สวัสดีค่ะเพื่อนๆชาวพันทิปทุกคน กระทู้นี้เขียนเพื่ออยากแชร์ประสบการณ์การเดินทางให้เพื่อนๆหรือผู้ที่สนใจได้เข้ามาแชร์ประสบการณ์ร่วมกัน เพราะทริปนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้เลยถ้าไม่ได้รับข้อมูลมากมายจากเพื่อนๆในพันทิปที่เคยมาร่วมแชร์ประสบการณ์การเดินไว้ในที่นี้ หวังว่าการเขียนกระทู้นี้จะเป็นประโยชน์กับทุกคนที่เข้ามาอ่านนะคะ และขอขอบคุณไว้ ณ ที่นี้นะคะ…
โดยปกติเราเป็นคนชอบออกเดินทางอยู่แล้ว ชอบไปเที่ยวต่างจังหวัดกับเพื่อนๆ ไปต่างประเทศบ้างค่ะ และก็เหมือนคนอื่นทั่วๆไปที่ฝันว่าวันหนึ่งจะต้องออกเดินทางไปยังยุโรปให้ได้ แต่มันก็ติดตรงที่ว่า เอ๊ะ มันต้องใช้เงินมากเลยนะ เราจะไปได้หรออีกอย่างเรื่องภาษาก็ งูๆปลาๆ ค่ะ เกิดคำถามกับตัวเองมาตลอด จนกระทั่งวันหนึ่งนั่งเล่นเฟส ถูๆไถๆ ไป แชร์ข้อมูลท่องเที่ยวที่เพื่อนๆในพันทิปได้เขียนไว้บ้าง จนมีเพื่อนคนหนึ่ง มาชวนเราว่า “เห้ย!! แกไปยุโรปกันมั๊ย” เออะ คือตอนนั้น งง ๆ ว่าเอาล่ะสิ เอาไงดี คิดทบทวนหลายอย่างจนตัดสินใจได้ว่า เอาวะ “ไปก็ไป” หลังจากนั้นทริปนี้ก็ได้เริ่มต้นขึ้น
ปลายเดือน พ.ค เราสองคน เริ่มหาข้อมูล ว่าเราจะไปประเทศไหนดี เราเลือกประเทศที่เราอยากไปค่ะ เพื่อนเราอยากไป อิตาลี กับ ฝรั่งเศส ส่วนเราชอบธรรมชาติ อยากไป สวิส กับ ออสเตรีย ทริปนี้จึงเริ่มต้นจาก อิตาลี-ออสเตรีย-สวิตเซอร์แลนด์-ฝรั่งเศส
เริ่มเตรียมตัวออกเดินทางกันเลย
1.เตรียมแพลนการเดินทางสำหรับขอวีซ่า พวกเราทำแพลนค่อนข้างละเอียดค่ะ เพื่อจะได้เอาไว้ใช้เวลาเดินทางจริงๆด้วย เริ่มที่ Milan – Pisa - Florence – Venice – Hallstatt – Salburg – Luzern – Lauterbrunnen – Zermatt – Bern – Paris(3คืน) - Milan
2. การขอวีซ่า ทริปเราอยู่ที่อิตาลีนานสุดค่ะ คือ 4 วันก็เลยขอวีซ่าที่อิตาลีค่ะ เอกสารที่ต้องเตรียมก็สามารถดาวโหลดได้ที่เว็บของสถานทูตเลยค่ะ ของเราทำผ่านตัวแทนค่ะโดยที่วีซ่าอิตาลีทำผ่าน VFS ตามนี้ค่ะ
http://www.vfsglobal.com/italy/thailand/thai/ ในนี้จะมีคำแนะนำหมดเลยค่ะ การเตรียมเอกสาร ใบสมัคร ขนาดรูป
- การจองที่พัก ของเราจองผ่าน booking.com ค่ะ เพราะสามารถยกเลิกการจองได้ฟรี ก่อนระยะเวลาที่เค้ากำหนดเผื่อเราเปลี่ยนใจตอนใกล้ๆจะไปค่ะ แนะนำให้จองอันที่เราคิดว่าจะพักเลยก็ดีค่ะ เพราะถึงเวลาใกล้ๆจะไป ราคาจะสูงขึ้นมาก ควรจองก่อนประมาน 3-4 เดือนเลยค่ะ เพราะราคาจะถูกมาก
