ดูเหมือนคำ
CB - S M S' (โดยไม่มีเว้นวรรค)
ทุกคำ ถูกเปลี่ยนเป็น CB

ผมประหลาดใจมาก

กำลังลองเปลี่ยนบางคำกลับเป็น

CB - S M S' (โดยไม่มีเว้นวรรค)
27 พ.ย. 66
==


ผมเดินเข้างาน expo โทรศัพท์ แล้วก็ได้รับ SMS จาก ผู้ให้บริหารเครือข่าย เพื่อให้มาบู้ทเขา เพื่อซื้อสินค้า. 

ให้สงสัย.. เหตุใด ได้เบอร์ผม.

ต่อมาค้นคว้า ได้รู้จักว่าคือ ระบบ CB SMS ที่ไม่ต้องรู้เบอร์โทร ก็ส่ง SMS  ได้.

ค้นคว้าต่อได้ว่า อ้าว!!.. เป็นระบบที่ดี เป็นระบบบรรเทา หายนะภัย และอีกหลายอย่างได้.

ยุคหนึ่งของ กสทช. เคยทำท่าจะนำ CB-SMS มาใช้.

แต่ยุคนี้ ผมค้นไม่เจอ ว่ามีโครงการใช้ CB-SMS เพื่อประโยชน์ของชาติ และประชาชน.

ค้นคว้าต่อมาได้ว่า รัฐธรรมนูญได้กำหนดไว้ว่า รัฐต้องใช้ประโยชน์คลื่นความถี่ให้สูงสุด เพื่อประโยชน์ของชาติ และประชาชน ดังนั้น ผมจึงมีประเด็น เพื่อทำดี เพื่อส่วนรวม ด้วยการส่งหนังสือขอให้ กสทช. สนใจเรื่องนี้ และตอบผม.  หลายเดือนต่อมา ก็ไม่ได้ อะไรทั้งนั้น เป็นคำตอบจาก กสทช. ก็เข้าประเด็ฯถัดไปว่า  เป็นเหตุให้ ผมสามารถฟ้องต่อ ศาลปกครองได้แล้ว

CB-SMS คืออะไร?
ตอบ: แบบสรุป: ข้อดีของ CB-SMS คือ ทดแทน หอกระจายเสียง และ อุปกรณ์ต่อพ่วง เพื่อแจ้งเตือนสินามิได้อย่างดี และมีประสิทธิภาพมากกว่าอีก ทั้งที่ ตอนนี้ หอ & อุปกรณ์เสื่อม และเสีย, ใช้ CB-SMS เพื่อแจ้ง การก่อการร้าย, ให้ข้อมูลตามจับผู้ต้องสงสัย, แจ้งเหตุไฟไหม้, น้ำป่า, ไฟป่า, การกราดยิง, สื่อสาร: ทุกอย่าง ที่รัฐ อยากบอกต่อประชาชน: การจัดการน้ำ, โรคระบาด (รวม COVID, โรคติดต่อในม้า, สัตว์, มาลาเรีย, ไข้เลือดออก, โรคพิษสุนัขบ้า ..... เชิญประชุม, เชิญร่วมประชาพิจารณ์  ฯลฯ  โดยมีข้อดีหลายประการมาก และส่งถึงเฉพาะ ผู้ที่อยู่ในข่ายเกี่ยวข้อง คือ เฉพาะพื้นที่ หรือ ส่งทั้งประเทศ ก็ได้ในเวลา ไม่กี่วินาที โดยส่งถึง แม้ตั้งค่าที่ phone ไว้อย่างไร และ ระบบนี้ มีพร้อมอยู่แล้ว ให้ใช้  แต่ใช้เพื่อประโยชน์ธุรกิจ มิใช้เพื่อ บรรเทาภัย จาก หายนะ / ภัยพิบัติ.   



ประโยชน์ แจ้งเตือน: มาตรการจากรัฐ (แจ้งตรง ชัดเจน), ให้มารับวัคซีน ต้าน COVID ของแต่ละพื้นที่. 

