ปัญหาคลาสิกที่หนักอก หนักใจ ซึ่งถือเป็นปัญหาใหญ่ของหลายๆบ้าน นั่นคือเรื่องของปัญหา “น้ำรั่วซึม” โดยเฉพาะ “น้ำรั่วซึมขอบหน้าต่าง” ที่มักจะกลายเป็นปัญหาเรื้อรังถึงระดับโครงสร้าง โดยเฉพาะช่วงหน้าฝนที่น้ำฝนสาดเข้าบริเวณหน้าต่างโดยตรงจนทำให้เกิดการรั่วซึมของน้ำ ส่งผลให้เกิดเชื้อราบนเฟอร์นิเจอร์ การทรุดตัวของผนัง รวมไปถึงเป็นอันตรายต่อชีวิตได้หากจุดที่รั่วซึมนั้นอยู่ใกล้ปลั๊กไฟ ฯลฯ ซึ่งหากเจ้าของบ้านปล่อยให้ปัญหาน้ำรั่วซึมบริเวรขอบหน้าต่างมีอยู่ต่อไปเรื่อยๆ ไม่รีบแก้ไขปัญหาน้ำรั่วซึมด้วยวิธีที่ถูกต้อง แน่นอนว่า ในอนาคตจะต้องเสียค่าใช้จ่ายในการรีโนเวทซ่อมแซมสูงเลยทีเดียว เพราะฉะนั้นอย่ารอช้าให้ปัญหากลายเป็นค่าใช้จ่ายก้อนใหญ่ วันนี้
HomeGuru มีวิธีแก้ไขปัญหานี้ด้วยวิธีง่ายๆ กับวิธีช่วยแก้ปัญหาน้ำรั่วซึมขอบหน้าต่างได้ด้วยตัวคุณเอง
น้ำรั่วซึมขอบหน้าต่าง เกิดจากอะไร
1. การติดตั้งหน้าต่างอลูมิเนียมที่บกพร่อง ไม่เข้าฉาก หรือไม่ได้มุม 45 องศา
การติดตั้งที่บกพร่องทำให้เกิดรอยต่อวงกบที่ไม่แนบสนิทกับหน้าต่าง เมื่อเกิดฝนตกหนัก และสาดเข้ามาบริเวณหน้าต่าง จะทำให้น้ำฝนจะไหลไปบริเวณขอบหน้าต่าง และซึมเข้าบริเวณรอยต่อที่แนบไม่สนิทกันได้ง่าย
2. วัสดุที่ใช้ในการติดตั้ง และอุดรอยต่อเสื่อมสภาพ
การปล่อยให้วัสดุติดตั้ง และอุดรอยหมดอายุการใช้งาน หรือเลือกใช้ซิลิโคนผิดประเภท ก็สามารถทำให้เกิดการหลุดร่อนเป็นช่องว่างเล็กๆ ได้ หรือในบางบ้านที่ยึดน๊อตแน่น หรือหลวมเกินไป ก็ทำให้ขอบอลูมิเนียมแนบไม่สนิท น้ำฝนจึงสามารถเล็ดลอดเข้ามาภายในบ้านได้
3. ช่องระบายน้ำของขอบอลูมิเนียมหน้าต่างเกิดอุดตัน
การอุดตันของช่องระบายน้ำอาจเกิดจากฝุ่นละออง หรือตะกอนต่างๆ ทำให้เกิดน้ำขัง และไหลเข้ามาภายในตัวบ้าน ซึ่งสร้างความเสียหายต่อเฟอร์นิเจอร์ วอลเปเปอร์ และพื้นไม้ภายในบ้าน
4. ผนังขอบหน้าต่างแตกร้าวเป็นแนวเฉียง
รอยแตกร้าวแนวเฉียงของผนังบริเวณขอบหน้าต่างจะทำให้เกิดการรั่วซึมระหว่างแนวรอยต่อของวงกบกับผนังปูน ทำให้น้ำจากภายนอกสามารถซึมเข้ามาในบริเวณรอยแตกร้าว ส่งผลให้สีผนังภายในห้องพองบวม และเกิดการหลุดร่อนของสี
น้ำรั่วซึมขอบหน้าต่าง แก้ไขอย่างไร
