สวัสดีค่ะ นี่เป็นกระทู้แรกในชีวิตที่เราอยากลงในพันทิป เพราะเราเข้าใจหัวอกคนอยากมีลูกค่ะ เข้าเรื่องเลยแล้วกันนะคะ
บางคนถ้าติดตามเราอาจจะรู้เรื่องของเรามาบ้างแล้ว และอาจจะรู้จักเราด้วย ฝากติดตามด้วยนะคะ อิอิ ขายตัวเองก่อนเลย^^
กระทู้นี้เราจะบอกหมดเปลือกแบบที่ไม่เคยออกสื่อมาก่อน ขั้นตอน ราคา (โดยประมาณ) (ยกเว้นสถานที่อันไหนไม่เวิร์คสำหรับเรา เราขอไม่บอกว่าที่ไหนนะคะ) ทุกวิธีที่เราเชื่อว่าดี หลายๆ คนอาจจะได้ผลจากแต่ละวิธีที่เราผ่านมา แต่มันแค่ไม่เวิร์คสำหรับเราเท่านั้นเองค่ะ
เราแต่งงานกับสามีปลายปี 2014 ตอนนั้นเราอายุ 32 ปี ส่วนสามี 31 ปีค่ะ (แต่งงานช้าเนอะ และใช่ค่ะดิฉันได้สามีอ่อนกว่า) ซึ่งปีถัดมา ปี 2015 จะเป็นปีแพะ เราเลยมีความคิดว่าไม่อยากได้ลูกเกิดปีแพะ เพราะกลัวจะเป็นแพะรับบาป ความคิดไร้สาระนี้ทำเราเสีเวลาไป 1 ปีเต็มๆ ค่ะ ไม่มีใครเบรคความคิดอันชาญฉลาดของดิฉันเลย TT ทั้งๆ ที่ความฝันสูงสุดของเราไม่ใช่เรื่องงาน ไม่ใช่เรื่องเงินเหมือนคนอื่นๆ ความฝันของเราคือครอบครัว "เราอยากเป็นแม่" เราอยากมีลูก
ซึ่งในระหว่างนี้เรากับสามีก็ได้เตรียมตรวจสุภาพเพื่อรอวันที่พร้อมจะมีลูก นอกจากตรวจเตรียมพร้อมสำหรับมีบุตรแบบทั่วๆ ไปแล้ว เรามีการไปตรวจหาโรคทางพันธุกรรมกับคุณหมอโอบจุฬ (ผศ.ดร.นพ.โอบจุฬ ตราชู แพทย์ผู้เชี่ยวชาญสาขาเวชพันธุศาสตร์) เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่ลูกจะมีโรคทางพันธุกรรมจากพ่อ หรือแม่ เพราะเราไม่รู้ว่าเราจะเป็นพาหะโรคพวกนี้รึเปล่า มันสำคัญนะ ใครๆ ก็หวังให้ลูกออกมาแข็งแรงสมบูรณ์ ไม่มีโรคติดตัวตั้งแต่เกิด รู้ก่อนก็ป้องกันได้ หรืออย่างน้อยก็เตรียมรับมือกับสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้น
การตรวจก็ซักถามประวัติสุขภาพทั้งครอบครัวทั้งสองฝ่ายก่อน โรคประจำตัว เจาะเลือด แล้วเอาไปตรวจหาเป็นร้อยๆโรคเลยค่ะ จำได้ว่าเยอะมาก คุณหมออธิบายดีมาก ทำให้เราเข้าใจ และไม่กังวล ผลออกมาก็ปกติดีทั้งคู่ค่ะ ไม่มีโรคทางพันธุกรรมใดใด สบายใจละ พร้อมมีบุตรได้เลยค๊าาา
ปล. การคุมกำเนิดในตอนนั้นไม่ได้ทานยาคุม ใช้วิธีธรรมชาติในการคุมกำเนิดค่ะ
