***อยากดูภาพแบบไม่มีโลโก้ให้เกะกะรำคาญใจ เชิญที่เว็บไซต์ส่วนตัวของผมได้เลยครับ ภาพชัดไม่มีอะไรมาบดบังแน่นอน
https://www.nopeopletravelphoto.com/
เดือนที่เดินทาง - พฤษภาคม 2019
ต่อจากตอนที่แล้วในแคลิฟอร์เนียหลังจากจบจาก San Francisco และ Yosemite ใครที่ยังไม่ได้อ่านตอนก่อนหน้านี้ไปที่ลิงค์นี้ก่อนนะครับ
https://www.nopeopletravelphoto.com/post/sanfrancisco_yosemite_may2019
การขับรถมาที่นี่หรือขับรถรอบบริเวณรอบทะเลสาบทาโฮนั้นเป็นอะไรที่สนุกมาก ถนนดีตลอดทาง โค้งไม่หักศอกจนเกินไปและวิวก็สวย ด้วยทั้งภูเขาและทะเลสาบ ใครที่อยากขับรถมาจาก San Francisco ก็ได้หรือจะแบบผมที่ขับต่อมาจาก Yosemite มีอีกทางเลือกคือนั่งเครื่องบินมาก็เร็วดีไม่เสียเวลาบนรถเยอะ
การเดินทางไป Lake Tahoe
แนะนำอีกครั้งว่าก่อนออกจากตัวเมืองไหนก็ตาม โหลดแผนที่ Google Map แบบ offline เอาไว้ก่อนเลยเพราะระหว่างทางที่อยู่ในภูเขานั้นอินเตอร์เน็ตมีแค่บางช่วง แต่พอมาถึงที่ Lake Tahoe แล้วไม่ต้องห่วงมีสัญญานครบตลอดเวลา
ตลอดข้างทางก่อนที่จะถึงทะเลสาบเป็นวิวภูเขาที่หิมะปกคลุมสวยๆ ทั้งมีจุดชมวิวประปรายให้จอดพักยืดแข้งยืดขากันได้ อากาศตอนกลางวันก็เย็นสบายดีในช่วงก่อนเข้าหน้าร้อน
หิมะกองเป็นปึกอยู่ข้างถนนดูแล้วเหมือนเค้กเป็นชั้นๆ
บ้านที่อยู่บนตลิ่งของทะเลสาบเล็กๆที่ยังเป็นน้ำแข็งอยู่ หิมะเยอะแยะขนาดนี้ไม่เคยเห็นมาก่อนเลยลงไปกระโดดเล่นกันใหญ่ ดีที่เจ้าของกระท่อมนี้ไม่ออกมาไล่ 555
ทะเลสาบทาโฮ (Lake Tahoe)
จริงๆตอนแรกไม่ได้วางแผนจะมาที่นี่แต่เป็นเพราะเพื่อนร่วมงานที่ซานฟรานซิสโกแนะนำให้ลองมาพอเปิดรูปดูแล้วก็ร้องโห เลยตัดสินใจสละวันนึงจาก Yosemite เพื่อมาที่ Lake Tahoe ขับรถมานับว่าไกลอยู่แต่พอได้เห็นของจริงแล้วมันหายเหนื่อย ที่นี่เป็นเมืองตากอากาศเล็กๆที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบถ้วนไม่ว่าจะเป็นห้าง ร้านอาหาร หรือแม้แต่คาสิโน
มาถึงจุดหมายก็บ่ายๆ ไปเช็คอินก่อนที่โรงแรมที่จองไว้แถว South Lake Tahoe ชื่อว่า Tahoe Lakeshore Lodge & Spa เป็นโรงแรมไม่ใหญ่ราคาไม่แพง เก่าๆเล็กน้อยแต่ห้องพักและห้องน้ำสะอาดกว้างขวาง แถมยังอยู่ติดริมทะเลสาบอีกด้วย ไม่ได้ถ่ายรูปห้องมาเพราะคุณแม่มาถึงนอนแผ่เรียบร้อยแล้ว 555 แต่มีภาพบริเวณโรงแรมให้ดูนิดหน่อย
