[SR] ปัญหารั่วซึม ... ปัญหาใหญ่ ที่ไม่ใช่แค่เอากะละมังรองแบบในหนังตลก

แน่นอนว่ากระทู้นี้เป็นกระทู้ SR เพราะทางตึกเองก็ได้รับสปอนเซอร์ตัวผลิตภัณฑ์จากนิปปอนเพนต์ แต่ใช่ว่ากระทู้นี้คนอ่านจะไม่ได้อะไร เพราะผมอยากมาเล่า “ในมุมมองของช่าง” ถึงวิธีการสังเกตอาการ วิธีการดูแลรักษา รวมถึงเกร็ดเล็กเกร็ดน้อย ที่มีประโยชน์ต่อคนมีบ้าน อาคารพาณิชย์ หรือตึกแถวที่อาจกำลังประสบปัญหาน้ำรั่วซึม ทั้งที่อาจจะเกิดปัญหานี้ในอนาคตหรือกำลังประสบปัญหาแต่คุณยังไม่รู้ตัว ...ก็เป็นได้ 
   
เอาจริงๆ จากประสบการณ์ คนที่เรียกผู้รับเหมา ไม่ว่าจะเป็นงานต่อเติม งานซ่อมแซม หรือแม้แต่งานปลูกบ้าน มักจะมีความคิดอยู่ในใจ กลัวว่า “ช่างจะฟันหัวแบะ” ด้วยงบประมาณที่มักจะบานปลายและช่างมักจะบวกกำไรกับของที่ใช้ เลยอยากใช้พื้นที่ตรงนี้ อธิบายในมุมมองช่างเสียหน่อยก่อนจะเข้าเรื่องเข้าราว

- แน่นอนว่าช่างเอง ก็อาจจะแนะนำผลิตภัณฑ์บางยี่ห้อ หรือบางตัวที่ช่างคิดว่าดี ช่างมีประสบการณ์ที่ใช้แล้วรู้สึกโอเค แต่ตัวเจ้าของบ้านเองสามารถ “เลือก” ได้ครับ เลือกที่จะหาข้อมูลเพิ่มเติมก่อน ที่จะตัดสินใจซ่อมแซมบ้าน สามารถประเมินราคาของผลิตภัณฑ์แต่ละชนิดได้ จากอินเตอร์เน็ต เดี๋ยวนี้ข้อมูลการใช้งาน ไปจนถึงราคามีให้เลือกหาความรู้เยอะแยะ อย่าว่าแต่ข้อมูลเลย ในยูทูปแทบจะสอนให้คุณเป็นช่างจนพวกผมจะตกงานด้วยซ้ำ 55 เพราะฉะนั้นหาข้อมูลก่อนแล้วค่อยเลือกเชื่อ หรือถ้ายังไม่วางใจ สามารถเลือกที่จะเป็นคนซื้ออุปกรณ์ เสียแต่ค่าแรงให้ช่างก็สามารถทำได้ครับ 
- อย่างหนึ่งที่ช่างรู้สึกไม่ชอบคือ “การแก้งาน” ครับ เพราะฉะนั้นช่างมักจะแนะนำให้ทำแบบดีๆ ไปเลย งานออกมาดีช่างก็ได้รับการบอกต่อ งานออกมาไม่ดี บางอย่างอยู่ไม่ถึงตามระยะเวลาคุณสมบัติสินค้า ตรงนี้ก็เป็นช่างที่โดนด่านั่นแหละครับ งานที่ดีก็มักจะเกิดจากช่างที่มีฝีมือ + สินค้าที่มีคุณภาพนั่นแหล่ะ 


กลับสู่เรื่องเกี่ยวกับการรั่วซึมกันบ้าง ส่วนตัวทำงานผู้รับเหมามาปีนี้ก็เป็นปีที่ 20 แล้ว มีประสบการณ์เกี่ยวกับบ้านและอาคารค่อนข้างหลากหลาย ปัญหาหนึ่งที่คนมักจะเจอกันช้า หรือกว่าจะเจอก็ต้องรอถึงช่วงหน้าฝน ซึ่งบางทีก็ช้าไป นั่นก็คือ ปัญหารั่วซึม ซึ่งนอกจากจะทำให้เกิดความไม่ปลอดภัยแล้ว น้ำรั่วยังทำให้เพดานรวมถึงพื้นเกิดปัญหาตามภาพ
   
