้านอาหารจีน ด้วยความที่หิวมาก หม่ำร้านนี้ก็ได้
พอกำลังจะย่างก้าวเข้าไป พนง บอก โทดทีร้านปิดแล้ว ถ้าใครเคยดูนารูโต๊ะอ่ะ ลองนึกหน้านารูโต๊ะหิวราเมนอ่ะ อารมณ์นั้นเลย อยากจะกรี๊ดดดด เฮ้ย!! ถอยหลังก็ได้ หาแมคต่อ เดินเข้าถนนข้างๆ ถนนเมนก็จะเจอร้านแบรนด์เนมเรียงรายกันอยู่
ร้านไวน์คือดีงาม แน่นอนเกินทุ่มนึงทุกอย่างที่นี่คือปิดค่ะ ทำได้เพียงเดินไปเรื่อยๆ ตามหาแมคที่ยังเปิดรอเราอยู่ ด้วยความที่ไม่รู้จะหาแมคเจอรึป่าว บวกฝนตกและหนาว หันไปเจอร้านอาหารอยู๋ ปิดป้ายหน้าร้านว่าเบอร์เกอร์ 4.99 - 6.99 ยูโร โอเค เข้าร้านนี้ก็ได้ และแล้วหน้าตาดินเนอร์มื้อแรกใน Salzburg ก็มาอยู่ตรงหน้าเราแล้วล่ะ
แต่คุณขาราคาที่เขาคิดไม่ใช่สิ่งที่เราคิดอ่ะ แล้วจะบอกว่ากุ้งแข็งมาก ประมาณว่าตั้งนานเว่อร์จนแข็งอ่ะ เราว่าน่าจะทำไว้ตั้งแต่เที่ยงเลยมั้ง โดยรวมๆ แล้วไม่อร่อย แต่หิวมากกกก ก็ต้องทานให้หมด ระหว่างที่นั่งหม่ำๆ ดินเนอร์ของเราอยู่นั้นก็มีผู้หญิงฝรั่งคนนึงซึ่งตามเข้ามาในร้านหลังจากเรากำลังสั่งข้าวของเราอยู่ตอนแรกเราก็ไม่ได้คิดไรนะ แค่ประมาณว่ายิ้มให้แบบคนแปลกหน้าไง แต่นางก็ดันเดินถือจานมานั่งข้างๆ เรา ซึ่งที่นั่งในร้านว่างเยอะมาก เราก็งง ทำไมต้องมานั่งใกล้ แล้วก้อยิ้มให้ ประมาณจะชวนคุยอ่ะ จนหม่ำเสร็จ นางก็เดินไปห้องน้ำ เราเลยกะว่าเอาจังหวะนี่หลบนางดีกว่า ระหว่างที่กำลังเดินออก นางก็โผล่มาจากไหนไม่รู้ แล้วก็ชวนไปหา dessert ด้วยกัน (ต้องเล่าก่อน ก่อนไปเที่ยวมีคนทักว่าช่วงนี้มีเสน่ห์กับเพศเดียวกัน ราศีแรงมาก ฮ่าๆๆ คนยุโรปจะเป็นแบบนี้เยอะใช่มั้ย??) เราเลยบอกว่า อ่อ พอดีนัดเพื่อนไว้ ต้องขอโทดทีนะ แหมมมมมมมมม!! เรื่องเอาตัวรอดอ่ะ เก่งนัก ฮ่าๆๆ ก้อเลยไปนั่งคาเฟ่ โมสาร์ท เพราะก่อนไปอ่านเจอรีวิวคนนึงแนะนำว่าให้ไป เนื่องจากเมืองนี้เป็นบ้านเกิดนางด้วย เรามาดูตั้งแต่หน้าร้าน ทางเข้า และบรรยากาศภายในร้านดีกว่า
เมนูที่ต้องลอง แต่ไปสั่งไม่รู้หรอกว่าคืออันไหน เพราะดูในเมนูมันคล้ายๆ กันหมด เลยเอารูปที่เซฟไว้ให้ พนง ดู เขาบอกว่าเป็นอันนี้ สนนราคาเบาๆ ถือว่าแปลกดี เป็นเนื้อนุ่มนิ่ม เหมือนฟองโฟม ตักเข้าปากแล้วละลายทันที ยิ่งกว่า m&m
