หูฟังไร้สายนั้นเริ่มมีเข้ามาเรื่อยๆในทั้งวงการทั่วไปและสายเกม เช่นหูฟังเกมมิ่งที่เริ่มเข้ามาหลากหลายมากขึ้นรวมถึง Hyper X ก็ได้เปิดตัว Hyper X Cloud Stinger Core Wireless+ 7.1 มากับเค้าด้วย ในไม่กี่วันมานี้ครับ ซึ่งจุดเด่นๆของแบรนด์นี้ก็ถือว่าน่าสนใจทั้งเรื่องของคุณภาพเสียงและแบรนด์ที่หลายๆคนนั้นน่าจะรู้จักกันในวงการเกม และข้อดีของมันคือความสะดวกในการใช้งานไม่มีสายเกะกะและเรื่องของแบตก็มีอายุยาวนานขึ้นเรื่อยๆ ในรุ่นนี้ก็รองรับ 17 ชั่วโมงสูงสุดครับ มาพร้อมกับปุ่มควบคุมในตัวและไมค์ที่พับเก็บได้ และใช้งานการเชื่อมต่อแบบ 2.4Ghz เท่านั้นนะครับในรุ่นนี้ โดยใช้โครงสร้างแบบครอบปิดหูและไดรเวอร์ 40 มม. ถือว่าเป็นขนาดที่ใหญ่พอสมควรเลย และในรุ่นนี้มีน้ำหนักน้อยและเปลี่ยนงานวัสดุดูดีขึ้น โลโก้เด่นขึ้นรวมถึงการใช้งาน USB- C แล้ว รวมถึงในเรื่องของเสียงรองรับ เสียงรอบทิศทาง 7.1 ในตัว พร้อมกับวัสดุใช้ผ้าใส่สบายและเบาไม่อึดอัดเลยครับชอบมากจากที่ได้ลอง ส่วนการใช้งานทั้งเรื่องของเสียง และ เรื่องของการใช้งานเล่นเกม การสวมใส่นั้นจะเป็นยังไงมาชมกัน
ในส่วนของตัวหูฟังรุ่นนี้ Hyper X Cloud Stinger Core Wireless + 7.1 ให้เสียงรอบทิศทางเสมือนจริง พร้อมกับปรับมาใช้งาน USB-C แล้วในรุ่นนี้พร้อมกับ งานออกแบบใหม่ทั้งหมด รวมถึง ฟีเจอร์อะไรใส่เข้ามามากขึ้น และระบบเสียง 7.1 เพื่อช่วยสร้างประสบการณ์เสียงในการเล่นเกมเกมที่สมจริงยิ่งกว่าเดิม ไดรเวอร์ทิศทางเดียว ขนาด 40 มม. ให้เสียงคุณภาพสูง พร้อมเสียงที่แม่นยำ Stinger Core + 7.1 หูฟังทั้งสองรุ่นมีจุดเด่นอยู่ที่ การออกแบบที่มีความเบา ซึ่งหูฟังแต่ละรุ่น มีน้ำหนักน้อยกว่า 245 กรัม หูฟังทั้งสองรุ่น ใช้ตัวเลื่อนโลหะแบบปรับได้ ระบบควบคุมระดับเสียงอย่างเป็นธรรมชาติบนตัวหูฟังด้านนอก และไมโครโฟนแบบหมุนเพื่อปิดเสียงและตัดเสียงรบกวนได้ หูฟัง HyperX Cloud Stinger Core Wireless + 7.1 ให้อิสระในการเชื่อมต่อ ไม่ต้องใช้สาย ด้วยการเชื่อมต่อแบบไร้สาย 2.4Ghz ที่วางใจได้ ให้ระยะการเชื่อมต่อได้ถึง 20 เมตร และอายุการใช้งานนานถึง 17 ชั่วโมง
HyperX Cloud Stinger Core + Wireless 7.1 ช่วยสร้างประสบการณ์การเล่นเกมแบบไร้สายใน ราคาประหยัด 2,790 บาท พร้อมจำหน่ายแล้วครับ รวมถึงมีรุ่นประหยัดแบบมีสายในช่วงเรทราคา 1,690 บาท
UNBOX
- Hyper X Cloud Stinger Core Wireless +7.1
- ตัวส่งสัญญาณ สำหรับ PC
