สวัสดีค่ะ อยากขอคำแนะนำค่ะ ทุกข์ใจจากเหตุการณ์ที่อธิบายได้ยาก หลังจากที่แมวเราได้เสียชีวิตจากรถชนหน้าบ้านไปเมื่อปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมา
แมวตัวนี้เป็นแมวเพศเมีย เข้ามาในชีวิตเราและสามี ณ ตอนที่ชีวิตเหมือนตกนรกไม่มีทางออก น้องเข้ามาเปลี่ยนชีวิตให้ค่อยๆ ดีขึ้น จนเป็นคนเดิมปกติได้ เหมือนพาเรา 2 คนเดินห่างจากทุกข์ในครั้งนั้นไกลออกมาโดยไม่รู้ตัว เวลาผ่านมากว่า 7 ปี ปกติเลี้ยงแมวระบบปิด แต่น้องตัวนี้จะซุกซน อยากรู้อยากเห็น เก่งกล้าหนีออกเที่ยวประจำ จับจิ้งจก ตั๊กแตนตามประสา ก่อนนี้น้องเริ่มเอาลูกนกมากัดเล่น ได้ 4-5 ตัว
บ่ายวันเกิดเหตุได้ยินเสียงตุ๊บดังมากที่หน้าบ้าน เราหันไปมองเห็นรถเก๋งจอดกลางถนน มีแมวกระโดดดิ้นอย่างทรมานเต็มไปด้วยเลือดโชกโดยเฉพาะส่วนหัว มันเป็นภาพติดตาที่ไม่อาจลบเลือน สามีเรารีบวิ่งเข้าไปอุ้มน้องที่ดิ้นอยู่ เรามือสั่นไปหมด รักเค้าเหมือนลูก สงสารมาก แต่น้องอาการหนักและเพียงไม่นานก็สิ้นใจ
สามีขุดหลุมฝังน้องไว้หน้าบ้านตรงใต้ต้นไม้ คนเห็นเหตุการณ์เล่าว่าน้องพยายามจะจับนกที่บินไปบินมาอยู่นานแล้ว ตรงนั้นก็ใกล้ถนนพอสมควร จังหวะที่นกคงบินลงพื้นถนน และพอรถวิ่งมานกก็บินหลบขึ้นเกาะชายคาได้อย่างรวดเร็ว แต่แมวพอถลำตัวเข้าตะครุบก็หลบไม่ทันเหมือนนก
ในค่ำวันนั้น เรายังคงอยู่ในความทุกข์ เราหยุดทำงานทุกอย่าง ขณะที่นั่งอ่านนิทานให้ลูกสาววัย 3 ขวบฟัง (ซึ่งลูกสาวเราสนิทกับแมวตัวนี้มาก ทุกเช้าน้องแมวจะมานอนรอหน้าห้องคอยลูกสาวตื่นเช้ามาเล่นด้วย ในระหว่างวันก็จะเล่นกันเป็นประจำ ผูกพันกันมาก) ขณะที่อ่านนิทานนั้นเปิดมาเจอรูปนก ลูกสาวชี้และพูดว่า "จะกินนก" เราและสามีตกใจว่าหูแว่วไปรึเปล่า หรือบังเอิญ มันแปลกมากๆ เกือบทุกเช้าเราจะตื่นใส่บาตรกรวดน้ำไปให้น้อง และทุกเย็นจะจุดธูป 1 ดอกหน้าหลุม พร้ออาหารแมวเรียกเค้ามากิน พูดคุยด้วย กลัวว่าเค้ายังวนเวียนอยู่
กลางดึกของคืนที่ 3 ลูกสาวพลิกตัวไปมาจนแม่ต้องตื่นมาห่มผ้าให้หลายครั้ง ประมานครั้งที่ 5 ลูกสาวละเมอ (พูดขณะหลับ) ออกมา 3 คำ คือ คำว่า "จะกินนก" เราน้ำตาไหลนองทันที เพราะเป็นคำพูดเดิมครั้งที่ 2 แล้ว ทุกคืนหลับๆ ตื่นๆ มองที่เค้าเคยนอนเคยเล่นบ้าง วนอยู่อย่างนี้
