มาต่อจากกระทู้นี้ในภาค1
https://ppantip.com/topic/39949507/desktop
พิจารณาทั้งข้อดีข้อเสียเพราะมีคนไทยหลายคนอยากไปเป็นแรงงานที่นั้น
ภาพนายจ้างสาวชาวอาหรับเลบานอนที่มีแม่บ้านดื่มน้ำยาล้างห้องน้ำฆ่าตัวตาย
จริงๆแล้วคำว่าคีฟฟาล่า เขียน kafala แต่อ่าน คีฟฟาล่า มีความหมายในภาษาอาหรับซึ่งอ้างอิงมาจากในศาสนาอิสลามว่า
การอุปถัมภ์บุตรบุญธรรมและรวมไปถึงการเป็นเจ้าเข้าเจ้าของครอบครองแรงงานต่างชาติในหลายๆประเทศในโซนอาหรับจะใช้กฏหมายนี้
ปัจจุบันมีแรงงานต่างชาติมากมายประท้วงให้เลิกกฏคีฟฟาล่า แต่มีแค่บางประเทศเท่านั้นที่ทำสำเร็จแต่ส่วนใหญ่ประเทศอาหรับจะยังใช้อยู่
คีฟฟาล่ากำหนดให้ผู้ใช้แรงงานประเภทไม่ต้องใช้ทักษะทุกประเภทต้องมีสปอนเซอร์ภายในประเทศซึ่งมักจะเป็นนายจ้างซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบวีซ่าและสถานะทางกฎหมาย (แรงงานประเภทไม่ใช้ทักษะ) เช่น แม่บ้าน, พี่เลี้ยง, คนงานก่อสร้าง, ยาม ฯ ต่างจากแรงงานประเภทใช้ทักษะ เช่นแพทย์ พยาบาล วิศวะกร พนักงานบริษัท ฯพวกนี้คือแรงงานใช้ทักษะและจะไม่ต้องขึ้นกับผู้ดูแลเพราะถือว่าเป็นผู้มีความสามารถ
การปฏิบัติดังกล่าวได้รับการวิพากษ์วิจารณ์จากองค์กรสิทธิมนุษยชนว่าสร้างช่องโหว่ให้นายจ้างเอารัดเอาเปรียบคนงานประเภทไร้ทักษะเนื่องจากนายจ้างหลายคนมักยึดหนังสือเดินทางลูกจ้างไว้และทำให้หนีไปไหนไม่ได้แม้เวลาที่โดนนายจ้างเอาเปรียบทารุณกรรม
ภาพ เลด้า ซาป อิรานี่ อินเตอร์เน็ตไอดอลสาวชาวอาหรับเลบานอนซึ่งทารุณกรรมแม่บ้านสาววัย23
ชาวเอธิโอเปีย ไทกรีซ เบเลย์ จนเด็กสาวดื่มน้ำยาล้างห้างน้ำฆ่าตัวตาย ตามการให้ปากคำของเธอผ่านชมรมช่วยเหลือแรงงานต่างชาติ- ที่นี้เลบานอน
ภาพวีดีโอการสนทนาระหว่างเธอและชมรมช่วยเหลือผู้ถูกค้ามนุษย์ในตะวันออกกลางซึ่งฟังดูแล้วไม่สมเหตุสมผลคล้ายๆกรณีหญิงไก่ในบ้านเรา…..