- USB-C สำหรับชาร์จไฟ
- คู่มือ
DESIGN
การออกแบบนั้นยังคงมาในแนวเดิมเหมือนหลายๆตัวของค่ายเน้นความเรียบๆโทนสีดำและเป็นการสลักโลโก้ลงไปแต่ครั้งนี้ตรงโลโก้มีการใส่สีขาวเข้ามาให้ดูชัดเจนกว่าเดิมครับ แต่ในส่วนวัสดุเป็นพลาสติกแบบดำด้านพร้อมพื้นผิวแบบกันลื่นเล็กน้อย จริงๆการออกแบบของค่ายนี้ในหลายๆตัวจะไปทางเรียบๆ และเน้นสายเกมพอสมควรครับ ส่วนงานประกอบต่างๆนั้นทำออกมาได้ดีแน่นและแข็งแรง ขนาดใหญ่ แต่มีน้ำหนักเบามากๆอีกทั้งยังปรับมาใช้วัสดุแบบผ้าทำให้ตรงส่วนของน้ำหนักโดยรวมนั้นเบาขึ้น และยังใส่สบายระบายอากาศได้ดีกว่าเดิม ชอบกว่ารุ่นเดิมเยอะเลย
การออกแบบหูฟังนั้นความโค้งของมันทำออกมาได้ดีและรองรับกับหลายๆขนาดของศรีษะแต่ละคน ทำให้เวลาใช้งานไม่บีบหัวเท่าไรครับ วันดุเป็นดำด้านทั้งหมดไม่มีการเล่นสีสันอะไรมากนัก และดีไซน์ดุดันมากๆอาจจะทำให้สาวๆไม่ได้ใช้งานกันเท่าไรกับพวกดีไซน์แบบนี้ แต่หนุ่มๆน่าจะชอบกันครับ ส่วนเรื่องอิสระในการปรับนั้นรองรับได้ดีและมีไมค์มาให้ที่สามารถพับขึ้นเพื่อ MUTED ได้ด้วยเลยง่ายๆครับ แต่ไม่สามารถถอดหรือหดกลับเข้าไปได้นะครับรูปทรงไม่ได้ต่างกับรุ่นเดิมมากนักแต่จะเปลี่ยนในแง่ของวัสดุ พอร์ตเชื่อมต่อและ โลโก้รวมถึงการใส่สบายขึ้นเยอะเลยครับ
ตัวปุ่มควบคุมเสียงทำออกมาใหญ่สะใจและดูแข็งแรงมากๆครับ ปรับได้ง่ายมีสัญลักษณ์บอกชัดเจนว่าข้างไหนลดหรือเพิ่มเสียง และใช้งานได้ง่ายครับเวลาเล่นเกมปรับได้แม่นดี และได้ย้ายตัวปรับปุ่มเสียงเพิ่ม ลดเสียงเข้ามาในฝั่งเดียวกันแล้ว ส่วนปุ่มเปิดปิดมีไฟแสดงสถานะอยู่ข้างๆ ส่วนปุ่ม Muted ปิดเสียงไมค์นั้นไม่มีมาให้เพราะว่าใช้ระบบพับขาไมค์ขึ้นไปเพื่อปิดเสียงแทนเลยครับง่ายๆ ถือว่าการออกแบบอะไรย้ายมาข้างเดียวกันสะดวกมากขึ้นเยอะครับและใช้งาน USB-C แล้วจากที่รุ่นก่อนใช้งาน Micro-USB ถือว่าเป็นการปรับเปลี่ยนตามยุคสมัยของรุ่นนี้เลยครับ
ตัวก้านไมค์นั้นสามารถปรับพับได้โค้งงอได้แต่ไม่สามารถถอดหรือยืดหดอะไรได้ครับ เมื่อเราพับขึ้นไปก็จะเป็นการ Muted เสียงของตัวไมค์ไปเลยนั้นเองครับอันนี้ก็ถือว่าสะดวกแต่ตัวระยะความยาวของตัวไมค์นั้นอาจจะไม่ยืดหยุ่นในการปรับเท่าไรเพราะ มันลากมาให้ยาวกว่าเดิมไม่ได้อาจจะไม่สะดวกสำหรับหลายๆคนครับ แต่ก็ไม่ได้สั้นเกินไปครับ
