พออายุมากขึ้น ปัญหาสุขภาพก็มากขึ้นเป็นเงาตามตัวไปด้วย ป้าเองก็รู้สึกได้มาตลอด เพราะตัวเองเดี๋ยวป่วยเป็นนั่นเป็นนี่ ร่างกายไม่ค่อยแข็งแรงแล้ว ส่วนหนึ่งคงเป็นเพราะสมัยสาวๆไม่ค่อยดูแลตัวเองเท่าไร แถมนอนดึกครบเลย แล้วทุกอย่างที่เคยทำมันก็มาส่งผลอีกทีตอนอายุเยอะขึ้นนี่แหละ ทุกวันนี้ยังรู้สึกผิดอยู่แล้วว่าควรจะดูแลตัวเองให้ดีกว่านี้จะได้ไม่มีปัญหาภายหลังแบบนี้อีก
ปัญหาที่เห็นชัดที่สุดตอนที่ตัวเองแก่ขึ้นและทำให้เรากลัวมากๆก็เรื่องดวงตา การมองเห็นค่ะ เพราะรู้สึกว่าตัวเองมองอะไรก็เบลอๆไม่ค่อยชัดเหมือนเดิม มันมัวๆจนบางทีก็เดินชนโน่นชนนี่โดยไม่รู้ตัว เจ็บตัวไปอีก นอกจากนั้นน้ำตาก็มักจะไหลออกมาบ่อยๆทั้งที่ตัวเองไม่ได้ร้องไห้ เหมือนมันมาเอง แล้วยิ่งเจอแสงแรงๆหน่อยนี่ไม่ได้เลย อย่างเวลาออกไปข้างนอกตอนแดดแรงๆนี่แทบจะลืมตาไม่ขึ้นเลยค่ะ ต้องอยู่ในที่ร่มตลอด เคยลองเอาเรื่องนี้ไปคุยกับเพื่อนก็มีแต่คนบอกว่าเป็นคล้ายๆกัน เลยเข้าใจว่าคงเป็นความเสื่อมตามอายุ แต่พอเป็นแบบนี้อยู่เป็นปีๆเราก็เริ่มกลัวว่าจะเป็นอะไรหรือเปล่า กลัวว่าตัวเองจะเป็นโรคอะไรเกี่ยวกับตาอย่างพวกต้ออะไรทำนองนี้ เพราะถ้าตามีปัญหาขึ้นมาจริงๆ ป้าคงใช้ชีวิตที่เหลือได้ลำบากแน่ ลูกหลานก็ไม่มีให้พึ่ง ต้องพึ่งตัวเองอย่างเดียวล้วนๆ ก็เลยคิดได้ว่าเราต้องเริ่มหันมาดูแลตัวเองจริงจังได้แล้วนะ เริ่มที่ดวงตาก่อนเลยอย่างแรก
และที่ป้าตั้งกระทู้นี้เพื่ออยากจะมาแบ่งปันการดูแลดวงตาของตัวเองตอนอายุจะ50นี่แหละ เพราะเห็นคนรอบตัวมีปัญหาเรื่องดวงตาคล้ายๆกันหมด เลยคิดว่าคนอื่นน่าจะเป็นเหมือนกัน ถือว่ามาแนะนำแบบช่วยๆกันไป หลายคนอาจจะคิดว่าช้าไปหรือเปล่าที่จะมาดูแลดวงตากันตอนแก่แบบนี้ จะบอกว่าไม่มีอะไรช้าไปหรอก ได้ลงมือทำก็ยังดีกว่าไม่ได้ทำอะไรเลยนะ
วิธีแรกที่ป้าทำคือสิ่งที่ยากที่สุดสำหรับป้า นั่นคือการงดค่ะ การงดกินเค็มที่ตัวเองชอบกินด้วย เพราะเคยไปหาหมอมาแล้วหมอบอกมาว่าการกินเค็มก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้มีโอกาสเป็นต้อได้ ตรงนี้แอบยากนิดหน่อยเพราะแต่ละอย่างที่งดไปก็คือของชอบของป้าหมด แต่ก็ต้องหักดิบฝืนตัวเองเพื่อสุขภาพที่ดีค่ะ