นายจ้างหญิง เลด้า ซาฟ อิรานี่
ภาพแม่บ้านสาวชาวเอธิโอเปียที่ดื่มน้ำยาล้างห้องน้ำตายเพราะความกดดันจากนายจ้างสาว
นายจ้างหญิง เลด้า ซาฟ ให้การว่า
"ฉันดีกับเธอทุกอย่างปฏิบัติกับเธอเหมือนคนในครอบครัวคนหนึ่ง ฉันซื้อทั้งเสื้อผ้ารองเท้าบูท ทุกสิ่งทุกอย่างที่เธออยากได้แต่เธอก็ยังเลือกที่จะกินน้ำยาล้างห้องน้ำฆ่าตัวตายฉันก็ช่วยอะไรไม่ได้ พวกคุณกรุณาอย่าโทรมาที่เบอร์นี้อีก! "
อีกกรณีหนึ่งคือแม่บ้านชาวฟิลิปปินส์โดนเอาน้ำร้อนสาดใส่โดยมารดาของนายจ้างในประเทศซาอุดิอาระเบีย
ชายผู้แชร์ภาพการละเมิดสิทธิมนุษยชนหญิงสาวชาวฟิลิปปินส์กล่าวว่าหลังจากการแชร์ภาพนี้ในอินเตอร์เน็ตเขาได้รับความเดือดร้อนจากงานในซาอุดิอาระเบียโดยการโดนไล่ออกจากงาน ผู้แชร์คือ อาร์เนล ทาฮาล ชายฟิลิปปินส์นับถือศาสนาอิสลามที่เป็นลูกพี่ลูกน้องของเหยื่อ พาฮีม่า อัลลาไก ปาลากาซี Pahima Alagai Palacasi ที่ผิวหนังไหม้ทั่วพุพองบริเวณหลังแขนและขา
Tahal กล่าวว่าเขาโพสต์รูปภาพบน Facebook เพราะ ผมไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร แต่ผลที่ได้คือ Palacasi ที่บาดเจ็บซึ่งแต่งงานแล้วและมีลูกเล็ก ๆแล้ว สองคนจะยังคงต้องอยู่ในริยาดเพื่อค้นหาความยุติธรรม
ภาพ เลิฟลี่ อโคสต้ส บารูโล่ Lovely Acosta Barueloที่ถูกนายจ้างชาวซาอุดิอาระเบียจับขึงต้นไม้ตากแดดทำโทษ
แม่บ้านสาวชาวฟิลิปปินส์ถูกทำโทษโดยการมัดขึงกับต้นไม้ตากแดดในซาอุดิอาระเบียเนื่องจากเธอได้เช็ดทำความ
สะอาดเฟอร์นิเจอร์ราคาแพงของเจ้านายชาวซาอุแล้วนำไปตากแดดแต่เธอทิ้งไว้นานเกินไปทำให้เจ้านายมาเห็นและไม่พอใจเพราะเฟอร์นิเจอร์จะเสียหายจึงลงโทษเธอ มีการรายงานว่ามีจำนวนแรงงานหญิงทั้งเอเชียไกลและอัฟริกาที่ทำงานในตะวันออกกลางมี2.3ล้านคน แต่เกินครึ่งล้วนถูกทำร้ายทารุณกรรม
สองสามีภรรยาชาวเลบานอนที่ใส่ความแม่บ้านชาวฟิลิปปินส์วัยชรา ซาบาห์ จุมบลัท Sabah Jumblatt และ ภรรยา มิเชล ได้ตกลงทำสัญญารับแม่บ้านชาวฟิลิปปินส์มีอายุ
มาเรีย ลูซ วิแลนนูว่า มาทำงานที่บ้าน ป้ามาเรียทำงานอยู่กับบ้านพวกเขามาเป็นเวลา1ปีโดยที่ไม่ได้รับเงินเดือนเลยจนพอเธอเอ่ยปากถามนายผู้ชาย ซาบาห์ จุมบลัท นายผู้ชายก็บอกกับเธอว่าให้รอจนเขาขายบ้านหลังเก่าได้เงิน250000 ดอลล่าเสียก่อนซึ่งหญิงชราก็รอตามนั้นจนกระทั้งเวลาผ่านไปจนเดือนธันวาคมปลายปีที่ไม่ได้รับเงินเดือนเลย เธอถามนายผู้ชายอีกครั้งถึงเงินเดือนเพราะก็เห็นว่านายผู้ชายขายบ้านมาได้นานแล้ว
ซึ่งคำตอบที่ได้คือ รออีกสองวันแล้วเดี๋ยวฉันจะให้
แต่ปรากฏว่าในเช้าวันถัดมาคุณนายภรรยาของนายผู้ชายก็เข้ามาในบ้านพร้อมร้องถามหาหมวกของเธอและกล่องใบหนึ่ง ป้ามาเรียก็ตอบว่า ทุกอย่างอยู่ในห้องนี้คะมาดาม…… แต่แล้วคุณนายก็บอกเธอว่าเสื้อคลุมของเธอสองตัวราคา7000ดอลล่าได้หายไป
ภาพคุณนายใจโหดที่ม
ทารุณป้าแม่บ้านชาวฟิลิปปินส์