ก่อนร้านปิด ขอเก็บภาพภายในร้านอีกนิด ถึงแม้ว่าบรรยากาศในร้านจะไม่ได้พิเศษไรมาก แต่ครั้งนึงได้มาถึงก็ต้องลอง หลังจากที่หม่ำเสร็จ ได้เวลากลับโรงแรม ซึ่งฝนก็ยังโปรยปรายอยู่ ไหนๆ ก็ไหนๆ ละ เก็บรูปบรรยากาศตอนกลางคืนเลยละกัน กลางสายฝนนี่แหละ
แล้วววววววก็เจอแมคซะงั้น เมื่อตอนเราอิ่มแล้ว หึหึ เดินต่อกลับโรงแรมดีกว่า วนมาเจอมิวเซี่ยมกันอีก
หลังจากที่ออกมาตะลุกันตั้งแต่ลอนดอนยันซาล์ซเบิร์ก คืนนี้คงหลับสบายมาก ความหนาวและความเปียกปอนไปทั้งตัว ได้แช่น้ำอุ่นแล้วไปอยู่ใต้ผ้าห่มคงดีไม่น้อย แล้ววันรุ่งขึ้นเราจะเที่ยวเมือง Salzburg กันทุกซอกทุกมุม ดูสิว่าชีวิตกลางวันกะกลางคืนเมืองนี้จะแตกต่างกันยังไง ตามต่อกระทู้หน้านะค่ะ
ชื่อสินค้า:
เที่ยวเมือง Salzburg, Austria
คะแนน:
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้
- จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
- ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น
▼
กำลังโหลดข้อมูล...
▼
แสดงความคิดเห็น
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
ขับรถเที่ยวยุโรปตอน 5 : ลงจาก Grossglockner ไป Zell am see - Konigsee และ Salzburg
ก่อนอื่น ผมเขียนกระทู้ไว้ก่อนหน้านี้ แล้วแต่อยู่คนละ Login กัน 1. พาฃึ้น Grossglockner ยอดของ Alps Austria ที่สูงที่สุดใน Austria https://ppantip.com/topic/36004711 2. ไปเมือง Graz เมืองใหญ่อันดับ 2
amrit-ICT
ล่าแสงเหนือ Day 1 : กรุงเทพฯ - โลโฟเทน
เมื่อป้าๆ มนุษย์เงินเดือน วัย 50 กลางๆ อยากเห็นแสงเหนือสักครั้งในชีวิต ทริปนี้จึงเกิดขึ้น . ทริปล่าแสงเหนือครั้งนี้ ป้าๆ เดินทางเอง จองที่พักต่างๆ เอง ไปกันเองในกลุ่มเพื่อนสนิท การเดินทาง 14 วัน (1 -
อาทิมา
[CR] 5875 Miles ขอลาเจ้านายไปยุโรป < Italy – Austria – Switzerland – France > ตอนที่ 2 Austria
ฝากติดตามกระทู้ด้วยนะคะตอนที่ 1 Italy : http://ppantip.com/topic/34316486 ตอนที่ 2 Switzerland : http://ppantip.com/topic/34326025 Day 4 : Salzburg >>> Hallstatt 04.00 น. เราเดินทางมาถึงสถ
