โฆษกพท.ตั้งคำถามนายกฯคืนตำแหน่ง”วิชัย”
https://www.innnews.co.th/politics/news_678976/
นาย
อนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี แหล่งข่าวจากฝ่ายความมั่นคง ระบุ พรรคฝ่ายค้านปั่นกระแสให้คนเกลียดชังรัฐบาล ว่า
ไม่แปลกใจที่รัฐบาลออกมาตรการต่างๆผิดพลาด ไม่สอดรับกับสถานการณ์ เพราะอ่านรายงานที่ไม่อยู่บนพื้นฐานข้อเท็จจริง รัฐบาล พล.อ.
ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยึดอำนาจมา 5 ปี และกำลังเดินหน้าสืบทอดอำนาจเข้าสู่ปีที่ 7 มีผลงานอะไรเป็นที่ประจักษ์บ้าง เศรษฐกิจวิกฤตตั้งแต่ก่อนเกิดปัญหาการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ถ้า พล.อ.ประยุทธ์ ไม่หลบหลังโควิด การอยู่มาได้จนถึงเดือนพฤษภาคม 2563 ถือว่า ปาฏิหาริย์มาก คำเตือนการ์ดอย่าตก นอกจากจะใช้ข่มขู่ประชาชน ยังใช้เตือนสติตัวรัฐบาลเอง ประชาชนหมดศรัทธา ปัญหาการยึดอำนาจพรรคร่วมรัฐบาล จนเกิดการต่อต้านในพรรคร่วมรัฐบาลกันเอง ไม่แปลกใจที่พล.อ.
ประยุทธ์ จะต้องคงพ.ร.ก.ฉุกเฉินไว้ให้นานที่สุด การที่พล.อ.
ประยุทธ์ ลงนามในคำสั่งให้นาย
วิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน กลับไปปฏิบัติราชการในตำแหน่งเดิม หลังจากที่ก่อนหน้านี้ ได้มีคำสั่งให้ไปปฏิบัติราชการที่สำนักนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 15 มี.ค.2563 ที่ผ่านมา เพื่อตรวจสอบ กรณีการกักตุนหน้ากากอนามัย พล.อ.
ประยุทธ์ ต้องชี้แจงว่าการลงนามในคำสั่งให้กลับไปปฏิบัติราชการในตำแหน่งเดิม เพราะเคลียร์ปัญหากันจบ หรือไม่พบความผิด แสดงว่า พล.อ.
ประยุทธ์ เห็นด้วยกับการส่งออกหน้ากากอนามัยในขณะที่ในประเทศไทยขาดแคลนหรือไม่
ทั้งนี้ รายงานที่ยอมรับว่ากลัวฝ่ายค้าน คือการสารภาพว่ากลัวประชาชน ถ้ารัฐบาลสุจริตไม่มีอะไรต้องกลัว ฝ่ายค้านจะทำหน้าที่ตรวจสอบรัฐบาลอย่างใกล้ชิด ไม่ให้นำพาประเทศไปผิดทิศผิดทาง
“หมอสุรวิทย์”ชี้วิกฤตโควิดคือบทเรียนรบ.ที่เชื่องช้า
https://www.innnews.co.th/politics/news_679026/
"หมอสุรวิทย์" ชี้วิกฤตโควิดคือบทเรียนของรัฐบาลที่ลังเล เชื่องช้า ไม่รอบคอบ จี้ยกเลิก พ.ร.ก ฉุกเฉิน-เคอร์ฟิว ใช้ อำนาจตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อ
นายแพทย์
สุรวิทย์ คนสมบูรณ์ ส.ส.ชัยภูมิ พรรคเพื่อไทย อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณะสุข กล่าวถึงวิกฤติโควิด-19 ครั้งนี้ ว่า