มาถึงปี 2016 ที่เราตั้งใจจะมีลูก สุขภาพสามีโดยรวมปกติดีค่ะ ไม่ได้ขี้โรคอะไร แต่อาจจะเป็นปัญหาที่เรา เพราะเราเป็นคนมีประจำเดือนมาไม่ค่อยจะตรง แบบมาตรงบ้าง มาเลทบ้าง เวลาเลทก็จะเลทประมาณ สามวัน ไปจนถึงสองสัปดาห์เลยก็มี (ให้ความหวังรอคอยไปอี๊ก) เรากับสามีจึงขยันมากค่ะ แทบจะวันเว้นวัน หรือเว้นสองวัน ลึกสุดไรสุด ตามทฤษฎีเปะค่ะ ทฤษฎีว่าไว้ว่า ผู้ชายต้องจบให้ลึก ผู้หญิงจบขายกสูง ไม่ต้องทุกวันเดี๋ยวน้ำเชื้อดีๆ จะผลิตไม่ทัน จัดเช้าเพื่อความสดชื่น หาวันไข่ตกกันวุ่นวะวุ่นวาย วัดความดันอุณหภูมิในร่างกาย จะหญิง หรือชายก็มาเถอะลูก หมดไปอีกปีกว่า แม่แทบจะเผาตำรา เพราะลูกจ๋าไม่มาสักที งานนี้ต้องพึ่งคุณหมอแล้วค่ะ (มาถึงจุดนี้หลายคนคงเจอ ทฤษฎีปึ๊ก ปฏิบัติแป๊ก ขอต้อนรับสู่วงการมีบุตรยากค่ะ)
หมอแรกที่คนหมดหวังอย่างดิฉันไปหาคือ...หมอดูจ้าาาา อย่าหาว่าเชื่ออะไรไม่เข้าท่าเลยนะคะ เรียกว่างมงายดีกว่าค่ะ
เรา : อาจารย์คะ หนูจะมีลูกมั้ยคะ มีเมื่อไหร่คะ มีสองคนได้มั้ยคะ (ความโลภของดิฉัน)
อ.วิเชียร : คุณมีได้นะ แต่คุณเป็นคนมีลูกยาก ไม่มีทางมีธรรมชาติได้แน่ๆ ต้องไปแพทย์แผนปัจจุบันเท่านั้นด้วย แบบที่เค้าเรียกว่าเด็กหลอกแก้วอ่ะ คุณต้องไปทำแบบนั้น แพทย์แผนอื่นไม่ได้ผล มีคนแรกให้ได้ก่อนมั้ย (กรู TT;)
ตอนนั้นเราเถียง (ในใจ) เลยค่ะ ไม่มีเงินขนาดนั้นจ้าาาา มันคงหลายแสนทะลุล้านแน่ๆ เราเลยปรึกษาคนอื่นๆ ที่เค้ามีลูกช้าเหมือนเรา ว่าเค้าทำยังไง จนได้มาเจอสิ่งนี้ค่ะ ...เอ๊า ไหนว่างมงาย ดื้อซะงั้น
*
วิ ตา มิน (ปี 2015)
แผนทางเลือกแรกที่ดูเป็นธรรมชาติที่สุด เพื่อการเตรียมตัว แถมได้ดูแลสุขภาพโดยรวมของตัวเองไปในตัว การรับวิตามินเข้าร่างค่ะ
งานนี้ผ่านการดูแลโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญนะคะ ขั้นตอนแรกคุณหมอจะตรวจสุขภาพของเรา และสามี ซักถามประวัติสุขภาพ เช่น โรคประจำตัว? แพ้ยา? พื้นฐานทั่วๆ ไปเวลาที่เราไปหาคุณหมอแหละค่ะ จากนั้นก็จะเจาะเลือดเรา ดูค่าตับค่าไต และเอาเลือดของเราไปตรวจแลปถึงอเมริกา ใช้เวลาไม่กี่ชั่วโมงในการไปพบคุณหมอ แต่รอผลตรวจเลือดนานเกือบเดือนอยู่เหมือนกันค่ะ (ก็เค้าส่งไปไกลครึ่งโลกอ่ะนะ) เมื่อได้ผลเลือดแล้ว เค้าก็จะบอกว่าเราขาดวิตามินตัวไหนบ้าง แผนนี้เชื่อว่า เพราะเราขาดวิตามินบางตัวอย่างยาวนานทำให้สุขภาพเราเสื่อมไม่สมบูรณ์เต็มที่ หากร่างการของเราได้รับสารอาหารครบถ้วน ร่างกายก็จะปรับสมดุล ทำให้ร่างกายเราแข็งแรงพร้อมที่จะมีตัวน้อยๆ ในท้องได้ ...