บรรยากาศดีอากาศดี อะไรๆก็ดี ถ้ามีเวลาเยอะกว่านี้ก็น่าจะมานั่งๆนอนๆเล่นน้ำนิดหน่อยถ้าน้ำไม่เย็นเกินไป ทะเลสาบทาโฮจริงๆแล้วอยู่สูงจากระดับน้ำทะเลเกือบ 1,900 เมตร และพื้นที่กว้างถึง 490 ตารางกิโลเมตร ทั้งใหญ่ทั้งสูง อะไรขนาดนั้น
พักผ่อนกันเล็กน้อย เดินเล่นแถวๆที่พักกันพอหายตื่นเต้น ได้เวลาขับรถเที่ยว ไปจอดที่แรก Sand Harbor จุดที่ได้ตำแหน่งน้ำใสที่สุดใน Lake Tahoe เป็นสวนสาธารณะกึ่งทางเดินชมธรรมชาติ
เห็นเด็กๆฝรั่งเค้าลงไปเล่นน้ำกันสนุกสนาน เราเองก็เลยลองเดินเอาขาจุ่มๆดู โหน้ำเย็นเบอร์นี้เล่นกันไปได้ มาถึงตรงนี้ฟ้าที่ใสๆก่อนหน้านี้ดันมีเมฆเยอะ คงเป็นเพราะเมฆที่พัดมาจากอีกฝั่งมาติดยอดเขาไปต่อไม่ได้เลยมากองกันตรงนี้ ต้องรอบางช่วงที่ฟ้าเปิดให้แดดส่องลงมาโดนน้ำเพื่อให้เห็นความใสแบบนี้
ทุกคนที่มาด้วยกันออกความเห็นเหมือนกันว่าพรุ่งนี้ก่อนกลับบ้านอยากมาลองอีกทีด้วยหวังว่าเมฆจะน้อยกว่านี้ ตอนนี้เลยขับรถเล่นต่อไปอีกจนผ่านเส้นกันเขตแดนระหว่าง California กับ Nevada ผ่านไปแล้วก็ไม่ได้แตกต่างกันเท่าไหร่ 555 ระหว่างทางก็มีวิวสวยๆให้เห็นตลอด จอดรถลงมาถ่ายรูปกันอยู่เรื่อยๆ
หลานที่อาศัยอยู่ที่อเมริกามาเที่ยวด้วย ชอบไปปีนเล่นเป็นลิง เจอมุมนี้พอดีถ่ายเก็บไว้ก่อน
ขับไปได้ไม่ถึงครึ่งรอบทะเลสาบเลยฟ้าก็เริ่มมืดแล้ว กว้างมากจริงๆ เราเลยตัดสินใจหักรถกลับและผมก็ขอจอดที่สุดท้ายตรงนี้ก่อนแวะกินร้านจิ้มจุ่มแถวนี้ก่อนกลับโรงแรม ร้านจิ้มจุ่มจริงๆมีเจ้าของและพนักงานเป็นคนไทย บันเทิง 555
คืนนี้รีบพักผ่อนเพราะพรุ่งนี้ต้องรีบตื่นไปรอพระอาทิตย์ขึ้นที่ Emerald Bay State Park พลาดตรงนี้เหมือนไม่ได้มา
ตัดมาเช้าวันนี้ขับรถจากที่พักไปไม่นานถนนจะเริ่มเป็นทางขึ้นเขาอีกครั้ง ถนนตรงนี้สวยมากและสองข้างทางไม่มีอะไรบดบังวิวเลยเพราะเป็นเนินลงไปชันมาก ทั้งสวยทั้งหวาดเสียว ไม่มีโอกาสได้ถ่ายรูปถนนตรงนี้มาให้ดูเพราะมันแคบมากและจอดรถไม่ได้เลย
เอาเป็นว่ามาถึงตั้งแต่ก่อนพระอาทิตย์ขึ้น อากาศหนาวมากมือสั่นไปหมด ตั้งกล้องหามุมเสร็จแล้วก็ทิ้งกล้องไว้ข้างนอกแล้วไปนั่งรอในรถอุ่นๆรอแสงอาทิตย์ขึ้นมาจากหลังเขา ภาพนี้ถ่ายมาด้วย shutter speed 30 วินาที 4 ภาพต่อกันทำให้เหมือนกับเปิดชัตเตอร์ไว้ 2 นาที เมฆที่มีการเคลื่อนไหวและพื้นน้ำที่ไม่มีคลื่นแข็งให้หมดอารมณ์ เกาะตรงกลางอ่าวคือ Fannette Island บนเกาะมีอาคารหินเก่าแก่ตั้งอยู่ด้วยเช่นกัน มองดูแล้วทำให้ดูลึกลับดี ถ้าดูภาพที่สองจะเห็นเงาๆอยู่ยอดเกาะ เกาะนี้สามารถพายเรือแคนูหรือเรือคายัคข้ามไปได้แต่ไม่ให้ว่ายน้ำเพราะน้ำเย็นมากจนอันตรายครับ
