หน้าแรก
คอมมูนิตี้
ห้อง
แท็ก
คลับ
ห้อง
แก้ไขปักหมุด
ดูทั้งหมด
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
แท็ก
แก้ไขปักหมุด
ดูเพิ่มเติม
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
{room_name}
{name}
{description}
กิจกรรม
แลกพอยต์
อื่นๆ
ตั้งกระทู้
เข้าสู่ระบบ / สมัครสมาชิก
เว็บไซต์ในเครือ
Bloggang
Pantown
PantipMarket
Maggang
ติดตามพันทิป
ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้
เกี่ยวกับเรา
กฎ กติกา และมารยาท
คำแนะนำการโพสต์แสดงความเห็น
นโยบายเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล
สิทธิ์การใช้งานของสมาชิก
ติดต่อทีมงาน Pantip
ติดต่อลงโฆษณา
ร่วมงานกับ Pantip
Download App Pantip
Pantip Certified Developer
[CR] [CR] 5875 Miles ขอลาเจ้านายไปยุโรป < Italy – Austria – Switzerland – France > ตอนที่ 2 Austria
กระทู้รีวิว
บันทึกนักเดินทาง
เที่ยวต่างประเทศ
เที่ยวยุโรป
ฝากติดตามกระทู้ด้วยนะคะตอนที่ 1 Italy :
http://ppantip.com/topic/34316486
ตอนที่ 2 Switzerland :
http://ppantip.com/topic/34326025
Day 4 : Salzburg >>> Hallstatt
04.00 น. เราเดินทางมาถึงสถานี Salzburg เป็นสถานีที่ใหญ่มากค่ะ เรามาถึงก็ยังมืดอยู่ สิ่งแรกที่นึกถึงคือ ตอนนี้ยุโรปเค้ามีคนอพยพเดินทางมายังยุโรปอย่างต่อเนื่องและคนอพยพส่วนใหญ่เป็นคนผิวดำ ลงรถไฟมาเท่านั้นแหละ มาเป็นกลุ่ม 20 กว่าคนได้ เราหยุดตั้งหลักค่ะ รอให้เค้าไปกันก่อน แต่พอเดินไปสักพักก็เห็นตำรวจ ทหาร อยู่หลายกลุ่มเลยค่ะ เริ่มรู้สึกปลอดภัย
เดินเข้ามาในสถานี จะมีห้องสำหรับนั่งรอ แล้วก็ภายในตัวอาคารจะมีตำรวจ ทหาร เดินยามตลอดค่ะ ค่อนข้างเยอะเหมือนกัน รู้สึกปลอดภัยขึ้นมาก เรารออยู่ที่นี่จนเกือบ 6 โมงเช้า อากาศค่อนข้างหนาวเพราะที่ Austria ฝนตกเกือบทั้งวัน ทั้งคืน
พอฟ้าเริ่มสว่างเราจึงจะนั่งรถบัสเดินทางต่อไปยัง Hallstatt เมืองในฝันของใครหลายๆคน รวมทั้งตัวเราเองด้วย แต่ถ้าเป็นไปได้มาฮันนีมูนจะโรแมนติกมากกกกก อิอิ เหตุผลที่เราเลือกไป Hallstatt ก่อนนั้นเพราะว่าวันพรุ่งนี้เราจะเดินทางข้ามไปยัง Switzerland ค่ะ ซึ่งจะต้องมาขึ้นรถไฟที่นี่อยู่ดี ก็เลยไปที่ไกลๆก่อนละกัน