1. อุดรอยน้ำรั่วซึมด้วยซิลิโคน หรือ ยาแนว
เป็นวิธีการแก้ปัญหาที่หลายๆ บ้านสามารถทำได้ด้วยตนเอง เริ่มแรกต้องสังเกตก่อนว่ารอยรั่วซึมเกิดจากภายใน หรือภายนอกอาคาร หากรอยรั่วซึมอยู่บริเวณผนังด้านนอกตัวบ้าน ควรเลือกใช้ซิลิโคนประเภทโพลียูริเทน เพราะมีความยืดหยุ่นสูง ทนความร้อน แสงแดด ป้องกันเชื้อรา และสามารถทาสีทับลงได้เลย แต่หากเลือกใช้ซิลิโคนทั่วไปๆ จะไม่สามารถทาสีทับได้ ส่วนซิลิโคนสำหรับอุดรอยรั่วซึมบริเวณขอบหน้าต่าง ควรเลือกที่เป็นกรด แม้จะมีกลิ่นเหม็น แต่มีสรรพคุณที่แห้งเร็ว และใช้งานได้ดี
เรื่องต้องรู้ก่อนอุดรอยน้ำรั่วซึมด้วยซิลิโคน
1. ก่อนการอุดซิลิโคน ควรทำความสะอาดพื้นผิวบริเวณที่เกิดรอยรั่วซึมไม่ให้มีฝุ่นก่อนด้วยฟองน้ำชุบน้ำหมาด และหากจุดดังกล่าวเคยมีการอุดซิลิโคนเก่าไว้อยู่แล้ว ควรขูดซิลิโคนเก่าที่หมดสภาพออกให้หมด แต่หากรอยรั่วซึมมีขนาดเล็กเกินไป ควรขยายรอยรั่วให้ใหญ่ขึ้นเพื่อให้ง่ายต่อการยิงซิลิโคน
2. นำเทปกาวมาติดข้างรอยรั่วซึม เพื่อเป็นแนวกั้นไม่ให้ซิลิโคนที่จะยิงเลอะเทอะไปส่วนอื่นๆ
3. การยิงซิลิโคนควรยิงให้แน่นเพื่อป้องกันการหลุดร่อน โดยสามารถใช้นิ้วมือกดซิลิโคนให้เข้าไปในร่องรอยรั่วเพื่อให้แน่นขึ้นได้ แต่ควรใส่ถุงมือป้องกันขณะยิงซิลิโคน
4. หลังจากนั้นปล่อยให้ซิลิโคนแห้ง ทั่วไปแล้วจะใช้เวลาประมาณ 24 ชั่วโมง หรือ 1 วัน ก็จะช่วยผสานรอยรั่วซึมป้องกันไม่ให้น้ำรั่วเข้ามาบริเวณหน้าต่างได้
2. เจาะรูระบายน้ำ
บริเวณขอบหน้าต่าง สามารถเจาะรูระบายน้ำ ขยายรูเพิ่มที่บริเวณฉากกันตก และด้านใต้รางของหน้าต่าง หรือทำความสะอาดฝุ่นตะกอนที่อุดอยู่บริเวณรูให้หมดไป เพื่อช่วยให้การไหลของน้ำน้ำที่ล้นสามารถระบายออกได้ง่ายขึ้น
3. ติดตั้งหลังคากันสาดบริเวณหน้าต่าง
การติดตั้งหลังคากันสาดเป็นทางออกในการป้องกันน้ำฝนที่สาดเข้ามาโดยตรงบริเวณหน้าต่าง แต่ควรคำนึงถึงน้ำหนัก และรูปแบบของกันสาดเพื่อป้องกันปัญหาโครงสร้างบ้านที่ต้องรับน้ำหนัก จะเลือกติดตั้งกันสาดแบบถาวร ที่ทำจากวัสดุเหล็กอลูมิเนียม ไวนิล โพลีคาร์บอเนต และไฟเบอร์กลาส หรือกันสาดชั่วคราวที่มีน้ำหนักเบา เช่น แบบผ้าใบ แบบมู่ลี่ม้วนไม้ไผ่ ก็ได้ตามแต่ละบ้านสะดวก และความสวยงาม หรือเลือก เปลี่ยนวงกบบานหน้าต่าง โดยเลือกใช้วัสดุที่มีมาตรฐาน และทนทานต่อสภาพอากาศ เพื่อแก้ไขปัญหาในระยะยาว