วิธีต่อมาน่าจะเป็นขั้นตอนของการปฏิบัติ อันนี้ไม่ค่อยยากเท่าไรนัก ป้าก็จะสวมแว่นกันแดดก่อนออกจากบ้านทุกวัน เพราะตาป้าสู้แสงไม่ค่อยได้ แว่นกันแดดก็จะช่วยป้าให้มองได้ดีขึ้น และแว่นกันแดดก็ช่วยถนอมสายตาและปกป้องตาจากแสงแดดด้วย เพราะพวกแสง UV เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เกิดโรคตาต่างๆ โดยเฉพาะโรคต้อนะคะ การใส่แว่นตากันแดดจึงเป็นการดูแลสายตาอย่างหนึ่งเหมือนกัน นอกจากเรื่องของการสวมแว่นตาแล้วป้าก็พยายามบริหารดวงตาอยู่เสมอ จะทำตลอดถ้ามีเวลาว่าง ซึ่งไม่ได้ยุ่งยากอะไรเลยค่ะ แค่กระพริบตาทุกๆ4วินาทีเป็นเวลา2นาที เพื่อให้ตาชุ่มชื้น ไม่ล้า และก็กลอกตาเป็นเลข8ค่ะ จะกลอกตาแบบแนวอื่นก็ได้ แต่ส่วนตัวป้ากลอกตาเป็นเลข8ตลอด อันนี้จะทำให้กล้ามเนื้อตาแข็งแรงขึ้นและมองเห็นได้ชัดขึ้นค่ะ เป็นวิธีการที่ไม่ยุ่งยากและทำได้ทุกวันค่ะ
ส่วนอีกวิธีหนึ่งจะเป็นเรื่องอาหารการกิน เพราะของทุกอย่างที่เลือกกินไปมันส่งผลถึงสุขภาพได้ทั้งนั้น ซึ่งจากที่เคยไปหาข้อมูลและคุณหมอแนะนำด้วย ก็บอกตรงกันเลยว่าถ้ามีปัญหาเกี่ยวกับดวงตาให้เลือกกินอาหารที่มีลูทีนและซีแซนทีนสูง เพราะลูทีนและซีแซนทีนเป็นสารที่พบได้ในจอประสาทตาของคน เลยกลายมาเป็นอาหารที่จำเป็นมากๆสำหรับการบำรุงสายตา แล้วยังป้องกันและชะลอการเกิดโรคต่างๆทางดวงตาอีก นอกจากเรื่องตาแล้วลูทีนและซีแซนทีนยังช่วยเรื่องความจำด้วยนะ ประมาณว่ากินแล้วไม่หลงๆลืมๆนั่นแหละ ซึ่งจากที่ป้าค้นมาคือตัวลูทีนและซีแซนทีนจะพบได้ในผักใบเขียวและเหลือง แล้วก็ไข่แดงเป็นหลักค่ะ เวลาทำอาหารป้าก็จะเน้นของพวกนี้แหละ เน้นไปที่พวกผักให้ร่างกายได้รับสารลูทีนสักหน่อย แต่ป้าเป็นคนไม่ค่อยเจริญอาหาร กินอะไรได้ไม่เยอะมาตั้งนานแล้ว ก็กลัวเหมือนกันว่าที่กินอยู่ตอนนี้อาจจะไม่พอ ก็เลยต้องมีเสริมอาหารเสริมเข้าไปด้วย ก็เลือกกินมาหลายยี่ห้อแต่ก็รู้สึกว่าไม่ค่อยดีขึ้นเท่าไร เลยลองผิดลองถูกเปลี่ยนไปเรื่อยๆ จนไปเจอเภสัชคนหนึ่งแนะนำมาว่าให้ลอง Luteina(ลูทีน่า) ดู เพราะเขาเคยเอาตัวนี้ให้แม่กินแล้วแม่ดีขึ้น ป้าก็เลยซื้อมากินบ้าง พอกินไปได้สักเดือนกว่าๆก็เห็นผลนะ รู้สึกว่าดีขึ้นจริง เริ่มมองเห็นได้ชัดขึ้น ป้าก็เลยกินตัวนี้มาเรื่อยๆเลย