ความหวังตาเป็นประกายสิคะ น้ำตาจะไหล ได้ยินประโยคนี้เราเริ่มออกกำลังกายอย่างจริงจังควบคู่ไปด้วยค่ะ เตรียมร่างกายเต็มที่
เฉพาะ ตรวจร่างกายพร้อมตรวจเลือด เรากับสามี ราวๆ สามหมื่นบาทค่ะ ยังไม่รวมวิตามินที่คุณหมอเห็นว่าเราขาดแล้วต้องซื้อวิตามินเสริมมากินอีกนะคะ โดนไปเกือบสิบชนิดต่อคนเลยล่ะค่ะ (ขาดสารอาหารอะไรเบอร์นั้น นึกว่าตัวเองจะเป็นโรคขาดสารอาหารก่อนจะมีลูกยากละ) เรียกได้ว่ากินเป็นกำ พร้อมความหวังร่างกายจะสมบูรณ์ สามเดือนต้องไปตรวจใหม่เจาะเลือดอีกรอบเพื่อดูว่าหลังจากทานวิตามินอย่างต่อเนื่องแล้วนั้นเป็นอย่างไรบ้าง นั่นแปลว่า สามหมื่นยังไม่รวมวิตามิน กำลังจะมาอีกแล้วค่ะ เท่ากับว่า แผนนี้คือเดือนละหมื่นกว่าบาท และยังไม่ทราบว่าจะสำเร็จในเรื่องของการมีบุตรเมื่อไหร่
ผ่านไปอีกเกือบปี และวิตามินหลายสิบกระปุก เกรงใจพี่สาวที่ช่วยจ่ายค่าตรวจร่างกายให้ เพราะถ้าใช้วิธีนี้อาจจะต้องใช้เวลานานกว่าร่างกายจะปรับสมดุล (แก่แล้วเริ่มใจร้อน) วิตามินทั้งหลายคงไปแก้ไขร่างกายส่วนอื่นๆ ก่อนมดลูกเป็นแน่ ค่าใช้จ่ายก็ทะลุแสน เราเลยต้องพับแผนนี้ คิดว่านี้ไม่ใช่เวย์ของเราที่จะมีลูกได้ แต่ยังคงออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอนะคะ เรายังเชื่อว่า "ร่างกายแข็งแรงเพื่อพร้อมดูแลลูกในท้อง" อยู่ค่ะ
สรุป เราคิดว่าแผนทางเลือกโดยใช้วิตามิน หรือสารอาหารเพื่อให้ร่างกายสมบูรณ์ เหมาะสำหรับคนที่ใจเย็นมีเวลารอให้ร่างกายค่อยๆซ่อมแซมจนสมบูรณ์ (ว่าที่คุณแม่เริ่มแก่แล้ว ว่าที่คุณแม่เริ่มไม่มีเวลา ไข่แม่กำลังจะฝ่ออออ)
การเงินชอบแบบผ่อนจ่าย (จ่ายหลักหมื่นจบหลักแสน) แต่ถ้าแบบฉีดเข้าร่าง หลักแสนไปเลยจ้า ไม่ใช่หลักหมื่นนะจ๊ะ พร้อมคำทำนายว่าจะมีชีวิตอยู่ได้อีกกี่ปี อันนี้มารดาดิฉันโดนมาแล้วค่ะ
เดี๋ยวมาต่อนะคะ ยังมีอีกหลายแผนให้พิจารณาค่ะ
