Agust D - D2 : การเติบโตของความรู้สึก

 
ก่อนที่จะเปิดฟัง D2 เราได้กลับไปฟัง AgustD ก่อนอีกรอบ เพื่อเป็นการย้อนกลับไปมองเมื่อ4ปีที่แล้ว ว่าตลอดระยะเวลานั้น มีการเติบโตหรือเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรบ้าง ก่อนที่จะมาถึงMixtapeล่าสุดที่ใช้ชื่อว่า D2

พอได้ฟัง D2 จบตั้งแต่เพลงแรกจนถึงเพลงสุดท้าย ความรู้สึกแรกที่สัมผัสได้ คือ ความดุดันในการแสดงออกทางการแรป ทั้งการใช้เสียง และอารมณ์ที่แผ่ออกมา ทั้งความเกรี้ยวกราดหรือการส่งเสียงดังลดน้อยกว่าเดิม สิ่งนี้เราเริ่มสังเกตได้มาตั้งแต่อัลบั้ม Love yourself : Her ที่เหมือนมีการปลดล๊อคความรู้สึกบางอย่าง เมื่อเทียบกับ 4 ปีที่แล้ว รู้เลยว่าเขาโตขึ้นมาก ทั้งในแง่ของการแสดงออกทั้งภายนอกและข้อความที่ต้องการสื่อออกมา โดยที่ยังคงเอกลักษณ์ของดนตรีตามสไตล์ยุนกิ มันนุ่มลึก สวยงาม และที่เพิ่มเติมมาคือดึงดูดเราให้ใกล้ชิดกับดนตรีของเขามากขึ้น  
 
- Moonlight - เปิดมาเพลงแรก ก็เป็นการเปิดด้วยดนตรีที่รู้สึกมีชีวิตชีวาเลย การแรปและการร้องที่ค่อยเป็นค่อยไปเข้ากันดีกับจังหวะดนตรี ก็พอที่จะเดาบรรยากาศของเพลงในอัลบั้มนี้ได้ว่าน่าจะผ่อนคลายขึ้น เป็นการนั่งฟังการเล่าเรื่องที่น่าจะสนุกตลอดทั้ง10เพลง
 
- Daechwita - ตอนฟังครั้งแรกคือตื่นเต้นเลย เหมือนความรู้สึกแปลกใหม่หลายๆอย่างสาดเข้ามา ทั้งดนตรีพื้นเมือง ที่มาอยู่กับดนตรี Hiphop ได้อย่างไม่เคอะเขิน การขึ้นมาที่ถูกจังหวะของเครื่องดนตรีพื้นเมืองในแต่ละช่วง ทั้งเครื่องเป่า กลอง ทุกอย่างมันลงตัว ในจังหวะที่ควรจะเป็นหมด รวมถึงจังหวะการแรป การใช้เสียงที่เข้ากับแต่ละท่อนของเพลงด้วย เป็นการเบลนเข้ากันของสิ่งเก่าและสิ่งใหม่ ที่ชาวต่างชาติแบบเรามาฟังแล้วไม่ได้รู้สึกว่าถูกยัดเยียด หรือน่าเบื่อกับการใช้เครื่องดนตรีพื้นถิ่นที่เราไม่คุ้นเคยเลย เพลงนี้สามารถกดฟังซ้ำได้หลายรอบ เพราะเรารู้สึกว่ามีดีเทลสักอย่างเล็กๆน้อยๆเต็มไปหมดเลยในเพลง
 
- Strange - เปิดมาด้วยเสียงเปียโน และเล่นคลอเป็นพื้นหลังไปตลอดทั้งเพลง ฟังแล้วเหมือนดนตรีในละครเพลงเลย แล้วการแรปที่เข้าถึงอารมณ์ของทั้งสองคน เหมือนได้ฟังบทสนทนาดีๆ ที่เป็น deep conversation ของคน 2 คนที่ชีวิตผ่านเรื่องราวมาเยอะมาก เสียงเปียโนที่ฟังเหมือนจะนุ่มนวล แต่จริงๆเป็นตัวส่งอารมณ์ของเพลงเข้มข้นยิ่งขึ้น
 
- People - เป็นเพลงที่เราชอบสุดในอัลบั้ม ดีมากทั้งดนตรีและเสียงประสานของคุณ Adora ไม่มีท่อนไหนในเพลงที่เรารู้สึกสะดุดหรือตั้งคำถามเลยว่าทำไมดนตรีตรงนี้โผล่มา ทำไมท่อนนี้ใช้เสียงประสานแบบนี้ ทุกอย่างถูกจัดวางอย่างถูกที่ถูกทางไปหมด รวมทั้งความหมายของเพลงที่อาจฟังดูเรียบง่าย พูดถึงสัจธรรมชีวิตทั่วไป แต่ก็มีการตั้งคำถามกับสิ่งที่เจอรอบๆตัว ถ่ายทอดออกมากับดนตรีที่ฟังสบายๆ เข้ากันได้ดีมาก
 
- Interlude : Set me free - เพลงนี้พิเศษและแตกต่างสำหรับเรามากๆ ชอบการเลือกใช้ ambience เสียงนกในเพลง ที่แสดงถึงการไปอยู่ในที่ว่างเปล่า ล่องลอย บวกกับเอฟเฟคเสียงกีต้าร์ในเพลง  ฟังเพลงนี้ครั้งแรกดูเหมือนจะสงบ  แต่ลึกๆยิ่งฟังก็จะรู้สึกว้าวุ่น สับสน ซ่อนอยู่ในตัวเพลงชัดเจน
 
- Dear my friend - อัลบั้มนี้เราค่อนข้างชอบการเรียงลำดับของเพลง เพลงที่ 9  แล้วมาต่อด้วยเพลงนี้ เป็นการต่อเนื่องที่ดี ส่งเพลงนี้ให้รู้สึกเค้นอารมณ์เข้าไปอีก ส่วนตัวเราเป็นแฟนเพลง Nell อยู่แล้ว ยิ่งได้คุณคิมจงวานมาร้องเพลงนี้ เป็นอีกคนที่ขึ้นชื่อเรื่องการถ่ายทอดได้ถึงอารมณ์ของเพลงที่มีเนื้อหาแสดงถึงความเจ็บปวด ของคนในวัยที่โตขึ้นมาหน่อยได้อย่างลึกซึ้ง
 
คุณภาพของD2เรียกได้ว่าเกินของฟรีมาก ทั้งคุณภาพการบันทึกเสียง MV ไม่ว่าจะเป็นพาร์ทดนตรี เสียงประสาน รวมถึงคนที่มาร่วมฟีท ทุกอย่างออกมาลงตัว การทำงานด้วยใจรัก และต้องการแบ่งปันเรื่องราวกับคนฟัง มันส่งออกมาให้เห็นในคุณภาพของชิ้นงานนี้เลยจริงๆ ความเป็นยุนกิก็ยังคงชัดเจน ภายใต้เสียงดนตรีที่ไพเราะ แต่เนื้อหาที่ถ่ายทอดออกมายังคงหนักแน่น และเข้มข้นไม่เปลี่ยนเลย
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่