เพิ่มเติม ประโยชน์ และอย่างอื่น เกี่ยวกับ CB-SMS: https://ppantip.com/topic/37828265

 
***
เขียนมานี้ อยากขอให้ คนเก่ง ผู้เสียสละ ช่วยรณรงค์ ให้เกิด CB-SMS ใช้ เพื่อส่วนรวม.. ใครก็ได้ มาช่วยชาติเรากัน. แค่ บอกให้ กสทช. มุ่งพัฒนา ให้เกิดระบบ แจ้งเตือนภัยพิบัติ และเพื่อสื่อสาร จากรัฐไป ประชาชน เพื่อให้ชาติเราก้าวหน้า เพราะ มีระบบ แจ้งเตือนภัยพิบัติ ก็ช่วยชีวิต ช่วยการท่องเที่ยว ฯ ได้อีกด้วย.   ผมได้ทำส่วนที่ผมทำได้ ตามแนวทางของผม ด้วยการฟ้องต่อศาลปกครองแล้ว.    ใครเก่ง ใครถนัด ใครอยากช่วยสังคม ก็ลองอ่าน คำฟ้องของผมได้ ตาม link ข้างบน.  เพียงแค่ กสทช. ขยับตัว เตรียมการจัดให้มีระบบ เตือนภัย / สื่อสาร โดยนำ CB-SMS ไปใช้ ผมก็ถือว่า สำเร็จแล้ว.  งานนี้ มีแต่ประโยชน์ โดยไม่มีใครต้องเดือดร้อน เสียหน้า เสียโอกาสก้าวหน้า โดยไม่มีใครเดือดร้อน ไม่มีใคร เกลียดใคร.
 
โปรดช่วยส่วนรวมกัน.
 