ทั้งหมดนี่ก็เป็นสิ่งที่ป้าทำมาเป็นประจำจนชินไปแล้ว อาจจะดูเหมือนขั้นตอนไม่เยอะ เพราะป้าเองก็เล่าไม่เก่ง แต่เวลาทำจริงๆมันก็ยุ่งยากอยู่เหมือนกัน โดยเฉพาะการต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่เคยทำมาก่อนด้วยเลยต้องใช้เวลาหน่อยที่จะปรับตัว แต่ทำบ่อยๆมันก็ชินไปเองแหละ ป้าก็ปฏิบัติตามแบบในกระทู้นี้มาเสมอ จนปัจจุบันตาดีขึ้นมากกว่าเดิม มองเห็นได้ชัดไม่มัวๆ น้ำตาก็ไม่ไหลง่ายเหมือนแต่ก่อน ตาสู้แสงได้มากขึ้น(แต่ไปข้างนอกก็ยังใส่แว่นกันแดดอยู่นะ) รวมๆแล้วดีขึ้นกว่าเดิมมากๆ อาจจะยังไม่ถึงขั้นสมัยสาวๆ แต่ก็ดีกว่าที่คิดเอาไว้แหละ
พอดีไปเห็นรูปสมัยเก่าของตัวเอง ก็เลยหยิบตาตัวเองเมื่อก่อนมาเทียบกับปัจจุบันซะเลย ถ้าดูแค่รูปนี้อาจดูไม่ออกเนอะ แต่จริงๆแล้วมันรู้สึกว่ามองเห็นชัดขึ้น น้ำตาไม่ค่อยไหลแล้ว แค่นี้ก็ดีแล้วสำหรับคนอายุเท่านี้
ส่วนนี่เป็นอาหารที่ป้าทำกินเองค่ะ ถ่ายรวมๆมาไว้ เผื่อใครอยากจะทำตาม เมนูส่วนใหญ่เน้นผักที่ช่วยเรื่องบำรุงตาหมด แต่จะคละๆกันไปในแต่ล่ะเมนู ไม่ให้เบื่อ และสำคัญก็คืออย่าปรุงเค็มเกินค่ะ
ส่วนอันนี้เป็นอาหารเสริมที่ป้ากินอยู่ค่ะ ของ Luteina(ลูทีน่า) นั่นแหละ เป็นอาหารเสริมลูทีนและซีแซนทีนที่สกัดมาจากดอกดาวเรืองอีกที ป้าก็กินมาเรื่อยๆจนถึงตอนนี้ค่ะ
นี่แหละวิธีการดูแลสายตาตัวเองของป้า ที่อยากมาแนะนำในพันทิปให้กับคนที่อายุใกล้เคียงกัน และมีปัญหาเกี่ยวกับดวงตาเหมือนกัน เผื่อนำไปประยุกต์ใช้ได้ อย่างที่ป้าบอกไปต้นกระทู้ว่าถึงจะอายุเยอะแล้วแต่การหันมาดูแลตัวเองตอนนี้ก็ไม่ได้สายไปหรอก และยิ่งอายุเยอะขึ้นก็ยิ่งต้องดูแลตัวเองให้ดีเลย โรคภัยจะได้ไม่ถามหา ไม่เจ็บไม่ป่วยกันค่ะ ป้าขออวยพรให้ทุกคนที่อ่านกระทู้นี้สุขภาพแข็งแรงกันทุกคนนะคะ
[CR] บอกเล่าวิธีการดูแลสายตาตัวเองตามประสาคนวัยทองค่ะ
ปัญหาที่เห็นชัดที่สุดตอนที่ตัวเองแก่ขึ้นและทำให้เรากลัวมากๆก็เรื่องดวงตา การมองเห็นค่ะ เพราะรู้สึกว่าตัวเองมองอะไรก็เบลอๆไม่ค่อยชัดเหมือนเดิม มันมัวๆจนบางทีก็เดินชนโน่นชนนี่โดยไม่รู้ตัว เจ็บตัวไปอีก นอกจากนั้นน้ำตาก็มักจะไหลออกมาบ่อยๆทั้งที่ตัวเองไม่ได้ร้องไห้ เหมือนมันมาเอง แล้วยิ่งเจอแสงแรงๆหน่อยนี่ไม่ได้เลย อย่างเวลาออกไปข้างนอกตอนแดดแรงๆนี่แทบจะลืมตาไม่ขึ้นเลยค่ะ ต้องอยู่ในที่ร่มตลอด เคยลองเอาเรื่องนี้ไปคุยกับเพื่อนก็มีแต่คนบอกว่าเป็นคล้ายๆกัน เลยเข้าใจว่าคงเป็นความเสื่อมตามอายุ แต่พอเป็นแบบนี้อยู่เป็นปีๆเราก็เริ่มกลัวว่าจะเป็นอะไรหรือเปล่า กลัวว่าตัวเองจะเป็นโรคอะไรเกี่ยวกับตาอย่างพวกต้ออะไรทำนองนี้ เพราะถ้าตามีปัญหาขึ้นมาจริงๆ ป้าคงใช้ชีวิตที่เหลือได้ลำบากแน่ ลูกหลานก็ไม่มีให้พึ่ง ต้องพึ่งตัวเองอย่างเดียวล้วนๆ ก็เลยคิดได้ว่าเราต้องเริ่มหันมาดูแลตัวเองจริงจังได้แล้วนะ เริ่มที่ดวงตาก่อนเลยอย่างแรก
และที่ป้าตั้งกระทู้นี้เพื่ออยากจะมาแบ่งปันการดูแลดวงตาของตัวเองตอนอายุจะ50นี่แหละ เพราะเห็นคนรอบตัวมีปัญหาเรื่องดวงตาคล้ายๆกันหมด เลยคิดว่าคนอื่นน่าจะเป็นเหมือนกัน ถือว่ามาแนะนำแบบช่วยๆกันไป หลายคนอาจจะคิดว่าช้าไปหรือเปล่าที่จะมาดูแลดวงตากันตอนแก่แบบนี้ จะบอกว่าไม่มีอะไรช้าไปหรอก ได้ลงมือทำก็ยังดีกว่าไม่ได้ทำอะไรเลยนะ
วิธีแรกที่ป้าทำคือสิ่งที่ยากที่สุดสำหรับป้า นั่นคือการงดค่ะ การงดกินเค็มที่ตัวเองชอบกินด้วย เพราะเคยไปหาหมอมาแล้วหมอบอกมาว่าการกินเค็มก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้มีโอกาสเป็นต้อได้ ตรงนี้แอบยากนิดหน่อยเพราะแต่ละอย่างที่งดไปก็คือของชอบของป้าหมด แต่ก็ต้องหักดิบฝืนตัวเองเพื่อสุขภาพที่ดีค่ะ
วิธีต่อมาน่าจะเป็นขั้นตอนของการปฏิบัติ อันนี้ไม่ค่อยยากเท่าไรนัก ป้าก็จะสวมแว่นกันแดดก่อนออกจากบ้านทุกวัน เพราะตาป้าสู้แสงไม่ค่อยได้ แว่นกันแดดก็จะช่วยป้าให้มองได้ดีขึ้น และแว่นกันแดดก็ช่วยถนอมสายตาและปกป้องตาจากแสงแดดด้วย เพราะพวกแสง UV เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เกิดโรคตาต่างๆ โดยเฉพาะโรคต้อนะคะ การใส่แว่นตากันแดดจึงเป็นการดูแลสายตาอย่างหนึ่งเหมือนกัน นอกจากเรื่องของการสวมแว่นตาแล้วป้าก็พยายามบริหารดวงตาอยู่เสมอ จะทำตลอดถ้ามีเวลาว่าง ซึ่งไม่ได้ยุ่งยากอะไรเลยค่ะ แค่กระพริบตาทุกๆ4วินาทีเป็นเวลา2นาที เพื่อให้ตาชุ่มชื้น ไม่ล้า และก็กลอกตาเป็นเลข8ค่ะ จะกลอกตาแบบแนวอื่นก็ได้ แต่ส่วนตัวป้ากลอกตาเป็นเลข8ตลอด อันนี้จะทำให้กล้ามเนื้อตาแข็งแรงขึ้นและมองเห็นได้ชัดขึ้นค่ะ เป็นวิธีการที่ไม่ยุ่งยากและทำได้ทุกวันค่ะ