จนครบวันที่ 7 ที่เค้าเสียชีวิต แต่ต้องติดธุระไม่ได้ไปทำบุญให้อย่างที่ตั้งใจไว้ จนรุ่งขึ้นวันที่ 8 ซึ่งตรงกับวันวิสาขบูชา เราตั้งใจมากๆ ที่สุดที่จะไปถวายสังฆทาน โดยไปซื้อสิ่งของมาจัดเอง สามีปฏิเสธการไปทำบุญเพราะงานยุ่งมาก เราทะเลาะหนักก่อนสามีกลับความคิดออกไปทำบุญด้วยกัน ในกลางดึกคืนนั้นลูกสาวพลิกไปมา อยู่ๆ มีอาการร้องไห้สะอึกสะอื้นขณะหลับตา จำได้ว่างัวเงียกอดลูกสาวไว้ ลูบหลังก็แล้ว ไม่หยุดร้องอยู่นาน เลยรู้สึกตัวได้ว่าเสียงนั้นคล้ายเสียงผู้หญิง เด็กจะไม่ร้องไห้แบบนี้ จึงอธิฐานว่า ถ้าเป็นน้องแมว เราได้ทำบุญถวายสังฆทานแบบเจาะจงไปให้แล้ว จงเอาบุญนี้กับบุญที่ได้ช่วยให้ชีวิตเราให้ดีขึ้นติดตัวไปยังภพภูมิที่ดีหรือกลับมาเป็นครอบครัวเดียวกันอีกก็ สักพักอาการร้องไห้ก็หายไป ตื่นเช้ามาเราเล่าให้สามีฟัง สามีตกใจ เพราะได้ยินเสียงร้องไห้แต่เข้าใจว่าเป็นเสียงเราร้องไห้คิดถึงแมว ยืนยันว่าเป็นเสียงผู้หญิง (ไม่ใช่เสียงเด็ก) เราปรึกษาคนใกล้ตัวก็ได้แต่คำแนะนำมาว่าให้เอาพระห้อยให้ลูกสาวก่อนนอนทุกคืน ซึ่งในคืนถัดๆ มาจนวันนี้ ได้ 14 วันแล้วจากวันสุดท้ายที่เกิดเรื่องราวเร้นลับ ไม่มีอะไรเกิดขึ้นอีกเลย
เรายังคงใส่บาตร กรวดน้ำ แต่ไม่ได้ปักธูปและให้อาหารแล้ว วางแผนจะไปถวายสังฆทาน และทำบุญ 50 วัน และ 100 วัน อยากขอคำแนะนำว่าเรื่องทั้งหมดนี้เราทำอะไรผิดไปไหมและควรทำอย่างไรต่อกับลูกสาว และน้องแมวที่เสียชีวิตไป
ขอบคุณค่ะ
ปริศนา คืนแรก คืนที่3 และคืนที่ 8 หลังจากที่แมวเสียชีวิตกระทันหัน ต้องทำยังไง
แมวตัวนี้เป็นแมวเพศเมีย เข้ามาในชีวิตเราและสามี ณ ตอนที่ชีวิตเหมือนตกนรกไม่มีทางออก น้องเข้ามาเปลี่ยนชีวิตให้ค่อยๆ ดีขึ้น จนเป็นคนเดิมปกติได้ เหมือนพาเรา 2 คนเดินห่างจากทุกข์ในครั้งนั้นไกลออกมาโดยไม่รู้ตัว เวลาผ่านมากว่า 7 ปี ปกติเลี้ยงแมวระบบปิด แต่น้องตัวนี้จะซุกซน อยากรู้อยากเห็น เก่งกล้าหนีออกเที่ยวประจำ จับจิ้งจก ตั๊กแตนตามประสา ก่อนนี้น้องเริ่มเอาลูกนกมากัดเล่น ได้ 4-5 ตัว
บ่ายวันเกิดเหตุได้ยินเสียงตุ๊บดังมากที่หน้าบ้าน เราหันไปมองเห็นรถเก๋งจอดกลางถนน มีแมวกระโดดดิ้นอย่างทรมานเต็มไปด้วยเลือดโชกโดยเฉพาะส่วนหัว มันเป็นภาพติดตาที่ไม่อาจลบเลือน สามีเรารีบวิ่งเข้าไปอุ้มน้องที่ดิ้นอยู่ เรามือสั่นไปหมด รักเค้าเหมือนลูก สงสารมาก แต่น้องอาการหนักและเพียงไม่นานก็สิ้นใจ
สามีขุดหลุมฝังน้องไว้หน้าบ้านตรงใต้ต้นไม้ คนเห็นเหตุการณ์เล่าว่าน้องพยายามจะจับนกที่บินไปบินมาอยู่นานแล้ว ตรงนั้นก็ใกล้ถนนพอสมควร จังหวะที่นกคงบินลงพื้นถนน และพอรถวิ่งมานกก็บินหลบขึ้นเกาะชายคาได้อย่างรวดเร็ว แต่แมวพอถลำตัวเข้าตะครุบก็หลบไม่ทันเหมือนนก