เป็นบทเรียนใหญ่หลวงแก่รัฐบาล ที่ลังเล เชื่องช้า ไม่รอบคอบ ทั้งที่ระบบสาธารณสุขและบุคคลากร ด้านสาธารณสุขของไทยดีเยี่ยมอยู่แล้ว แม้แต่การเยียวยาประชาชน รัฐบาลก็ล้มเหลว ทำได้ไม่ทั่วถึง และไม่ทันเหตุการณ์ รัฐบาลควรเตรียมการ คลาย ล็อคกิจกรรมต่างๆ เพื่อให้คนไทยได้ทำงานโดยมีมาตรการทางสาธารณสุขที่เหมาะสม ควรรีบยกเลิก พ.ร.ก ฉุกเฉิน เลิกเคอร์ฟิว แต่มาใช้ อำนาจตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อ 2558 แทน
รัฐบาลต้องวางแนวทาง กิจกรรมและพฤติกรรมที่เรียกว่า New Normal ที่เหมาะสมสำหรับคนไทย ที่สำคัญคือประเทศไทยในช่วงต่อจากนี้ไปมีโอกาสดี ที่จะพลิกวิกฤติโควิดให้เป็นโอกาสอันดี เพราะประเทศไทยจะเป็นที่สนใจทั้งด้านการท่องเที่ยว การลงทุน การศึกษา การส่งออกสินค้าต่างๆ รวมถึงเป็นแดนสวรรค์ที่ใครก็อยากมาพักอาศัยทั้งชั่วคราวและถาวรรัฐบาลต้องเตรียมการและวางแผนรองรับโอกาสเหล่านี้ให้ดี
ความจริงแล้วประเทศไทยไม่ควรต้องสูญเสียทางเศรษฐกิจและสังคมมากถึงเพียงนี้ ถ้ารัฐบาลสั่งหยุดกิจกรรมทางเศรษฐกิจและสังคมโดยมีแผนรองรับล่วงหน้า หากรัฐบาลทำงานเร็วและรอบคอบกว่านี้ หรือเลือกปิดกิจการที่เสี่ยงมากตั้งแต่ต้น เช่น ปิดสนามมวย ปิดสถานบันเทิง การห้ามผู้เดินทางจากประเทศกลุ่มเสี่ยงเข้ามาในประเทศเร็วกว่านี้
JJNY : พท.ถามคืนตำแหน่งวิชัย/หมอสุรวิทย์ชี้โควิดคือบทเรียนรบ.เชื่องช้า/มวยไทยร้องตู่ ขอปลดล็อก/ทั่วโลกป่วยโควิดเฉียด5ล.
https://www.innnews.co.th/politics/news_678976/
ไม่แปลกใจที่รัฐบาลออกมาตรการต่างๆผิดพลาด ไม่สอดรับกับสถานการณ์ เพราะอ่านรายงานที่ไม่อยู่บนพื้นฐานข้อเท็จจริง รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยึดอำนาจมา 5 ปี และกำลังเดินหน้าสืบทอดอำนาจเข้าสู่ปีที่ 7 มีผลงานอะไรเป็นที่ประจักษ์บ้าง เศรษฐกิจวิกฤตตั้งแต่ก่อนเกิดปัญหาการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ถ้า พล.อ.ประยุทธ์ ไม่หลบหลังโควิด การอยู่มาได้จนถึงเดือนพฤษภาคม 2563 ถือว่า ปาฏิหาริย์มาก คำเตือนการ์ดอย่าตก นอกจากจะใช้ข่มขู่ประชาชน ยังใช้เตือนสติตัวรัฐบาลเอง ประชาชนหมดศรัทธา ปัญหาการยึดอำนาจพรรคร่วมรัฐบาล จนเกิดการต่อต้านในพรรคร่วมรัฐบาลกันเอง ไม่แปลกใจที่พล.อ.ประยุทธ์ จะต้องคงพ.ร.ก.ฉุกเฉินไว้ให้นานที่สุด การที่พล.อ.ประยุทธ์ ลงนามในคำสั่งให้นายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน กลับไปปฏิบัติราชการในตำแหน่งเดิม หลังจากที่ก่อนหน้านี้ ได้มีคำสั่งให้ไปปฏิบัติราชการที่สำนักนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 15 มี.