หันไปทางอื่นๆก็ยังมีภูเขาหินหน้าตาไม่ธรรมดาอยู่ด้วย ขอบสะพานหินนั่นเองที่ผมเอาไว้ตั้งกล้องถ่ายภาพอ่าว ตรงนี้หาไม่ยากอยู่ติดริมถนนเลยครับ
พอพระอาทิตย์เริ่มสูงขึ้นมามากผมย้ายมุมไปตรงที่พระอาทิตย์ไม่เข้ากล้องตรงๆเพื่อหวังผลจาก Fannette Island แนวต้นสนและภูเขารอบๆ Emerald Bay ที่รับแสงอาทิตย์ยามเช้าอยู่ ตื่นเช้าเหนื่อยหน่อยแต่เห็นแบบนี้แล้วมันคุ้ม
แสงแดดที่สองมาที่ต้นสนให้เป็นสีเหลืองทองทำให้ดูอบอุ่น แสงแดดที่สะท้อนที่คลื่นผิวน้ำดูระยิบระยับ อะไรๆก็เป็นใจ เห็นภาพนี้ใครจะรู้บ้างว่าตอนถ่ายภาพหนาวสั่นลมพัดหน้าชา แม่กับป้าที่มาด้วยกันไปอาศัยกำแพงห้องน้ำสาธารณะช่วยกำบังลม 555
เป็นเช้าที่มีความสุขมากๆ ทั้งได้ไปเห็นสถานที่สวยเกินจินตนาการแล้วยังได้รูปสวยๆติดไม้ติดมือกลับมาด้วย ทั้งแม่และป้าก็มีความสุขไปด้วยถึงจะหนาวไปหน่อย ขับรถกลับที่พักกันเลยเพราะมีคนอื่นๆที่มาด้วยกันแต่ไม่สามารถตื่นมาดูได้
หลังจากเก็บข้าวของเสร็จแล้วก่อนออกจากทะเลสาบทาโฮเราก็พากันไปแวะที่ Sand Harbor อีกครั้งเพื่อแก้ตัวจากเมื่อวาน เห็นพระอาทิตย์ขึ้นสวยๆเมื่อเช้า ที่ Sand Harbor เมฆเยอะอีกแล้วจ่ะ
รอบนี้มุมเดิมลองเปลี่ยนมาใช้เทคนิค long exposure ดูบ้างให้คลื่นน้ำละลายหายไป ผมเองก็สองจิตสองใจว่าแบบไหนสวยกว่า ใครมีความเห็นมาคุยกันครับ
นอกจากภาพมุมเดิมแล้วยังมีทางเดินให้เข้าไปดูด้านในได้อีก แนวหินสวยๆทั่วบริเวณและน้ำใสมากจริงเวลาที่มีแดดส่องลงมา เช้านี้คลื่นและลมค่อนข้างแรง เดินๆอยู่ก็มีน้ำกระเด็นมาใส่บ้างเป็นระยะๆ
เดินๆไปก็มีเสียงนกแถวนี้มาบินไล่กันไปมา ไม่รู้มาจีบหรือตีกัน ตอนแรกผมไม่รู้หรอกนกอะไรแต่ไปค้นคว้าดูแล้วก็ยังไม่รู้ ล้อเล่น 555 นกท้องถิ่นชื่อว่า Stellar's Jay คาดว่าคงเป็นดวงๆที่หน้าผากเค้าเลยเรียกด้วยคำว่า Stellar ที่แปลว่าดวงดาว นกอะไรหล่อจัง
ก่อนออกจะออกไปจากเขตทะเลสาบเราต้องผ่านอีกจุดซึ่งพอเห็นแล้วทุกคนก็ร้องให้จอด เป็นสวนสาธารณะริมน้ำใกล้ๆกับอุโมงค์ถนนที่เจาะลอดภูเขา มีชื่อด้วยว่า Cave Rock สวนนั้นชื่อว่า Cave Rock - Lake Tahoe Nevada State Park ถ้าไม่สังเกตดีๆอาจเลยได้จ่ะ