สำหรับการเดินทางไปยัง Hallstatt นั้นก็มี 2 วิธีค่ะ คือ รถไฟ กับ รถบัส เริ่มด้วย ขึ้นรถบัสสาย 150 ที่อยู่ด้านหน้าสถานี Salzburg Hbf เลยค่ะ ช่อง F ถ้าไม่แน่ใจให้ดูแผนที่จอดรถอยู่ตรง Information ก็ได้ค่ะ นั่งรถบัส 150 ไปลงที่ Bad Ischl ซึ่งเป็นปลายทางของสายนี้เลยค่ะ บรรยากาศข้างทางขอบอกว่าสวยมากกก ห้ามหลับเลย รถบัสที่เรานั่งไปนั้นค่อนข้างออกแต่เช้าคือ 6 โมงเพราะฉะนั้นระหว่างทางเค้าจะรับนักเรียนตลอดทางค่ะ ครึกครื้นดี เหมือนนั่งรถโรงเรียนเลย
บรรยากาศดีมาก ดีจนคิดว่า ช้านอยากให้ลูกมาเรียนที่นี่เลย 5555 ตอนนั้นฝันอยู่ พอตื่นจากฝันก็ถึงสถานีแล้วค่ะ จากนั้นมีให้เลือก 2 วิธีที่จะไป Hallstatt คือรถไฟ กับรถบัสสาย 542 เราเลือกรถไฟค่ะจะได้ถึงเร็วๆ พนักงานขายตั๋วเค้าจะถามว่า เอาแบบไป-กลับมั๊ย แนะนำว่าอย่าเพิ่งตัดสินใจค่ะ เพราะเราอาจอยากเปลี่ยนบรรยากาศการเดินทางก็ได้ ไปซื้อเอาใหม่ตอนกลับก็ได้
ถึงแร้วค่ะสถานี Hallstatt ทางเดินลงมาขึ้นเรือค่อนข้างชันนะคะ เรามาเปลี่ยนบรรยากาศจากเที่ยวเมืองมาเที่ยวธรรมชาติกันนะคะ
เราต้องนั่งเรือข้ามฟากไปยังฝั่งหมู่บ้าน Hallstatt ค่าเรือคนละ 5 ยูโร อันนี้ก็อย่าเพิ่งซื้อขากลับไว้นะคะเผื่อเราเปลี่ยนใจอยากนั่งรถบัสกลับเพื่อนเปลี่ยนบรรยากาศค่ะ ในที่สุดเราก็มาถึงหมู่บ้าน Hallstatt คือตอนนี้ฝนตกปรอยๆค่ะ แต่หนาวมาก อุณหภูมิ 3 องศา ไม่ไหวจริงๆ เรากะแล้วว่าต้องเจอฝน เราก็เลยเตรียมชุดกันฝนมาจากไทยค่ะ เอาออกมาใช้งานกันเลย เดินทางไปหาที่พักกัน ที่พักชื่อ Café restaurant zum muhlbach หาง่ายมากค่ะ ปริ้นแผนที่มาจาก Google Map ได้เลยค่ะ ที่นี่ห้องพักเป็นแบบ เตียงใหญ่ ห้องน้ำรวม ถือว่าโอเคนะคะเพราะราคาไม่แพงด้วย เจ้าของเค้าเปิดร้านอาหาร กาแฟ เค้ก อยู่ด้านล่างของหอค่ะ
ประเด็นคือเรามาถึงประมาน 8.30 น. คือเช้ามากเค้าให้เช็คอิน 14 น. เราจะไปอยู่ไหนล่ะทีนี้ก็เลยขอฝากกระเป๋าที่ที่พักก่อนค่ะ เค้าก็ให้ฝากนะ แล้วก็มาเดินเล่นในเมืองค่ะ ชมวิวรอบๆ
แต่ด้วยว่าวันนี้ฝนตกแถมอากาศยังหนาวอีก เราเดินไม่ไหวค่ะไม่มีที่ไปก็เลยมานั่งรออยู่หน้าร้าน เจ้าของเค้าคงมาจากบ้านแล้วมาเจอเรานั่งหงอยเหงาอยู่หน้ากับอากาศหนาวเย็น เค้าคงสงสารก็เลยมาเรียกให้เค้าไปเช็คอิน 55555 เราก็ได้เข้าไปอาบน้ำนอนสบายๆอยู่ในห้องอุ่นๆ อิอิ