หลังจากแก้ปัญหาตามคำแนะนำข้างต้นแล้ว อย่าลืมทดสอบการรั่วซึมของขอบหน้าต่างด้วยการฉีดน้ำด้วยแรงดันประมาณ 100 Bar ไปตรงขอบกระจกและกรอบบานหน้าต่าง แนวอะคิริค และกระจก ประมาณ 15 นาที โดยฉีดน้ำให้ไปในทิศทางเดียวกับเวลาฝนสาดเข้าหน้าต่าง แล้วตรวจสอบว่าน้ำยังรั่วซึมอยู่หรือไม่ โดยจุดที่ควรทดสอบคือ ขอบกระจกกับกรอบบาน รอยต่อระหว่างวงกบกับกรอบบาน รอยต่อระหว่างวงกบกับช่องปูน รางเลื่อน และรูระบายน้ำ แนวรอยต่อ Fix Mullion และแนวรอยต่อ Coupling
สิ่งสำคัญในการแก้ไขปัญหาต่างๆภายในบ้าน โดยเฉพาะปัญหาที่เรื้อรังอย่าง น้ำรั่วซึมขอบหน้าต่าง เจ้าของบ้านควรรู้ว่าต้นตอของปัญหาว่าเกิดจากสาเหตุใด เพื่อนำไปสู่การแก้ไข และป้องกันได้ด้วยตนเองเบื้องต้น
HomeGuru by HomePro
อุ่นใจทุกเรื่องบ้านไปกับโฮมโปร และติดตามเคล็ดลับดีๆ เพื่อบ้านได้ทาง
http://bit.ly/HomeGuru_Homepro
น้ำรั่วซึมขอบหน้าต่าง แก้ไขได้ไม่ต้องง้อช่าง
ปัญหาคลาสิกที่หนักอก หนักใจ ซึ่งถือเป็นปัญหาใหญ่ของหลายๆบ้าน นั่นคือเรื่องของปัญหา “น้ำรั่วซึม” โดยเฉพาะ “น้ำรั่วซึมขอบหน้าต่าง” ที่มักจะกลายเป็นปัญหาเรื้อรังถึงระดับโครงสร้าง โดยเฉพาะช่วงหน้าฝนที่น้ำฝนสาดเข้าบริเวณหน้าต่างโดยตรงจนทำให้เกิดการรั่วซึมของน้ำ ส่งผลให้เกิดเชื้อราบนเฟอร์นิเจอร์ การทรุดตัวของผนัง รวมไปถึงเป็นอันตรายต่อชีวิตได้หากจุดที่รั่วซึมนั้นอยู่ใกล้ปลั๊กไฟ ฯลฯ ซึ่งหากเจ้าของบ้านปล่อยให้ปัญหาน้ำรั่วซึมบริเวรขอบหน้าต่างมีอยู่ต่อไปเรื่อยๆ ไม่รีบแก้ไขปัญหาน้ำรั่วซึมด้วยวิธีที่ถูกต้อง แน่นอนว่า ในอนาคตจะต้องเสียค่าใช้จ่ายในการรีโนเวทซ่อมแซมสูงเลยทีเดียว เพราะฉะนั้นอย่ารอช้าให้ปัญหากลายเป็นค่าใช้จ่ายก้อนใหญ่ วันนี้ HomeGuru มีวิธีแก้ไขปัญหานี้ด้วยวิธีง่ายๆ กับวิธีช่วยแก้ปัญหาน้ำรั่วซึมขอบหน้าต่างได้ด้วยตัวคุณเอง
น้ำรั่วซึมขอบหน้าต่าง เกิดจากอะไร
1. การติดตั้งหน้าต่างอลูมิเนียมที่บกพร่อง ไม่เข้าฉาก หรือไม่ได้มุม 45 องศา