ป้ามาเรียตอบคุณนายไปว่าเธอไม่ได้เป็นคนขโมยแน่นอนเพราะแค่ออกจากบ้านไปไหนก็ยังไม่ได้เลยจะเอาชุดเสื้อโคทที่ว่าไปทำอะไร….. คุณนายกลับกล่าวหาเธอและมาพร้อมกับผู้ชายคนหนึ่งที่คุณนายอ้างว่าเป็นตำรวจนอกเครื่องแบบที่ขู่ว่าถ้าเธอไม่คืนเงิน7000ดอลล่าค่าเสื้อโคทที่ขโมยไปเธอจะต้องติดคุก10ปี….. ป้ามาเรียร้องไห้ฟูมฟายแล้วบอกคุณนายว่า
"คุณนายจะไม่จ่ายค่าจ้างอย่างไรฉันไม่เอาก็ได้ แต่อย่าให้เธอติดคุกเลย" แต่ชายคนที่คุณนายอ้างว่าเป็นตำรวจก็จะจับเข้าคุกให้ได้ หญิงชราจึงวิ่งหนีขึ้นไปที่ระเบียงชั้นบนเพื่อจะกระโดดลงมาเพราะเธอไม่สามารถทนความกดดันได้อีกต่อไป ทั้งพูดกันคนละภาษา ไม่รู้จักใครซ้ำยังโดนใส่ร้ายอีก
ชายที่อ้างเป็นตำรวจที่คุณนายพามาช่วยกันกับคุณนายยึดป้ามาเรียไว้ และคุณนายก็เดินมาตบเธอหลังจากนั่นนายผู้ชาย ซาบาห์ Sabah Jumblath ก็ปรากฏตัวขึ้นและตรงเข้ามาใช้กำปั้นทุบที่หัวของป้ามาเรียสองสามครั้งและที่กกหู จนเธอหูไม่ดีเรื่อยมาตั้งแต่ตอนนั้น
พวกเขาพาเธอไปสถานีตำรวจและติดคุกอยู่ที่นั้นเธอได้ร้องขอให้กรมแรงงานเข้ามาตรวจสอบเรื่องนี้โดยให้คุณนายโชว์ใบเสร็จเสื้อโคทที่ว่าราคา7000ดอลล่าซึ่งก็ไม่มีจริงตามที่คุณนายกล่าวอ้าง….. ปัจจุบันหญิงชราคนนี้ได้รับการช่วยเหลือและกลับไปยังประเทศของเธอ
คีฟฟาล่า กฏหมายเปลี่ยนคนให้เป็นทาสในแดนอาหรับภาคจบ
https://ppantip.com/topic/39949507/desktop
พิจารณาทั้งข้อดีข้อเสียเพราะมีคนไทยหลายคนอยากไปเป็นแรงงานที่นั้น
ภาพนายจ้างสาวชาวอาหรับเลบานอนที่มีแม่บ้านดื่มน้ำยาล้างห้องน้ำฆ่าตัวตาย
จริงๆแล้วคำว่าคีฟฟาล่า เขียน kafala แต่อ่าน คีฟฟาล่า มีความหมายในภาษาอาหรับซึ่งอ้างอิงมาจากในศาสนาอิสลามว่า
การอุปถัมภ์บุตรบุญธรรมและรวมไปถึงการเป็นเจ้าเข้าเจ้าของครอบครองแรงงานต่างชาติในหลายๆประเทศในโซนอาหรับจะใช้กฏหมายนี้
ปัจจุบันมีแรงงานต่างชาติมากมายประท้วงให้เลิกกฏคีฟฟาล่า แต่มีแค่บางประเทศเท่านั้นที่ทำสำเร็จแต่ส่วนใหญ่ประเทศอาหรับจะยังใช้อยู่
คีฟฟาล่ากำหนดให้ผู้ใช้แรงงานประเภทไม่ต้องใช้ทักษะทุกประเภทต้องมีสปอนเซอร์ภายในประเทศซึ่งมักจะเป็นนายจ้างซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบวีซ่าและสถานะทางกฎหมาย (แรงงานประเภทไม่ใช้ทักษะ) เช่น แม่บ้าน, พี่เลี้ยง, คนงานก่อสร้าง, ยาม ฯ ต่างจากแรงงานประเภทใช้ทักษะ เช่นแพทย์ พยาบาล วิศวะกร พนักงานบริษัท ฯพวกนี้คือแรงงานใช้ทักษะและจะไม่ต้องขึ้นกับผู้ดูแลเพราะถือว่าเป็นผู้มีความสามารถ
การปฏิบัติดังกล่าวได้รับการวิพากษ์วิจารณ์จากองค์กรสิทธิมนุษยชนว่าสร้างช่องโหว่ให้นายจ้างเอารัดเอาเปรียบคนงานประเภทไร้ทักษะเนื่องจากนายจ้างหลายคนมักยึดหนังสือเดินทางลูกจ้างไว้และทำให้หนีไปไหนไม่ได้แม้เวลาที่โดนนายจ้างเอาเปรียบทารุณกรรม
ภาพ เลด้า ซาป อิรานี่ อินเตอร์เน็ตไอดอลสาวชาวอาหรับเลบานอนซึ่งทารุณกรรมแม่บ้านสาววัย23
ชาวเอธิโอเปีย ไทกรีซ เบเลย์ จนเด็กสาวดื่มน้ำยาล้างห้างน้ำฆ่าตัวตาย ตามการให้ปากคำของเธอผ่านชมรมช่วยเหลือแรงงานต่างชาติ- ที่นี้เลบานอน
ภาพวีดีโอการสนทนาระหว่างเธอและชมรมช่วยเหลือผู้ถูกค้ามนุษย์ในตะวันออกกลางซึ่งฟังดูแล้วไม่สมเหตุสมผลคล้ายๆกรณีหญิงไก่ในบ้านเรา…..