[CR] มีบุตรยาก แนะนำเพื่อผู้มีบุตรยาก แชร์แต่ละวิธีเพื่อให้มีลูก
บางคนถ้าติดตามเราอาจจะรู้เรื่องของเรามาบ้างแล้ว และอาจจะรู้จักเราด้วย ฝากติดตามด้วยนะคะ อิอิ ขายตัวเองก่อนเลย^^
กระทู้นี้เราจะบอกหมดเปลือกแบบที่ไม่เคยออกสื่อมาก่อน ขั้นตอน ราคา (โดยประมาณ) (ยกเว้นสถานที่อันไหนไม่เวิร์คสำหรับเรา เราขอไม่บอกว่าที่ไหนนะคะ) ทุกวิธีที่เราเชื่อว่าดี หลายๆ คนอาจจะได้ผลจากแต่ละวิธีที่เราผ่านมา แต่มันแค่ไม่เวิร์คสำหรับเราเท่านั้นเองค่ะ
เราแต่งงานกับสามีปลายปี 2014 ตอนนั้นเราอายุ 32 ปี ส่วนสามี 31 ปีค่ะ (แต่งงานช้าเนอะ และใช่ค่ะดิฉันได้สามีอ่อนกว่า) ซึ่งปีถัดมา ปี 2015 จะเป็นปีแพะ เราเลยมีความคิดว่าไม่อยากได้ลูกเกิดปีแพะ เพราะกลัวจะเป็นแพะรับบาป ความคิดไร้สาระนี้ทำเราเสีเวลาไป 1 ปีเต็มๆ ค่ะ ไม่มีใครเบรคความคิดอันชาญฉลาดของดิฉันเลย TT ทั้งๆ ที่ความฝันสูงสุดของเราไม่ใช่เรื่องงาน ไม่ใช่เรื่องเงินเหมือนคนอื่นๆ ความฝันของเราคือครอบครัว "เราอยากเป็นแม่" เราอยากมีลูก
ซึ่งในระหว่างนี้เรากับสามีก็ได้เตรียมตรวจสุภาพเพื่อรอวันที่พร้อมจะมีลูก นอกจากตรวจเตรียมพร้อมสำหรับมีบุตรแบบทั่วๆ ไปแล้ว เรามีการไปตรวจหาโรคทางพันธุกรรมกับคุณหมอโอบจุฬ (ผศ.ดร.นพ.โอบจุฬ ตราชู แพทย์ผู้เชี่ยวชาญสาขาเวชพันธุศาสตร์) เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่ลูกจะมีโรคทางพันธุกรรมจากพ่อ หรือแม่ เพราะเราไม่รู้ว่าเราจะเป็นพาหะโรคพวกนี้รึเปล่า มันสำคัญนะ ใครๆ ก็หวังให้ลูกออกมาแข็งแรงสมบูรณ์ ไม่มีโรคติดตัวตั้งแต่เกิด รู้ก่อนก็ป้องกันได้ หรืออย่างน้อยก็เตรียมรับมือกับสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้น
การตรวจก็ซักถามประวัติสุขภาพทั้งครอบครัวทั้งสองฝ่ายก่อน โรคประจำตัว เจาะเลือด แล้วเอาไปตรวจหาเป็นร้อยๆโรคเลยค่ะ จำได้ว่าเยอะมาก คุณหมออธิบายดีมาก ทำให้เราเข้าใจ และไม่กังวล ผลออกมาก็ปกติดีทั้งคู่ค่ะ ไม่มีโรคทางพันธุกรรมใดใด สบายใจละ พร้อมมีบุตรได้เลยค๊าาา
ปล. การคุมกำเนิดในตอนนั้นไม่ได้ทานยาคุม ใช้วิธีธรรมชาติในการคุมกำเนิดค่ะ
