เชื่อว่าหลายคนที่กำลังประสบปัญหาเกี่ยวกับการมีบุตรยาก จะต้องวุ่นวายกับการหาข้อมูลในการที่จะช่วยให้มีลูกได้ง่ายขึ้น ดิฉันก็เป็นคนหนึ่งที่ศึกษาข้อมูลอย่างหนัก ดิฉันอายุ 28 ปี สามี อายุ 32 ปี มองดูแล้วเหมือนพวกเราอายุยังน้อยใช่ไหมคะ แต่ว่าฉันมีปัญหาด้านร่างกายหลายอย่างคะ หลังจากแต่งงานดิฉันก็ท้องทันทีคะ แต่ว่าความโชคร้ายก็เข้ามาเยือน เมื่ออายุครรภภ์ 7 สัปดาห์ ดิฉันเริ่มมีเลือดออกทางช่องคลอดแต่ไม่มาก และตามมาด้วยอาการปวดท้องน้อยด้านขวา สามีจึงพาดิฉันไปหาหมอที่โรงพยาบาลกรุงเทพ ที่ดิฉันฝากครรภ์อยู่ คุณหมอตรวจแล้วแจ้งว่าดิฉันท้องนอกมดลูก จะต้องผ่าตัดด่วน เนื่องจากตัวอ่อนฝังตัวอยู่ที่ท่อนำไข่ ดิฉันเสียใจมาก แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ สามีได้แค่ปลอบว่า เรายังมีใหม่ได้ ฉันรู้ว่าเค้าทำใจไม่ได้เหมือนกัน แต่เขาก็พยายามทำให้ฉันรู้สึกดี ดิฉันอยู่ที่โรงพยาบาล 3 คืน 4 วัน ดิฉันต้องเสียท่อนำไข่ด้านขวาไป นั่นเท่ากับว่าสูญเสียโอกาสการมีลูกไป 50 % ด้วยเช่นกัน ค่าใช้จ่ายทั้งสิ้น 14x,xxx บาท แพงโฮกT_T หมอแนะนำว่าให้คุมกำเนิดก่อนซัก 6 เดือน
หลังจากนั้น 6 เดือน ดิฉันก็ท้องอีก คราวนี้นานหน่อย ได้ 3 เดือน อัลตร้าซาวด์ทางช่องคลอด หมอบอกว่า ลูกฉันไม่มีหัวใจ แล้วก็จบด้วยการขูดมดลูก อันนี้ไม่ต้องนอนโรงพยาบาล วางยาสลบ ขูดมดลูกแล้วกลับบ้านได้ ค่าใช้จ่าย 8,xxx บาท
และแล้วก็เริ่มศึกษาหาข้อมูลอย่างจริงจังเกี่ยวกับการมีบุตรยาก ครั้งแรกดิฉันไปหาหมอด้วยอาการ ประจำเดือนมาไม่ปกติ (45 วันมาทีอะไรประมาณนี้)
ตอนนี้เริ่มสำคัญแล้วนะ***และแร้วเราก็เลือกศิริราชค่ะ
1. ศิริราชมีระบบลงทะเบียนออนไลน์ ก็ดำเนินการเลยค่ะลงทะเบียนทั้งสามีและภรรยา
2. รอแผนกเวชระเบียนอีเมลล์ตอบกลับมานะคะ
3. ได้เลขที่ผู้ป่วยแล้ว ทีนี้เราก็ทำการโทรนัดหมอคร่า (ดิฉันโทรไป พี่ที่รับนัดแจ้งคร่าวๆ ว่าต้องพบหมอที่แผนกนารีเวช มีหมอในใจรึเปล่า มาแบบไม่รู้อะไร ก็เลยตอบไปว่า ไม่มีค่ะ พี่คนที่รับนัดเลยแนะนำ อ.สมสิญจน์ เพราะแกว่าคิวไม่เยอะ ดิฉันได้คิวปลายเดือนมีนาคมค่ะ)