- ตั๋วเครื่องบิน ของเราซื้อตั๋วโปรโมชั่น แต่ต้องจ่ายเงินเลย บินของสายการบิน Air france ซึ่งค่อนข้างดีค่ะ ค่าตั๋วไป-กลับ 24,595 บาท ถือว่าโอเคนะแต่เที่ยวไม่ค่อยดีค่ะ เพราะไปถึงดึกค่ะ
Trick!! สำหรับทะเบียนบ้านและเอกสารที่ต้องแปลเป็นภาษาอังกฤษ ไม่ต้องแปล ไม่ต้องใช้ค่ะ เพราะใช้สำหรับนักเรียนที่ต้องมีผู้ปกครองรับรองสถานะทางการเงิน แต่เราใช้เงินของตัวเองไม่ต้องใช้ค่ะ
การทำ statement คือของเราเริ่มเก็บเงินตั้งแต่เดือน พ.ค – ก.ค เพราะฉะนั้นระยะเวลาน้อยมาก คือแนะนำให้ค่อยๆเอาเงินเข้าบัญชีค่ะ อย่าเอาเข้าทีเดียวรวด มันอาจไม่เป็นการน่าเชื่อถือของที่มาของเงิน ของเราเอาเข้าเดือนละ 2 ครั้ง คือ กลางเดือน กะ ปลายเดือน ครั้งละประมาณ 25,000 บาท ส่วนปลายเดือนก็จะเป็นเงินเดือนที่เข้าประจำ เราใช้ statement ไม่ค่อยเยอะนะ ประมาณ 130,000 บาทก็โอเคแล้วค่ะ ไปประมาน 13 วัน อีกอย่างบัญชีต้องมีการเคลื่อนไหวปกตินะคะ ไม่นิ่ง การพิจารณาวีซ่า เค้าจะดูหลายอย่างประกอบกันค่ะ เช่น การงานมั่นคง ประมาณว่าเราจะไม่ไปทำงานบ้านเค้า เราจะกลับประเทศเราแน่ๆนะ การเงินก็เอาพอเราอยู่ได้ตามที่เราแพลน ค่ะ ค่าบริการประมาน 2,600 -2,700 บาท
การพิจารณาวีซ่า ของเราใช้เวลาแค่ 1 วันทำการค่ะ วันที่ 2 ก็ได้เลย เร็วมากค่ะ ทางตัวแทนเค้าส่ง SMS มาแจ้งค่ะ เสียค่าบริการจร้า
3. พอวีซ่าผ่านก็เริ่มจัดการเรื่องที่พัก ตั๋วรถไฟ เพราะอันนี้ต้องชัวร์ก่อนค่ะ เพราะบางอย่างต้องจ่ายเงินเลย แต่ถ้าใครชัวร์ว่าวีซ่าผ่านแน่นอนก็จัดการได้เลยค่ะ แต่ไม่แนะนำ เพราะมันตื่นเต้นลุ้นมากค่ะตอนขอวีซ่า กลัวไม่ผ่านสุดๆ ของเราถือว่าเริ่มจองช้า พอวีซ่าผ่านกว่าจะได้เริ่มจัดการก็ประมาณ กลางเดือน ส.ค อ่ะ เดินทางปลายเดือน ก.ย ค่ะ ส่วนการจองตั๋วเราจะแนะนำในการเดินทางแต่ละประเทศน๊า
ที่พัก : จะแนะนำเรื่องการเดินทางไปที่พักในรายละเอียดแต่ละวันนะคะ
Day 1 : Milan (Italy)พักที่ Inn - perfect villa (ไม่แนะนำค่ะ)
Day 2: Florence (Italy)พักที่ B&B da Mila
Day 3 : Night train จาก Venice ไป Salzburg
Day 4 : Hallstatt (Austria) พักที่ Café restaurant zum Muhlbach
Day 5 : Night train จาก Salzbrug ไป Zurich สวิสเซอร์แลด์
Day 6-7 : Lauterbrunnen (Switzerland)พักที่ Valley Hotel
Day 8 : Geneva (Switzerland) พักที่ Auburg port gitana
Day 9 - 11 : Paris( France) พักที่ Issabell apartment
Day 12 : Milan (Italy) พักที่ Milano International hotel
Day 13 : เดินทางกลับ
เริ่มออกเดินทางกันเลยคร่า!!!!!!
