สืบเนื่องจากกระทู้รีวิวยาง Toyo Proxes C1S ที่ผมเพิ่งปลดประจำการเมื่อวานครับ (อ่านต่อ
https://ppantip.com/topic/39945998/) ระหว่างเปลี่ยนยางอยู่นั้น ผมก็มี side story อีก 1 เรื่องก็คือ เรื่องน้ำหนักของยางแต่ละเส้นครับ โดยการทดลองนี้ผมจะนำยางไซส์เดียวกันคือ 195/55/15 ที่ต่างยี่ห้อ ต่างรุ่น มาลองชั่งน้ำหนักเปรียบเทียบกันครับ ..
ก่อนอื่น ผมไปเจอบทความที่กล่าวถึงส่วนประกอบของยางรถยนต์ว่าผลิตจากวัสดุอะไรบ้าง โครงสร้างยางแต่ละชั้นมีอะไรบ้าง รวมถึงส่วนประกอบของดอกยางครับ ถ้าสนใจสามารถกดเข้าไปอ่านตามลิงก์นี้ได้เลยครับ ..
https://shorturl.at/uLVXY
อันดับแรก ผมขอชั่งยางที่ผมเพิ่งเปลี่ยนออกไปก่อนนะครับ ใช้มาแล้ว 5 หมื่นกว่าโล (1 ปี 10 เดือน) สภาพประมาณนี้..
1. Toyo Proxes C1S 195/65/15 (ผ่านการใช้งานแล้ว) หนัก 9.1 กก.
เส้นต่อมาคือยางที่ผมเพิ่งเปลี่ยนใส่แทนเส้นเก่าครับ ..
2. Apollo Alnac 4G 195/60/15 หนัก 9.2 กก. (ใช่ครับ ไซส์เล็กกว่า แต่หนักกว่าเสียอีก)
ต่อไปจะเป็นยางที่ผมตั้งใจเอาแต่ละยี่ห้อ/รุ่นมาชั่งเทียบกัน โดยทุกเส้นจะเป็นขนาด 195/55/15 นะครับ เริ่มจาก ..
3. Apollo Alnac 4G หนัก 7.4 กก. (ไซส์เล็กกว่าตัวบนไซส์เดียว แต่เบากว่าตั้ง 1.8 กก.!!)
หมายเหตุ เพื่อนผม ก็เปลี่ยนยางรุ่นนี้ไซส์นี้ แต่ชั่งได้ 8.2 กก. ครับ ไม่รู้ว่าคลาดเคลื่อนเพราะเครื่องชั่ง หรือมองลึกลงไปกว่านั้น ยางแต่ละเส้นหนักไม่เท่ากันอีกหรือเปล่านะ!
(รูปจาก Lazada)
4. Continental ComfortContact CC6 หนัก 7.6 กก.
(รูปจาก
https://www.continental.co.th/car/tires/comfortcontactcc6)
5. Dayton DT30 หนัก 7.6 กก.
(รูปจาก Lazada)
6. Goodride SA57 หนัก 7.9 กก.
(รูปจาก
http://www.goodridetire.com/index.php/products/info/sa-57/214)
7. Goodyear Assurance Duraplus 2 หนัก 7.1 กก.
(รูปจาก Lazada)
8. Goodyear Assurance TripleMax หนัก 8.0 กก.
(รูปจาก Lazada)
9. Goodyear Eagle F1 Directional 5 หนัก 8.8 กก.
(รูปจาก Lazada)
10. Michelin Pilot Sport 3 หนัก 8.9 กก.
(รูปจาก Lazada)
11. Toyo Proxes TR1 หนัก 8.0 กก.
(รูปจาก Lazada)
ขอสรุปตัวเลขน้ำหนักออกมาเป็นตาราง จะได้ง่ายต่อการเปรียบเทียบนะครับ ซึ่งในช่อง Type ผมใส่ตามความเข้าใจของผมเอง โดยพิจารณาจากคำโฆษณาจากเวบไซต์ผู้ผลิต ..