พอตกเย็นเราค่อยออกมาถ่ายรูปเก็บบรรยากาศกัน ก่อนไปเราก็ทานอาหารกันก่อนที่ร้านที่ที่พักนี่ล่ะค่ะ อาหารที่นี่ไม่ค่อยมีอะไรมาก มีแต่พิซซ่า กับกาแฟ ละก็เค้ก แค่นี้ก็อิ่มค่ะ อ่อลืมบอกไปค่ะ ที่นี่เค้าใช้ชีวิตค่อนข้าง Slow life มากก คือร้านอาหารทุกร้านจะเปิด 11 โมง ปิด 19 น. แต่ 19 น. นี่คือ 18 น. ก็เริ่มเก็บร้านแล้วค่ะ แต่จะมีอยู่ร้านนึงตรงแถวๆท่าเรือที่เรามาลงอ่ะค่ะ เปิดเร็วหน่อยแล้วก็ปิดดึกสุดละ มีผลไม้ อาหารคาว แห้ง เลือกซื้อเก็บไว้กินได้ค่ะ เราก็ซื้อผลไม้ไว้กินตอนเช้าเหมือนกัน
เราเดินมาเรื่อยๆถ่ายรูปตรงท่าเรือที่เรามาค่ะ อยู่ดีๆคุณเพื่อนเธอก็เดินไปหยิบอะไรมาก็ไม่รู้ค่ะ สักพักนางก็เอามาให้ดู เราร้องกรี๊ดเลยยย แบงค์ค่ะ 50 ยูโรมิใช่น้อยเลยนะ แต่ตรงนั้น ตอนนั้นไม่มีใครเลยนะ เราก็ไม่รู้จะทำไงค่ะ งั้นขอเก็บเป็นทุนสำหรับการเดินทางละกันนะคะ ^____^
มาถึงจุดยอดฮิตกันบ้าง ขอบอกเวลาแต่ละนาทีก็จะได้ภาพสีที่แตกต่างกันไปนะคะ
เอาล่ะวันนี้จบไปอีกวัน เวลาก็เริ่มเดินผ่านไปแต่ละๆ มันเร็วมากนะ เด๋วพรุ่งนี้เราจะไปต่อกันที่ Salzburg
ชื่อสินค้า:
Europe; Italy, Switzerland, France
คะแนน:
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
▼
กำลังโหลดข้อมูล...
▼
แสดงความคิดเห็น
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
Italy Switzerland Vatican : หนาวนี้ที่ยุโรป [ 10 วัน 9 คืน ]
Ciao ! Italy & Switzerland Day Trip ค่ะ การเดินทางครั้งนี้อาสาพาทุกคนพาไปเที่ยว Grand Italy Vatican และ Switzerland แบบกรุบกริบ 1 วันค่ะ เส้นทาง Rome Vatican Florence Pisa Milan Aosta และ Turin ช่
chiwawacl
รบกวนถามเซียนยุโรป สอบถามเกี่ยวกับการ แบคแพคไปยุโรป
เป็นการเดินทางไปยุโรปครั้งแรกของพวกเราค่ะ โดยพวกเรามีแผนว่าจะไปยุโรปกัน ปลายเดือนกันยา 58 นี้ จากที่แพลนไว้คร่าวๆ เราจะไปประมาณ 14 วัน 4 ประเทศ(สวิส-ออสเตรีย-อิตาลี-ฝรั่งเศส) เน้น แบคแบค ไม่มีปัญหาในก
สมาชิกหมายเลข 1509548
ขับรถเที่ยวยุโรป: ออกจาก Hallstatt มาเมือง "Melk" เมืองเล็กที่มีโบสถ์สวยงามมาก คือ Melk Abbey
ก่อนอื่น ผมเขียนกระทู้ไว้ก่อนหน้านี้ แล้วแต่อยู่คนละ Login กัน 1. พาฃึ้น Grossglockner ยอดของ Alps Austria ที่สูงที่สุดใน Austria https://ppantip.com/topic/36004711 2. ไปเมือง Graz เมืองใหญ่อันดับ 2 ข
amrit-ICT
[CR] 5875 Miles ขอลาเจ้านายไปยุโรป { Italy – Austria – Switzerland – France }
สวัสดีค่ะเพื่อนๆชาวพันทิปทุกคน กระทู้นี้เขียนเพื่ออยากแชร์ประสบการณ์การเดินทางให้เพื่อนๆหรือผู้ที่สนใจได้เข้ามาแชร์ประสบการณ์ร่วมกัน เพราะทริปนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้เลยถ้าไม่ได้รับข้อมูลมากมายจากเพื่อนๆใน
สมาชิกหมายเลข 2696374
นั่งรถไฟไป Strasbourg France เมืองแห่งนกกระสาและมหาวิหาร เที่ยวเองswiss2023
บันทึกการเดินทาง :: แบกเป้พาลูกเที่ยว16 days in Switzerland 2023 ปี4 บันทึกการเดินทาง :: เที่ยวเอง Switzerland 2023 
momarmy
เที่ยวเอง swiss2023 จากสนามฟุตบอล Milan นั่งรถไฟไป Venice Italy เมืองโรแมนติคแห่งสะพานและสายน้ำ
วันนี้เราจะไปเวนิส อิตาลี แบกเป้คนละใบพาลูกนั่งรถไฟไปเวนิสกัน เที่ยวเอง Switzerland 2023 บันทึกการเดินทาง 16 days in Switzerland 2023 ปี4 Day8 :
momarmy
แบกเป้พาลูกเที่ยวขึ้นเคเบิลคาร์ Eiger Express สู่ยอดเขา Eiger 2,320 m. Grindelwald Switzerland 2023
แบกเป้พาลูกเที่ยวขึ้นเคเบิลคาร์ Eiger Express สู่ยอดเขา Eiger 2,320 เมตร Grindelwald Switzerland เส้นทางสู่สถานีรถไฟสูงที่สุดในยุโรป Jungfraujoch เราจะแบกเป้ขึ้นเคเบิลคาร์ Eige
momarmy
เที่ยวเอง swiss2023 บันทึกแห่งสายน้ำเวนิสสู่มิลาน 2023 แล้วเจอกันใหม่อิตาลี
เที่ยวเอง swiss2023 บันทึกแห่งสายน้ำเวนิสสู่มิลาน 2023 แล้วเจอกันใหม่อิตาลี เวนิสวันที่2 ล่องเรือก่อนกลับสวิส :: บันทึกการเดินทาง Switzerl
momarmy
เที่ยวเองswiss 2023 แบกเป้นั่งรถไฟไปดูบอล InterMilan สนาม SanSiro Milano Italy
เที่ยวเองswiss 2023 แบกเป้นั่งรถไฟไปดูบอล InterMilan สนาม SanSiro Milano Italy วันนี้เราจะนั่งรถไฟจากสวิสไปอิตาลี จุดหมายคือ ดูบอล InterMilan ที่สนาม SanSiroStadium
momarmy
ขอคำแนะนำ เกี่ยวกับทริป Germany - Austria หน่อยจ้า
จากการตั้งกระทู้ถาม เมื่อปีที่แล้ว https://ppantip.com/topic/41836589 จนในที่สุดเราตัดปัญหา โดยการที่ไปแค่ Switzerland ในที่สุดปีนี้ ได้เวลาไป เยอรมันกับ ออสเตรียแล้ว อยากจะปรึกษาว่าถ้าเรา Plan
the_coup06
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
บันทึกนักเดินทาง
เที่ยวต่างประเทศ
เที่ยวยุโรป
บนสุด
ล่างสุด
อ่านเฉพาะข้อความเจ้าของกระทู้
หน้า:
หน้า
จาก
แชร์ :
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน
อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่