สมาชิกหมายเลข 2696374
พาแม่ไปเที่ยว EP.2 : พาแม่เปรี้ยวขับรถเที่ยว Austria Czech Slovenia
สวัสดีครับวันนี้พาแม่ไปเที่ยวจะพาย้อนกลับไป ทริปแรกที่เริ่มพาแม่ไปเที่ยวเอง เรียกได้ว่าเอามารีวิวเป็นตัวอย่างสำหรับลูกๆมือใหม่ที่จะพาคุณพ่อคุณแม่ไปเที่ยว ทริปนี้ผมชวนแม่ไปยุโรปตะวันออกครับ ซึ่งเป้าหมา
humed
11 วัน 6 เมือง 3 ประเทศ ; ออสเตรีย เยอรมัน สาธารณรัฐเชค อย่าลีลา อยากไปก็แพ็คกระเป๋าไปได้เลย [เน้นรูป]
พอดีดูละครเรื่องที่พี่ติ๊กแสดง แล้วเค้าไปถ่ายทำประเทศในแถบยุโรป มีแต่วิวสวย ๆ ทั้งนั้น ก็เลยนึกย้อนขึ้นมาได้ว่าเราไปเมื่อ 3 เดือนก่อนนี่นา ซึ่งในทีวีมันอาจจะไม่ตื่นตาเท่ากับได้ไปเห็นของจริงเท่าไร แต่ถ
JDM as Farck
2 วัน 1 คืน ระยองต้องลองไปชิม *อร่อยจนลำบากใจ* จริงๆ
ไกด์ลูกเขย ทริปนี้ได้โจทย์มาให้พาสว.ที่บ้านไปเที่ยว ทั้งหมดรวม 7 ท่าน ก็เลยว่าจะพาไปดูทิวลิป ไหว้พระ แต่หลักๆ เน้นกินแหลกครับ ตอนทำแพลนไว้ ยากเหมือนกัน ร้านอาหารที่ผมเคยปักหมุดใน map เยอะมากกกกก
double two
เที่ยวจีนด้วยตัวเองรับลมหนาวต้นเดือนธันวา 6 วัน 5 คืน เซี่ยงไฮ้ Disneyland หางโจว (เที่ยวเองพูดจีนไม่ได้เลยจ้า)
5-10 Dec 24 จีนเกินความคาดหวังจริงๆ เหมือนเที่ยวญี่ปุ่นราคาเมืองไทย ค่าเดินทางถูกมากๆ ไม่คิดว่าจีนจะเที่ยวง่ายขนาดนี้เพราะพูดภาษาจีนไม่ได้เลย ทริปสั้นๆไม่ได้วางแผนแต่กลับเป็นทริปประทับใจ
สมาชิกหมายเลข 5663815
เที่ยวญี่ปุ่นหน้าร้อน เมืองฮาคุบะ (Day 3)
เช้าวันที่ 3 เราเช็คเอ้าส์จากโรงแรม Premier Hotel Canbin Matsumoto โดยฝากกระเป๋าไว้ค่ะ เพื่อขึ้นรถไฟไปเที่ยวเมืองฮาคุบะกันค่ะ การวางแผนการเดินทางค่อนข้างยาก เนื่องจากไม่สามารถคาดเดาสภาพอากาศได้มากนัก
จัมมัย...
ไปเที่ยวญี่ปุ่น (คามิโกจิ) ช่วงหน้าฝน 2567 (Day 2)
วันนี้ขอพามาเที่ยวคามิโคจิในหน้าฝนกันนะคะ เราพักที่โรงแรม Premier Hotel Cabin Matsumoto ตั้งอยู่บริเวณเยื้องๆสถานีรถไฟมัตสึโมโตะค่ะ ชั้น 1 เป็นร้านสะดวกซื้อ Family Mart เวลาเช็คอินต้องขึ้นไปที่ชั้น 10
จัมมัย...