โลโก้ข้างบนยังคงเป็นการเขียนชื่อเต็มของแบรนด์อยู่ แบบสีดำเงาเจาะลงไปครับ ส่วนการปรับความสูงของตัวก้านนั้นสามารถเลื่อนเพื่อปรับเปลี่ยนความยาวของมันได้สบายๆโดยเป็นก้านแบบสแตนเลสสวยงามและมีความแข็งแรงรวมถึงการให้ตัวที่มากกว่าปกติ ทำให้ไม่บีบและไม่ง้างเยอะเกินไปด้วยนั้นเอง มีตัวอักษรบอกข้างซ้ายขวาชัดเจน และตัวล็อคแต่ละความสูงนั้นถี่พอสมควรเลยปรับได้ละเอียดครับ และ ไม่ค่อยเลื่อนง่ายเท่าไรคือมีการล็อคได้แน่นกำลังดี แต่ที่ยังบ่นอยู่เรื่องเดิมคือในตัว รับสัญญาณที่เสียบบนคอมนั้น ขนาดใหญ่ และไม่สามารถเก็บในตัวหูฟังได้ครับ
แถบข้างบนนั้นมีฟองน้ำมาให้ด้วยและรองรับเวลาใส่ใช้งานได้ดีครับ มีความยาวรองรับเกือบทั้งก้าน และฟองน้ำด้วยแต่ครั้งนี้เป็นการหุ่มด้วยผ้าระบายอากาศทั้งบนและส่วนที่รองหูนั้นใช้งาน Memory Foam แน่นอนว่า ทำได้ดีใส่สบายไม่อึดอัดและกระขับพอสมควรครับ ถ้าคนศรีษะใหญ่อาจจะบีบนิดนึงแต่ไม่ได้อึดอัดมากนัก แต่ขนาดครอบใบหูและรองรับได้ดีไม่ชนใบหูใส่ได้สบายครับแต่มันไม่ได้วงใหญ่มากนักบางคนอาจจะมีคลุมใบหูไม่หมดครับแต่ก็ไม่ได้เจ็บอะไรเพราะมีความหนาของฟองน้ำอยู่ แต่เรื่องของความร้อนนั้นบอกเลยว่าดีกว่าแบบหนังเยอะมากอันนี้ชอบมาก
SPEC
- เฮดโฟน
- ไดรเวอร์: 40 มม. แบบไดนามิคพร้อมแม่เหล็กนีโอดีเนียม
- ประเภท: แบบครอบเต็ม ปิดด้านหลัง
- ความถี่: 20Hz-20,000Hz
- ระบบเสียงเซอร์ราวด์เสมือนจริง 7.1
- ความต้านทาน: 32 Ω
- ระดับแรงดันเสียง: 109dBSPL/mW ที่ 1kHz
- T.H.D.: < 2%
- น้ำหนัก: 245 ก.
- ความยาวและประเภทสายต่อ: สายชาร์จ USB-C (1 ม.)
- ไมโครโฟน
- ส่วนประกอบ: ไมโครโฟนอีเล็คเตรทคอนเดนเซอร์
- รูปแบบขั้ว: ระบบตัดสัญญาณรบกวน
- ความถี่: 100Hz-7,000Hz
- ความไว: -47dBV (0dB=1V/Pa,1kHz)
- เวลาใช้งานแบตเตอรี่1: 17 ชั่วโมง
- ช่วงสัญญาณไร้สาย2: 2.4GHz สูงสุด 12 เมตร
ในรุ่นนี้นั้นจริงๆมีการรองรับระบบเสียง 7.1 แต่ต้องโหลดโปรแกรมตัว HYPERX NGENUITY ก่อนนะครับ ตัวนี้จะรองรับในหลายๆอุปกรณ์ของค่ายนี้รวมถึงการปรับแต่งสีของ GamingGear ด้วย และเมื่อโหลดมาแล้วก็จะทำให้เราเปิดระบบเสียง 7.1 ได้ รวมถึงปรับความดังของไมค์ และ เสียงหูฟังได้ว่าจะระดับไหนครับไม่ค่อยมีอะไรเยอะมาก
SOUND