ยอมรับ
[CR] [CR] 5875 Miles ขอลาเจ้านายไปยุโรป < Italy – Austria – Switzerland – France > ตอนที่ 2 Austria
ตอนที่ 2 Switzerland : http://ppantip.com/topic/34326025
Day 4 : Salzburg >>> Hallstatt
04.00 น. เราเดินทางมาถึงสถานี Salzburg เป็นสถานีที่ใหญ่มากค่ะ เรามาถึงก็ยังมืดอยู่ สิ่งแรกที่นึกถึงคือ ตอนนี้ยุโรปเค้ามีคนอพยพเดินทางมายังยุโรปอย่างต่อเนื่องและคนอพยพส่วนใหญ่เป็นคนผิวดำ ลงรถไฟมาเท่านั้นแหละ มาเป็นกลุ่ม 20 กว่าคนได้ เราหยุดตั้งหลักค่ะ รอให้เค้าไปกันก่อน แต่พอเดินไปสักพักก็เห็นตำรวจ ทหาร อยู่หลายกลุ่มเลยค่ะ เริ่มรู้สึกปลอดภัย
เดินเข้ามาในสถานี จะมีห้องสำหรับนั่งรอ แล้วก็ภายในตัวอาคารจะมีตำรวจ ทหาร เดินยามตลอดค่ะ ค่อนข้างเยอะเหมือนกัน รู้สึกปลอดภัยขึ้นมาก เรารออยู่ที่นี่จนเกือบ 6 โมงเช้า อากาศค่อนข้างหนาวเพราะที่ Austria ฝนตกเกือบทั้งวัน ทั้งคืน
พอฟ้าเริ่มสว่างเราจึงจะนั่งรถบัสเดินทางต่อไปยัง Hallstatt เมืองในฝันของใครหลายๆคน รวมทั้งตัวเราเองด้วย แต่ถ้าเป็นไปได้มาฮันนีมูนจะโรแมนติกมากกกกก อิอิ เหตุผลที่เราเลือกไป Hallstatt ก่อนนั้นเพราะว่าวันพรุ่งนี้เราจะเดินทางข้ามไปยัง Switzerland ค่ะ ซึ่งจะต้องมาขึ้นรถไฟที่นี่อยู่ดี ก็เลยไปที่ไกลๆก่อนละกัน
สำหรับการเดินทางไปยัง Hallstatt นั้นก็มี 2 วิธีค่ะ คือ รถไฟ กับ รถบัส เริ่มด้วย ขึ้นรถบัสสาย 150 ที่อยู่ด้านหน้าสถานี Salzburg Hbf เลยค่ะ ช่อง F ถ้าไม่แน่ใจให้ดูแผนที่จอดรถอยู่ตรง Information ก็ได้ค่ะ นั่งรถบัส 150 ไปลงที่ Bad Ischl ซึ่งเป็นปลายทางของสายนี้เลยค่ะ บรรยากาศข้างทางขอบอกว่าสวยมากกก ห้ามหลับเลย รถบัสที่เรานั่งไปนั้นค่อนข้างออกแต่เช้าคือ 6 โมงเพราะฉะนั้นระหว่างทางเค้าจะรับนักเรียนตลอดทางค่ะ ครึกครื้นดี เหมือนนั่งรถโรงเรียนเลย
บรรยากาศดีมาก ดีจนคิดว่า ช้านอยากให้ลูกมาเรียนที่นี่เลย 5555 ตอนนั้นฝันอยู่ พอตื่นจากฝันก็ถึงสถานีแล้วค่ะ จากนั้นมีให้เลือก 2 วิธีที่จะไป Hallstatt คือรถไฟ กับรถบัสสาย 542 เราเลือกรถไฟค่ะจะได้ถึงเร็วๆ พนักงานขายตั๋วเค้าจะถามว่า เอาแบบไป-กลับมั๊ย แนะนำว่าอย่าเพิ่งตัดสินใจค่ะ เพราะเราอาจอยากเปลี่ยนบรรยากาศการเดินทางก็ได้ ไปซื้อเอาใหม่ตอนกลับก็ได้
ถึงแร้วค่ะสถานี Hallstatt ทางเดินลงมาขึ้นเรือค่อนข้างชันนะคะ เรามาเปลี่ยนบรรยากาศจากเที่ยวเมืองมาเที่ยวธรรมชาติกันนะคะ