นายจ้างหญิง เลด้า ซาฟ อิรานี่
ภาพแม่บ้านสาวชาวเอธิโอเปียที่ดื่มน้ำยาล้างห้องน้ำตายเพราะความกดดันจากนายจ้างสาว
นายจ้างหญิง เลด้า ซาฟ ให้การว่า
"ฉันดีกับเธอทุกอย่างปฏิบัติกับเธอเหมือนคนในครอบครัวคนหนึ่ง ฉันซื้อทั้งเสื้อผ้ารองเท้าบูท ทุกสิ่งทุกอย่างที่เธออยากได้แต่เธอก็ยังเลือกที่จะกินน้ำยาล้างห้องน้ำฆ่าตัวตายฉันก็ช่วยอะไรไม่ได้ พวกคุณกรุณาอย่าโทรมาที่เบอร์นี้อีก! "
อีกกรณีหนึ่งคือแม่บ้านชาวฟิลิปปินส์โดนเอาน้ำร้อนสาดใส่โดยมารดาของนายจ้างในประเทศซาอุดิอาระเบีย
ชายผู้แชร์ภาพการละเมิดสิทธิมนุษยชนหญิงสาวชาวฟิลิปปินส์กล่าวว่าหลังจากการแชร์ภาพนี้ในอินเตอร์เน็ตเขาได้รับความเดือดร้อนจากงานในซาอุดิอาระเบียโดยการโดนไล่ออกจากงาน ผู้แชร์คือ อาร์เนล ทาฮาล ชายฟิลิปปินส์นับถือศาสนาอิสลามที่เป็นลูกพี่ลูกน้องของเหยื่อ พาฮีม่า อัลลาไก ปาลากาซี Pahima Alagai Palacasi ที่ผิวหนังไหม้ทั่วพุพองบริเวณหลังแขนและขา
Tahal กล่าวว่าเขาโพสต์รูปภาพบน Facebook เพราะ ผมไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร แต่ผลที่ได้คือ Palacasi ที่บาดเจ็บซึ่งแต่งงานแล้วและมีลูกเล็ก ๆแล้ว สองคนจะยังคงต้องอยู่ในริยาดเพื่อค้นหาความยุติธรรม
ภาพ เลิฟลี่ อโคสต้ส บารูโล่ Lovely Acosta Barueloที่ถูกนายจ้างชาวซาอุดิอาระเบียจับขึงต้นไม้ตากแดดทำโทษ
แม่บ้านสาวชาวฟิลิปปินส์ถูกทำโทษโดยการมัดขึงกับต้นไม้ตากแดดในซาอุดิอาระเบียเนื่องจากเธอได้เช็ดทำความ
สะอาดเฟอร์นิเจอร์ราคาแพงของเจ้านายชาวซาอุแล้วนำไปตากแดดแต่เธอทิ้งไว้นานเกินไปทำให้เจ้านายมาเห็นและไม่พอใจเพราะเฟอร์นิเจอร์จะเสียหายจึงลงโทษเธอ มีการรายงานว่ามีจำนวนแรงงานหญิงทั้งเอเชียไกลและอัฟริกาที่ทำงานในตะวันออกกลางมี2.3ล้านคน แต่เกินครึ่งล้วนถูกทำร้ายทารุณกรรม
สองสามีภรรยาชาวเลบานอนที่ใส่ความแม่บ้านชาวฟิลิปปินส์วัยชรา ซาบาห์ จุมบลัท Sabah Jumblatt และ ภรรยา มิเชล ได้ตกลงทำสัญญารับแม่บ้านชาวฟิลิปปินส์มีอายุ