เสียงในภาพรวมกันก่อน ตัวเสียงนั้นรายละเอียดกำลังดีและเวลาเล่นเกมเก็บรายละเอียดต่างๆได้ดีครับเสียงคนพูด เสียงร้องชัดเจน แหลมชัด และ มิติเสียงนั้นมาดีพอสมควร เวทีเสียงนั้นไม่ได้กว้างและไม่ได้แคบจนเกินไป แต่ที่รู้สึกว่าในรุ่นนี้ทำได้ดีกว่าเดิมคือเสียงในย่านต่ำ หรือเสียงจำพวกเสียงเบส เสียงระเบิด เสียงย่านต่ำนั้นมาดีกว่าเดิมเยอะมากครับ คือมีมวลกำลังดี และเสียงแน่นกว่าเดิมแต่มันจะไม่ได้กระแทกสะใจมากครับ ถ้าพูดในภาพรวมเสียงจะเด่นเรื่องของมิติเสียง และ เสียงรายละเอียดต่างๆนั้นชัดเจนและแยกได้ดีครับ ส่วนเรื่องของสัญญาณนั้นทำได้ดี ไม่มีขาดหายและทำได้ดีไม่ดีเล เลยครับส่วนระยะก็ได้ตามปกติของพวกหูฟังไร้สายไกลๆก็ยังไหวครับ และแบตก็อึดมากๆตามที่บอกไว้เลยนั้นเอง และ สัญญาณไม่ไปกวนกับหูฟังอื่นๆเลย อาจจะเป็นข้อดีของการใช้งานเชื่อมต่อ 2.4Ghz ด้วย ส่วนในเรื่องของการเล่นเกมก็รองรับได้สบาย เสียงไมค์ เสียงคนพูดชัดเจน และยังรองรับเสียงได้ทุกทิศทางด้วยระบบเสียง 7.1 ที่ใส่เข้ามาครับ เลยทำให้มิติของเสียงในรอบทิศทางนั้นดีกว่าเดิม แยกทิศทางได้ชัดเจนมากขึ้นเยอะเลย
ส่วนในเรื่องของเสียงถ้าเราเอามาฟังเพลงนั้นก็ถือว่าใช้ได้ครับแม้ในรุ่นนี้จะไม่ได้มีระบบเสียง Hi-res อะไรแต่ก็ถือว่าฟังได้ไม่แย่ครับเอาจริงๆแม้ขนาดไดรเวอร์จะเล็กกว่าเดิม แต่เสียงรู้สึกว่ามันปรับมาได้ลงตัวมากขึ้นไม่ใช่สายเกมล้วนแบบรุ่นก่อน เสียงนั้นครบรสมากขึ้นเสียงทำได้ดีทั้งเรื่องของเสียงเบสที่รู้สึกมีน้ำหนักกว่าเดิมและฟังสนุกขึ้นเวลาดูหนัง ฟังเพลง รวมถึงเล่นเกม และในฟีเจอร์เสียงรอบทิศทางก็เข้ามาช่วยได้ด้วยครับ เสียงเวลาฟังเพลงก็เสียงร้องทำได้ดี ชัดเจน เวทีเสียงแยกชิ้นดนตรีได้ระดับกลางๆ แต่เสียงย่านต่ำนั้นเด่นขึ้น ชัดเจนขึ้น เสียงย่านแหลมก็ทำได้ดีไม่จัดแสบหู ครับ รู้สึกกลมกล่อมมากขึ้นนั้นเองถือว่าฟังเพลงก็ทำได้ดีกว่าที่คิด และดีกว่ารุ่นก่อนพอสมควรเลยครับตัวนี้
FEELING
ความรู้สึกในเรื่องของการสวมใส่เวลาใช้งานนานๆนั้นต้องบอกว่ารุ่นนี้มีขนาดค่อนข้างใหญ่เช่นเดิมและตัว Earpad ก็รองรับได้ดีขึ้นมีความกว้างมากกว่าเดิมทำให้รองรับได้ดี และเป็นการเปลี่ยนวัสดุเป็นแบบผ้าระบายอากาศแล้วทำให้ในเรื่องของการใช้งานหลายๆสภาพอากาศนั้นทำได้ดีขึ้นเยอะ ใส่เวลาไม่ได้เปิดแอร์นั้นไม่ร้อนแล้วรวมถึงใส่นานๆได้ดีกว่ารุ่นก่อนเยอะครับแน่นอนว่าตัวฟองน้ำมันมีทรงของมันแต่ไม่ได้นุ่มนิ่มแบบเดิม มันจะกระชับมากขึ้นเยอะครับทั้งในการใส่รู้สึกกระชับขึ้นมากแต่ไม่อึดอัดไม่ร้อน ต้องบอกว่าชอบวัสดุแบบผ้าแบบนี้มากกว่าหนังเทียบแบบเดิม
[SR] รีวิว HYPER X CLOUD STINGER CORE WIRELESS + 7.1 ใส่สบาย ไร้สาย พร้อมเสียงรอบทิศ !
