เรื่องอจินไตย
เป็นสิ่งที่เหนือโลกยากที่จะหาหลักฐานทางวิทยาศาสตร์มาหักล้างหาเหตุและผลได้
เมื่อครั้ง หลวงพ่อจรัญ
ท่านยังทรงสังขารอยู่นั้น
อ.วิกรานต์ ได้มีนิมิตเห็น พระภิกษุณีจิงเจียน และ พระภิกษุณีเสิงกัว
ให้นำภาพวาดรูปเหมือนท่านไปถวาย หลวงพ่อจรัญ
อ.วิกรานต์ จึงนำภาพท่านทั้งสองใส่กรอบแล้วเดินทางไปวัดอัมพวัน จ.สิงห๋บุรี
อ.วิกรานต์ ไปถึงวัดอัมพวันช่วงเย็น หลวงพ่อจรัญ กำลังจะเดินไปสวดมนต์และแสดงธรรมที่พระอุโบสถ
เมื่อ อ.วิกรานต์ เจอ หลวงพ่อจรัญ ก็ก้มกราบท่านด้วยความเคารพศรัทธา
ก่อนที่จะกราบเรียน หลวงพ่อจรัญ เรื่องนิมิตที่ได้เห็นแต่ยังไม่ทันได้เอ่ยคำใด
หลวงพ่อจรัญ ท่านบอก อ.วิกรานต์ ว่า
ไปหา ยายสมพิศ นะบอกให้พาไปที่ศาลาแม่ใหญ่แล้วให้เอา ภาพ 2 บานนี้ไปตั้งไว้ในที่เหมาะสม เราสั่งเขาไว้แล้ว
อ.วิกรานต์ ถึงกับตกตะลึงในญาณหยั่งรู้ของท่านช่างน่าอัศจรรย์ยิ่งนัก
แล้วเธอไปทานข้าวปลาอาหารให้เรียบร้อยแล้วไปรอที่กุฏินะ
อ.วิกรานต์ รับคำท่านว่า ครับ
แล้วรีบนำภาพทั้ง2บานออกจากถุงให้ท่านพิารณาดู
ท่านมองนิ่งๆอยู่ครู่หนึ่งแล้วพยักหน้ารับรู้แล้วกล่าวว่าดีๆก่อนท่านจะเดินเข้าโบสถ์
หลังจาก อ.วิกรานต์ ทำภาระกิจเสร็จแล้วจึงมานั่งรอในกุฏิที่รับแขกของหลวงพ่อจรัญ
ครู่ใหญ่ๆ หลวงพ่อจรัญ ก็เดินเข้ากุฏิมานั่งบนอาสนะ
อ.วิกรานต์ จึงเข้าไปกราบท่านแล้วเรียนเรื่องราวต่างๆให้ท่านทราบ
หลวงพ่อจรัญ ท่านกล่าวว่า อาตมาทราบแล้ว พระภิกษุณีทั้ง 2 ท่านมาบอกแล้ว
ท่านจะมาช่วยดูแลและสร้างบารมีกับวัดนี้
ต่อไปภายหน้า ผู้มีบุญ และ ได้เห็นหนอ เขาจะได้พบได้รับบารมี ท่าน(ภิกษุณี)ทั้ง2เอง
ท่านบอกว่า พระภิกษุณีจิงเจียน ยังทรงธาตุขันธ์อยู่นะ
ท่านเจริญ อิทธิบาท4 เหมือน หลวงพ่อในป่า อาจารย์ของอาตมา
แต่เรื่องนี้ เธอ อย่าพูดไปนะ
ไม่มีใครเขาเชื่อเรา
เขาจะหาว่า เราบ้า และเรื่องภิกษุณีนี่ทางเรา(เถรวาท)เขาไม่เอาเลย
พูดกันไปเถึยงกันไปบาปกันเปล่าๆ
ถ้าเราอยู่อย่า เอาเรื่องนี้ ไปเล่าให้ใครฟังนะ
ท่านทั้งสองนี่มีบารมีมากและศักดิ์สิทธิ์มากนะ
ขอบใจเธอที่เป็นธุระให้
พอเริ่มมีคนทยอยมา
หลวงพ่อจรัญ ท่านก็คุยเรื่องอื่นต่อ
ท่านชมว่า ยาธาตุผงตราขาม้า ของเธอนี่ดีมากนะ
ได้บุญเยอะถวายยารักษาผู้ปฏิบัติธรรม
เมื่อคุยสนทนากับท่านสักพัก
อ.วิกรานต์ จึงกราบลา
ท่านก็ให้ศีลให้พร
เรื่องเล่าจาก อ.วิกรานต์
จึงบันทึกไว้กันลืม