มาถึงปี 2016 ที่เราตั้งใจจะมีลูก สุขภาพสามีโดยรวมปกติดีค่ะ ไม่ได้ขี้โรคอะไร แต่อาจจะเป็นปัญหาที่เรา เพราะเราเป็นคนมีประจำเดือนมาไม่ค่อยจะตรง แบบมาตรงบ้าง มาเลทบ้าง เวลาเลทก็จะเลทประมาณ สามวัน ไปจนถึงสองสัปดาห์เลยก็มี (ให้ความหวังรอคอยไปอี๊ก) เรากับสามีจึงขยันมากค่ะ แทบจะวันเว้นวัน หรือเว้นสองวัน ลึกสุดไรสุด ตามทฤษฎีเปะค่ะ ทฤษฎีว่าไว้ว่า ผู้ชายต้องจบให้ลึก ผู้หญิงจบขายกสูง ไม่ต้องทุกวันเดี๋ยวน้ำเชื้อดีๆ จะผลิตไม่ทัน จัดเช้าเพื่อความสดชื่น หาวันไข่ตกกันวุ่นวะวุ่นวาย วัดความดันอุณหภูมิในร่างกาย จะหญิง หรือชายก็มาเถอะลูก หมดไปอีกปีกว่า แม่แทบจะเผาตำรา เพราะลูกจ๋าไม่มาสักที งานนี้ต้องพึ่งคุณหมอแล้วค่ะ (มาถึงจุดนี้หลายคนคงเจอ ทฤษฎีปึ๊ก ปฏิบัติแป๊ก ขอต้อนรับสู่วงการมีบุตรยากค่ะ)
หมอแรกที่คนหมดหวังอย่างดิฉันไปหาคือ...หมอดูจ้าาาา อย่าหาว่าเชื่ออะไรไม่เข้าท่าเลยนะคะ เรียกว่างมงายดีกว่าค่ะ
เรา : อาจารย์คะ หนูจะมีลูกมั้ยคะ มีเมื่อไหร่คะ มีสองคนได้มั้ยคะ (ความโลภของดิฉัน)
อ.วิเชียร : คุณมีได้นะ แต่คุณเป็นคนมีลูกยาก ไม่มีทางมีธรรมชาติได้แน่ๆ ต้องไปแพทย์แผนปัจจุบันเท่านั้นด้วย แบบที่เค้าเรียกว่าเด็กหลอกแก้วอ่ะ คุณต้องไปทำแบบนั้น แพทย์แผนอื่นไม่ได้ผล มีคนแรกให้ได้ก่อนมั้ย (กรู TT;)
ตอนนั้นเราเถียง (ในใจ) เลยค่ะ ไม่มีเงินขนาดนั้นจ้าาาา มันคงหลายแสนทะลุล้านแน่ๆ เราเลยปรึกษาคนอื่นๆ ที่เค้ามีลูกช้าเหมือนเรา ว่าเค้าทำยังไง จนได้มาเจอสิ่งนี้ค่ะ ...เอ๊า ไหนว่างมงาย ดื้อซะงั้น
*
วิ ตา มิน (ปี 2015)
แผนทางเลือกแรกที่ดูเป็นธรรมชาติที่สุด เพื่อการเตรียมตัว แถมได้ดูแลสุขภาพโดยรวมของตัวเองไปในตัว การรับวิตามินเข้าร่างค่ะ
งานนี้ผ่านการดูแลโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญนะคะ ขั้นตอนแรกคุณหมอจะตรวจสุขภาพของเรา และสามี ซักถามประวัติสุขภาพ เช่น โรคประจำตัว? แพ้ยา? พื้นฐานทั่วๆ ไปเวลาที่เราไปหาคุณหมอแหละค่ะ จากนั้นก็จะเจาะเลือดเรา ดูค่าตับค่าไต และเอาเลือดของเราไปตรวจแลปถึงอเมริกา ใช้เวลาไม่กี่ชั่วโมงในการไปพบคุณหมอ แต่รอผลตรวจเลือดนานเกือบเดือนอยู่เหมือนกันค่ะ (ก็เค้าส่งไปไกลครึ่งโลกอ่ะนะ) เมื่อได้ผลเลือดแล้ว เค้าก็จะบอกว่าเราขาดวิตามินตัวไหนบ้าง แผนนี้เชื่อว่า เพราะเราขาดวิตามินบางตัวอย่างยาวนานทำให้สุขภาพเราเสื่อมไม่สมบูรณ์เต็มที่ หากร่างการของเราได้รับสารอาหารครบถ้วน ร่างกายก็จะปรับสมดุล ทำให้ร่างกายเราแข็งแรงพร้อมที่จะมีตัวน้อยๆ ในท้องได้ ...