หูฟังไร้สายนั้นเริ่มมีเข้ามาเรื่อยๆในทั้งวงการทั่วไปและสายเกม เช่นหูฟังเกมมิ่งที่เริ่มเข้ามาหลากหลายมากขึ้นรวมถึง Hyper X ก็ได้เปิดตัว Hyper X Cloud Stinger Core Wireless+ 7.1 มากับเค้าด้วย ในไม่กี่วันมานี้ครับ ซึ่งจุดเด่นๆของแบรนด์นี้ก็ถือว่าน่าสนใจทั้งเรื่องของคุณภาพเสียงและแบรนด์ที่หลายๆคนนั้นน่าจะรู้จักกันในวงการเกม และข้อดีของมันคือความสะดวกในการใช้งานไม่มีสายเกะกะและเรื่องของแบตก็มีอายุยาวนานขึ้นเรื่อยๆ ในรุ่นนี้ก็รองรับ 17 ชั่วโมงสูงสุดครับ มาพร้อมกับปุ่มควบคุมในตัวและไมค์ที่พับเก็บได้ และใช้งานการเชื่อมต่อแบบ 2.4Ghz เท่านั้นนะครับในรุ่นนี้ โดยใช้โครงสร้างแบบครอบปิดหูและไดรเวอร์ 40 มม. ถือว่าเป็นขนาดที่ใหญ่พอสมควรเลย และในรุ่นนี้มีน้ำหนักน้อยและเปลี่ยนงานวัสดุดูดีขึ้น โลโก้เด่นขึ้นรวมถึงการใช้งาน USB- C แล้ว รวมถึงในเรื่องของเสียงรองรับ เสียงรอบทิศทาง 7.1 ในตัว พร้อมกับวัสดุใช้ผ้าใส่สบายและเบาไม่อึดอัดเลยครับชอบมากจากที่ได้ลอง ส่วนการใช้งานทั้งเรื่องของเสียง และ เรื่องของการใช้งานเล่นเกม การสวมใส่นั้นจะเป็นยังไงมาชมกัน
ในส่วนของตัวหูฟังรุ่นนี้ Hyper X Cloud Stinger Core Wireless + 7.1 ให้เสียงรอบทิศทางเสมือนจริง พร้อมกับปรับมาใช้งาน USB-C แล้วในรุ่นนี้พร้อมกับ งานออกแบบใหม่ทั้งหมด รวมถึง ฟีเจอร์อะไรใส่เข้ามามากขึ้น และระบบเสียง 7.1 เพื่อช่วยสร้างประสบการณ์เสียงในการเล่นเกมเกมที่สมจริงยิ่งกว่าเดิม ไดรเวอร์ทิศทางเดียว ขนาด 40 มม. ให้เสียงคุณภาพสูง พร้อมเสียงที่แม่นยำ Stinger Core + 7.1 หูฟังทั้งสองรุ่นมีจุดเด่นอยู่ที่ การออกแบบที่มีความเบา ซึ่งหูฟังแต่ละรุ่น มีน้ำหนักน้อยกว่า 245 กรัม หูฟังทั้งสองรุ่น ใช้ตัวเลื่อนโลหะแบบปรับได้ ระบบควบคุมระดับเสียงอย่างเป็นธรรมชาติบนตัวหูฟังด้านนอก และไมโครโฟนแบบหมุนเพื่อปิดเสียงและตัดเสียงรบกวนได้ หูฟัง HyperX Cloud Stinger Core Wireless + 7.1 ให้อิสระในการเชื่อมต่อ ไม่ต้องใช้สาย ด้วยการเชื่อมต่อแบบไร้สาย 2.4Ghz ที่วางใจได้ ให้ระยะการเชื่อมต่อได้ถึง 20 เมตร และอายุการใช้งานนานถึง 17 ชั่วโมง
HyperX Cloud Stinger Core + Wireless 7.1 ช่วยสร้างประสบการณ์การเล่นเกมแบบไร้สายใน ราคาประหยัด 2,790 บาท พร้อมจำหน่ายแล้วครับ รวมถึงมีรุ่นประหยัดแบบมีสายในช่วงเรทราคา 1,690 บาท
UNBOX
- Hyper X Cloud Stinger Core Wireless +7.1