การติดตั้งที่บกพร่องทำให้เกิดรอยต่อวงกบที่ไม่แนบสนิทกับหน้าต่าง เมื่อเกิดฝนตกหนัก และสาดเข้ามาบริเวณหน้าต่าง จะทำให้น้ำฝนจะไหลไปบริเวณขอบหน้าต่าง และซึมเข้าบริเวณรอยต่อที่แนบไม่สนิทกันได้ง่าย
2. วัสดุที่ใช้ในการติดตั้ง และอุดรอยต่อเสื่อมสภาพ
การปล่อยให้วัสดุติดตั้ง และอุดรอยหมดอายุการใช้งาน หรือเลือกใช้ซิลิโคนผิดประเภท ก็สามารถทำให้เกิดการหลุดร่อนเป็นช่องว่างเล็กๆ ได้ หรือในบางบ้านที่ยึดน๊อตแน่น หรือหลวมเกินไป ก็ทำให้ขอบอลูมิเนียมแนบไม่สนิท น้ำฝนจึงสามารถเล็ดลอดเข้ามาภายในบ้านได้
3. ช่องระบายน้ำของขอบอลูมิเนียมหน้าต่างเกิดอุดตัน
การอุดตันของช่องระบายน้ำอาจเกิดจากฝุ่นละออง หรือตะกอนต่างๆ ทำให้เกิดน้ำขัง และไหลเข้ามาภายในตัวบ้าน ซึ่งสร้างความเสียหายต่อเฟอร์นิเจอร์ วอลเปเปอร์ และพื้นไม้ภายในบ้าน
4. ผนังขอบหน้าต่างแตกร้าวเป็นแนวเฉียง
รอยแตกร้าวแนวเฉียงของผนังบริเวณขอบหน้าต่างจะทำให้เกิดการรั่วซึมระหว่างแนวรอยต่อของวงกบกับผนังปูน ทำให้น้ำจากภายนอกสามารถซึมเข้ามาในบริเวณรอยแตกร้าว ส่งผลให้สีผนังภายในห้องพองบวม และเกิดการหลุดร่อนของสี
น้ำรั่วซึมขอบหน้าต่าง แก้ไขอย่างไร
1. อุดรอยน้ำรั่วซึมด้วยซิลิโคน หรือ ยาแนว
เป็นวิธีการแก้ปัญหาที่หลายๆ บ้านสามารถทำได้ด้วยตนเอง เริ่มแรกต้องสังเกตก่อนว่ารอยรั่วซึมเกิดจากภายใน หรือภายนอกอาคาร หากรอยรั่วซึมอยู่บริเวณผนังด้านนอกตัวบ้าน ควรเลือกใช้ซิลิโคนประเภทโพลียูริเทน เพราะมีความยืดหยุ่นสูง ทนความร้อน แสงแดด ป้องกันเชื้อรา และสามารถทาสีทับลงได้เลย แต่หากเลือกใช้ซิลิโคนทั่วไปๆ จะไม่สามารถทาสีทับได้ ส่วนซิลิโคนสำหรับอุดรอยรั่วซึมบริเวณขอบหน้าต่าง ควรเลือกที่เป็นกรด แม้จะมีกลิ่นเหม็น แต่มีสรรพคุณที่แห้งเร็ว และใช้งานได้ดี
เรื่องต้องรู้ก่อนอุดรอยน้ำรั่วซึมด้วยซิลิโคน
1. ก่อนการอุดซิลิโคน ควรทำความสะอาดพื้นผิวบริเวณที่เกิดรอยรั่วซึมไม่ให้มีฝุ่นก่อนด้วยฟองน้ำชุบน้ำหมาด และหากจุดดังกล่าวเคยมีการอุดซิลิโคนเก่าไว้อยู่แล้ว ควรขูดซิลิโคนเก่าที่หมดสภาพออกให้หมด แต่หากรอยรั่วซึมมีขนาดเล็กเกินไป ควรขยายรอยรั่วให้ใหญ่ขึ้นเพื่อให้ง่ายต่อการยิงซิลิโคน
2. นำเทปกาวมาติดข้างรอยรั่วซึม เพื่อเป็นแนวกั้นไม่ให้ซิลิโคนที่จะยิงเลอะเทอะไปส่วนอื่นๆ