Day 1 : Depart from BKK by Air france to Italy
Bye bye BKK : ถึงจะเป็นแค่การไปเที่ยวแต่กำลังใจก็สำคัญ ขอบคุณเพื่อนๆที่มาส่งน๊า
บรรยากาศบนเครื่อง จะมีชุดอำนวยความสะดวกให้คนละชุดค่ะ มีหูฟัง ผ้าห่ม ที่ปิดตา หมอน
เดินทางไปประมาน 2 ชม. แอร์จะเริ่มแจกอาหารมื้อใหญ่ค่ะ และก่อนจะถึงที่หมายก่อน 2 ชม. ก็จะมีอาหารชุดเล็กให้อีกชุดนึงค่ะ
10 ชม. ผ่านไป ไวเหมือนโกหก ถึงสนามบิน CDG ที่ปารีสค่ะ เราเปลี่ยนเครื่องเพื่อไปมิลานที่นี่ค่ะ เรามีเวลาเปลี่ยนเครื่องไม่ถึง 1 ชม. วิ่ง 4 x 100 เมตร ลงจาก terminal 2E ไปยัง terminal 2F เพราะ 2 terminal นี้อยู่ห่างกันพอสมควรค่ะ ยังต้องผ่านด่าน ตม. ย่อย ของสนามบินอีกค่ะ เราโชคดีที่ ตม.คนน้อยทำให้ผ่านไปได้เร็ว ปกติคนเยอะมากค่ะ เค้าก็จะถามอะไรนิดหน่อย เช่น มาจากไหน มาทำอะไร มีทักทายเป็นภาษาไทยด้วย น่ารักมากค่ะ จากนั้นเดินทางต่อไปยัง Milan โดยสายการบิน Air france เหมือนเดิม มีของว่างให้ทานบนเครื่องด้วยนะคะ เรียกว่าอิ่มบนเครื่องค่ะ 55555
ประมาน 20 น.(เวลาที่อิตาลี) ถึงที่สนามบิน Milan Linate การเดินทางจากสนามบินไปยัง ตัวเมืองคือนั่งรถบัสที่อยู่หน้าสนามบินเลยค่ะ จะมีป้ายเขียนบอกว่า Milano central ค่ะ ไปลงที่สถานีรถไฟมิลานเลยค่ะ ค่ารถบัสอยู่ที่ 5 ยูโร ซื้อที่คนขับรถเลย สถานีนี้เป็นสถานีหลักที่จะต่อไปยังที่พัก เดินทางประมาณ 30 นาที ที่พักของเราต้องนั่ง metro ไปอีก ไปถึงตอนแรก งง ค่ะ คือโง่มาก เอ๋อไปพักใหญ่เพราะเป็นสถานีหลักเพราะฉะนั้นการขนส่งทุกอย่างอยู่ที่นี่ค่ะ การไปที่พักต้องนั่ง metro เดินตามป้ายอย่างเดียวเลยค่ะมั่วอย่างเดียวด้วย 555 ซึ่งที่อิตาลี การนั่ง metro ต้องซื้อตั๋วที่ร้าน Tabacchi มีอยู่ร้านนึงตรงทางเดินไป metro เลยค่ะ ราคาเที่ยวละ 1.25 ยูโร มีแบบ One day pass ด้วยนะคะ สำหรับเที่ยวในมิลาน 1 วัน เป็นแบบใช้ 24 ชม. เช่น เริ่ม 20 น. ก็ใช้ได้ถึง 20 น. ของอีกวันค่ะ ตอนแรกไปไม่เป็นเลย พอดีไปเจอพี่คนไทย 2 คน พี่เค้าไปเรียนที่นั่น ก็เลยแนะนำการเดินทางให้ ต้องขอบคุณมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ ที่พักที่มิลานคืนแรก พักที่ Inn - perfect villa ข้อดีคือ ราคาถูก ข้อเสียคือ เจ้าของเค้าจะติดต่อเรามาทาง mail ว่าไปถึงกี่โมง เค้าจะไปรอเอากุญแจให้ประมาณนั้น เค้าไม่ได้อยู่ที่นี่ค่ะ พอเราไปถึงซึ่งก้อเกือบสี่ทุ่มแล้วและก็เป็นสี่ทุ่มของวันอาทิตย์ (ปล.