4. ครั้งแรกที่ไป ถึงโรงพยาบาลตั้งแต่ 7 โมงเช้า กว่าจะเสร็จก็ปาเข้าไป บ่าย 2 โมงกว่า ลืมบอกไปเลยว่าครั้งแรกที่ไปนี่ ต้องไปที่ตึกผู้ป่วยนอก ชั้น 3 แผนกนารีเวช (แต่ท่านทั้งหลายก็ต้องเข้าใจนะคะ ว่าผู้ป่วยเค้าเยอะจริงๆ )
5. รอตรวจมะเร็งปากมดลูก ค่าตรวจ 280 บาท ค่าบริการผู้ป่วยนอก 90 บาท รวมแล้วครั้งนี้จ่ายไป 370 บาท ประมาณ 11 โมงเห็นจะได้ เจ้าหน้าที่ให้นำเอกสารไปติดต่อที่อาคาร 100 ปี ชั้น 6 แผนกมีบุตรยาก พอไปถึงพยาบาลที่แผนกมีบุตรยากก็แนะนำว่า ให้มาเจาะเลือดวันที่ 1-3 ของการมีประจำเดือน ส่วนสามีก็ให้มาเจาะเลือดและตรวจเชื้อ ต้องงดหลั่งมา 3-5 วัน ที่สำคัญสำเนาทะเบียนสมรส ต้องเอามาให้ที่แผนกด้วย
6. วันที่ 1 เมษายน ประจำเดือนก็มา ก็เลยไปเจาะเลือด ค่าใช้จ่าย 1420 บาท ส่วนของสามี 2740 บาท รวมแล้ว 4160 บาทคร่า
7. หลังจากนั้น 2 วัน ก็มาพบหมออีก ผลจากการตรวจคุณหมอว่า ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร ก็เลยบอกว่า ให้กินยาปรับฮอร์โมน ครั้งนี้มีค่าใช้จ่าย 215 บาท
8. วันที่ 17 เมษายน ก็ไปพบหมออีก คราวนี้ได้ยาอะไรมาบ้างไม่รู้ จำไม่ได้ (ยากระตุ้นไข่ ยาให้ไข่ตก ประมาณนี้) และก็ค่าซาวด์ดูไข่ 740 บาท ค่ายา 1610 บาท รวม 2350 บาท สรุป หมอบอกว่าจะให้ฉีดเชื้อดูก่อน
9. วันที่ 20 เมษายน วันที่ฉีดเชื้อก็มาถึง ฉันไปถึงที่แผนกตั้งแต่ 7 โมงเช้า แล้วพี่พยาบาลก็ให้ไปเปลี่ยนชุดแล้วนั่งรอที่ห้องสุดท้าย บอกว่าให้ปัสสาวะให้เรียบร้อย เสร็จแล้วก็มีผู้หญิงอีก 4-5 คนมานั่งรอเป็นเพื่อน แล้วก็คุยกัน จริงๆ แล้วไม่รู้จักกันหรอก พอคุณหมอมา พี่พยาบาลก็ให้เราทั้ง 5-6 คน ไปนอนรอในห้องข้างใน เสร็จแล้วพี่พยาบาลก็มาพร้อมกับคุณหมอ แต่ไม่ใช่ อ.สมสิญจน์ นะ เป็นลูกศิษย์ อ.แทนนะ พี่พยาบาลทวนชื่อ – สกุล และชื่อ – สกุลสามี แล้วบอกถึงความสมบูรณ์ของเชื้อคุณสามี ทวนเสร็จก็ฉีดเชื้อเข้าไปค่ะ แล้วนอนพักที่เตียงต่อ ประมาณ 1.5 ชม. ประมาณนั้นนะคะ ที่จับเวลาดู แล้วก็กลับบ้านได้ สรุปค่าใช้จ่ายวันนี้ 1690 บาท หมอนัดดูผล 14 วัน