- Eco/Mileage: เน้นประหยัดน้ำมัน หรือการใช้งานยาวนาน มีไซส์แก้มยางทั้งบางและหนา 60 65 ด้วย
- Comfort: เน้นนุ่มเงียบ ไม่ได้เน้นประหยัดน้ำมันหรือใช้งานได้นาน มีไซส์แก้มยางทั้งบางและหนา 60 65 ด้วย
- Sport: เน้นการยึดเกาะทั้งทางแห้งและทางเปียก ไม่แคร์ความนุ่มความเงียบ มีแต่ไซส์แก้มยางบางๆ 50 55 เท่านั้น
พิจารณาจากล้อขอบ 15 นะครับ อย่างที่บอกผมใส่ตามความเข้าใจของผมเอง ถ้าจะดูให้ลึกซึ้งคงต้องไปดูถึงสเปค ลายดอกยาง ค่า Treadwear และอื่นๆซึ่งอาจจะนอกเหนือจากเรื่องที่เราสนใจมากเกินไป ยังไงถ้ามีรุ่นไหนผมเข้าใจผิด จัดไว้ผิดประเภทต้องขออภัย ณ ที่นี้ด้วยครับ
สรุปข้อมูลจากตาราง
1. ยางไซส์เดียวกัน น้ำหนักอาจต่างกันได้ถึง 1.8 กก.; (7) Assurance Duraplus หนักเพียง 7.1 กก. ในขณะที่ (10) Pilot Sport 3 หนักถึง 8.9 กก.
2. ยางไซส์เล็กกว่าไม่ได้เบากว่ายางไซส์ใหญ่กว่าเสมอไป; (2) Alnac 4G หนักตั้ง 9.2 กก. แต่ (1) Proxes C1S (ใช้งานแล้ว) หนักเพียง 9.1 กก.
3. ยางในกลุ่ม Sport มีแนวโน้มจะมีน้ำหนักมากที่สุด ตามด้วยกลุ่ม Comfort และยาง Eco/Mileage ตามลำดับ
* เพิ่มเติม ยางไซส์เดียวกัน แต่พอเอามาวางเทียบกันจริงๆ ความกว้างความสูงไม่ได้เท่ากันเป๊ะๆแบบมองด้วยตาเปล่าก็รู้ได้เลยครับ บางรุ่นดูแคบและสูงโย่ง บางรุ่นดูแบนและกว้างกว่า เพราะฉะนั้นสเปคที่แก้มยางเป็นเพียงการบอกค่าคร่าวๆเท่านั้นเอง ขนาดจริงต้องมาวัดกันอีกทีว่า overspec หรือ underspec หรือเปล่าครับ
แล้วน้ำหนักยาง มีผลอะไร?
ผมเคยทำรีวิวทดสอบล้อเบาไว้เมื่อนานมาแล้ว (อ่านต่อ ..
https://ppantip.com/topic/35052580) ถึงแม้ครั้งนี้ผมจะไม่ได้เอารถไปขึ้นไดโนวัดแรงม้า ไม่ได้ทดสอบอัตราเร่ง 0-100 0-180 และไม่ได้ขับทดสอบอัตราการกินน้ำมันจริงๆ แต่ก็พอเดาได้ว่าผลลัพธ์น่าจะเป็นไปในทางเดียวกัน ก็คือ การใส่ยางเบาลงไม่ได้ทำให้แรงม้าหรืออัตราการกินน้ำมันเมื่อขับรถนอกเมืองดีขึ้น แต่มีผลต่ออัตราเร่งความเร็วของรถครับ นั่นคือถ้าจับไปทดสอบ 0-100 และ 0-180 น่าจะได้ตัวเลขที่ดีขึ้น (ในกรณีที่ยางเกาะถนนได้ดีเท่ากันนะครับ) นั่นก็เพราะรถเปลืองแรงบิดน้อยกว่าในการทำให้ล้อหมุนนั่นเอง (แถมน้ำหนักของยางเป็นน้ำหนักตรงบริเวณขอบนอกของจุดหมุน มีผลมากกว่าล้อซึ่งเป็นน้ำหนักบริเวณไกล้กับกลางจุดหมุนด้วยครับ)
นอกจากอัตราเร่งแล้ว ยังมีผลในเรื่องระยะเบรคด้วย เพราะยางเบาลงทำให้วงล้อทั้งวงน้ำหนักลดลง แรงเฉื่อยก็ลดลง ระยะเบรคก็น่าจะสั้นลงอีกนิดด้วย (ในกรณีที่ยางเกาะถนนได้ดีเท่ากันนะครับ) แต่อาจจะไม่ชัดเจนเท่าตอนเร่งนะครับ สรุปคือ เลือกใช้ยางที่น้ำหนักเบากว่าก็มีแนวโน้มว่าจะมีข้อดีมากกว่า แต่อย่างไรก็ตาม อย่าลืมเรื่องประสิทธิภาพการยึดเกาะถนนและการรีดน้ำ ซึ่งมีผลต่อความปลอดภัยมากกว่าเรื่องน้ำหนักของยางอีกครับ ..