วันอาทิตย์ที่ยุโรปเงียบมากกกกก ) กว่าจะหาที่พักเจอ ถามคนนั้น คนนี้ไปทั่ว ในที่สุด 21.30 น. เราก็ไปถึงที่พัก แต่!!!! ไม่มีใครอยู่ คืออารายยย เรากดกริ่งอยู่นานมากก ปีนหน้าต่างด๊วยยยย เปิดไฟ เห็นห้องนอน แต่เข้าไปนอนไม่ได้ วันแรกของช้านนนนนที่มิลาน เริ่ม fail ค่ะ ตัดสินใจกับเพื่อนหา รร.แถวนั้นนอนละกัน ถนนเงียบมากอย่างกะเมืองร้าง ในที่สุดก็เดินมาถึง Hotel Demo เสียค่าโง่เพิ่มไปอีก 137 ยูโร/ 2 คน แต่โชคดีที่เจ้าของที่พักเค้าไม่ตัดยอดเงินจากบัตรเครดิตเรา คือเราไปเช็คอินนะแต่เค้าไม่อยู่ ไม่ใช่ความผิดเราค่ะ เพราะฉะนั้น เราจะไม่ทำให้ทริปเราเซงค่ะ ปรับอารมณ์แปร๊บ [ปล. อย่าเลือกเที่ยวบินที่ไปถึงมากนะคะ จะลำบากมากค่ะ แล้วอีกอย่าง อย่าเป็นวันอาทิตย์นะคะ เพราะวันอาทิตย์ที่ยุโรปเค้าปิดกันหมดค่ะ เงียบมากกกก]
วันแรกจบไปกับการเดินทาง วันพรุ่งนี้เราจะไป Frienze กันค่ะ
[CR] [CR] 5875 Miles ขอลาเจ้านายไปยุโรป { Italy – Austria – Switzerland – France }
โดยปกติเราเป็นคนชอบออกเดินทางอยู่แล้ว ชอบไปเที่ยวต่างจังหวัดกับเพื่อนๆ ไปต่างประเทศบ้างค่ะ และก็เหมือนคนอื่นทั่วๆไปที่ฝันว่าวันหนึ่งจะต้องออกเดินทางไปยังยุโรปให้ได้ แต่มันก็ติดตรงที่ว่า เอ๊ะ มันต้องใช้เงินมากเลยนะ เราจะไปได้หรออีกอย่างเรื่องภาษาก็ งูๆปลาๆ ค่ะ เกิดคำถามกับตัวเองมาตลอด จนกระทั่งวันหนึ่งนั่งเล่นเฟส ถูๆไถๆ ไป แชร์ข้อมูลท่องเที่ยวที่เพื่อนๆในพันทิปได้เขียนไว้บ้าง จนมีเพื่อนคนหนึ่ง มาชวนเราว่า “เห้ย!! แกไปยุโรปกันมั๊ย” เออะ คือตอนนั้น งง ๆ ว่าเอาล่ะสิ เอาไงดี คิดทบทวนหลายอย่างจนตัดสินใจได้ว่า เอาวะ “ไปก็ไป” หลังจากนั้นทริปนี้ก็ได้เริ่มต้นขึ้น
ปลายเดือน พ.ค เราสองคน เริ่มหาข้อมูล ว่าเราจะไปประเทศไหนดี เราเลือกประเทศที่เราอยากไปค่ะ เพื่อนเราอยากไป อิตาลี กับ ฝรั่งเศส ส่วนเราชอบธรรมชาติ อยากไป สวิส กับ ออสเตรีย ทริปนี้จึงเริ่มต้นจาก อิตาลี-ออสเตรีย-สวิตเซอร์แลนด์-ฝรั่งเศส
เริ่มเตรียมตัวออกเดินทางกันเลย