- ตัวส่งสัญญาณ สำหรับ PC
- USB-C สำหรับชาร์จไฟ
- คู่มือ
DESIGN
การออกแบบนั้นยังคงมาในแนวเดิมเหมือนหลายๆตัวของค่ายเน้นความเรียบๆโทนสีดำและเป็นการสลักโลโก้ลงไปแต่ครั้งนี้ตรงโลโก้มีการใส่สีขาวเข้ามาให้ดูชัดเจนกว่าเดิมครับ แต่ในส่วนวัสดุเป็นพลาสติกแบบดำด้านพร้อมพื้นผิวแบบกันลื่นเล็กน้อย จริงๆการออกแบบของค่ายนี้ในหลายๆตัวจะไปทางเรียบๆ และเน้นสายเกมพอสมควรครับ ส่วนงานประกอบต่างๆนั้นทำออกมาได้ดีแน่นและแข็งแรง ขนาดใหญ่ แต่มีน้ำหนักเบามากๆอีกทั้งยังปรับมาใช้วัสดุแบบผ้าทำให้ตรงส่วนของน้ำหนักโดยรวมนั้นเบาขึ้น และยังใส่สบายระบายอากาศได้ดีกว่าเดิม ชอบกว่ารุ่นเดิมเยอะเลย
การออกแบบหูฟังนั้นความโค้งของมันทำออกมาได้ดีและรองรับกับหลายๆขนาดของศรีษะแต่ละคน ทำให้เวลาใช้งานไม่บีบหัวเท่าไรครับ วันดุเป็นดำด้านทั้งหมดไม่มีการเล่นสีสันอะไรมากนัก และดีไซน์ดุดันมากๆอาจจะทำให้สาวๆไม่ได้ใช้งานกันเท่าไรกับพวกดีไซน์แบบนี้ แต่หนุ่มๆน่าจะชอบกันครับ ส่วนเรื่องอิสระในการปรับนั้นรองรับได้ดีและมีไมค์มาให้ที่สามารถพับขึ้นเพื่อ MUTED ได้ด้วยเลยง่ายๆครับ แต่ไม่สามารถถอดหรือหดกลับเข้าไปได้นะครับรูปทรงไม่ได้ต่างกับรุ่นเดิมมากนักแต่จะเปลี่ยนในแง่ของวัสดุ พอร์ตเชื่อมต่อและ โลโก้รวมถึงการใส่สบายขึ้นเยอะเลยครับ
ตัวปุ่มควบคุมเสียงทำออกมาใหญ่สะใจและดูแข็งแรงมากๆครับ ปรับได้ง่ายมีสัญลักษณ์บอกชัดเจนว่าข้างไหนลดหรือเพิ่มเสียง และใช้งานได้ง่ายครับเวลาเล่นเกมปรับได้แม่นดี และได้ย้ายตัวปรับปุ่มเสียงเพิ่ม ลดเสียงเข้ามาในฝั่งเดียวกันแล้ว ส่วนปุ่มเปิดปิดมีไฟแสดงสถานะอยู่ข้างๆ ส่วนปุ่ม Muted ปิดเสียงไมค์นั้นไม่มีมาให้เพราะว่าใช้ระบบพับขาไมค์ขึ้นไปเพื่อปิดเสียงแทนเลยครับง่ายๆ ถือว่าการออกแบบอะไรย้ายมาข้างเดียวกันสะดวกมากขึ้นเยอะครับและใช้งาน USB-C แล้วจากที่รุ่นก่อนใช้งาน Micro-USB ถือว่าเป็นการปรับเปลี่ยนตามยุคสมัยของรุ่นนี้เลยครับ
ตัวก้านไมค์นั้นสามารถปรับพับได้โค้งงอได้แต่ไม่สามารถถอดหรือยืดหดอะไรได้ครับ เมื่อเราพับขึ้นไปก็จะเป็นการ Muted เสียงของตัวไมค์ไปเลยนั้นเองครับอันนี้ก็ถือว่าสะดวกแต่ตัวระยะความยาวของตัวไมค์นั้นอาจจะไม่ยืดหยุ่นในการปรับเท่าไรเพราะ มันลากมาให้ยาวกว่าเดิมไม่ได้อาจจะไม่สะดวกสำหรับหลายๆคนครับ แต่ก็ไม่ได้สั้นเกินไปครับ