สุดท้ายนี้ หวังว่าสิ่งที่ผมได้แบ่งปันจะเป็นประโยชน์สำหรับท่านที่สนใจนะครับ หากมีสิ่งใดผิดพลาดโดยความตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ มีการใช้คำผิดหรือคำไม่สุภาพ ผมต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับ ..
Credit: ขอขอบคุณร้าน StreetMax สายไหม ที่ช่วยอนุเคราะห์สถานที่และช่วยบริการจัดหายางมาให้ผมทดสอบในครั้งนี้ครับ
(รีวิวนี้ไม่มีการเตรียมการกับทางร้านมาก่อน ผมเพิ่งไปร้านนี้ครั้งแรก เจอกับพี่เจ้าของร้านครั้งแรก และตัวผู้รีวิวไม่ได้รับส่วนลดหรือของแถมใดๆตอบแทนจากทางร้านที่นอกนอกเหนือจากลูกค้าท่านอื่นครับ)
ฝากติดตามผลงานที่เพจ Need For Slow ด้วยครับ:
https://www.facebook.com/Needforslow247/
[CR] รีวิวสามัญชน: เมื่อผมเอายาง 195/55/15 แต่ละรุ่นมาชั่งเทียบกัน น้ำหนักมันต่างกันขนาดนี้เลยหรอ?!
ก่อนอื่น ผมไปเจอบทความที่กล่าวถึงส่วนประกอบของยางรถยนต์ว่าผลิตจากวัสดุอะไรบ้าง โครงสร้างยางแต่ละชั้นมีอะไรบ้าง รวมถึงส่วนประกอบของดอกยางครับ ถ้าสนใจสามารถกดเข้าไปอ่านตามลิงก์นี้ได้เลยครับ .. https://shorturl.at/uLVXY
อันดับแรก ผมขอชั่งยางที่ผมเพิ่งเปลี่ยนออกไปก่อนนะครับ ใช้มาแล้ว 5 หมื่นกว่าโล (1 ปี 10 เดือน) สภาพประมาณนี้..
1. Toyo Proxes C1S 195/65/15 (ผ่านการใช้งานแล้ว) หนัก 9.1 กก.
เส้นต่อมาคือยางที่ผมเพิ่งเปลี่ยนใส่แทนเส้นเก่าครับ ..
2. Apollo Alnac 4G 195/60/15 หนัก 9.2 กก. (ใช่ครับ ไซส์เล็กกว่า แต่หนักกว่าเสียอีก)
ต่อไปจะเป็นยางที่ผมตั้งใจเอาแต่ละยี่ห้อ/รุ่นมาชั่งเทียบกัน โดยทุกเส้นจะเป็นขนาด 195/55/15 นะครับ เริ่มจาก ..