1.เตรียมแพลนการเดินทางสำหรับขอวีซ่า พวกเราทำแพลนค่อนข้างละเอียดค่ะ เพื่อจะได้เอาไว้ใช้เวลาเดินทางจริงๆด้วย เริ่มที่ Milan – Pisa - Florence – Venice – Hallstatt – Salburg – Luzern – Lauterbrunnen – Zermatt – Bern – Paris(3คืน) - Milan
2. การขอวีซ่า ทริปเราอยู่ที่อิตาลีนานสุดค่ะ คือ 4 วันก็เลยขอวีซ่าที่อิตาลีค่ะ เอกสารที่ต้องเตรียมก็สามารถดาวโหลดได้ที่เว็บของสถานทูตเลยค่ะ ของเราทำผ่านตัวแทนค่ะโดยที่วีซ่าอิตาลีทำผ่าน VFS ตามนี้ค่ะ http://www.vfsglobal.com/italy/thailand/thai/ ในนี้จะมีคำแนะนำหมดเลยค่ะ การเตรียมเอกสาร ใบสมัคร ขนาดรูป
- การจองที่พัก ของเราจองผ่าน booking.com ค่ะ เพราะสามารถยกเลิกการจองได้ฟรี ก่อนระยะเวลาที่เค้ากำหนดเผื่อเราเปลี่ยนใจตอนใกล้ๆจะไปค่ะ แนะนำให้จองอันที่เราคิดว่าจะพักเลยก็ดีค่ะ เพราะถึงเวลาใกล้ๆจะไป ราคาจะสูงขึ้นมาก ควรจองก่อนประมาน 3-4 เดือนเลยค่ะ เพราะราคาจะถูกมาก
- ตั๋วเครื่องบิน ของเราซื้อตั๋วโปรโมชั่น แต่ต้องจ่ายเงินเลย บินของสายการบิน Air france ซึ่งค่อนข้างดีค่ะ ค่าตั๋วไป-กลับ 24,595 บาท ถือว่าโอเคนะแต่เที่ยวไม่ค่อยดีค่ะ เพราะไปถึงดึกค่ะ
Trick!! สำหรับทะเบียนบ้านและเอกสารที่ต้องแปลเป็นภาษาอังกฤษ ไม่ต้องแปล ไม่ต้องใช้ค่ะ เพราะใช้สำหรับนักเรียนที่ต้องมีผู้ปกครองรับรองสถานะทางการเงิน แต่เราใช้เงินของตัวเองไม่ต้องใช้ค่ะ
การทำ statement คือของเราเริ่มเก็บเงินตั้งแต่เดือน พ.ค – ก.ค เพราะฉะนั้นระยะเวลาน้อยมาก คือแนะนำให้ค่อยๆเอาเงินเข้าบัญชีค่ะ อย่าเอาเข้าทีเดียวรวด มันอาจไม่เป็นการน่าเชื่อถือของที่มาของเงิน ของเราเอาเข้าเดือนละ 2 ครั้ง คือ กลางเดือน กะ ปลายเดือน ครั้งละประมาณ 25,000 บาท ส่วนปลายเดือนก็จะเป็นเงินเดือนที่เข้าประจำ เราใช้ statement ไม่ค่อยเยอะนะ ประมาณ 130,000 บาทก็โอเคแล้วค่ะ ไปประมาน 13 วัน อีกอย่างบัญชีต้องมีการเคลื่อนไหวปกตินะคะ ไม่นิ่ง การพิจารณาวีซ่า เค้าจะดูหลายอย่างประกอบกันค่ะ เช่น การงานมั่นคง ประมาณว่าเราจะไม่ไปทำงานบ้านเค้า เราจะกลับประเทศเราแน่ๆนะ การเงินก็เอาพอเราอยู่ได้ตามที่เราแพลน ค่ะ ค่าบริการประมาน 2,600 -2,700 บาท
การพิจารณาวีซ่า ของเราใช้เวลาแค่ 1 วันทำการค่ะ วันที่ 2 ก็ได้เลย เร็วมากค่ะ ทางตัวแทนเค้าส่ง SMS มาแจ้งค่ะ เสียค่าบริการจร้า