รีวิวเช่า Private Taxi เที่ยว Kiyotsu Gorge
ถ้าใครวางแผนจะไปเที่ยว /เคยไป Kiyotsu Gorge หรือ Tunnel of Light ที่เมือง Tokamachi จะรู้ว่าที่นี่ เข้ายาก-ออกยาก พอสมควร หนึ่ง รอบรถบัสน้อยมาก รอบเช้า วันธรรมดามีรอบเดียวคื
abyss
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
Backpack
เที่ยวยุโรป
บันทึกนักเดินทาง
เที่ยวต่างประเทศ
บนสุด
ล่างสุด
อ่านเฉพาะข้อความเจ้าของกระทู้
หน้า:
หน้า
จาก
แชร์ : 15
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน
อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่
ยอมรับ
[CR] วันที่ 1 ลุยเดี่ยวเยือนถิ่นหนาว Salzburg, Austria
เราออกเดินทางจากลอนดอนช่วงบ่าย กับสายการบิน Britist Airways ใช้เวลาบินประมาณสองชั่วโมงก็มาถึงสนามบิน Salzburg, Austria ละ ทริปนี้มีลุ้นและเป็นทริปที่ตื่นเต้นมากตั้งแต่ยังไม่ออกจากบ้าน มั่วแต่ห่วงซักผ้า เป็นไงละวิ่งสิค่ะ เหลือครึ่งชั่วโมงบรอดดิ้งจ้า พอเข้ามาปรากฎเกทยังไม่โชว์เลย เฮ้ย!! ถือว่าออกกำลังกายก่อนขึ้นเครื่องละกัน เหงื่อแตกพลักๆๆ เลย ถือว่าซ้อมวิ่งก่อนเที่ยวไปในตัว คริๆ ระหว่างทางที่นั่งเครื่องมาแสงแดดดีจัง กะว่ามาถึง Salzburg ปุ๊บกะว่าจะเห็นวิวสวยๆ ภูเขาหิมะเหมือนที่เขารีวิวกันงิ ที่ไหนได้ ฝนตก ปิดฟ้า เห็นเพียงแต่หมอกครื้มเชียว
ซึ่งก็ใกล้มืดแล้ว เพราะเป็นหน้าหนาว สนามบินที่นี่เล็กมากกกกกกกกกกก จนเดินไม่ถูกเลย ด้อมๆ มองๆ เห็นตัว i เอาละ ได้เวลาสอบถามแล้ว เราเข้าไปถาม จนท เพื่อจะถามเส้นทางเข้าไปที่พักของเราและขอแมพ รวมถึงรายละเอียดการซื้อพาสนิดหน่อย ได้ความว่าสามารถซื้อพาสบนรถได้เลย หรือที่ป้ายบัสจะมีตู้กดก็ซื้อได้เหมือนกัน แต่ถ้าไปซื้อจากร้าน The Corner ในสนามบินจะถูกกว่าหน่อย แล้วค่อยเดินไปขึ้นรถ หาไม่ยากค่ะ
ได้พาสขึ้นรถมาแล้ว ใส่แอดเดรสไปโรงแรมกันก่อน
เราเปิดโรมมิ่ง EE ข้อดีของซิมยุโรปคือใช้เน็ตฟรี เน็ตไวเท่ากับอยู่ประเทศแม่เลย แถมไม่ต้องจ่ายเพิ่มด้วยค่ะ ตามโปร
ระหว่างที่ยืนรอรถก็เริ่มรู้สึกหนาวและวังเวง ไม่รู้เพราะอากาศไม่ดีหรือว่ามาคนเดียวนะ (แหม!! พูดเหมือนไม่ชินเลยเน้อะ ฮ่าๆ) จากสนามบินใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมงก็มาถึงโรงแรมของเราละค่ะ เราพักใน centre เลย เพราะติดความสะดวก แปบเดียวเองมืดแล้ว สายฝนก็โปรยปรายลงมาต้อนรับเราเลยเชียว