สิ่งแรกที่มองเห็นก่อนและร้องเอ๊ะขึ้นมาและเป็นสาเหตุให้จอดรถตรงนี้ก็คือต้นซากุระ 3 - 4 ต้น คือพึ่งไปญี่ปุ่นมาก่อนหน้านี้ไม่กี่เดือนเพื่อไปดูดอกซากุระ มาที่นี่ดอกซากุระเค้าสวยกว่าอีก คือสีเข้มกว่าและกลีบดอกดูแข็งแรงสดชื่นมาก 555
รอบๆสวยก็สวยน่านั่งพักผ่อนเหมือนกัน มองออกไปก็เห็นเทือกเขาฝั่งตรงข้าม ท้องฟ้าตรงนี้สดใสเพราะไม่ได้อยู่ติดยอดเขาสูง นั่งเล่นตรงม้านั่งนี่หน่อย ไม่ถึง 5 นาทีคลื่นซัดกระทบฝั่งน้ำกระเด็นใส่ขาเปียกซะ ดีนะมาเที่ยวอารมณ์ดี
เที่ยว Lake Tahoe ครั้งนี้ถึงแม้จะพลาดที่ถ่ายรูปสวยๆไปเยอะแต่พูดจริงๆเลยว่ามาที่นี่คุ้มมากๆ ทั้งการเดินทางที่มีอะไรตื่นเต้นให้เห็นตลอด อากาศดีๆ ธรรมชาติยิ่งใหญ่อลังการ ถ้าใครมีโอกาสไป California แนะนำให้ Lake Tahoe เป็นหนึ่งในสถานที่ที่จะไปครับ
หลังจากตรงนี้แล้วก็มีแต่ขับรถดิ่งเข้าตัวเมืองซานฟรานซิสโกแล้วเพื่อรอขึ้นเครื่องบินไป Los Angeles ต่อเป็นขาสุดท้ายก่อนกลับไปประชุมงานที่รัฐอื่นและฝากแม่ไว้กับพี่สาวที่ทำงานอยู่อีกรัฐ ว่าแล้วไปต่อเลยที่ LA!
[CR] Lake Tahoe + Los Angeles รีคอนเนคกับธรรมชาติ ต่อด้วยสัมผัสบรรยากาศดินแดน Hollywood
***อยากดูภาพแบบไม่มีโลโก้ให้เกะกะรำคาญใจ เชิญที่เว็บไซต์ส่วนตัวของผมได้เลยครับ ภาพชัดไม่มีอะไรมาบดบังแน่นอน
https://www.nopeopletravelphoto.com/
เดือนที่เดินทาง - พฤษภาคม 2019
ต่อจากตอนที่แล้วในแคลิฟอร์เนียหลังจากจบจาก San Francisco และ Yosemite ใครที่ยังไม่ได้อ่านตอนก่อนหน้านี้ไปที่ลิงค์นี้ก่อนนะครับ https://www.nopeopletravelphoto.com/post/sanfrancisco_yosemite_may2019
การขับรถมาที่นี่หรือขับรถรอบบริเวณรอบทะเลสาบทาโฮนั้นเป็นอะไรที่สนุกมาก ถนนดีตลอดทาง โค้งไม่หักศอกจนเกินไปและวิวก็สวย ด้วยทั้งภูเขาและทะเลสาบ ใครที่อยากขับรถมาจาก San Francisco ก็ได้หรือจะแบบผมที่ขับต่อมาจาก Yosemite มีอีกทางเลือกคือนั่งเครื่องบินมาก็เร็วดีไม่เสียเวลาบนรถเยอะ
การเดินทางไป Lake Tahoe
แนะนำอีกครั้งว่าก่อนออกจากตัวเมืองไหนก็ตาม โหลดแผนที่ Google Map แบบ offline เอาไว้ก่อนเลยเพราะระหว่างทางที่อยู่ในภูเขานั้นอินเตอร์เน็ตมีแค่บางช่วง แต่พอมาถึงที่ Lake Tahoe แล้วไม่ต้องห่วงมีสัญญานครบตลอดเวลา