3. การยิงซิลิโคนควรยิงให้แน่นเพื่อป้องกันการหลุดร่อน โดยสามารถใช้นิ้วมือกดซิลิโคนให้เข้าไปในร่องรอยรั่วเพื่อให้แน่นขึ้นได้ แต่ควรใส่ถุงมือป้องกันขณะยิงซิลิโคน
4. หลังจากนั้นปล่อยให้ซิลิโคนแห้ง ทั่วไปแล้วจะใช้เวลาประมาณ 24 ชั่วโมง หรือ 1 วัน ก็จะช่วยผสานรอยรั่วซึมป้องกันไม่ให้น้ำรั่วเข้ามาบริเวณหน้าต่างได้
2. เจาะรูระบายน้ำ
บริเวณขอบหน้าต่าง สามารถเจาะรูระบายน้ำ ขยายรูเพิ่มที่บริเวณฉากกันตก และด้านใต้รางของหน้าต่าง หรือทำความสะอาดฝุ่นตะกอนที่อุดอยู่บริเวณรูให้หมดไป เพื่อช่วยให้การไหลของน้ำน้ำที่ล้นสามารถระบายออกได้ง่ายขึ้น
3. ติดตั้งหลังคากันสาดบริเวณหน้าต่าง
การติดตั้งหลังคากันสาดเป็นทางออกในการป้องกันน้ำฝนที่สาดเข้ามาโดยตรงบริเวณหน้าต่าง แต่ควรคำนึงถึงน้ำหนัก และรูปแบบของกันสาดเพื่อป้องกันปัญหาโครงสร้างบ้านที่ต้องรับน้ำหนัก จะเลือกติดตั้งกันสาดแบบถาวร ที่ทำจากวัสดุเหล็กอลูมิเนียม ไวนิล โพลีคาร์บอเนต และไฟเบอร์กลาส หรือกันสาดชั่วคราวที่มีน้ำหนักเบา เช่น แบบผ้าใบ แบบมู่ลี่ม้วนไม้ไผ่ ก็ได้ตามแต่ละบ้านสะดวก และความสวยงาม หรือเลือก เปลี่ยนวงกบบานหน้าต่าง โดยเลือกใช้วัสดุที่มีมาตรฐาน และทนทานต่อสภาพอากาศ เพื่อแก้ไขปัญหาในระยะยาว
หลังจากแก้ปัญหาตามคำแนะนำข้างต้นแล้ว อย่าลืมทดสอบการรั่วซึมของขอบหน้าต่างด้วยการฉีดน้ำด้วยแรงดันประมาณ 100 Bar ไปตรงขอบกระจกและกรอบบานหน้าต่าง แนวอะคิริค และกระจก ประมาณ 15 นาที โดยฉีดน้ำให้ไปในทิศทางเดียวกับเวลาฝนสาดเข้าหน้าต่าง แล้วตรวจสอบว่าน้ำยังรั่วซึมอยู่หรือไม่ โดยจุดที่ควรทดสอบคือ ขอบกระจกกับกรอบบาน รอยต่อระหว่างวงกบกับกรอบบาน รอยต่อระหว่างวงกบกับช่องปูน รางเลื่อน และรูระบายน้ำ แนวรอยต่อ Fix Mullion และแนวรอยต่อ Coupling
สิ่งสำคัญในการแก้ไขปัญหาต่างๆภายในบ้าน โดยเฉพาะปัญหาที่เรื้อรังอย่าง น้ำรั่วซึมขอบหน้าต่าง เจ้าของบ้านควรรู้ว่าต้นตอของปัญหาว่าเกิดจากสาเหตุใด เพื่อนำไปสู่การแก้ไข และป้องกันได้ด้วยตนเองเบื้องต้น
HomeGuru by HomePro
อุ่นใจทุกเรื่องบ้านไปกับโฮมโปร และติดตามเคล็ดลับดีๆ เพื่อบ้านได้ทาง http://bit.ly/HomeGuru_Homepro