ค.2563 ที่ผ่านมา เพื่อตรวจสอบ กรณีการกักตุนหน้ากากอนามัย พล.อ.ประยุทธ์ ต้องชี้แจงว่าการลงนามในคำสั่งให้กลับไปปฏิบัติราชการในตำแหน่งเดิม เพราะเคลียร์ปัญหากันจบ หรือไม่พบความผิด แสดงว่า พล.อ.ประยุทธ์ เห็นด้วยกับการส่งออกหน้ากากอนามัยในขณะที่ในประเทศไทยขาดแคลนหรือไม่
ทั้งนี้ รายงานที่ยอมรับว่ากลัวฝ่ายค้าน คือการสารภาพว่ากลัวประชาชน ถ้ารัฐบาลสุจริตไม่มีอะไรต้องกลัว ฝ่ายค้านจะทำหน้าที่ตรวจสอบรัฐบาลอย่างใกล้ชิด ไม่ให้นำพาประเทศไปผิดทิศผิดทาง
“หมอสุรวิทย์”ชี้วิกฤตโควิดคือบทเรียนรบ.ที่เชื่องช้า
https://www.innnews.co.th/politics/news_679026/
"หมอสุรวิทย์" ชี้วิกฤตโควิดคือบทเรียนของรัฐบาลที่ลังเล เชื่องช้า ไม่รอบคอบ จี้ยกเลิก พ.ร.ก ฉุกเฉิน-เคอร์ฟิว ใช้ อำนาจตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อ
นายแพทย์สุรวิทย์ คนสมบูรณ์ ส.ส.ชัยภูมิ พรรคเพื่อไทย อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณะสุข กล่าวถึงวิกฤติโควิด-19 ครั้งนี้ ว่า
เป็นบทเรียนใหญ่หลวงแก่รัฐบาล ที่ลังเล เชื่องช้า ไม่รอบคอบ ทั้งที่ระบบสาธารณสุขและบุคคลากร ด้านสาธารณสุขของไทยดีเยี่ยมอยู่แล้ว แม้แต่การเยียวยาประชาชน รัฐบาลก็ล้มเหลว ทำได้ไม่ทั่วถึง และไม่ทันเหตุการณ์ รัฐบาลควรเตรียมการ คลาย ล็อคกิจกรรมต่างๆ เพื่อให้คนไทยได้ทำงานโดยมีมาตรการทางสาธารณสุขที่เหมาะสม ควรรีบยกเลิก พ.ร.ก ฉุกเฉิน เลิกเคอร์ฟิว แต่มาใช้ อำนาจตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อ 2558 แทน
รัฐบาลต้องวางแนวทาง กิจกรรมและพฤติกรรมที่เรียกว่า New Normal ที่เหมาะสมสำหรับคนไทย ที่สำคัญคือประเทศไทยในช่วงต่อจากนี้ไปมีโอกาสดี ที่จะพลิกวิกฤติโควิดให้เป็นโอกาสอันดี เพราะประเทศไทยจะเป็นที่สนใจทั้งด้านการท่องเที่ยว การลงทุน การศึกษา การส่งออกสินค้าต่างๆ รวมถึงเป็นแดนสวรรค์ที่ใครก็อยากมาพักอาศัยทั้งชั่วคราวและถาวรรัฐบาลต้องเตรียมการและวางแผนรองรับโอกาสเหล่านี้ให้ดี
ความจริงแล้วประเทศไทยไม่ควรต้องสูญเสียทางเศรษฐกิจและสังคมมากถึงเพียงนี้ ถ้ารัฐบาลสั่งหยุดกิจกรรมทางเศรษฐกิจและสังคมโดยมีแผนรองรับล่วงหน้า หากรัฐบาลทำงานเร็วและรอบคอบกว่านี้ หรือเลือกปิดกิจการที่เสี่ยงมากตั้งแต่ต้น เช่น ปิดสนามมวย ปิดสถานบันเทิง การห้ามผู้เดินทางจากประเทศกลุ่มเสี่ยงเข้ามาในประเทศเร็วกว่านี้