[CR] ป่ะ...พวกเราไปเที่ยวพรมแดนสี่ประเทศในฤดูหนาวนี้กันดีกว่า!! คานาสือและหมู่บ้านเหอมู่ (喀纳斯和禾木乡) ตอนที่ [1]



สวัสดีครับพี่น้องชาวไทยทุกคน 

ช่วงนี้อาจจะอยู่บ้านกันช่วงยุคโควิด 19  ช่วงนี้ก็ร้อนมากมายร้อนแบบตากผ้าสิบนาทีแห้งกรอบ 5555+ และเพื่อนๆหลายๆคนคงอยากจะไปเที่ยวต่างประเทศในหน้าหนาวที่หนาวสุดๆ อยากจะไปสัมผัสกับความหนาวจนแย่แบบอยู่ไม่ได้ (และนั้นคือสิ่งที่คนไทยใฝ่ฝันที่จะได้เจอเพราะลองคิดว่างี้ทำไมพวกฝรั่งเมืองหนาวจึงชอบอากาศร้อนแบบไทย เพราะฉะนั้นคนไทยบ้านๆอย่างเราๆก็คงอย่างจะไปอยู่ที่หนาวๆบ้างใช่ไหม 5555) ยอมรับมาเหอะครับมันคือฝันของคนไทยทุกคน เพราะฉะนั้นผมจึงจะเอาเรื่องเก่า (ฤดูหนาวที่ผ่านมายุคโควิด 19) มาเล่ามาแชร์ให้พี่น้องคนไทยทุกคนได้รับรู้และสามารถเดินทางไปถึงได้อย่างมีความรู้เกี่ยวกับสถานที่ จริง! และประสปการณ์ จริง! จากคนที่ไปมา จริง! ผมจะไม่เล่าแบบโลกสวยนะครับ ผมเชื่อว่าหลายๆคนก็ชอบไปเที่ยวแบบไม่สบายๆอย่างผมเยอะ บอกเลย!!

เพี้ยนชนแก้ว

มาๆ แนะนำตัวไปนาน คือผมจะพาไปพี่น้องไปหลายที่นะ (เพราะตัวผมเองไปหลายที่โดยที่ไม่ได้ตั้งใจ เพราะไปช่วงตรุษจีนตั๋วรถไฟเต็มเลยต้องกลับทางอ้อม เหอ~) เอาเป็นว่าผมเป็นเด็กนักศึกษาที่เมืองซีอานแล้วช่วงปิดเทอมหน้าหนาวก็ตั้งใจเก็บเงินมาเพื่อที่จะไปเที่ยวนี้แหล่ะ ด้วยความที่เป็นคนไทยบ้านๆไงจึงอยากดิ้นรนไปหาที่หนาวจัดๆ เล่าให้คนจีนฟังว่าจะไปที่นี้ คนจีนยังเครียดเลย บอกไอ้นี้หนักข้อๆ มีแต่คนเขาหนีหนาวกัน 555

มา เข้าเรื่องๆ จากซีอานผมกับแฟนสาว (พาแฟนไปดูหิมะ 555) ได้นั่งรถไฟธรรมดาตู้นอนจากเมืองซีอานไปยังเมืองหลวงของเขตปกครองตนเองอุยกูร์ซินเจียง (新疆维吾尔自治区) เป็นระยะเวลา 32 ชม. นั่งๆนอนๆจนจะอ้วก สำหรับคนที่ไม่รู้ว่าเอะที่นี้มันคือที่ไหน มันคือจุด Wild West ของจีนครับให้อารมณ์คาวบอยยิงปืนปิ๊วๆในอเมริกาเลย เขตนี้ประชากรส่วนใหญ่จะเป็นพวกชนเผ่าอุยกูร์เป็นมุสลิมที่ได้รับอิทธิพลจากพวกเปอร์เซียมาเยอะ เอาจริงป่ะ แถบๆนี้หลุดโลกจากพวกจีนฮั่นฝั่งตะวันออกมากทั้งทางภาษา หน้าตา วัฒนธรรม อาหาร และอีกหลายอย่าง อารมณ์หลุดพอๆกับทิเบตเลย (เดะมาเล่าตอนไปทิเบตเผ่าคามตะวันออกให้ฟังวันหลังๆ) 