ตลอดข้างทางก่อนที่จะถึงทะเลสาบเป็นวิวภูเขาที่หิมะปกคลุมสวยๆ ทั้งมีจุดชมวิวประปรายให้จอดพักยืดแข้งยืดขากันได้ อากาศตอนกลางวันก็เย็นสบายดีในช่วงก่อนเข้าหน้าร้อน
หิมะกองเป็นปึกอยู่ข้างถนนดูแล้วเหมือนเค้กเป็นชั้นๆ
บ้านที่อยู่บนตลิ่งของทะเลสาบเล็กๆที่ยังเป็นน้ำแข็งอยู่ หิมะเยอะแยะขนาดนี้ไม่เคยเห็นมาก่อนเลยลงไปกระโดดเล่นกันใหญ่ ดีที่เจ้าของกระท่อมนี้ไม่ออกมาไล่ 555
ทะเลสาบทาโฮ (Lake Tahoe)
จริงๆตอนแรกไม่ได้วางแผนจะมาที่นี่แต่เป็นเพราะเพื่อนร่วมงานที่ซานฟรานซิสโกแนะนำให้ลองมาพอเปิดรูปดูแล้วก็ร้องโห เลยตัดสินใจสละวันนึงจาก Yosemite เพื่อมาที่ Lake Tahoe ขับรถมานับว่าไกลอยู่แต่พอได้เห็นของจริงแล้วมันหายเหนื่อย ที่นี่เป็นเมืองตากอากาศเล็กๆที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบถ้วนไม่ว่าจะเป็นห้าง ร้านอาหาร หรือแม้แต่คาสิโน
มาถึงจุดหมายก็บ่ายๆ ไปเช็คอินก่อนที่โรงแรมที่จองไว้แถว South Lake Tahoe ชื่อว่า Tahoe Lakeshore Lodge & Spa เป็นโรงแรมไม่ใหญ่ราคาไม่แพง เก่าๆเล็กน้อยแต่ห้องพักและห้องน้ำสะอาดกว้างขวาง แถมยังอยู่ติดริมทะเลสาบอีกด้วย ไม่ได้ถ่ายรูปห้องมาเพราะคุณแม่มาถึงนอนแผ่เรียบร้อยแล้ว 555 แต่มีภาพบริเวณโรงแรมให้ดูนิดหน่อย
บรรยากาศดีอากาศดี อะไรๆก็ดี ถ้ามีเวลาเยอะกว่านี้ก็น่าจะมานั่งๆนอนๆเล่นน้ำนิดหน่อยถ้าน้ำไม่เย็นเกินไป ทะเลสาบทาโฮจริงๆแล้วอยู่สูงจากระดับน้ำทะเลเกือบ 1,900 เมตร และพื้นที่กว้างถึง 490 ตารางกิโลเมตร ทั้งใหญ่ทั้งสูง อะไรขนาดนั้น
พักผ่อนกันเล็กน้อย เดินเล่นแถวๆที่พักกันพอหายตื่นเต้น ได้เวลาขับรถเที่ยว ไปจอดที่แรก Sand Harbor จุดที่ได้ตำแหน่งน้ำใสที่สุดใน Lake Tahoe เป็นสวนสาธารณะกึ่งทางเดินชมธรรมชาติ
เห็นเด็กๆฝรั่งเค้าลงไปเล่นน้ำกันสนุกสนาน เราเองก็เลยลองเดินเอาขาจุ่มๆดู โหน้ำเย็นเบอร์นี้เล่นกันไปได้ มาถึงตรงนี้ฟ้าที่ใสๆก่อนหน้านี้ดันมีเมฆเยอะ คงเป็นเพราะเมฆที่พัดมาจากอีกฝั่งมาติดยอดเขาไปต่อไม่ได้เลยมากองกันตรงนี้ ต้องรอบางช่วงที่ฟ้าเปิดให้แดดส่องลงมาโดนน้ำเพื่อให้เห็นความใสแบบนี้
ทุกคนที่มาด้วยกันออกความเห็นเหมือนกันว่าพรุ่งนี้ก่อนกลับบ้านอยากมาลองอีกทีด้วยหวังว่าเมฆจะน้อยกว่านี้ ตอนนี้เลยขับรถเล่นต่อไปอีกจนผ่านเส้นกันเขตแดนระหว่าง California กับ Nevada ผ่านไปแล้วก็ไม่ได้แตกต่างกันเท่าไหร่ 555 ระหว่างทางก็มีวิวสวยๆให้เห็นตลอด จอดรถลงมาถ่ายรูปกันอยู่เรื่อยๆ