========= ที่ผม ค้นคว้า / เรียบเรียง เกี่ยวกับ ประโยชน์ CB-SMS และการใช้ ========
CB-SMS คืออะไร? ตอบ:  Cell Broadcast (CB) คือ เทคโนโลยีหนึ่ง ที่ใช้เพื่อการส่งข้อความแบบ SMS เพื่อแจ้งเตือนเหตุการณ์สำคัญต่อสาธารณชน ไปยังโทรศัพท์ไร้สายใด แบบเฉพาะพื้นที่ โดยไม่ต้องมีใครทราบว่า โทรศัพท์นั้นหมายเลขใด โดยการใช้ประโยชน์ CB-SMS ในแต่ละครั้ง เริ่มต้นที่ หน่วยงานหนึ่งใดของรัฐ ได้รับข้อมูล การเกิดเหตุการณ์สำคัญต่อสาธารณชน  เช่น สึนามิ หรือ การก่อวินาศกรรม โดยเมื่อผ่านระบบการตรวจสอบยืนยันแล้ว ก็สร้างข้อความสั้น (SMS) สำหรับแจ้งเตือนประชาชน ส่งให้ผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือ โดยระบุว่าพื้นที่ใดบ้าง ที่ควรได้รับการแจ้งเตือน ซึ่ง SMS นั้น จะถูกส่งจาก เสาส่งสัญญาณโทรศัพท์ (mobile cell tower) ที่ถูกเลือกเป็นการเฉพาะ ไปยังโทรศัพท์ไร้สาย (mobile phone หรือ cell phone) ที่เข้าเชื่อมต่อสัญญาณกับ เสาส่งฯ นั้น ที่ให้บริการในพื้นที่เฉพาะที่ต้องการแจ้งเตือน โดยพื้นที่เฉพาะนี้ อาจมีรัศมี ประมาณ 1-2 ตารางกิโลเมตร, หรือใหญ่ขึ้น ประมาณ ตำบล, อำเภอ, จังหวัด หรือ ทั้งประเทศก็ได้. 
CB-SMS ระบบ / เทคโนโลยี การแจ้งเตือนสาธารณะที่มีประสิทธิภาพสูงมาก โดยหลายประเทศมีใช้กันมาหลายปีแล้ว ทั่วโลก โดยสามารถส่งการแจ้งเตือนที่เข้าถึงประชาชนโดยตรงมากที่สุด, เร็วที่สุด, ถึงประชาชนส่วนใหญ่มากสุด และมีค่าใช้จ่าย ทั้งหมดในการจัดการ และดำเนินการทั้งหมดต่ำที่สุด.  CB-SMS ถูกใช้ประโยชน์เพื่อบรรเทาภาวะ ภัยพิบัติ และภาวะลำบากอื่น รวมทั้ง จากผลของ COVID-19 ด้วย.  CB-SMS มักใช้เพื่อบรรเทาปัญหาด้านภัยพิบัติ หรือ เหตุฉุกเฉินใด แต่ก็ใช้เพื่อการสื่อสาร เพื่อแก้ปัญหาด้านอื่นได้.  ดังนั้นแล้ว ประเทศไทยควรมี CB-SMS ใช้ เพื่อบรรเทาความรุนแรงของเหตุการณ์สาธารณะ อีกทั้ง เพื่อประโยชน์อื่นด้วย อีกทั้ง ประเด็นสำคัญคือ รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ได้ระบุไว้ว่าควรมี หากเป็นสิ่งที่ให้ประโยชน์ต่อชาติ, ประชาชน, ความมั่นคงของรัฐ, และประโยชน์สาธารณะ.
หากเจ้าหน้าที่ของภาครัฐ มี CB-SMS ใช้ประโยชน์ ก็สามารถติดต่อ เจ้าหน้าที่ผู้ให้บริการสัญญาณโทรศัพท์ไร้สาย เพื่อให้ส่ง SMS ถึงโทรศัพท์ที่มีการเชื่อมกับ เสาส่งสัญญาณโทรศัพท์ (mobile-cell tower) เสาหนึ่งใด หรือ หลายเสา พร้อมกันได้ โดยเป็นเสารที่ถูกเลือก เนื่องจากอยู่ในพื้นที่เฉพาะ, ดังนั้น จึงสามารถกำหนดได้ว่า พื้นที่เฉพาะใด และเป็นบริเวณกว้างเพียงใด ที่โทรศัพท์ในพื้นที่ดังกล่าว จะได้รับ SMS เพื่อการแจ้งเตือน หรือเพื่อสื่อสารด้านอื่น.  การใช้เทคโนโลยี CB-SMS โดยมาก เพื่อเหตุฉุกเฉิน หรือ ภัยพิบัติ แต่ก็ยังนำไปใช้ประโยชน์ได้ ในหลายรูปแบบ.
CB SMS คือ ข้อความสั้น (SMS) ที่ส่งด้วยระบบ CB-SMS.
CB-SMS เป็นเทคโนโลยีสื่อสาร ที่มีประสิทธิภาพสูงในการส่งข้อมูลอย่างมาก เพราะสามารถส่งเข้าถึงโทรศัพท์ไร้สายได้ทุกเครื่อง (ประมาณ 99% ของโทรศัพท์ทุกเครื่อง) โดยตราบใดที่ ประชาชนยังมีการใช้ โทรศัพท์ฯ นานไปอีกหลายปีในอนาคต ตราบนั้น CB-SMS ก็ยังถูกใช้ประโยชน์ และให้ประโยชน์ต่อชาติ และประชาชน ในอนาคต.  เทคโนโลยี CB-SMS ควรมีใช้ในไทยมานานหลายปีแล้ว เพราะให้ประโยชน์ชาติได้ หลายแนวทาง และดูเหมือนมีข้อดีกว่าการสื่อสารช่องทางอื่นที่ใช้อยู่ทั้งหมด.