เมื่อมาถึงเมืองหลวงที่ชื่อว่าเมืองอุรุมชี (乌鲁木齐市) ถ้าสังเกตนะจะเห็นได้ว่าจะมีภาษาคล้ายๆภาษาอาหรับอยู่นั้น คือภาษาของชนเผ่าอุยกูร์นั้นเอง ข้อน่าสนใจ ถ้าพี่น้องท่านไหนมีธนบัตรของประเทศจีนลองสังเกตดูที่ด้านหลังของท่านเหมาเจ๋อตุงแล้วจะพบภาษาอุยกูร์เป็นหนึ่งในห้าภาษาที่เขียนลงบนธนบัตร
ข้อน่าสนใจสำหรับเมืองนี้คือได้ชื่อว่าเป็นเมืองที่อยู่ห่างไกลจากน้ำทะเลมากที่สุดในโลก!! ลองดีไปดินบุฟเฟ่ต์กุ้งทะเลมาแล้วที่เมืองนี้ 555


และนี้คือสถานีรถไฟเมืองอุรุมชี


ไปถึงนู้นตอนเช้าประมาณเก้าโมงอากาศกำลังดีอยู่ที่ -12 องศา แต่อยู่ได้ไม่นานก็ต้องนั่งต่อไปยังเมืองตอนบนของเขตปกครองตนเองอุยกูร์ซินเจียงไปยังเมืองที่มีชื่อว่า ปูเออร์จิน (布尔津市) ต่อไปอีก 10 ชม. ความต่อเนื่องมีอยู่จริง ไปถึงปูเออร์จินประมาณสองทุ่มกว่า 



 


อากาศก็จะเย็นฉ่ำหนำใจคนไทยเลย!! เมืองนี้เป็นเมืองที่อยู่ติดแม่น้ำอีร์ติช (额尔齐斯河) ซึ่งแม่น้ำนี้เป็นแม่น้ำต้นสายที่ไหลเข้าไปป่าไซบีเรียของรัสเซียและไหลสู่ทะเลอาร์กติกดังนั้นที่นี้ปลาจะเยอะมาก เห็นมื้อแรกของพวกผมไหม 5555+ คนแทบตอนเหนือของเขตปกครองตนเองซินเจียงนั้นจะเป็นพวกชนเผ่าคาซัคสะเป็นส่วนใหญ่และมีชนเผ่ามองโกลเล็กน้อยๆ ภาษาของคนคาซัคจะคล้ายๆกับคนอุยกูร์แต่ภาษาเขียนเหมือนจะคล้ายนะครับแต่เขาบอกไม่เหมือนเลยซึ่งถ้ามองดูแล้วมันเหมือนๆกันเพราะพวกคนไทยอย่างเราๆถ้าไม่มีความรู้ด้านภาษาอาหรับก็คงแยกออกยากอ่ะครับ



ตอนนี้ละยังไม่ถึงนะครับพี่น้อง ยังต้องเดินทางขึ้นเทือกเขาอัลไต (阿勒泰山脉) อีก
ผมขออธิบายก่อนว่าปกติแล้วแถบคานาสือหรือบนเทือกเขาอัลไตเนี้ยมันจะมีรถบริการทัวร์จากเมืองปูเออร์จินไปถึงคานาสือเลยและสามารถไปเที่ยวรอบนั้นได้ แต่ ว่าบังเอิญผมชอบลองดีไงครับ ไปหน้าหนาวแบบใจกลางหน้าหนาวเลย ดังนั้นรถทัวร์บริการ ไม่มี รถพาเที่ยว ไม่มี 555+ เลยต้องอาศัยดวงกับคนรู้จักครับ บังเอิญวันที่ไปพักในโรงแรม เอ้ยลืมเล่าเรื่องโรงแรม โดยปกติแล้วต่างชาติที่จะไปเที่ยวในประเทศจีนในเขตที่ถูก “จับตามอง” เนี้ยอ่ะนะ จะต้องหาโรงแรมที่เขารับคนต่างชาติเท่านั้นเพื่อที่โรงแรมจะได้แจ้งตำรวจท้องถิ่นว่ามีคนต่างชาติลองดีมาพักอาศัยอยู่ ดังนั้นเวลาพวกผมหาโรงแรมนี้ต้องหาจากแอปหรือจากแผนที่แล้วหาเบอร์ แล้วโทรถามว่ารับต่างชาติไหม ทุกครั้งไป… อ่ะต่อๆ คือตอนหลังจากกินข้าวเย็นกันเสร็จแล้วก็ไปคุยกับพนักงานโรงแรมว่าจะไปคานาสือทำยังไง เขาก็บอกว่าจะมาด้วยกันไหม พรุ่งนี้เช้าจะไปอยู่พอดีแต่ไปที่หมู่บ้านเหอมู่ ซึ่งหมู่บ้านนี้อยู่ไม่ไกลจากคานาสือมากนักแต่ต้องอ้อมภูเขาเลยใช่เวลาประมาณสองชม. กว่าถึงจะถึง จากนั้นพวกผมก็ตอบตกลงและก็ออกเดินทางกันในวันรุ่งขึ้น