โลโก้ข้างบนยังคงเป็นการเขียนชื่อเต็มของแบรนด์อยู่ แบบสีดำเงาเจาะลงไปครับ ส่วนการปรับความสูงของตัวก้านนั้นสามารถเลื่อนเพื่อปรับเปลี่ยนความยาวของมันได้สบายๆโดยเป็นก้านแบบสแตนเลสสวยงามและมีความแข็งแรงรวมถึงการให้ตัวที่มากกว่าปกติ ทำให้ไม่บีบและไม่ง้างเยอะเกินไปด้วยนั้นเอง มีตัวอักษรบอกข้างซ้ายขวาชัดเจน และตัวล็อคแต่ละความสูงนั้นถี่พอสมควรเลยปรับได้ละเอียดครับ และ ไม่ค่อยเลื่อนง่ายเท่าไรคือมีการล็อคได้แน่นกำลังดี แต่ที่ยังบ่นอยู่เรื่องเดิมคือในตัว รับสัญญาณที่เสียบบนคอมนั้น ขนาดใหญ่ และไม่สามารถเก็บในตัวหูฟังได้ครับ
แถบข้างบนนั้นมีฟองน้ำมาให้ด้วยและรองรับเวลาใส่ใช้งานได้ดีครับ มีความยาวรองรับเกือบทั้งก้าน และฟองน้ำด้วยแต่ครั้งนี้เป็นการหุ่มด้วยผ้าระบายอากาศทั้งบนและส่วนที่รองหูนั้นใช้งาน Memory Foam แน่นอนว่า ทำได้ดีใส่สบายไม่อึดอัดและกระขับพอสมควรครับ ถ้าคนศรีษะใหญ่อาจจะบีบนิดนึงแต่ไม่ได้อึดอัดมากนัก แต่ขนาดครอบใบหูและรองรับได้ดีไม่ชนใบหูใส่ได้สบายครับแต่มันไม่ได้วงใหญ่มากนักบางคนอาจจะมีคลุมใบหูไม่หมดครับแต่ก็ไม่ได้เจ็บอะไรเพราะมีความหนาของฟองน้ำอยู่ แต่เรื่องของความร้อนนั้นบอกเลยว่าดีกว่าแบบหนังเยอะมากอันนี้ชอบมาก
SPEC
- เฮดโฟน
- ไดรเวอร์: 40 มม. แบบไดนามิคพร้อมแม่เหล็กนีโอดีเนียม
- ประเภท: แบบครอบเต็ม ปิดด้านหลัง
- ความถี่: 20Hz-20,000Hz
- ระบบเสียงเซอร์ราวด์เสมือนจริง 7.1
- ความต้านทาน: 32 Ω
- ระดับแรงดันเสียง: 109dBSPL/mW ที่ 1kHz
- T.H.D.: < 2%
- น้ำหนัก: 245 ก.
- ความยาวและประเภทสายต่อ: สายชาร์จ USB-C (1 ม.)
- ไมโครโฟน
- ส่วนประกอบ: ไมโครโฟนอีเล็คเตรทคอนเดนเซอร์
- รูปแบบขั้ว: ระบบตัดสัญญาณรบกวน
- ความถี่: 100Hz-7,000Hz
- ความไว: -47dBV (0dB=1V/Pa,1kHz)
- เวลาใช้งานแบตเตอรี่1: 17 ชั่วโมง
- ช่วงสัญญาณไร้สาย2: 2.4GHz สูงสุด 12 เมตร
ในรุ่นนี้นั้นจริงๆมีการรองรับระบบเสียง 7.1 แต่ต้องโหลดโปรแกรมตัว HYPERX NGENUITY ก่อนนะครับ ตัวนี้จะรองรับในหลายๆอุปกรณ์ของค่ายนี้รวมถึงการปรับแต่งสีของ GamingGear ด้วย และเมื่อโหลดมาแล้วก็จะทำให้เราเปิดระบบเสียง 7.1 ได้ รวมถึงปรับความดังของไมค์ และ เสียงหูฟังได้ว่าจะระดับไหนครับไม่ค่อยมีอะไรเยอะมาก
SOUND