ความหวังตาเป็นประกายสิคะ น้ำตาจะไหล ได้ยินประโยคนี้เราเริ่มออกกำลังกายอย่างจริงจังควบคู่ไปด้วยค่ะ เตรียมร่างกายเต็มที่
เฉพาะ ตรวจร่างกายพร้อมตรวจเลือด เรากับสามี ราวๆ สามหมื่นบาทค่ะ ยังไม่รวมวิตามินที่คุณหมอเห็นว่าเราขาดแล้วต้องซื้อวิตามินเสริมมากินอีกนะคะ โดนไปเกือบสิบชนิดต่อคนเลยล่ะค่ะ (ขาดสารอาหารอะไรเบอร์นั้น นึกว่าตัวเองจะเป็นโรคขาดสารอาหารก่อนจะมีลูกยากละ) เรียกได้ว่ากินเป็นกำ พร้อมความหวังร่างกายจะสมบูรณ์ สามเดือนต้องไปตรวจใหม่เจาะเลือดอีกรอบเพื่อดูว่าหลังจากทานวิตามินอย่างต่อเนื่องแล้วนั้นเป็นอย่างไรบ้าง นั่นแปลว่า สามหมื่นยังไม่รวมวิตามิน กำลังจะมาอีกแล้วค่ะ เท่ากับว่า แผนนี้คือเดือนละหมื่นกว่าบาท และยังไม่ทราบว่าจะสำเร็จในเรื่องของการมีบุตรเมื่อไหร่
ผ่านไปอีกเกือบปี และวิตามินหลายสิบกระปุก เกรงใจพี่สาวที่ช่วยจ่ายค่าตรวจร่างกายให้ เพราะถ้าใช้วิธีนี้อาจจะต้องใช้เวลานานกว่าร่างกายจะปรับสมดุล (แก่แล้วเริ่มใจร้อน) วิตามินทั้งหลายคงไปแก้ไขร่างกายส่วนอื่นๆ ก่อนมดลูกเป็นแน่ ค่าใช้จ่ายก็ทะลุแสน เราเลยต้องพับแผนนี้ คิดว่านี้ไม่ใช่เวย์ของเราที่จะมีลูกได้ แต่ยังคงออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอนะคะ เรายังเชื่อว่า "ร่างกายแข็งแรงเพื่อพร้อมดูแลลูกในท้อง" อยู่ค่ะ
สรุป เราคิดว่าแผนทางเลือกโดยใช้วิตามิน หรือสารอาหารเพื่อให้ร่างกายสมบูรณ์ เหมาะสำหรับคนที่ใจเย็นมีเวลารอให้ร่างกายค่อยๆซ่อมแซมจนสมบูรณ์ (ว่าที่คุณแม่เริ่มแก่แล้ว ว่าที่คุณแม่เริ่มไม่มีเวลา ไข่แม่กำลังจะฝ่ออออ)
การเงินชอบแบบผ่อนจ่าย (จ่ายหลักหมื่นจบหลักแสน) แต่ถ้าแบบฉีดเข้าร่าง หลักแสนไปเลยจ้า ไม่ใช่หลักหมื่นนะจ๊ะ พร้อมคำทำนายว่าจะมีชีวิตอยู่ได้อีกกี่ปี อันนี้มารดาดิฉันโดนมาแล้วค่ะ
เดี๋ยวมาต่อนะคะ ยังมีอีกหลายแผนให้พิจารณาค่ะ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้