การสื่อสารที่สำคัญ เฉพาะพื้นที่ แต่ไม่ฉุกเฉิน จากภาครัฐ ถึงประชาชน เช่น แจ้งภัยแล้ง, แจ้งแนวทางงดส่งน้ำผ่านคลองชลประทาน, แจ้งน้ำประปาไม่ไหล, แจ้งไฟฟ้าดับ, เชิญประชาชนทุกคน เฉพาะพื้นที่เข้าร่วมประชาพิจารณ์ หรือ ยกเลิกการประชุม นั้น รัฐก็ยังไม่มีเครื่องมือสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ และรัฐเองต้องเสียค่าใช้จ่าย ใช้เวลาดำเนินการนาน, ใช้บุคคลากรจำนวนมาก และแนวโน้มสูงคือ สื่อสารได้ไม่ทั่วถึงประชาชนทุกครัวเรือน ซึ่งปัญญาหาแนวนี้ มีมายาวนานแล้ว เพราะไม่มีเครื่องมือสื่อสารโดยตรง ถึงประชาชน.
การใช้คลื่นความถี่ของชาติ ด้วยการใช้เทคโนโลยี Cell Broadcast (CB) ซึ่งเป็นการแจ้งเตือนเหตุฉุกเฉิน หรือ เพื่อสื่อสาร โดยตรง อย่างรวดเร็ว ถึงประชาชน อย่างทั่วถึงมากกว่า ช่วยลดปัญหาหลายประการ ของระบบที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน เช่น มีความรวดเร็วสูง (ในสองสามนาที สามารถส่งข้อความถึงประชาชนเป็นล้านคนได้ ด้วยการส่งเพียงครั้งเดียว)  จึงมีโอกาสสูงกว่ามาก ในการลดความรุนแรงของเหตุการณ์ร้าย, ช่วยชีวิต และบรรเทาความเดือดร้อนได้มากกว่า เพราะดีกว่า มีประสิทธิภาพมากกว่า. 

CB-SMS เป็นระบบการสื่อสาร ที่มีข้อดีโดยสรุปหลายประการ เช่น มีประสิทธิภาพสูง, ค่าใช้จ่ายต่ำ, ค่าบำรุงรักษาต่ำ, มีความเป็นอัตโนมัติสูง, มีการสิ้นเปลืองการใช้ทรัพยากรบุคคล และอย่างอื่น น้อยมาก, และประเทศไทย ก็มีความพร้อมอยู่แล้ว อีกทั้ง ยังมีการใช้อยู่แล้ว เพียงแต่ไม่เคยนำมาสร้างประโยชน์ โดยภาครัฐ เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชน.
แนวโน้ม ด้านภัยพิบัติคือ ยิ่งนานวันไป โลกยิ่งร้อน ภูมิอากาศยิ่งเปลี่ยนแปลง ภัยพิบัติยิ่งมีมากขึ้น ทั้งคลื่นความร้อนจัด, แล้ง และน้ำท่วม ดังนั้น ประเทศไทย ยิ่งควรมี CB-SMS เพื่อใช้ประโยชน์มากขึ้น.  มีการวิเคราะห์จากข้อมูลจากสหประชาชาติ ระบุว่า ไทยติดอันดับเสี่ยงภัยพิบัติมากที่สุดลำดับที่ ๑๑ ของโลก โดยที่สำคัญคือ ภัยแล้ง และน้ำท่วม ที่มา: https://news.thaipbs.or.th/content/287430, ๒๖ ธันวาคม ๒๕๖๒.