ในค่ำวันนั้น เรายังคงอยู่ในความทุกข์ เราหยุดทำงานทุกอย่าง ขณะที่นั่งอ่านนิทานให้ลูกสาววัย 3 ขวบฟัง (ซึ่งลูกสาวเราสนิทกับแมวตัวนี้มาก ทุกเช้าน้องแมวจะมานอนรอหน้าห้องคอยลูกสาวตื่นเช้ามาเล่นด้วย ในระหว่างวันก็จะเล่นกันเป็นประจำ ผูกพันกันมาก) ขณะที่อ่านนิทานนั้นเปิดมาเจอรูปนก ลูกสาวชี้และพูดว่า "จะกินนก" เราและสามีตกใจว่าหูแว่วไปรึเปล่า หรือบังเอิญ มันแปลกมากๆ เกือบทุกเช้าเราจะตื่นใส่บาตรกรวดน้ำไปให้น้อง และทุกเย็นจะจุดธูป 1 ดอกหน้าหลุม พร้ออาหารแมวเรียกเค้ามากิน พูดคุยด้วย กลัวว่าเค้ายังวนเวียนอยู่
กลางดึกของคืนที่ 3 ลูกสาวพลิกตัวไปมาจนแม่ต้องตื่นมาห่มผ้าให้หลายครั้ง ประมานครั้งที่ 5 ลูกสาวละเมอ (พูดขณะหลับ) ออกมา 3 คำ คือ คำว่า "จะกินนก" เราน้ำตาไหลนองทันที เพราะเป็นคำพูดเดิมครั้งที่ 2 แล้ว ทุกคืนหลับๆ ตื่นๆ มองที่เค้าเคยนอนเคยเล่นบ้าง วนอยู่อย่างนี้
จนครบวันที่ 7 ที่เค้าเสียชีวิต แต่ต้องติดธุระไม่ได้ไปทำบุญให้อย่างที่ตั้งใจไว้ จนรุ่งขึ้นวันที่ 8 ซึ่งตรงกับวันวิสาขบูชา เราตั้งใจมากๆ ที่สุดที่จะไปถวายสังฆทาน โดยไปซื้อสิ่งของมาจัดเอง สามีปฏิเสธการไปทำบุญเพราะงานยุ่งมาก เราทะเลาะหนักก่อนสามีกลับความคิดออกไปทำบุญด้วยกัน ในกลางดึกคืนนั้นลูกสาวพลิกไปมา อยู่ๆ มีอาการร้องไห้สะอึกสะอื้นขณะหลับตา จำได้ว่างัวเงียกอดลูกสาวไว้ ลูบหลังก็แล้ว ไม่หยุดร้องอยู่นาน เลยรู้สึกตัวได้ว่าเสียงนั้นคล้ายเสียงผู้หญิง เด็กจะไม่ร้องไห้แบบนี้ จึงอธิฐานว่า ถ้าเป็นน้องแมว เราได้ทำบุญถวายสังฆทานแบบเจาะจงไปให้แล้ว จงเอาบุญนี้กับบุญที่ได้ช่วยให้ชีวิตเราให้ดีขึ้นติดตัวไปยังภพภูมิที่ดีหรือกลับมาเป็นครอบครัวเดียวกันอีกก็ สักพักอาการร้องไห้ก็หายไป ตื่นเช้ามาเราเล่าให้สามีฟัง สามีตกใจ เพราะได้ยินเสียงร้องไห้แต่เข้าใจว่าเป็นเสียงเราร้องไห้คิดถึงแมว ยืนยันว่าเป็นเสียงผู้หญิง (ไม่ใช่เสียงเด็ก) เราปรึกษาคนใกล้ตัวก็ได้แต่คำแนะนำมาว่าให้เอาพระห้อยให้ลูกสาวก่อนนอนทุกคืน ซึ่งในคืนถัดๆ มาจนวันนี้ ได้ 14 วันแล้วจากวันสุดท้ายที่เกิดเรื่องราวเร้นลับ ไม่มีอะไรเกิดขึ้นอีกเลย
เรายังคงใส่บาตร กรวดน้ำ แต่ไม่ได้ปักธูปและให้อาหารแล้ว วางแผนจะไปถวายสังฆทาน และทำบุญ 50 วัน และ 100 วัน อยากขอคำแนะนำว่าเรื่องทั้งหมดนี้เราทำอะไรผิดไปไหมและควรทำอย่างไรต่อกับลูกสาว และน้องแมวที่เสียชีวิตไป
ขอบคุณค่ะ