3. พอวีซ่าผ่านก็เริ่มจัดการเรื่องที่พัก ตั๋วรถไฟ เพราะอันนี้ต้องชัวร์ก่อนค่ะ เพราะบางอย่างต้องจ่ายเงินเลย แต่ถ้าใครชัวร์ว่าวีซ่าผ่านแน่นอนก็จัดการได้เลยค่ะ แต่ไม่แนะนำ เพราะมันตื่นเต้นลุ้นมากค่ะตอนขอวีซ่า กลัวไม่ผ่านสุดๆ ของเราถือว่าเริ่มจองช้า พอวีซ่าผ่านกว่าจะได้เริ่มจัดการก็ประมาณ กลางเดือน ส.ค อ่ะ เดินทางปลายเดือน ก.ย ค่ะ ส่วนการจองตั๋วเราจะแนะนำในการเดินทางแต่ละประเทศน๊า
ที่พัก : จะแนะนำเรื่องการเดินทางไปที่พักในรายละเอียดแต่ละวันนะคะ
Day 1 : Milan (Italy)พักที่ Inn - perfect villa (ไม่แนะนำค่ะ)
Day 2: Florence (Italy)พักที่ B&B da Mila
Day 3 : Night train จาก Venice ไป Salzburg
Day 4 : Hallstatt (Austria) พักที่ Café restaurant zum Muhlbach
Day 5 : Night train จาก Salzbrug ไป Zurich สวิสเซอร์แลด์
Day 6-7 : Lauterbrunnen (Switzerland)พักที่ Valley Hotel
Day 8 : Geneva (Switzerland) พักที่ Auburg port gitana
Day 9 - 11 : Paris( France) พักที่ Issabell apartment
Day 12 : Milan (Italy) พักที่ Milano International hotel
Day 13 : เดินทางกลับ
เริ่มออกเดินทางกันเลยคร่า!!!!!!
Day 1 : Depart from BKK by Air france to Italy
Bye bye BKK : ถึงจะเป็นแค่การไปเที่ยวแต่กำลังใจก็สำคัญ ขอบคุณเพื่อนๆที่มาส่งน๊า
บรรยากาศบนเครื่อง จะมีชุดอำนวยความสะดวกให้คนละชุดค่ะ มีหูฟัง ผ้าห่ม ที่ปิดตา หมอน
เดินทางไปประมาน 2 ชม. แอร์จะเริ่มแจกอาหารมื้อใหญ่ค่ะ และก่อนจะถึงที่หมายก่อน 2 ชม. ก็จะมีอาหารชุดเล็กให้อีกชุดนึงค่ะ
10 ชม. ผ่านไป ไวเหมือนโกหก ถึงสนามบิน CDG ที่ปารีสค่ะ เราเปลี่ยนเครื่องเพื่อไปมิลานที่นี่ค่ะ เรามีเวลาเปลี่ยนเครื่องไม่ถึง 1 ชม. วิ่ง 4 x 100 เมตร ลงจาก terminal 2E ไปยัง terminal 2F เพราะ 2 terminal นี้อยู่ห่างกันพอสมควรค่ะ ยังต้องผ่านด่าน ตม. ย่อย ของสนามบินอีกค่ะ เราโชคดีที่ ตม.คนน้อยทำให้ผ่านไปได้เร็ว ปกติคนเยอะมากค่ะ เค้าก็จะถามอะไรนิดหน่อย เช่น มาจากไหน มาทำอะไร มีทักทายเป็นภาษาไทยด้วย น่ารักมากค่ะ จากนั้นเดินทางต่อไปยัง Milan โดยสายการบิน Air france เหมือนเดิม มีของว่างให้ทานบนเครื่องด้วยนะคะ เรียกว่าอิ่มบนเครื่องค่ะ 55555