พระภิกษุณีจิงเจียน และ พระภิกษุณีเสิงกัว
เป็นสิ่งที่เหนือโลกยากที่จะหาหลักฐานทางวิทยาศาสตร์มาหักล้างหาเหตุและผลได้
เมื่อครั้ง หลวงพ่อจรัญ
ท่านยังทรงสังขารอยู่นั้น
อ.วิกรานต์ ได้มีนิมิตเห็น พระภิกษุณีจิงเจียน และ พระภิกษุณีเสิงกัว
ให้นำภาพวาดรูปเหมือนท่านไปถวาย หลวงพ่อจรัญ
อ.วิกรานต์ จึงนำภาพท่านทั้งสองใส่กรอบแล้วเดินทางไปวัดอัมพวัน จ.สิงห๋บุรี
อ.วิกรานต์ ไปถึงวัดอัมพวันช่วงเย็น หลวงพ่อจรัญ กำลังจะเดินไปสวดมนต์และแสดงธรรมที่พระอุโบสถ
เมื่อ อ.วิกรานต์ เจอ หลวงพ่อจรัญ ก็ก้มกราบท่านด้วยความเคารพศรัทธา
ก่อนที่จะกราบเรียน หลวงพ่อจรัญ เรื่องนิมิตที่ได้เห็นแต่ยังไม่ทันได้เอ่ยคำใด
หลวงพ่อจรัญ ท่านบอก อ.วิกรานต์ ว่า
ไปหา ยายสมพิศ นะบอกให้พาไปที่ศาลาแม่ใหญ่แล้วให้เอา ภาพ 2 บานนี้ไปตั้งไว้ในที่เหมาะสม เราสั่งเขาไว้แล้ว
อ.วิกรานต์ ถึงกับตกตะลึงในญาณหยั่งรู้ของท่านช่างน่าอัศจรรย์ยิ่งนัก
แล้วเธอไปทานข้าวปลาอาหารให้เรียบร้อยแล้วไปรอที่กุฏินะ
อ.วิกรานต์ รับคำท่านว่า ครับ
แล้วรีบนำภาพทั้ง2บานออกจากถุงให้ท่านพิารณาดู
ท่านมองนิ่งๆอยู่ครู่หนึ่งแล้วพยักหน้ารับรู้แล้วกล่าวว่าดีๆก่อนท่านจะเดินเข้าโบสถ์
หลังจาก อ.วิกรานต์ ทำภาระกิจเสร็จแล้วจึงมานั่งรอในกุฏิที่รับแขกของหลวงพ่อจรัญ
ครู่ใหญ่ๆ หลวงพ่อจรัญ ก็เดินเข้ากุฏิมานั่งบนอาสนะ
อ.วิกรานต์ จึงเข้าไปกราบท่านแล้วเรียนเรื่องราวต่างๆให้ท่านทราบ
หลวงพ่อจรัญ ท่านกล่าวว่า อาตมาทราบแล้ว พระภิกษุณีทั้ง 2 ท่านมาบอกแล้ว
ท่านจะมาช่วยดูแลและสร้างบารมีกับวัดนี้
ต่อไปภายหน้า ผู้มีบุญ และ ได้เห็นหนอ เขาจะได้พบได้รับบารมี ท่าน(ภิกษุณี)ทั้ง2เอง
ท่านบอกว่า พระภิกษุณีจิงเจียน ยังทรงธาตุขันธ์อยู่นะ
ท่านเจริญ อิทธิบาท4 เหมือน หลวงพ่อในป่า อาจารย์ของอาตมา
แต่เรื่องนี้ เธอ อย่าพูดไปนะ
ไม่มีใครเขาเชื่อเรา
เขาจะหาว่า เราบ้า และเรื่องภิกษุณีนี่ทางเรา(เถรวาท)เขาไม่เอาเลย
พูดกันไปเถึยงกันไปบาปกันเปล่าๆ
ถ้าเราอยู่อย่า เอาเรื่องนี้ ไปเล่าให้ใครฟังนะ
ท่านทั้งสองนี่มีบารมีมากและศักดิ์สิทธิ์มากนะ
ขอบใจเธอที่เป็นธุระให้
พอเริ่มมีคนทยอยมา
หลวงพ่อจรัญ ท่านก็คุยเรื่องอื่นต่อ
ท่านชมว่า ยาธาตุผงตราขาม้า ของเธอนี่ดีมากนะ
ได้บุญเยอะถวายยารักษาผู้ปฏิบัติธรรม
เมื่อคุยสนทนากับท่านสักพัก
อ.วิกรานต์ จึงกราบลา
ท่านก็ให้ศีลให้พร
เรื่องเล่าจาก อ.วิกรานต์
จึงบันทึกไว้กันลืม