ตอนแรกก็ยังไม่เห็นหิมะหรอกครับ เพราะหลับ 555+ ละพอเริ่มรู้สึกตัวตื่นมาก็ขาวไปหมด (จริงๆก็เห็นแบบนี้มาตั้งแต่ถึงเมืองอุรุมชีล่ะ) 


และก็จะเห็นอย่างงี้ต่อไปเรื่อยๆ จนเริ่มเข้าเขตเทือกเขาอัลไต


แรกๆก็รู้สึกแบบ โว้ว จริงจังรึนิแค่อยู่บนพื้นที่ราบก็เย็นอยู่แล้ว ยิ่งขึ้นที่สูงมาบนเขาอีกจะต้องขนาดไหน (ในรถร้อนมากครับเหงื่อแตก เพราะคนขับขี้หนาว 555 จะคุยด้วยก็ไม่ค่อยรู้เรื่องเขาพูดจีนกลางไม่ค่อยชัด) 


ต้นไม้อย่างงี้ตลอดทางเลยครับได้ความรู้สึกเหมือนอยู่แถวป่าไซบีเรียตะวันออกเฉียงเหนือที่มีภูเขาเยอะๆ (ทำอย่างกับเคยไป 555+ แต่อยากไปจริงครับ เหอะๆ)



บังเอิญวันนั้นเป็นวันที่ฟ้าครึ่มๆเพราะหิมะตกหนักมากครับ แล้วพอถึงจุดตรวจ จะเล่าไรให้ฟัง จุดตรวจนี้คือเอาไว้ตรวจว่าคนไหนเข้าออกครับ ถ้าเป็นคนจีนก็แค่รูดบัตรประชาชนจีนแล้วเดินต่อไปเลย ส่วนต่างชาติอ่ะเหรอ เหอะๆ โดนสอบสวนยาวครับ ถามว่ามาทำไม ไหนเอาหนังสือเดินทางมาดูหน่อยดิ จะพักอยู่กี่วัน แล้วจะไปไหนต่อ ประมาณนั้น... 


และนี้ก็คือวิวจากหน้าต่างที่โรงแรมครับ ความฟินจะมีมากกว่านี้ตอนที่หิมะกำลังตกครับ คือในโรงแรมส่วนใหญ่ในประเทศจีนตอนเหนือทุกที่ครับ จะมีเครื่องทำความอุ่นไอน้ำ (暖气)  ซึ่งมาจากโรงงานผลิตไอน้ำอุ่นกลาง ถึงแม้ข้างนอกจะหนาวจนแย่ยังไง ข้างในก็อุณภูมิแบบเสื้อตัวเดียว

เมื่อมาถึงโรงแรมพวกเราก็ได้เก็บข้าวของและไปที่สถานีตำรวจเพื่อไปรายงานตัว 555+ ทำใจครับเขตนี้ของจีน ลำบากนิดหน่อยแต่ขอบอกเลยถ้าพี่น้องมากับทัวร์นะไม่ได้รสชาติอย่างงี้ครับ อากาศที่นี้น่าจะอยู่ที่ประมาณ -22 ถึง -25 ในเวลากลางวันเพราะมีแดด แต่ถ้ากลางคืนนี้ประมาณ -30 ได้ครับ หลังจากนั้นก็จะเริ่มสงสัยแล้วว่ามาทำอะไร คำตอบสั่นๆครับ แค่มาสัมผัสอากาศเย็นแบบเจี๊ยบ กับ มีความภูมิใจว่าเราคนไทยบ้านๆได้มาอยู่จุดที่มาค่อนข้างลำบากได้โดยที่มันเป็นความรู้สึกที่อยากนั่งเฉยๆแล้วสูดอากาศเย็นๆเข้าไปลึกๆ ไม่ต้องการมุมสวยๆ ไม่ต้องการรูปภาพที่เพอร์เฟค แค่ต้องการรับรู้และได้สัมผัสถึงมันและเก็บไว้ในความทรงจำอันสวยงามไว้ก็พอ 
เพี้ยนหยุดมโน
ครับๆ  ผมรู้ๆ เข้าเรื่องละ 555 อินไปหน่อย โรงแรมที่พวกผมพักนั้นได้อยู่อีกตำแหน่งนึงซึ่งมันอยู่ข้างๆหมู่บ้านเหอมู่ ดังนั้นคืนแรกยังไม่ไปสำรวจหมู่บ้านเหอมู่ แต่ได้แค่เดินๆรอบหมู่บ้านย่อยที่พวกผมอยู่กัน เช้าวันรุ่งขึ้นพวกผมก็ตื่นนอนมาทามกลางหิมะนอกหน้าต่างที่พูนสูงเกือบสองเมตรและได้นั่งอยู่ในห้องอุ่นๆแบบใส่เสื้อตัวเดียว ซดน้ำบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปร้อนๆ ในห้อง มันเป็นอะไรที่น่าจนจำมากครับ พอหลังจากเตรียมตัวกันเรียบร้อยแล้ว ก็ได้ออกเดินทาง เดินไปหมู่บ้านเหอมู่ครับ คือเวลาผมไปที่ไหนนี้คนท้องถิ่นไม่มีใครเขาเดินกันเลยครับ อย่าว่าแต่ต่างประเทศเลย ในประเทศไทยเองบ้านผมเดินไปเซเว่นประมาณสองนาทียังไม่มีใครเดินไปเลยครับ พอเดินนี้คนมองตาขว้างเลยอย่างกับว่าผมเป็นสิ่งมีชีวิตนอกโลกจากกาแล็กซี่แอนโดรมีด้า 555 