3. Apollo Alnac 4G หนัก 7.4 กก. (ไซส์เล็กกว่าตัวบนไซส์เดียว แต่เบากว่าตั้ง 1.8 กก.!!)
หมายเหตุ เพื่อนผม ก็เปลี่ยนยางรุ่นนี้ไซส์นี้ แต่ชั่งได้ 8.2 กก. ครับ ไม่รู้ว่าคลาดเคลื่อนเพราะเครื่องชั่ง หรือมองลึกลงไปกว่านั้น ยางแต่ละเส้นหนักไม่เท่ากันอีกหรือเปล่านะ!
(รูปจาก Lazada)
4. Continental ComfortContact CC6 หนัก 7.6 กก.
(รูปจาก https://www.continental.co.th/car/tires/comfortcontactcc6)
5. Dayton DT30 หนัก 7.6 กก.
(รูปจาก Lazada)
6. Goodride SA57 หนัก 7.9 กก.
(รูปจาก http://www.goodridetire.com/index.php/products/info/sa-57/214)
7. Goodyear Assurance Duraplus 2 หนัก 7.1 กก.
(รูปจาก Lazada)
8. Goodyear Assurance TripleMax หนัก 8.0 กก.
(รูปจาก Lazada)
9. Goodyear Eagle F1 Directional 5 หนัก 8.8 กก.
(รูปจาก Lazada)
10. Michelin Pilot Sport 3 หนัก 8.9 กก.
(รูปจาก Lazada)
11. Toyo Proxes TR1 หนัก 8.0 กก.
(รูปจาก Lazada)
ขอสรุปตัวเลขน้ำหนักออกมาเป็นตาราง จะได้ง่ายต่อการเปรียบเทียบนะครับ ซึ่งในช่อง Type ผมใส่ตามความเข้าใจของผมเอง โดยพิจารณาจากคำโฆษณาจากเวบไซต์ผู้ผลิต ..
- Eco/Mileage: เน้นประหยัดน้ำมัน หรือการใช้งานยาวนาน มีไซส์แก้มยางทั้งบางและหนา 60 65 ด้วย
- Comfort: เน้นนุ่มเงียบ ไม่ได้เน้นประหยัดน้ำมันหรือใช้งานได้นาน มีไซส์แก้มยางทั้งบางและหนา 60 65 ด้วย
- Sport: เน้นการยึดเกาะทั้งทางแห้งและทางเปียก ไม่แคร์ความนุ่มความเงียบ มีแต่ไซส์แก้มยางบางๆ 50 55 เท่านั้น
พิจารณาจากล้อขอบ 15 นะครับ อย่างที่บอกผมใส่ตามความเข้าใจของผมเอง ถ้าจะดูให้ลึกซึ้งคงต้องไปดูถึงสเปค ลายดอกยาง ค่า Treadwear และอื่นๆซึ่งอาจจะนอกเหนือจากเรื่องที่เราสนใจมากเกินไป ยังไงถ้ามีรุ่นไหนผมเข้าใจผิด จัดไว้ผิดประเภทต้องขออภัย ณ ที่นี้ด้วยครับ
สรุปข้อมูลจากตาราง
1. ยางไซส์เดียวกัน น้ำหนักอาจต่างกันได้ถึง 1.8 กก.; (7) Assurance Duraplus หนักเพียง 7.1 กก. ในขณะที่ (10) Pilot Sport 3 หนักถึง 8.9 กก.
2. ยางไซส์เล็กกว่าไม่ได้เบากว่ายางไซส์ใหญ่กว่าเสมอไป; (2) Alnac 4G หนักตั้ง 9.2 กก. แต่ (1) Proxes C1S (ใช้งานแล้ว) หนักเพียง 9.1 กก.