ปัญหารั่วซึม คืออะไร ? ... ตรงตัวครับ ปัญหาการรั่วซึม คือปัญหาที่น้ำ เกิดการขังและรั่วซึมตรงส่วนของเพดาน ส่วนใหญ่จะเจอปัญหากับอาคารที่มีดาดฟ้า หรือไม่ก็ตามผนังบ้านแบบมีหลังคา  ปัญหาที่รั่วเกิดจากปูนที่โดนแดดมากๆแล้วเกิดการระเหยจนหดตัว ทำให้เกิดรอยแยก เมื่อฝนตกลงมาน้ำก็จะไหลลงตามรอยแยก เมื่อปูนดูดซับน้ำจนเกิดการอิ่มตัว ก็จะรั่วซึมไปอีกด้านหนึ่ง กว่าเราจะรู้ตัว ก็เกิดการรั่วซึม หรือเกิดความเสียหายแล้ว และปัญหาการรั่วซึมบอกเลยไม่ใช่ปัญหาเล็กๆ เพราะในระยะยาวจะมีผลต่อตัวโครงสร้างอาคาร เพราะเมื่อน้ำเข้าไปขังอยู่ในปูน ก็จะทำให้เหล็กเกิดสนิม และทำให้ปูนค่อยๆ กร่อน หนักสุดก็ทำให้ปูนขาดหลุดออกมาเลยทีเดียว 
 
วิธีสังเกตที่ง่ายที่สุด? ... คือการหมั่นเช็ครอยร้าวบนดาดฟ้าอาคาร รวมถึงตามผนังของบ้าน ซึ่งหากเกิดรอยร้าว ควรเรียกช่างมาจัดการก่อนที่จะเกิดปัญหา 

กระบวนการซ่อมแซม? ... บอกเพื่อเป็นความรู้ เผื่อจะเป็นประโยชน์ในอนาคตนะครับ 

1. ช่างจะทำการขัดล้าง ในที่นี้เป็นดาดฟ้า ทำความสะอาด ขัดล้างตะไคร่ ให้สะอาด เพื่อเช็ครอยร้าวบนดาดฟ้า และเตรียมพื้นที่สำหรับการซ่อมแซม

2. เช็คท่อระบายน้ำว่ามีการอุดตันไหม เผื่อเวลาฝนตก น้ำจะได้ไม่เกิดการขัง 
3. เช็คพื้นผิวว่ามีแอ่งหรือไม่ ถ้ามี ตรงนี้ช่างก็จะทำการซ่อมแซม ลงปูนเสียก่อน เพราะแอ่งน้ำบนดาดฟ้าก็เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดการรั่วซึมเช่นกัน เพราะน้ำจะขังอยู่เป็นเวลานาน แต่หากเป็นแอ่งเล็กๆ ก็อาจจะปล่อยผ่านได้ แต่น้ำก็จะระบายช้ากว่าปกติ 
4. ใช้ นิปปอนเพนต์ วอลล์ พัตตี้ (  Nippon Paint Wall Putty) ทาตามรอยแตก เพื่อเคลือบรอยร้าว ป้องกันไม่ให้น้ำลงไปตามรอยแตกของปูน ส่วนตรงขอบก็จะยิงด้วย VT-620 โมดิฟายด์ซิลิโคนซีลแลนท์ เกรดพรีเมียม เพราะตรงขอบมักเป็นส่วนที่มีน้ำขังและลงไปตามรอยแยก
   
5. จากนั้นเตรียมพื้นผิวด้วยการทารองพื้นปูนเก่า นิปปอนเพนต์ เอ็กซ์เซล ไพร์เมอร์  ซึ่งจะช่วยเสริมการยึดเกาะพื้นผิวปูนเก่า ทำให้ตัว นิปปอนเพนต์ รูฟซีล  ยึดเกาะกับดาดฟ้าได้ดี จากนั้นรอให้แห้งประมาณ 1-2 วัน ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ
   
6. กระบวนการสุดท้ายจะเป็นการทานิปปอนเพนต์ รูฟซีล แต่เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้รูฟซีลมีแรงยึดเกาะกับพื้นผิวดียิ่งขึ้น โดยเฉพาะส่วนขอบดาดฟ้าที่มักจะมีรอยแยกจากผนัง เราจะใช้ Nippon Paint Mesh Belt ติดตามรอยก่อน จากนั้นถึงจะใช้นิปปอนเพนต์ รูฟซีลทา ซึ่งจะทาด้วยกัน 2 รอบ เหมือนสีทั่วไป โดยเที่ยวที่หนึ่งทาแนวนอนและเที่ยวที่สองทาแนวตั้ง (ก่อนทาจะมีการทำความสะอาดดาดฟ้าอีกรอบหนึ่ง) 