ส่วนอีกวิธีหนึ่งจะเป็นเรื่องอาหารการกิน เพราะของทุกอย่างที่เลือกกินไปมันส่งผลถึงสุขภาพได้ทั้งนั้น ซึ่งจากที่เคยไปหาข้อมูลและคุณหมอแนะนำด้วย ก็บอกตรงกันเลยว่าถ้ามีปัญหาเกี่ยวกับดวงตาให้เลือกกินอาหารที่มีลูทีนและซีแซนทีนสูง เพราะลูทีนและซีแซนทีนเป็นสารที่พบได้ในจอประสาทตาของคน เลยกลายมาเป็นอาหารที่จำเป็นมากๆสำหรับการบำรุงสายตา แล้วยังป้องกันและชะลอการเกิดโรคต่างๆทางดวงตาอีก นอกจากเรื่องตาแล้วลูทีนและซีแซนทีนยังช่วยเรื่องความจำด้วยนะ ประมาณว่ากินแล้วไม่หลงๆลืมๆนั่นแหละ ซึ่งจากที่ป้าค้นมาคือตัวลูทีนและซีแซนทีนจะพบได้ในผักใบเขียวและเหลือง แล้วก็ไข่แดงเป็นหลักค่ะ เวลาทำอาหารป้าก็จะเน้นของพวกนี้แหละ เน้นไปที่พวกผักให้ร่างกายได้รับสารลูทีนสักหน่อย แต่ป้าเป็นคนไม่ค่อยเจริญอาหาร กินอะไรได้ไม่เยอะมาตั้งนานแล้ว ก็กลัวเหมือนกันว่าที่กินอยู่ตอนนี้อาจจะไม่พอ ก็เลยต้องมีเสริมอาหารเสริมเข้าไปด้วย ก็เลือกกินมาหลายยี่ห้อแต่ก็รู้สึกว่าไม่ค่อยดีขึ้นเท่าไร เลยลองผิดลองถูกเปลี่ยนไปเรื่อยๆ จนไปเจอเภสัชคนหนึ่งแนะนำมาว่าให้ลอง Luteina(ลูทีน่า) ดู เพราะเขาเคยเอาตัวนี้ให้แม่กินแล้วแม่ดีขึ้น ป้าก็เลยซื้อมากินบ้าง พอกินไปได้สักเดือนกว่าๆก็เห็นผลนะ รู้สึกว่าดีขึ้นจริง เริ่มมองเห็นได้ชัดขึ้น ป้าก็เลยกินตัวนี้มาเรื่อยๆเลย
ทั้งหมดนี่ก็เป็นสิ่งที่ป้าทำมาเป็นประจำจนชินไปแล้ว อาจจะดูเหมือนขั้นตอนไม่เยอะ เพราะป้าเองก็เล่าไม่เก่ง แต่เวลาทำจริงๆมันก็ยุ่งยากอยู่เหมือนกัน โดยเฉพาะการต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่เคยทำมาก่อนด้วยเลยต้องใช้เวลาหน่อยที่จะปรับตัว แต่ทำบ่อยๆมันก็ชินไปเองแหละ ป้าก็ปฏิบัติตามแบบในกระทู้นี้มาเสมอ จนปัจจุบันตาดีขึ้นมากกว่าเดิม มองเห็นได้ชัดไม่มัวๆ น้ำตาก็ไม่ไหลง่ายเหมือนแต่ก่อน ตาสู้แสงได้มากขึ้น(แต่ไปข้างนอกก็ยังใส่แว่นกันแดดอยู่นะ) รวมๆแล้วดีขึ้นกว่าเดิมมากๆ อาจจะยังไม่ถึงขั้นสมัยสาวๆ แต่ก็ดีกว่าที่คิดเอาไว้แหละ
นี่แหละวิธีการดูแลสายตาตัวเองของป้า ที่อยากมาแนะนำในพันทิปให้กับคนที่อายุใกล้เคียงกัน และมีปัญหาเกี่ยวกับดวงตาเหมือนกัน เผื่อนำไปประยุกต์ใช้ได้ อย่างที่ป้าบอกไปต้นกระทู้ว่าถึงจะอายุเยอะแล้วแต่การหันมาดูแลตัวเองตอนนี้ก็ไม่ได้สายไปหรอก และยิ่งอายุเยอะขึ้นก็ยิ่งต้องดูแลตัวเองให้ดีเลย โรคภัยจะได้ไม่ถามหา ไม่เจ็บไม่ป่วยกันค่ะ ป้าขออวยพรให้ทุกคนที่อ่านกระทู้นี้สุขภาพแข็งแรงกันทุกคนนะคะ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้