เราต้องนั่งเรือข้ามฟากไปยังฝั่งหมู่บ้าน Hallstatt ค่าเรือคนละ 5 ยูโร อันนี้ก็อย่าเพิ่งซื้อขากลับไว้นะคะเผื่อเราเปลี่ยนใจอยากนั่งรถบัสกลับเพื่อนเปลี่ยนบรรยากาศค่ะ ในที่สุดเราก็มาถึงหมู่บ้าน Hallstatt คือตอนนี้ฝนตกปรอยๆค่ะ แต่หนาวมาก อุณหภูมิ 3 องศา ไม่ไหวจริงๆ เรากะแล้วว่าต้องเจอฝน เราก็เลยเตรียมชุดกันฝนมาจากไทยค่ะ เอาออกมาใช้งานกันเลย เดินทางไปหาที่พักกัน ที่พักชื่อ Café restaurant zum muhlbach หาง่ายมากค่ะ ปริ้นแผนที่มาจาก Google Map ได้เลยค่ะ ที่นี่ห้องพักเป็นแบบ เตียงใหญ่ ห้องน้ำรวม ถือว่าโอเคนะคะเพราะราคาไม่แพงด้วย เจ้าของเค้าเปิดร้านอาหาร กาแฟ เค้ก อยู่ด้านล่างของหอค่ะ
ประเด็นคือเรามาถึงประมาน 8.30 น. คือเช้ามากเค้าให้เช็คอิน 14 น. เราจะไปอยู่ไหนล่ะทีนี้ก็เลยขอฝากกระเป๋าที่ที่พักก่อนค่ะ เค้าก็ให้ฝากนะ แล้วก็มาเดินเล่นในเมืองค่ะ ชมวิวรอบๆ
แต่ด้วยว่าวันนี้ฝนตกแถมอากาศยังหนาวอีก เราเดินไม่ไหวค่ะไม่มีที่ไปก็เลยมานั่งรออยู่หน้าร้าน เจ้าของเค้าคงมาจากบ้านแล้วมาเจอเรานั่งหงอยเหงาอยู่หน้ากับอากาศหนาวเย็น เค้าคงสงสารก็เลยมาเรียกให้เค้าไปเช็คอิน 55555 เราก็ได้เข้าไปอาบน้ำนอนสบายๆอยู่ในห้องอุ่นๆ อิอิ
พอตกเย็นเราค่อยออกมาถ่ายรูปเก็บบรรยากาศกัน ก่อนไปเราก็ทานอาหารกันก่อนที่ร้านที่ที่พักนี่ล่ะค่ะ อาหารที่นี่ไม่ค่อยมีอะไรมาก มีแต่พิซซ่า กับกาแฟ ละก็เค้ก แค่นี้ก็อิ่มค่ะ อ่อลืมบอกไปค่ะ ที่นี่เค้าใช้ชีวิตค่อนข้าง Slow life มากก คือร้านอาหารทุกร้านจะเปิด 11 โมง ปิด 19 น. แต่ 19 น. นี่คือ 18 น. ก็เริ่มเก็บร้านแล้วค่ะ แต่จะมีอยู่ร้านนึงตรงแถวๆท่าเรือที่เรามาลงอ่ะค่ะ เปิดเร็วหน่อยแล้วก็ปิดดึกสุดละ มีผลไม้ อาหารคาว แห้ง เลือกซื้อเก็บไว้กินได้ค่ะ เราก็ซื้อผลไม้ไว้กินตอนเช้าเหมือนกัน
เราเดินมาเรื่อยๆถ่ายรูปตรงท่าเรือที่เรามาค่ะ อยู่ดีๆคุณเพื่อนเธอก็เดินไปหยิบอะไรมาก็ไม่รู้ค่ะ สักพักนางก็เอามาให้ดู เราร้องกรี๊ดเลยยย แบงค์ค่ะ 50 ยูโรมิใช่น้อยเลยนะ แต่ตรงนั้น ตอนนั้นไม่มีใครเลยนะ เราก็ไม่รู้จะทำไงค่ะ งั้นขอเก็บเป็นทุนสำหรับการเดินทางละกันนะคะ ^____^
มาถึงจุดยอดฮิตกันบ้าง ขอบอกเวลาแต่ละนาทีก็จะได้ภาพสีที่แตกต่างกันไปนะคะ
เอาล่ะวันนี้จบไปอีกวัน เวลาก็เริ่มเดินผ่านไปแต่ละๆ มันเร็วมากนะ เด๋วพรุ่งนี้เราจะไปต่อกันที่ Salzburg