นี้คือโรงแรมอื่นๆแถวๆโรงแรมที่พวกผมพักครับ


ระหว่างทางไปหมู่บ้านเหอมู่

ตอนแรกวิ่งเข้ามาตกใจมากครับ แต่วิ่งเข้ามาเลียขา 55

ไม่ถึงซักที 55

ถนนเข้าออกเส้นเดียวทั้งหมู่บ้าน


ตามนั้นครับถึงแล้วๆ หมู่บ้านเหอมู่ที่เห็นแต่ในแผนที่ๆ เหอะๆ


เมื่อเดินออกมาจากโรงแรมที่พักแล้วก็ตามถนนมาเรื่อยๆ แถวนี้ถนนไม่ซับซ้อนครับ อย่างที่เห็นกันคนแทบไม่มีเลย 555 ถ้ามีก็ไม่มีใครเดินครับถ้าไม่รถยนต์ก็ขี่ม้า  (เห็นไหมครับ คาวบอยจีน) พอเดินมาได้ประมาณ 20 นาที ก็ถึงตัวหมู่บ้านมีพอมีคนบ้างเล้กน้อย เพราะคนส่วนใหญ่พอถึงฤดูหนาวจะไม่ค่อยอยู่ข้างนอกกันหรอกครับ 


ตัวหมู่บ้านก็จะเป็นบ้านไม้หลังเล็กๆอยู่ระหว่างถนนเล็กๆ ซึ่งในฤดูอื่นๆ หิมะจะละลายทำให้พื้นที่แทบนี้เป็นที่ชื้นจะมีบ่อน้ำเล็กๆเต็มไปหมด (ซึ่งฤดูหนาวนานกว่าครึ่งปี เหอะๆ)



มีคนจอดม้าไว้หน้าบ้าน เด็กแถวนี้เขานั่งรถลากไปโรงเรียนกันครับ 55

ระหว่างที่พวกเราได้เดินรอบๆเมืองอยู่นั้น ผมก็นึกขึ้นได้ว่าที่หมู่บ้านนี้มีที่เนินเขาแบนอยู่ข้างๆหมู่บ้าน แต่พอถามคนแถวนั้นแล้วเขาบอกว่าไกลมากกว่าจะเดินถึงประมาณสองชม. นู้นรถไปไม่ถึง ไปได้แค่เดินหรือม้า แล้วอีกหน่อยพระอาทิตย์ก็จะตกดินแล้ว คือปกติแล้วฤดูหนาวพระอาทิตย์จะขึ้นช้าตกไวอ่ะนะครับเลยต้องใช้เวลากลางวันให้คุ้มค่าที่สุด ด้วยการเดินสุ่มครับ 555 พวกผมเลยมองๆหาทางขึ้นภูเขารอบๆหมู่บ้านแต่ไม่ได้ไปเนินภูเขาที่คนชอบไปถ่ายรูปกันนะครับ ไปภูเขาตรงข้ามที่เขาใช้เป็นทางของสกู๊ตเตอร์หิมะครับ

จุดสนุกอยู่ตรงนี้แหละครับ เดินไปบนภูเขาหิมะท่วมขา พระอาทิตย์ใกล้ตก อากาศหนาวจัด น้ำไม่มีให้ดื่ม (ลืมเอามา) นิ้วเท้านิ้วมือจมูกแข็ง น้ำมูกแข็งคาจมูก อยู่ค่อนข้างไกลจากหมู่บ้าน โดยรวมๆแล้วหนักข้อครับๆ แต่นี้สิครับผมถึงเรียกว่าผ่อนคล้าย (ทางจิตใจครับ 555)
ชื่อสินค้า:   禾木乡
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่