หลานที่อาศัยอยู่ที่อเมริกามาเที่ยวด้วย ชอบไปปีนเล่นเป็นลิง เจอมุมนี้พอดีถ่ายเก็บไว้ก่อน
ขับไปได้ไม่ถึงครึ่งรอบทะเลสาบเลยฟ้าก็เริ่มมืดแล้ว กว้างมากจริงๆ เราเลยตัดสินใจหักรถกลับและผมก็ขอจอดที่สุดท้ายตรงนี้ก่อนแวะกินร้านจิ้มจุ่มแถวนี้ก่อนกลับโรงแรม ร้านจิ้มจุ่มจริงๆมีเจ้าของและพนักงานเป็นคนไทย บันเทิง 555
คืนนี้รีบพักผ่อนเพราะพรุ่งนี้ต้องรีบตื่นไปรอพระอาทิตย์ขึ้นที่ Emerald Bay State Park พลาดตรงนี้เหมือนไม่ได้มา
ตัดมาเช้าวันนี้ขับรถจากที่พักไปไม่นานถนนจะเริ่มเป็นทางขึ้นเขาอีกครั้ง ถนนตรงนี้สวยมากและสองข้างทางไม่มีอะไรบดบังวิวเลยเพราะเป็นเนินลงไปชันมาก ทั้งสวยทั้งหวาดเสียว ไม่มีโอกาสได้ถ่ายรูปถนนตรงนี้มาให้ดูเพราะมันแคบมากและจอดรถไม่ได้เลย
เอาเป็นว่ามาถึงตั้งแต่ก่อนพระอาทิตย์ขึ้น อากาศหนาวมากมือสั่นไปหมด ตั้งกล้องหามุมเสร็จแล้วก็ทิ้งกล้องไว้ข้างนอกแล้วไปนั่งรอในรถอุ่นๆรอแสงอาทิตย์ขึ้นมาจากหลังเขา ภาพนี้ถ่ายมาด้วย shutter speed 30 วินาที 4 ภาพต่อกันทำให้เหมือนกับเปิดชัตเตอร์ไว้ 2 นาที เมฆที่มีการเคลื่อนไหวและพื้นน้ำที่ไม่มีคลื่นแข็งให้หมดอารมณ์ เกาะตรงกลางอ่าวคือ Fannette Island บนเกาะมีอาคารหินเก่าแก่ตั้งอยู่ด้วยเช่นกัน มองดูแล้วทำให้ดูลึกลับดี ถ้าดูภาพที่สองจะเห็นเงาๆอยู่ยอดเกาะ เกาะนี้สามารถพายเรือแคนูหรือเรือคายัคข้ามไปได้แต่ไม่ให้ว่ายน้ำเพราะน้ำเย็นมากจนอันตรายครับ
หันไปทางอื่นๆก็ยังมีภูเขาหินหน้าตาไม่ธรรมดาอยู่ด้วย ขอบสะพานหินนั่นเองที่ผมเอาไว้ตั้งกล้องถ่ายภาพอ่าว ตรงนี้หาไม่ยากอยู่ติดริมถนนเลยครับ
พอพระอาทิตย์เริ่มสูงขึ้นมามากผมย้ายมุมไปตรงที่พระอาทิตย์ไม่เข้ากล้องตรงๆเพื่อหวังผลจาก Fannette Island แนวต้นสนและภูเขารอบๆ Emerald Bay ที่รับแสงอาทิตย์ยามเช้าอยู่ ตื่นเช้าเหนื่อยหน่อยแต่เห็นแบบนี้แล้วมันคุ้ม
แสงแดดที่สองมาที่ต้นสนให้เป็นสีเหลืองทองทำให้ดูอบอุ่น แสงแดดที่สะท้อนที่คลื่นผิวน้ำดูระยิบระยับ อะไรๆก็เป็นใจ เห็นภาพนี้ใครจะรู้บ้างว่าตอนถ่ายภาพหนาวสั่นลมพัดหน้าชา แม่กับป้าที่มาด้วยกันไปอาศัยกำแพงห้องน้ำสาธารณะช่วยกำบังลม 555
เป็นเช้าที่มีความสุขมากๆ ทั้งได้ไปเห็นสถานที่สวยเกินจินตนาการแล้วยังได้รูปสวยๆติดไม้ติดมือกลับมาด้วย ทั้งแม่และป้าก็มีความสุขไปด้วยถึงจะหนาวไปหน่อย ขับรถกลับที่พักกันเลยเพราะมีคนอื่นๆที่มาด้วยกันแต่ไม่สามารถตื่นมาดูได้