ตัวอย่างรูปแบบการใช้ CB-SMS เพื่อเกิดประโยชน์ต่อชาติ และประชาชน: 
๑. แจ้งเตือนเหตุพิบัติภัยธรรมชาติ เช่น:
-  แจ้งเตือนมี คลื่นยักษ์ (สึนามิ) (tsunami) โดยหากมี CB-SMS ใช้ ก็สามารถทดแทนระบบการเตือนเกี่ยวกับ สินามิ เกือบทั้งหมด ทั้งประเทศ ได้อย่างสมบูรณ์ โดยไม่ต้องใช้ ระบบการแจ้งเตือนสินามิ ที่มีใช้อยู่ขณะนี้ทั้งหมด รวมหอกระจายเสียง และระบบไฟฟ้า ซึ่งข้าพเจ้าทราบจากสื่อ เมื่อหลายปีมาแล้วว่า มีหลายแห่งมาก ในหลายจังหวัด ที่อยู่ในสภาพทรุดโทรม ใช้งานไม่ได้ และยังไม่สามารถจัดหาเงินงบประมาณมาดำเนินการปรับปรุงระบบให้พร้อมดังเดิมได้ ดังนั้น หากมีสินามิมาในวันนี้ / พรุ่งนี้ ระบบการแจ้งเตือนคงไม่ได้ให้ประโยชน์เต็มที่ได้ และอาจเกิดความเสียหายต่อชีวิต และทรัพย์สินของประชาชนอีกรอบ.  ข้อดีของ CB-SMS ต่อภาครัฐ จึงมีหลายประการ เช่น ประหยัดเงินของประเทศได้อย่างมาก,ไม่ต้องยุ่งยาก ในการใช้ทรัพยากรบุคคล เพื่อสำรวจ ทำนุบำรุงรักษาอุปกรณ์ใดบนบก เป็นต้น.  อีกทั้ง การเตรียมการ และการซ้อมหนีภัยพิบัติสินามิ ยังไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายสูง เหมือนระบบที่ใช้อยู่.  ข้าพเจ้าเห็นว่า การมี CB-SMS ต่อปัญหาภัยพิบัตินี้ เป็นสิ่งจำเป็น เร่งด่วน และข้าพเจ้าจึงขอให้ มีการไต่สวนฉุกเฉิน เพื่อประโยชน์ของชาติ และประชาชน.
ระบบเตือนภัยสึนามิ ที่ไทยใช้อยู่มีข้อจำกัด ที่มีความเสื่อมของ ลำโพง และอุปกรณ์อื่น ดังมีข่าวออกสื่อ เช่น (๑) ‘หอเตือนภัย ที่ กระบี่ ไม่ดัง’ ปลายปีที่แล้ว มีสื่อใหญ่ รายงานว่า หอเตือนภัยสึนามิ ใน จ.กระบี่ ไม่ทำงานหลายหอ: เดลินิวส์รายงาน เมื่อ ธันวาคม ๒๕๖๒ ว่า สัญญาณเตือนภัย สัญญาณแจ้งเตือนภัยสึนามิ ของหอเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ หลายแห่งของ จ.กระบี่ ไม่ดัง (ที่มา: https://www.dailynews.co.th/regional/748712, ๖ พค. ๒๕๖๓); (๒) ‘เตือนภัยสึนามิฝั่งอันดามันล่ม’ ผลทดสอบสัญญาณ ๓ จังหวัดไม่พร้อม’ (ที่มา: https://www.phuketprice.com/เตือนภัยสึนามิฝั่งอั/; ๖ พค. ๒๕๖๓); (๓) ผศ.ดร.ทวิดา กมลเวชช คณบดีคณะรัฐศาสตร์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดการภัยพิบัติของประเทศไทย ซึ่งเป็นผู้วางระบบหอเตือนภัย ในจังหวัดกลุ่มอันดามัน ตั้งแต่ปี ๒๕๔๘ หลังเกิดภัยพิบัติสึนามิขึ้นในประเทศไทย เมื่อวันที่ ๒๖ ธันวาคม ๒๕๔๗ กล่าวว่า ระยะเวลาที่ผ่านมาเป็นเวลากว่า ๑๓ ปี สภาพพื้นที่ความเจริญต่างๆ วิถีชีวิตของผู้คน และบริบทโดยรอบ เปลี่ยนแปลงไป รวมทั้ง สภาพของอุปกรณ์ ที่อาจชำรุด เสื่อมสภาพ การดูแลรักษา ที่มีข้อจำกัดด้านงบประมาณ อาจมีผลทำให้ ระบบเสียงสัญญาณจากหอเตือนภัย ขาดความชัดเจน  ระดับของเสียงไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร  จึงได้เสนอให้ทางจังหวัด จัดให้มีกระบวนการทบทวนเรื่องนี้ขึ้นมาใหม่ ในฐานะที่ตนเป็นผู้วางระบบ หอเตือนภัยใน-กลุ่มจังหวัดอันดามัน (ที่มา: https://www.phuketprice.com/เตือนภัยสึนามิฝั่งอั/; ๖ พค. ๒๕๖๓)
-   ดิน / โคลน / หิน ถล่ม  (เหตุทำร้ายชีวิต และทรัพย์สิน เกิดขึ้นแทบทุกปี)
-   อุทกภัย: น้ำป่า, น้ำท่วม (เหตุทำร้ายชีวิต และทรัพย์สิน เกิดขึ้นแทบทุกปี)
 
ตัวอย่าง CB SMS จากรัฐบาลนิวซีแลนด์เพื่อประโยชน์ในการจัดการ COVID-19:




<< เนื้อหา มีต่อ ข้างล่าง >>