3. ยางในกลุ่ม Sport มีแนวโน้มจะมีน้ำหนักมากที่สุด ตามด้วยกลุ่ม Comfort และยาง Eco/Mileage ตามลำดับ
* เพิ่มเติม ยางไซส์เดียวกัน แต่พอเอามาวางเทียบกันจริงๆ ความกว้างความสูงไม่ได้เท่ากันเป๊ะๆแบบมองด้วยตาเปล่าก็รู้ได้เลยครับ บางรุ่นดูแคบและสูงโย่ง บางรุ่นดูแบนและกว้างกว่า เพราะฉะนั้นสเปคที่แก้มยางเป็นเพียงการบอกค่าคร่าวๆเท่านั้นเอง ขนาดจริงต้องมาวัดกันอีกทีว่า overspec หรือ underspec หรือเปล่าครับ
แล้วน้ำหนักยาง มีผลอะไร?
ผมเคยทำรีวิวทดสอบล้อเบาไว้เมื่อนานมาแล้ว (อ่านต่อ .. https://ppantip.com/topic/35052580) ถึงแม้ครั้งนี้ผมจะไม่ได้เอารถไปขึ้นไดโนวัดแรงม้า ไม่ได้ทดสอบอัตราเร่ง 0-100 0-180 และไม่ได้ขับทดสอบอัตราการกินน้ำมันจริงๆ แต่ก็พอเดาได้ว่าผลลัพธ์น่าจะเป็นไปในทางเดียวกัน ก็คือ การใส่ยางเบาลงไม่ได้ทำให้แรงม้าหรืออัตราการกินน้ำมันเมื่อขับรถนอกเมืองดีขึ้น แต่มีผลต่ออัตราเร่งความเร็วของรถครับ นั่นคือถ้าจับไปทดสอบ 0-100 และ 0-180 น่าจะได้ตัวเลขที่ดีขึ้น (ในกรณีที่ยางเกาะถนนได้ดีเท่ากันนะครับ) นั่นก็เพราะรถเปลืองแรงบิดน้อยกว่าในการทำให้ล้อหมุนนั่นเอง (แถมน้ำหนักของยางเป็นน้ำหนักตรงบริเวณขอบนอกของจุดหมุน มีผลมากกว่าล้อซึ่งเป็นน้ำหนักบริเวณไกล้กับกลางจุดหมุนด้วยครับ)
นอกจากอัตราเร่งแล้ว ยังมีผลในเรื่องระยะเบรคด้วย เพราะยางเบาลงทำให้วงล้อทั้งวงน้ำหนักลดลง แรงเฉื่อยก็ลดลง ระยะเบรคก็น่าจะสั้นลงอีกนิดด้วย (ในกรณีที่ยางเกาะถนนได้ดีเท่ากันนะครับ) แต่อาจจะไม่ชัดเจนเท่าตอนเร่งนะครับ สรุปคือ เลือกใช้ยางที่น้ำหนักเบากว่าก็มีแนวโน้มว่าจะมีข้อดีมากกว่า แต่อย่างไรก็ตาม อย่าลืมเรื่องประสิทธิภาพการยึดเกาะถนนและการรีดน้ำ ซึ่งมีผลต่อความปลอดภัยมากกว่าเรื่องน้ำหนักของยางอีกครับ ..
สุดท้ายนี้ หวังว่าสิ่งที่ผมได้แบ่งปันจะเป็นประโยชน์สำหรับท่านที่สนใจนะครับ หากมีสิ่งใดผิดพลาดโดยความตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ มีการใช้คำผิดหรือคำไม่สุภาพ ผมต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับ ..
Credit: ขอขอบคุณร้าน StreetMax สายไหม ที่ช่วยอนุเคราะห์สถานที่และช่วยบริการจัดหายางมาให้ผมทดสอบในครั้งนี้ครับ
(รีวิวนี้ไม่มีการเตรียมการกับทางร้านมาก่อน ผมเพิ่งไปร้านนี้ครั้งแรก เจอกับพี่เจ้าของร้านครั้งแรก และตัวผู้รีวิวไม่ได้รับส่วนลดหรือของแถมใดๆตอบแทนจากทางร้านที่นอกนอกเหนือจากลูกค้าท่านอื่นครับ)
ฝากติดตามผลงานที่เพจ Need For Slow ด้วยครับ:
https://www.facebook.com/Needforslow247/
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้