เช็คอินเสร็จก็หิวข้าว อยากกินแมค ออกไปเดินสำรวจกันดีกว่า ดีนะที่เราพกเจ้าพวกนี้มาด้วยเวลามาเที่ยวยุโรป ถือว่าเป็นสิ่งจำเป็นมาก โดยเฉพาะพวกชอบพกกล้องแบบเรา
ระหว่างที่เดินมานั้นก็เจออุโมงค์ ซึ่งอุโมงค์นี้เป็นอุโมงค์เจาะเส้นทางผ่าภูเขาไว้ให้คนขับรถผ่านไปมาได้สะดวก บรรยากาศในอุโมงค์ก็วังเวงหน่อยนะ แต่คลาสลิคอยู่
รู้สึกเหมือนปิดเมืองเที่ยวเลย แฮะ!! ในอุโมงค์นี้ก็จะมีงานโชว์ประปราย แน่นอนว่ามาถึงบ้านเกิดของโมสาร์ททั้งที ต้องมีของยั่วใจบ้างละ
เดินจนสุดอุโมงก็จะทะลุมาเจอมิวเซี่ยมซึ่งแน่นอนว่าปิดแล้ว (ขณะที่เรากำลังเดินอยู่ประมาณหกโมงครึ่ง) บรรยกาศเหงาๆ ทั้งด้านหน้าและข้างในเลยละ
ร้านค้าที่นี่ปิดไวมาก ทุกร้านจะปิด ทุ่มนึง เราเหลือบไปเห็น DM อยู๋ริบรี่ ขอแวะไปหาของกักตุนสักนิดก่อน จริงๆ มีของตามหาที่ DM ด้วย คือวิตามินละลายน้ำ เคยซื้อตอนไปเยอรมันจากร้านเดียวกัน คือดีงาม และถูกมาก แต่หาไม่เจอ สงสัยต้องไป DM ใหญ่
หลังจากที่ได้น้ำมาสองขวด เราลองเดินมาโผล่อีกมุมหนึ่งของร้าน มองไปทางซ้ายจะเห็น Rathausplatz อยู่ตรงหน้าเลย
อยู่ๆ ก็อยากหม่ำแมคขึ้นมา ไปเดินตามหาแมคกันดีกว่า เดินออกมานิดนึงก็เจอโบสถ์อยู๋ทางขวาเมือง
ยังคงเงียบเหงา และอ้างว้างเหมือนเดิม นี่ถ้าฝนไม่ตก คนจะเยอะมั้ยนะเมืองนี่??? เดินมาอีกนิดก็เจอกอปปี้ลูฟว์ ดีงาม
เดินมาหน่อย แล้วมองย้อนกลับไป จะได้มุมนี้ ช่างเป็นช่วงเวลาที่ดีในการมาเก็บภาพจริงๆ
แถวนี้เป็นย่านที่น่าจะคึกคักสุดละ เนื่องจากเป็นย่านชอปปิ้งนั่นเอง ตอนนี้เริ่มอยากตามหาของ rare item แต่ร้านปิดแล้ว ต้องรีบดึงสติกลับมาก่อน ไปหาของกินต่อดีกว่า แมคๆๆๆๆ อยู่ไหนน๊า google maps บอกอยู่ใกล้ๆ นี่นา เดินมาสักพักเจอร้านอาหารจีน ด้วยความที่หิวมาก หม่ำร้านนี้ก็ได้
พอกำลังจะย่างก้าวเข้าไป พนง บอก โทดทีร้านปิดแล้ว ถ้าใครเคยดูนารูโต๊ะอ่ะ ลองนึกหน้านารูโต๊ะหิวราเมนอ่ะ อารมณ์นั้นเลย อยากจะกรี๊ดดดด เฮ้ย!! ถอยหลังก็ได้ หาแมคต่อ เดินเข้าถนนข้างๆ ถนนเมนก็จะเจอร้านแบรนด์เนมเรียงรายกันอยู่
ร้านไวน์คือดีงาม แน่นอนเกินทุ่มนึงทุกอย่างที่นี่คือปิดค่ะ ทำได้เพียงเดินไปเรื่อยๆ ตามหาแมคที่ยังเปิดรอเราอยู่ ด้วยความที่ไม่รู้จะหาแมคเจอรึป่าว บวกฝนตกและหนาว หันไปเจอร้านอาหารอยู๋ ปิดป้ายหน้าร้านว่าเบอร์เกอร์ 4.99 - 6.99 ยูโร โอเค เข้าร้านนี้ก็ได้ และแล้วหน้าตาดินเนอร์มื้อแรกใน Salzburg ก็มาอยู่ตรงหน้าเราแล้วล่ะ