เสียงในภาพรวมกันก่อน ตัวเสียงนั้นรายละเอียดกำลังดีและเวลาเล่นเกมเก็บรายละเอียดต่างๆได้ดีครับเสียงคนพูด เสียงร้องชัดเจน แหลมชัด และ มิติเสียงนั้นมาดีพอสมควร เวทีเสียงนั้นไม่ได้กว้างและไม่ได้แคบจนเกินไป แต่ที่รู้สึกว่าในรุ่นนี้ทำได้ดีกว่าเดิมคือเสียงในย่านต่ำ หรือเสียงจำพวกเสียงเบส เสียงระเบิด เสียงย่านต่ำนั้นมาดีกว่าเดิมเยอะมากครับ คือมีมวลกำลังดี และเสียงแน่นกว่าเดิมแต่มันจะไม่ได้กระแทกสะใจมากครับ ถ้าพูดในภาพรวมเสียงจะเด่นเรื่องของมิติเสียง และ เสียงรายละเอียดต่างๆนั้นชัดเจนและแยกได้ดีครับ ส่วนเรื่องของสัญญาณนั้นทำได้ดี ไม่มีขาดหายและทำได้ดีไม่ดีเล เลยครับส่วนระยะก็ได้ตามปกติของพวกหูฟังไร้สายไกลๆก็ยังไหวครับ และแบตก็อึดมากๆตามที่บอกไว้เลยนั้นเอง และ สัญญาณไม่ไปกวนกับหูฟังอื่นๆเลย อาจจะเป็นข้อดีของการใช้งานเชื่อมต่อ 2.4Ghz ด้วย ส่วนในเรื่องของการเล่นเกมก็รองรับได้สบาย เสียงไมค์ เสียงคนพูดชัดเจน และยังรองรับเสียงได้ทุกทิศทางด้วยระบบเสียง 7.1 ที่ใส่เข้ามาครับ เลยทำให้มิติของเสียงในรอบทิศทางนั้นดีกว่าเดิม แยกทิศทางได้ชัดเจนมากขึ้นเยอะเลย
ส่วนในเรื่องของเสียงถ้าเราเอามาฟังเพลงนั้นก็ถือว่าใช้ได้ครับแม้ในรุ่นนี้จะไม่ได้มีระบบเสียง Hi-res อะไรแต่ก็ถือว่าฟังได้ไม่แย่ครับเอาจริงๆแม้ขนาดไดรเวอร์จะเล็กกว่าเดิม แต่เสียงรู้สึกว่ามันปรับมาได้ลงตัวมากขึ้นไม่ใช่สายเกมล้วนแบบรุ่นก่อน เสียงนั้นครบรสมากขึ้นเสียงทำได้ดีทั้งเรื่องของเสียงเบสที่รู้สึกมีน้ำหนักกว่าเดิมและฟังสนุกขึ้นเวลาดูหนัง ฟังเพลง รวมถึงเล่นเกม และในฟีเจอร์เสียงรอบทิศทางก็เข้ามาช่วยได้ด้วยครับ เสียงเวลาฟังเพลงก็เสียงร้องทำได้ดี ชัดเจน เวทีเสียงแยกชิ้นดนตรีได้ระดับกลางๆ แต่เสียงย่านต่ำนั้นเด่นขึ้น ชัดเจนขึ้น เสียงย่านแหลมก็ทำได้ดีไม่จัดแสบหู ครับ รู้สึกกลมกล่อมมากขึ้นนั้นเองถือว่าฟังเพลงก็ทำได้ดีกว่าที่คิด และดีกว่ารุ่นก่อนพอสมควรเลยครับตัวนี้
FEELING
ความรู้สึกในเรื่องของการสวมใส่เวลาใช้งานนานๆนั้นต้องบอกว่ารุ่นนี้มีขนาดค่อนข้างใหญ่เช่นเดิมและตัว Earpad ก็รองรับได้ดีขึ้นมีความกว้างมากกว่าเดิมทำให้รองรับได้ดี และเป็นการเปลี่ยนวัสดุเป็นแบบผ้าระบายอากาศแล้วทำให้ในเรื่องของการใช้งานหลายๆสภาพอากาศนั้นทำได้ดีขึ้นเยอะ ใส่เวลาไม่ได้เปิดแอร์นั้นไม่ร้อนแล้วรวมถึงใส่นานๆได้ดีกว่ารุ่นก่อนเยอะครับแน่นอนว่าตัวฟองน้ำมันมีทรงของมันแต่ไม่ได้นุ่มนิ่มแบบเดิม มันจะกระชับมากขึ้นเยอะครับทั้งในการใส่รู้สึกกระชับขึ้นมากแต่ไม่อึดอัดไม่ร้อน ต้องบอกว่าชอบวัสดุแบบผ้าแบบนี้มากกว่าหนังเทียบแบบเดิม
SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้