    

การเลือกผลิตภัณฑ์ ... การเลือกผลิตภัณฑ์มีความสำคัญมาก อย่างที่บอกไป ผลิตภัณฑ์ดีช่างไม่ดี งานก็ออกมาไม่ดี หรือต่อให้ช่างจะดี ถ้าใช้ผลิตภัณฑ์ไม่ดี งานก็ไม่ได้คุณภาพเช่นกัน เพราะฉะนั้นการเลือกผลิตภัณฑ์เป็นเรื่องสำคัญมาก สำหรับตึกนี้เจ้าของตึกใช้ตัวผลิตภัณฑ์นิปปอนเพนต์ รูฟซีล ซึ่งอันนี้ก็ถูกใจช่างนะ เพราะ

1. ในมุมช่าง ผลิตภัณฑ์ตัวนี้ เนื้อสีมันดี เนื้อสีเยอะ มีความเข้มข้น ทำให้ทาง่าย แถมยังแห้งเร็ว พูดถึงตรงนี้ หลายคนอาจสงสัยว่ามันดีต่อช่าง แล้วมันจะดีต่อเจ้าของตึกอย่างไร ต้องบอกแบบนี้ว่า งานทากันรั่วซึมส่วนใหญ่ มักจะมาหน้าฝน (เพราะกว่าเจ้าของจะรู้ตัว ก็ต้องฝนตกน้ำรั่วนั่นแหละ) เพราะฉะนั้นงานจึงจำเป็นต้องแข่งกับเวลา การได้ผลิตภัณฑ์ที่แห้งเร็ว ย่อมมีประโยชน์ ทำให้งานมันสมูท และการที่สีมีความเข้มข้น นั่นหมายความว่าช่างไม่ต้องทาหลายรอบ (เกินกว่า 2 รอบ) การที่ช่างไม่ต้องทาหลายรอบก็เป็นการประหยัดค่าสีของเจ้าของอาคารเอง

2. ในมุมเจ้าของอาคาร ตัวนิปปอนเพนต์ รูฟซีล ป้องกันน้ำรั่วซึมกว่า 5 ปี นั่นหมายความว่าคุณไม่ต้องมาเสียเวลาหรือกังวลกับปัญหาเหล่านี้ไปอีก 5 ปี ซึ่งจากประสบการณ์โดยตรง บางคนมองปัญหาเหล่านี้เป็นปัญหาเล็กๆ ก็อาจจะให้ช่างเข้ามาโป้วสี ตามรอยแยก พอปีสองปีก็กลับมารั่วอีก นอกจากนี้ตัวนิปปอนเพนต์ รูฟซีล ยังสามารถทนน้ำขังได้นานกว่า 60 วัน ด้วยอาคารบางอาคารจะมี “แอ่ง” หรือท่อระบายน้ำอาจจะระบายน้ำได้ไม่ดี การมีผลิตภัณฑ์ที่ทนน้ำขังได้นานก็ทำให้เราอุ่นใจ ยังไงน้ำก็ระเหยทันใน 60 วัน  เรื่องความยืดหยุ่นก็ไม่ต้องพูดถึง เพราะได้มากถึง 6.7 เท่า สามารถปกปิดรอยแตกร้าวสูงถึง 2 มิลลิเมตร และมีการยึดเกาะสูงกว่า มอก. กำหนด 180 % ทำให้ไม่เกิดปัญหาหลุดล่อน บวมพอง ไม่สวยงาม และสุดท้ายคือเรื่องสะท้อนแดดได้มากกว่า 93% นอกจากจะทำให้ปูนไม่เกิดอาการล่อนแล้ว ยังช่วยทำให้อาคารเย็นขึ้น ช่วยประหยัดไฟอีกด้วย 
 
ชื่อสินค้า:   นิปปอนเพนต์ รูฟซีล
คะแนน:     

SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - ได้รับสินค้าหรือบริการมาใช้รีวิวฟรี โดยไม่ต้องคืนสินค้าหรือบริการนั้น
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างแต่ได้รับผลประโยชน์อย่างอื่น เช่น บัตรกำนัล ค่าเดินทางตามจริง

    ข้อมูลเพิ่มเติม

  • ได้รับการสนับสนุนเฉพาะตัวผลิตภัณฑ์ นิปปอนเพนต์ รูฟซีล จาก นิปปอนเพนต์
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่