กระทู้อวยผู้กำกับผู้เขียนบทและทีมงานคั่นกู

คั่นกู เป็นผลงานที่ผู้กำกับผู้เขียนบทและทีมงานทำได้ดีมากๆ
สิ่งที่ผมชื่นชมอย่างมาก คือ ภาพรวมของซีรีย์ ที่มีความกระชับ มีความละมุนในแทบทุกฉาก 
แม้ว่า รายละเอียดย่อยๆจะโดนติเยอะ แต่ก็ไม่สามารถลบคุณงามความดีของภาพรวมของซีรีย์ได้
มันดีกว่า บางซีรีย์ที่เน้นรายละเอียดมากเกิน แต่ภาพรวมดูไม่ดีเท่าที่ควร เนื้อเรื่องยืด ไม่น่าติดตาม ทำให้ซีรีย์ไม่น่าสนใจ
แค่คั่นกู ภาพรวมดีมาก ดีในหลายๆ ด้าน
1. การเลือกวินมาเป็นไทน์ ทันที่ตอนแรกโดนวิจารณ์ไปพอสมควร แต่สุดท้าย มันคือการเลือกที่ดีมากๆ คงไม่ต้องบรรยายนะครับ

2. การทำให้บทระหว่างไทน์กับกรีนดูน่ารักมากขึ้นกว่าในนิยาย (ไม่ใช่ว่าในนิยายไม่ดีนะครับ แต่หมายถึงว่า กรีนในซีรีย์ดูน่ารักมากขึ้น และไทน์ก็ไม่ได้รังเกียจกรีนอะไรเลย เพียงแค่ไม่อยากเป็นแฟนด้วยเฉยๆ) 

3. ฉากดูสมจริง โดยเฉพาะห้องนอนของสารวัตรและไทน์ คือ บางเรื่องนี้ หรูหรามากครับ ดูแล้วทำให้ไม่อิน ไม่ตรงกับชีวิตเรา ทำให้คนดูเข้าไม่ถึงหนังน่ะครับ หนังก็เข้าไม่ถึงคนดูน่ะครับ แต่สำหรับผู้กำกับและทีมงานคั่นกู ทำให้เรื่องนี้สมจริง ทุกคนรู้สึกว่า นี่ล่ะ มันใช่เลย

4. มีการเปลี่ยนบทไปบางฉาก เช่น การที่สารวัตรจูบไทน์แล้วแกล้งสลบไป (ในนิยายไม่ได้สลบ) ทำให้มีการหักมุม ได้ลุ้นต่อไปครับ

เตะบอลแพ้ (ในนิยายชนะครับ) ถามว่า แบบไหนดีกว่ากัน คือ ดีงามทั้งคู่ครับ และ ในซีรีย์ ผู้กำกับและผู้เขียนบทก็กล้าที่จะเปลี่ยนครับ 

มีอีกหลายตอนครับ ที่ถูกเปลี่ยนไปแล้วดีขึ้น (จริงๆ อาจไม่ได้ดีขึ้น แต่หมายถึงว่า ให้อารมณ์ที่ดีไปอีกแบบ ไม่แพ้นิยายน่ะครับ)
5. มีการสลับฉากไปจากนิยายเยอะมาก แต่ลงตัวดีมากครับ (ไม่ใช่ว่านิยายไม่ดีนะครับ แต่ในนิยายมันสามารถสื่อความในใจได้ ในขณะที่ซีรีย์จะนำเสนอแตกต่างกัน) เช่น
ฉากนี้ ก็ถูกสลับมาครับ เข้ากันได้ดีกับเหตุการณ์ก่อนนี้

ฉากนี้ ก็ถูกสลับมาลงกับเหตุการณ์ได้ลงตัวมากครับ

อีกหลายฉากเลยครับ มันเนียน ลงตัวมากครับ
6. การทำให้ไทน์ไม่ได้ชอบสารวัตรในตอนแรก แต่ค่อยๆ ชอบในที่สุด ทำได้ดีมากเลยครับ (ในนิยาย ไทน์เริ่มชอบสารวัตรเร็วกว่านี้ครับ)

