จากเรื่องราว ชีวิตจริง ของนักอเมริกันฟุตบอลชื่อดัง ไมเคิล ออร์ ตีเเผ่ในหนังสือ ชื่อ The Blind Side: The Evolution of a Game โดย Michael Lewis เมื่อปี 2006 เเละทำเป็นภาพยนตร์ในปี 2009 ตัวหนังประสบความสำเร็จอย่างมากทั้งรายได้และคำวิจารณ์จากทุกสถาบัน สามารถเข้าชิงออสการ์ได้ 2 สาขา และได้รับรางวัลมาเพียง 1 สาขา ได้แก่ Best Actress หนังเรื่องนี้โด่งดังมากในอเมริกา กวาดรายได้ในอเมริกาอย่างเดียวไป 255 ล้านเหรียญ ไม่รวมนอกประเทศ จากทุนสร้าง 29 ล้านเหรียญ แค่หนังเปิดตัวสัปดาห์แรก ก็ปาเข้าไป 34 ล้านแล้ว

The blind side เป็นหนังที่จะสร้างความเชื่อมั่นในใครสักคนที่กำลังดูถูกตัวเอง ให้ลุกขึ้นมาพิสูจน์ให้คนทั้งโลกเห็นว่า ตนมีความดีและความสามารถมากกว่าที่ทุกคนเห็นและสิ่งที่เป็นพลังที่ทำให้ลุกขึ้นสู้นั้น คือความรัก แต่ความรักในเรื่องมิได้หมายถึงความรักหนุ่มสาว และเป็นความรักที่ ผู้ใหญ่มีต่อเด็กที่หวังดีและห่วงใย หนังเรื่องนี้เป็นเครื่องพิสูจน์ได้อย่างดีว่า ไม่ว่าใครก็ขาดความรักไม่ได้ เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่อยากจะแนะนำให้คนที่กำลังน้อยใจในโชคชะตาของตัวเอง เชื่อว่าคุณจะได้ความรู้สึกดีๆจากเรื่องนี้กลับไปอย่างแน่นอน

เป็นเรื่องราวชีวิตที่เกิดขึ้นจริงของนักอเมริกันฟุตบอลคนหนึ่ง ในเรื่อง Michael Oher (ไมเคิล ออร์)นักกีฬาอเมริกันฟุตบอลผิวสีและครอบครัวอุปภัมป์ผิวขาว ก่อนที่จะเจอกับครัวครัวนี้เขาเป็นเด็กเร่ร่อนที่ไม่มีใครต้องการ

จนกระทั่งมาเจอ Leigh Anne Tuohy สาวนักธุรกิจไฮโซประจำเมือง เจอกับ Michael ในคืนที่เด็กหนุ่มกำลังเดินหาที่ซุกหัวนอนท่ามกลางอากาศหนาวเหน็บ ความมีน้ำใจอยากช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ของ Leigh Anne ในคืนนั้น กลายเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญที่เปลี่ยนแปลงชีวิตของเด็กหนุ่มไร้อนาคต เธอมีความอดทนและพร้อมจะค้นหาศักยภาพของเขา และโชคดีที่คนในครอบครัวเธอทั้ง Sean Tuohy สามีสุดใจดี S.J. Tuohy ลูกชายคนเล็ก ที่รู้สึกยินดีกระดี๊กระด๊ากับการได้พี่ชายสุดซี้มาเป็นคู่หูของตนเอง และ Collins Tuohy ลูกสาวคนโต ที่ไม่ได้รังเกียจความแตกต่างของฐานะ สีผิว ทั้งยังพร้อมยอมรับ Michael ในการเป็นสมาชิกใหม่

ส่วนตัวชอบที่หนังมีประเด็นเสียดสีสังคมต่างๆ ชั้นชนชั้น ผิวสี การเข้าหาสังคม ซึ่งเป็นสิ่งที่หนังไม่ได้ยัดเยียดมากจนเกินไปเลยแม้แต่นิดเดียว สิ่งที่เราอยากจะพูดในความรู้สึกส่วนตัวก็คือ เราคิดว่า คนไทยอีกหลายล้านคนควรที่จะได้ดูเรื่องนี้ ไม่รู้ซิ เราดูเรื่องนี้จบ แล้วนึกถึงสังคมไทยเลย สังคมไทย ณ ปัจจุบันนี้ เราว่ายังขาดความเมตตา กรุณา มือถือสาก ปากถือศีล ไม่มีความเห็นอกเห็นใจซึ่งกันและกัน ต้องการแต่ในสิ่งที่ตัวเองอยากจะได้ อยากจะมี ไม่รู้จักการแบ่งปัน เอื้อเฟื้อ แด่ผู้อื่น อยากจะได้รับความรัก แต่ไม่รู้จักให้ความรักแก่คนอื่น ( แล้วคนอื่นจะให้เราได้อย่างไร ? ) มันจึงเป็นหนังที่สะท้อนสังคมของทุกบริบททุกประเทศบนโลกได้อย่างดีเยี่ยม

ต้องบอกว่า ซานดร้า บูลล็อค เป็นนักแสดงหญิงคนโปรดในดวงใจของเรามานานมากๆ ( ดูจากชื่อล็อคอิน 555 ) หลงรักเธอตั้งแต่เล่นเป็นยายเฉิ่มเรื่อง Speed และอีกหลายๆเรื่องต่อมา เธอเป็นนักแสดงหญิงที่ไม่ได้สวยพิมพ์นิยม สวยหยาดเยิ้ม สวยพิศ สวยหวาน แต่เธอเป็นคนมีเสน่ห์ทางการแสดง เล่นได้หลากหลายแนว และบทคุณแม่เศรษฐินีใจดี ใน The Blind Side เป็นบทบาทที่ทำให้เธอกลับมาดังเป็นพลุแตกอีกครั้งหลังจากเรื่อยๆจะมาแหล่ ไม่มาแหล่ ถามว่านี่เป็นบทบาทที่เราชอบมั้ย เราชอบมากและประทับใจมาก แต่ถามว่าดีจนได้ออสการ์มั้ย ตอบในฐานะแฟนคลับซานดร้า คิดว่ายังไม่ดีขนาดได้ออสการ์ เราคิดว่ามีเรื่องอื่นที่เธอเล่นดีกว่านี้มาก เช่น Gravity บทบาทของเธอเป็นบทบาทที่น่าประทับใจ เป็นที่รักแก่คนดู แสดงออกถึงความเป็นแม่ได้เต็มเปี่ยม

โอ้ยย ไปหาคนเล่นมาจากไหน ทำไมเล่นได้น่าสงสารขนาดนี้นะ ! เขาเป็นคนตัวใหญ่มาก แต่ทำไมแสดงออกมาได้ดูเป็นคนที่ขาดอะไรในจิตใจมากๆ เขาแสดงออกถึงการขาดความรัก ความอบอุ่น ความเข้าใจ เขาเล่นให้เราเชื่อได้ว่าเขาขาดตรงนี้ไปจริงๆนะ อาจเป็นว่าเป็นนักแสดงที่ไม่ได้เป็นที่รู้จักมากมาย เวลามาเล่นบทแบบนี้คนดูก็พร้อมที่จะเชื่อว่าเขาเป็นแบบนั้นจริงๆ