หลังจากเก็บข้าวของเสร็จแล้วก่อนออกจากทะเลสาบทาโฮเราก็พากันไปแวะที่ Sand Harbor อีกครั้งเพื่อแก้ตัวจากเมื่อวาน เห็นพระอาทิตย์ขึ้นสวยๆเมื่อเช้า ที่ Sand Harbor เมฆเยอะอีกแล้วจ่ะ
รอบนี้มุมเดิมลองเปลี่ยนมาใช้เทคนิค long exposure ดูบ้างให้คลื่นน้ำละลายหายไป ผมเองก็สองจิตสองใจว่าแบบไหนสวยกว่า ใครมีความเห็นมาคุยกันครับ
นอกจากภาพมุมเดิมแล้วยังมีทางเดินให้เข้าไปดูด้านในได้อีก แนวหินสวยๆทั่วบริเวณและน้ำใสมากจริงเวลาที่มีแดดส่องลงมา เช้านี้คลื่นและลมค่อนข้างแรง เดินๆอยู่ก็มีน้ำกระเด็นมาใส่บ้างเป็นระยะๆ
เดินๆไปก็มีเสียงนกแถวนี้มาบินไล่กันไปมา ไม่รู้มาจีบหรือตีกัน ตอนแรกผมไม่รู้หรอกนกอะไรแต่ไปค้นคว้าดูแล้วก็ยังไม่รู้ ล้อเล่น 555 นกท้องถิ่นชื่อว่า Stellar's Jay คาดว่าคงเป็นดวงๆที่หน้าผากเค้าเลยเรียกด้วยคำว่า Stellar ที่แปลว่าดวงดาว นกอะไรหล่อจัง
ก่อนออกจะออกไปจากเขตทะเลสาบเราต้องผ่านอีกจุดซึ่งพอเห็นแล้วทุกคนก็ร้องให้จอด เป็นสวนสาธารณะริมน้ำใกล้ๆกับอุโมงค์ถนนที่เจาะลอดภูเขา มีชื่อด้วยว่า Cave Rock สวนนั้นชื่อว่า Cave Rock - Lake Tahoe Nevada State Park ถ้าไม่สังเกตดีๆอาจเลยได้จ่ะ
สิ่งแรกที่มองเห็นก่อนและร้องเอ๊ะขึ้นมาและเป็นสาเหตุให้จอดรถตรงนี้ก็คือต้นซากุระ 3 - 4 ต้น คือพึ่งไปญี่ปุ่นมาก่อนหน้านี้ไม่กี่เดือนเพื่อไปดูดอกซากุระ มาที่นี่ดอกซากุระเค้าสวยกว่าอีก คือสีเข้มกว่าและกลีบดอกดูแข็งแรงสดชื่นมาก 555
รอบๆสวยก็สวยน่านั่งพักผ่อนเหมือนกัน มองออกไปก็เห็นเทือกเขาฝั่งตรงข้าม ท้องฟ้าตรงนี้สดใสเพราะไม่ได้อยู่ติดยอดเขาสูง นั่งเล่นตรงม้านั่งนี่หน่อย ไม่ถึง 5 นาทีคลื่นซัดกระทบฝั่งน้ำกระเด็นใส่ขาเปียกซะ ดีนะมาเที่ยวอารมณ์ดี
เที่ยว Lake Tahoe ครั้งนี้ถึงแม้จะพลาดที่ถ่ายรูปสวยๆไปเยอะแต่พูดจริงๆเลยว่ามาที่นี่คุ้มมากๆ ทั้งการเดินทางที่มีอะไรตื่นเต้นให้เห็นตลอด อากาศดีๆ ธรรมชาติยิ่งใหญ่อลังการ ถ้าใครมีโอกาสไป California แนะนำให้ Lake Tahoe เป็นหนึ่งในสถานที่ที่จะไปครับ
หลังจากตรงนี้แล้วก็มีแต่ขับรถดิ่งเข้าตัวเมืองซานฟรานซิสโกแล้วเพื่อรอขึ้นเครื่องบินไป Los Angeles ต่อเป็นขาสุดท้ายก่อนกลับไปประชุมงานที่รัฐอื่นและฝากแม่ไว้กับพี่สาวที่ทำงานอยู่อีกรัฐ ว่าแล้วไปต่อเลยที่ LA!
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้