*** 14 วันที่รอคอยก็มาถึง ตรวจการตั้งครรภ์ขึ้น 2 ขีดจางๆ ถึงจางมาก เริ่มเป็นกังวล หาข้อมูลสิคะ รออะไร ในเนตบอกว่าท้องแน่นอน ค่อยโล่งใจไป ก็ไปทำงานตามปกติ ไปตรวจ สรุปแล้วท้องจริงๆ ได้เดือนกว่าๆ แล้วตัวอ่อนก็ฝ่อ เศร้าใจอีกแล้ว แต่ว่าเริ่มทำใจได้แล้วแหละ ก็จบไปสำหรับ TRIP IUI รวมเสียทรัพย์สินไป ประมาณ 8xxx บาท ลืมบอกไปว่าหลุดไปตอนเดือน พ.ค.58
ไม่ไหวแล้ว ผิดหวังหลายครั้ง หลายครา พอได้พบ อ.สมสิญจน์ ก็เลยบอก อ.ว่า ขอทำเด็กหลอดแก้ว อ.มองหน้าแล้วบอกว่า จะทำจริงหรา? ไอ้เราก็คิดในใจ ถ้าไม่จริงจะทนขนาดนี้หรา ตอบกลับไปง่ายๆ ค่ะ อ.เลยบอกให้ออกไปบอกพี่พยาบาลข้างนอกว่าขอเข้าคิวทำ เด็กหลอดแก้ว พี่พยาบาลก็เลยบอกว่า เดือน มิ.ย.59 นะ ให้มาวันที่ 1-3 ของประจำเดือน แล้วก็รอต่อไป
ประสบการณ์การทำ IVF ที่ศิริราช
หลังจากนั้น 6 เดือน ดิฉันก็ท้องอีก คราวนี้นานหน่อย ได้ 3 เดือน อัลตร้าซาวด์ทางช่องคลอด หมอบอกว่า ลูกฉันไม่มีหัวใจ แล้วก็จบด้วยการขูดมดลูก อันนี้ไม่ต้องนอนโรงพยาบาล วางยาสลบ ขูดมดลูกแล้วกลับบ้านได้ ค่าใช้จ่าย 8,xxx บาท
และแล้วก็เริ่มศึกษาหาข้อมูลอย่างจริงจังเกี่ยวกับการมีบุตรยาก ครั้งแรกดิฉันไปหาหมอด้วยอาการ ประจำเดือนมาไม่ปกติ (45 วันมาทีอะไรประมาณนี้)
ตอนนี้เริ่มสำคัญแล้วนะ***และแร้วเราก็เลือกศิริราชค่ะ
1. ศิริราชมีระบบลงทะเบียนออนไลน์ ก็ดำเนินการเลยค่ะลงทะเบียนทั้งสามีและภรรยา
2. รอแผนกเวชระเบียนอีเมลล์ตอบกลับมานะคะ
3. ได้เลขที่ผู้ป่วยแล้ว ทีนี้เราก็ทำการโทรนัดหมอคร่า (ดิฉันโทรไป พี่ที่รับนัดแจ้งคร่าวๆ ว่าต้องพบหมอที่แผนกนารีเวช มีหมอในใจรึเปล่า มาแบบไม่รู้อะไร ก็เลยตอบไปว่า ไม่มีค่ะ พี่คนที่รับนัดเลยแนะนำ อ.สมสิญจน์ เพราะแกว่าคิวไม่เยอะ ดิฉันได้คิวปลายเดือนมีนาคมค่ะ)
4. ครั้งแรกที่ไป ถึงโรงพยาบาลตั้งแต่ 7 โมงเช้า กว่าจะเสร็จก็ปาเข้าไป บ่าย 2 โมงกว่า ลืมบอกไปเลยว่าครั้งแรกที่ไปนี่ ต้องไปที่ตึกผู้ป่วยนอก ชั้น 3 แผนกนารีเวช (แต่ท่านทั้งหลายก็ต้องเข้าใจนะคะ ว่าผู้ป่วยเค้าเยอะจริงๆ )
5. รอตรวจมะเร็งปากมดลูก ค่าตรวจ 280 บาท ค่าบริการผู้ป่วยนอก 90 บาท รวมแล้วครั้งนี้จ่ายไป 370 บาท ประมาณ 11 โมงเห็นจะได้ เจ้าหน้าที่ให้นำเอกสารไปติดต่อที่อาคาร 100 ปี ชั้น 6 แผนกมีบุตรยาก พอไปถึงพยาบาลที่แผนกมีบุตรยากก็แนะนำว่า ให้มาเจาะเลือดวันที่ 1-3 ของการมีประจำเดือน ส่วนสามีก็ให้มาเจาะเลือดและตรวจเชื้อ ต้องงดหลั่งมา 3-5 วัน ที่สำคัญสำเนาทะเบียนสมรส ต้องเอามาให้ที่แผนกด้วย