7. การเพิ่มบทต่างๆ เข้าไป เนียนและดีงามมากครับ หลายตอนเลย ได้ข่าวว่าผู้กำกับเค้ายอมรับฟังความคิดเห็นของนักแสดง อันนี้สุดยอดมากครับ อย่าคิดว่า เอ๊ะ งั้นผู้กำกับก็ไม่ได้คิดเองสิ ไม่ใช่ครับ ผู้นำที่เก่ง ไม่ใช่ผู้นำที่คิดเองนะครับ แต่เป็นผู้นำที่กล้าตัดสินใจ โดยอาศัยความคิดเห็นจากทุกฝ่ายนะครับ เช่น เล่าปัง เล่าปี่ เป็นต้นครับ 
เช่น ฉากสารวัตรแกล้งขอไทน์แต่งงาน

8. กล้าที่จะเปลี่ยนบทใน EP12-13 ....... ขอสารภาพว่า ก่อนนี้ ผมก็ว่าไว้เยอะครับ อยากได้แบบเก่าในนิยาย ........ แต่พอมานั่งดูในซีรีย์หลายๆ รอบ มันดูจะทำให้อารมณ์เราร่วมไปกับหนังได้มากกว่านะครับ ไทน์ร้องไห้หนักขนาดนี้ จะหาไม่ได้เลย ถ้าเป็นแบบในซีรีย์ เพราะแรงส่งไม่พอครับ มันทำให้วินได้แสดงฝีมือเต็มที่ ดูไป ดูมา ผมเริ่มชอบขึ้นเรื่อยๆ ครับ

บทสารวัตรช่วงนี้ ดูไปมา ก็น่าสงสารนะครับ เศร้าแบบผู้ชาย คือ ไม่ค่อยแสดงออกน่ะครับ เศร้าในอารมณ์ลึกๆ (จะมีที่ต้องคิดเอง ก็คือ ไม่ไปเฝ้าที่โรงพยายาล แต่ก็พอเดาได้ว่า คงตามหาหลายแห่งและเจอแล้วอาจดูอยู่ห่างๆ เพราะพอจะขึ้นรถ ก็ทนไม่ไหวโผล่ไปหาไทน์ทันที) คงมุ่งมั่นแต่งเพลงเพื่อง้อไทน์ด้วย และรู้ว่า ไทน์ดื้อ ฟ่งยิ่งรู้ครับ เลยไม่เซ้าซี้ อารมณ์ตรงนี้ คล้ายๆกับ ที่เค้าเปรียบเทียวว่าผู้ชายเวลามีปัญหาก็ชอบเข้าถ้ำครับ

เท่านี้แล้วกันครับ จริงๆ มีเยอะที่จะอวย แต่เขียนไม่เก่งอ่ะครับ

สำหรับ EP12-13 ผมนึกไปมา ถ้าทำตามนิยาย ก็คงจบไปแบบสวยๆ มีความสุข แต่ไม่กระชากอารมณ์คนดูได้เหมือนในซีรีย์ครับ ฉะนั้น ผมว่า การทำ EP12-13 ออกมาแบบนี้ ทำให้อารมณ์ของคนพลุ่งพล่าน และทำให้ซีรีย์เรื่องนี้เป็นที่จดจำครับ สุดยอดมากครับ

เอาเป็นว่า ผมว่า ผู้กำกับ คนเขียนบท และทีมงาน ที่สำคัญ นักแสดง ทำให้ภาพรวมของหนังออกมาดีมากครับ ส่วนรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ก็ยอมรับได้ครับ ดีกว่าหนังที่เน้นรายละเอียดมาก แต่ไม่มองภาพรวม จนภาพรวมของหนังเละครับ

ถ้ามี ภาค 2 ก็อยากให้ใช้ผู้กำกับและทีมงานเดิมครับ ซึ่งจะทำให้ภาพรวมของซีรีย์ออกมาดีครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่