มาเรีย ลูซ วิแลนนูว่า มาทำงานที่บ้าน ป้ามาเรียทำงานอยู่กับบ้านพวกเขามาเป็นเวลา1ปีโดยที่ไม่ได้รับเงินเดือนเลยจนพอเธอเอ่ยปากถามนายผู้ชาย ซาบาห์ จุมบลัท นายผู้ชายก็บอกกับเธอว่าให้รอจนเขาขายบ้านหลังเก่าได้เงิน250000 ดอลล่าเสียก่อนซึ่งหญิงชราก็รอตามนั้นจนกระทั้งเวลาผ่านไปจนเดือนธันวาคมปลายปีที่ไม่ได้รับเงินเดือนเลย เธอถามนายผู้ชายอีกครั้งถึงเงินเดือนเพราะก็เห็นว่านายผู้ชายขายบ้านมาได้นานแล้ว
ซึ่งคำตอบที่ได้คือ รออีกสองวันแล้วเดี๋ยวฉันจะให้
แต่ปรากฏว่าในเช้าวันถัดมาคุณนายภรรยาของนายผู้ชายก็เข้ามาในบ้านพร้อมร้องถามหาหมวกของเธอและกล่องใบหนึ่ง ป้ามาเรียก็ตอบว่า ทุกอย่างอยู่ในห้องนี้คะมาดาม…… แต่แล้วคุณนายก็บอกเธอว่าเสื้อคลุมของเธอสองตัวราคา7000ดอลล่าได้หายไป
ภาพคุณนายใจโหดที่ม
ทารุณป้าแม่บ้านชาวฟิลิปปินส์
ป้ามาเรียตอบคุณนายไปว่าเธอไม่ได้เป็นคนขโมยแน่นอนเพราะแค่ออกจากบ้านไปไหนก็ยังไม่ได้เลยจะเอาชุดเสื้อโคทที่ว่าไปทำอะไร….. คุณนายกลับกล่าวหาเธอและมาพร้อมกับผู้ชายคนหนึ่งที่คุณนายอ้างว่าเป็นตำรวจนอกเครื่องแบบที่ขู่ว่าถ้าเธอไม่คืนเงิน7000ดอลล่าค่าเสื้อโคทที่ขโมยไปเธอจะต้องติดคุก10ปี….. ป้ามาเรียร้องไห้ฟูมฟายแล้วบอกคุณนายว่า
"คุณนายจะไม่จ่ายค่าจ้างอย่างไรฉันไม่เอาก็ได้ แต่อย่าให้เธอติดคุกเลย" แต่ชายคนที่คุณนายอ้างว่าเป็นตำรวจก็จะจับเข้าคุกให้ได้ หญิงชราจึงวิ่งหนีขึ้นไปที่ระเบียงชั้นบนเพื่อจะกระโดดลงมาเพราะเธอไม่สามารถทนความกดดันได้อีกต่อไป ทั้งพูดกันคนละภาษา ไม่รู้จักใครซ้ำยังโดนใส่ร้ายอีก
ชายที่อ้างเป็นตำรวจที่คุณนายพามาช่วยกันกับคุณนายยึดป้ามาเรียไว้ และคุณนายก็เดินมาตบเธอหลังจากนั่นนายผู้ชาย ซาบาห์ Sabah Jumblath ก็ปรากฏตัวขึ้นและตรงเข้ามาใช้กำปั้นทุบที่หัวของป้ามาเรียสองสามครั้งและที่กกหู จนเธอหูไม่ดีเรื่อยมาตั้งแต่ตอนนั้น
พวกเขาพาเธอไปสถานีตำรวจและติดคุกอยู่ที่นั้นเธอได้ร้องขอให้กรมแรงงานเข้ามาตรวจสอบเรื่องนี้โดยให้คุณนายโชว์ใบเสร็จเสื้อโคทที่ว่าราคา7000ดอลล่าซึ่งก็ไม่มีจริงตามที่คุณนายกล่าวอ้าง….. ปัจจุบันหญิงชราคนนี้ได้รับการช่วยเหลือและกลับไปยังประเทศของเธอ