แต่คุณขาราคาที่เขาคิดไม่ใช่สิ่งที่เราคิดอ่ะ แล้วจะบอกว่ากุ้งแข็งมาก ประมาณว่าตั้งนานเว่อร์จนแข็งอ่ะ เราว่าน่าจะทำไว้ตั้งแต่เที่ยงเลยมั้ง โดยรวมๆ แล้วไม่อร่อย แต่หิวมากกกก ก็ต้องทานให้หมด ระหว่างที่นั่งหม่ำๆ ดินเนอร์ของเราอยู่นั้นก็มีผู้หญิงฝรั่งคนนึงซึ่งตามเข้ามาในร้านหลังจากเรากำลังสั่งข้าวของเราอยู่ตอนแรกเราก็ไม่ได้คิดไรนะ แค่ประมาณว่ายิ้มให้แบบคนแปลกหน้าไง แต่นางก็ดันเดินถือจานมานั่งข้างๆ เรา ซึ่งที่นั่งในร้านว่างเยอะมาก เราก็งง ทำไมต้องมานั่งใกล้ แล้วก้อยิ้มให้ ประมาณจะชวนคุยอ่ะ จนหม่ำเสร็จ นางก็เดินไปห้องน้ำ เราเลยกะว่าเอาจังหวะนี่หลบนางดีกว่า ระหว่างที่กำลังเดินออก นางก็โผล่มาจากไหนไม่รู้ แล้วก็ชวนไปหา dessert ด้วยกัน (ต้องเล่าก่อน ก่อนไปเที่ยวมีคนทักว่าช่วงนี้มีเสน่ห์กับเพศเดียวกัน ราศีแรงมาก ฮ่าๆๆ คนยุโรปจะเป็นแบบนี้เยอะใช่มั้ย??) เราเลยบอกว่า อ่อ พอดีนัดเพื่อนไว้ ต้องขอโทดทีนะ แหมมมมมมมมม!! เรื่องเอาตัวรอดอ่ะ เก่งนัก ฮ่าๆๆ ก้อเลยไปนั่งคาเฟ่ โมสาร์ท เพราะก่อนไปอ่านเจอรีวิวคนนึงแนะนำว่าให้ไป เนื่องจากเมืองนี้เป็นบ้านเกิดนางด้วย เรามาดูตั้งแต่หน้าร้าน ทางเข้า และบรรยากาศภายในร้านดีกว่า
เมนูที่ต้องลอง แต่ไปสั่งไม่รู้หรอกว่าคืออันไหน เพราะดูในเมนูมันคล้ายๆ กันหมด เลยเอารูปที่เซฟไว้ให้ พนง ดู เขาบอกว่าเป็นอันนี้ สนนราคาเบาๆ ถือว่าแปลกดี เป็นเนื้อนุ่มนิ่ม เหมือนฟองโฟม ตักเข้าปากแล้วละลายทันที ยิ่งกว่า m&m
ก่อนร้านปิด ขอเก็บภาพภายในร้านอีกนิด ถึงแม้ว่าบรรยากาศในร้านจะไม่ได้พิเศษไรมาก แต่ครั้งนึงได้มาถึงก็ต้องลอง หลังจากที่หม่ำเสร็จ ได้เวลากลับโรงแรม ซึ่งฝนก็ยังโปรยปรายอยู่ ไหนๆ ก็ไหนๆ ละ เก็บรูปบรรยากาศตอนกลางคืนเลยละกัน กลางสายฝนนี่แหละ
แล้วววววววก็เจอแมคซะงั้น เมื่อตอนเราอิ่มแล้ว หึหึ เดินต่อกลับโรงแรมดีกว่า วนมาเจอมิวเซี่ยมกันอีก
หลังจากที่ออกมาตะลุกันตั้งแต่ลอนดอนยันซาล์ซเบิร์ก คืนนี้คงหลับสบายมาก ความหนาวและความเปียกปอนไปทั้งตัว ได้แช่น้ำอุ่นแล้วไปอยู่ใต้ผ้าห่มคงดีไม่น้อย แล้ววันรุ่งขึ้นเราจะเที่ยวเมือง Salzburg กันทุกซอกทุกมุม ดูสิว่าชีวิตกลางวันกะกลางคืนเมืองนี้จะแตกต่างกันยังไง ตามต่อกระทู้หน้านะค่ะ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น