ประมาน 20 น.(เวลาที่อิตาลี) ถึงที่สนามบิน Milan Linate การเดินทางจากสนามบินไปยัง ตัวเมืองคือนั่งรถบัสที่อยู่หน้าสนามบินเลยค่ะ จะมีป้ายเขียนบอกว่า Milano central ค่ะ ไปลงที่สถานีรถไฟมิลานเลยค่ะ ค่ารถบัสอยู่ที่ 5 ยูโร ซื้อที่คนขับรถเลย สถานีนี้เป็นสถานีหลักที่จะต่อไปยังที่พัก เดินทางประมาณ 30 นาที ที่พักของเราต้องนั่ง metro ไปอีก ไปถึงตอนแรก งง ค่ะ คือโง่มาก เอ๋อไปพักใหญ่เพราะเป็นสถานีหลักเพราะฉะนั้นการขนส่งทุกอย่างอยู่ที่นี่ค่ะ การไปที่พักต้องนั่ง metro เดินตามป้ายอย่างเดียวเลยค่ะมั่วอย่างเดียวด้วย 555 ซึ่งที่อิตาลี การนั่ง metro ต้องซื้อตั๋วที่ร้าน Tabacchi มีอยู่ร้านนึงตรงทางเดินไป metro เลยค่ะ ราคาเที่ยวละ 1.25 ยูโร มีแบบ One day pass ด้วยนะคะ สำหรับเที่ยวในมิลาน 1 วัน เป็นแบบใช้ 24 ชม. เช่น เริ่ม 20 น. ก็ใช้ได้ถึง 20 น. ของอีกวันค่ะ ตอนแรกไปไม่เป็นเลย พอดีไปเจอพี่คนไทย 2 คน พี่เค้าไปเรียนที่นั่น ก็เลยแนะนำการเดินทางให้ ต้องขอบคุณมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ ที่พักที่มิลานคืนแรก พักที่ Inn - perfect villa ข้อดีคือ ราคาถูก ข้อเสียคือ เจ้าของเค้าจะติดต่อเรามาทาง mail ว่าไปถึงกี่โมง เค้าจะไปรอเอากุญแจให้ประมาณนั้น เค้าไม่ได้อยู่ที่นี่ค่ะ พอเราไปถึงซึ่งก้อเกือบสี่ทุ่มแล้วและก็เป็นสี่ทุ่มของวันอาทิตย์ (ปล.วันอาทิตย์ที่ยุโรปเงียบมากกกกก ) กว่าจะหาที่พักเจอ ถามคนนั้น คนนี้ไปทั่ว ในที่สุด 21.30 น. เราก็ไปถึงที่พัก แต่!!!! ไม่มีใครอยู่ คืออารายยย เรากดกริ่งอยู่นานมากก ปีนหน้าต่างด๊วยยยย เปิดไฟ เห็นห้องนอน แต่เข้าไปนอนไม่ได้ วันแรกของช้านนนนนที่มิลาน เริ่ม fail ค่ะ ตัดสินใจกับเพื่อนหา รร.แถวนั้นนอนละกัน ถนนเงียบมากอย่างกะเมืองร้าง ในที่สุดก็เดินมาถึง Hotel Demo เสียค่าโง่เพิ่มไปอีก 137 ยูโร/ 2 คน แต่โชคดีที่เจ้าของที่พักเค้าไม่ตัดยอดเงินจากบัตรเครดิตเรา คือเราไปเช็คอินนะแต่เค้าไม่อยู่ ไม่ใช่ความผิดเราค่ะ เพราะฉะนั้น เราจะไม่ทำให้ทริปเราเซงค่ะ ปรับอารมณ์แปร๊บ [ปล. อย่าเลือกเที่ยวบินที่ไปถึงมากนะคะ จะลำบากมากค่ะ แล้วอีกอย่าง อย่าเป็นวันอาทิตย์นะคะ เพราะวันอาทิตย์ที่ยุโรปเค้าปิดกันหมดค่ะ เงียบมากกกก]
วันแรกจบไปกับการเดินทาง วันพรุ่งนี้เราจะไป Frienze กันค่ะ