6. วันที่ 1 เมษายน ประจำเดือนก็มา ก็เลยไปเจาะเลือด ค่าใช้จ่าย 1420 บาท ส่วนของสามี 2740 บาท รวมแล้ว 4160 บาทคร่า
7. หลังจากนั้น 2 วัน ก็มาพบหมออีก ผลจากการตรวจคุณหมอว่า ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร ก็เลยบอกว่า ให้กินยาปรับฮอร์โมน ครั้งนี้มีค่าใช้จ่าย 215 บาท
8. วันที่ 17 เมษายน ก็ไปพบหมออีก คราวนี้ได้ยาอะไรมาบ้างไม่รู้ จำไม่ได้ (ยากระตุ้นไข่ ยาให้ไข่ตก ประมาณนี้) และก็ค่าซาวด์ดูไข่ 740 บาท ค่ายา 1610 บาท รวม 2350 บาท สรุป หมอบอกว่าจะให้ฉีดเชื้อดูก่อน
9. วันที่ 20 เมษายน วันที่ฉีดเชื้อก็มาถึง ฉันไปถึงที่แผนกตั้งแต่ 7 โมงเช้า แล้วพี่พยาบาลก็ให้ไปเปลี่ยนชุดแล้วนั่งรอที่ห้องสุดท้าย บอกว่าให้ปัสสาวะให้เรียบร้อย เสร็จแล้วก็มีผู้หญิงอีก 4-5 คนมานั่งรอเป็นเพื่อน แล้วก็คุยกัน จริงๆ แล้วไม่รู้จักกันหรอก พอคุณหมอมา พี่พยาบาลก็ให้เราทั้ง 5-6 คน ไปนอนรอในห้องข้างใน เสร็จแล้วพี่พยาบาลก็มาพร้อมกับคุณหมอ แต่ไม่ใช่ อ.สมสิญจน์ นะ เป็นลูกศิษย์ อ.แทนนะ พี่พยาบาลทวนชื่อ – สกุล และชื่อ – สกุลสามี แล้วบอกถึงความสมบูรณ์ของเชื้อคุณสามี ทวนเสร็จก็ฉีดเชื้อเข้าไปค่ะ แล้วนอนพักที่เตียงต่อ ประมาณ 1.5 ชม. ประมาณนั้นนะคะ ที่จับเวลาดู แล้วก็กลับบ้านได้ สรุปค่าใช้จ่ายวันนี้ 1690 บาท หมอนัดดูผล 14 วัน
*** 14 วันที่รอคอยก็มาถึง ตรวจการตั้งครรภ์ขึ้น 2 ขีดจางๆ ถึงจางมาก เริ่มเป็นกังวล หาข้อมูลสิคะ รออะไร ในเนตบอกว่าท้องแน่นอน ค่อยโล่งใจไป ก็ไปทำงานตามปกติ ไปตรวจ สรุปแล้วท้องจริงๆ ได้เดือนกว่าๆ แล้วตัวอ่อนก็ฝ่อ เศร้าใจอีกแล้ว แต่ว่าเริ่มทำใจได้แล้วแหละ ก็จบไปสำหรับ TRIP IUI รวมเสียทรัพย์สินไป ประมาณ 8xxx บาท ลืมบอกไปว่าหลุดไปตอนเดือน พ.ค.58
ไม่ไหวแล้ว ผิดหวังหลายครั้ง หลายครา พอได้พบ อ.สมสิญจน์ ก็เลยบอก อ.ว่า ขอทำเด็กหลอดแก้ว อ.มองหน้าแล้วบอกว่า จะทำจริงหรา? ไอ้เราก็คิดในใจ ถ้าไม่จริงจะทนขนาดนี้หรา ตอบกลับไปง่ายๆ ค่ะ อ.เลยบอกให้ออกไปบอกพี่พยาบาลข้างนอกว่าขอเข้าคิวทำ เด็กหลอดแก้ว พี่พยาบาลก็เลยบอกว่า เดือน มิ.ย.59 นะ ให้มาวันที่ 1-3 ของประจำเดือน แล้วก็รอต่อไป