ตอนนี้ เราไปเล่นแบดมินตันในสนามแบดมินตันโดยไม่มีอะไรป้องกันกัน ทำให้เกิดการติดต่อของเชื้อโควิด-19 ได้หรือไม่ แค่ไหน อย่างไร ?
ผมขออนุญาตแสดงความคิดเห็น ในการป้องกันการติดต่อของโรคระบาดโควิด-19 บนสมมุติฐานเมื่อมีคนใดคนหนึ่งเป็นพาหะของเชื้อโควิด-19 อยู่ ในเฉพาะช่วงเวลาลงเล่นในสนามแบดมินตัน (ประเภทคู่) หากผิดพลาดสิ่งใด ขออภัยไว้ ณ ตรงนี้ และอยากให้สมาชิกร่วมแบ่งปันความคิดเห็น เราจะได้เล่นแบดมินตันกันอย่างสนุกและปลอดภัย
หลัก ๆ
เชื้อโควิด-19 มันมากับน้ำมูกหรือน้ำลาย เข้าสู่ร่างกายคนทางปาก หรือทางจมูก (เหงื่อ และ ช่องทางตา ขอข้ามไปก่อนเพราะข้อมูลการติดต่อน้อย)
น้ำมูก น้ำลาย เดินทางเข้าสู่คนได้ จากละอองฝอยของน้ำมูกน้ำลายที่ฟุ้งกระจายในอากาศแล้วไปสูดดมรับมันเข้า หรือจากที่มือไปสัมผัสกับน้ำมูกหรือน้ำลายแล้วนำมาสัมผัสปากหรือจมูก
การเล่นแบดมินตันประเภทคู่ ผู้เล่นมีการเคลื่อนไหวที่เร็ว เคลื่อนที่ทดแทนตำแหน่งกันระหว่างผู้เล่น และเคลื่อนที่เกือบตลอดเวลาทั่วทั้งสนาม (มีโอกาสใกล้กันหรือชนกัน) ละอองฝอยของน้ำมูกน้ำลาย (ที่เกิดจากการไอ จาม ส่งเสียงดัง พูด หายใจแรง ) ของผู้เล่นคนหนึ่ง ที่ฟุ้งกระจายขึ้นมา ยังไม่ทันจะตกพื้นหรือลอยหายไปไหน ผู้เล่นอีกคนก็จะวิ่งเข้ามาสูดดมเข้าไปแล้ว ละอองฝอยที่ฟุ้งกระจายสามารถลอยอยู่ได้เป็นนาที ถ้าเรามีกล้องพิเศษส่องดู เราอาจจะเห็นละอองฝอยที่ฟุ้งกระจายอยู่เต็มพื้นที่ทั้งสนาม แม้แต่ผุ้เล่นคู่ต่อสู้ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามหรือผู้เล่นสนามข้าง ๆ อาจมีผลต่อการติดต่อเชื้อด้วยก็เป็นได้
การติดต่อของเชื้อโควิด-19 อาจเกิดจากการสัมผัสโดย
มือของผู้เล่นเอง เพราะมือของผู้เล่นอาจไปสัมผัสกับลูกแบดมินตันที่เปื้อนน้ำมูกน้ำลาย หรือมือของผู้เล่นไปสัมผัสกับสนามแบดมินตันที่เปื้อนน้ำมูกน้ำลาย หรือมือของผู้เล่นไปสัมผัสกับร่างกายของผู้เล่นที่เปื้อนน้ำมูกน้ำลาย แล้วนำมือมาสัมผัสปากจมูกตัวเอง
- ลูกแบดมินตันปื้อนน้ำมูกน้ำลายได้เพราะ ผู้เล่น(เผลอ)เอามือไปสัมผัสปาก สัมผัสจมูกตัวเอง น้ำลายน้ำมูกตัวเองมาเปื้อนมือ แล้วเอามือนั้นไปจับลูกแบดมินตัน น้ำมูกน้ำลายนั้นก็จะไปเปื้อนลูกแบดมินตัน หรือเพราะลูกแบดมินตันตกลงบนพื้นสนามที่เปื้อนน้ำมูกน้ำลาย
- สนามแบดมินตันเปื้อนมูกน้ำลายได้เพราะ น้ำมูก น้ำลาย ไหล กระเด็นลงจากผู้เล่น หรือจากการ ไอ จาม ส่งเสียงดัง พูด หายใจแรง แล้วละอองฝอยน้ำมูกน้ำลายล่วงลงสู่พื้นสนาม
- ร่างกายของผู้เล่นเปื้อนน้ำมูกน้ำลายเพราะ น้ำมูก น้ำลาย ไหล กระเด็นลงจากผู้เล่น หรือจากการ ไอ จาม ส่งเสียงดัง พูด หายใจแรง แล้วละอองฝอยน้ำมูกน้ำลายล่วงลงสู่ร่างกาย
ลองพิจารณาจากตาราง การติดต่อประกอบด้วย การรับเชื้อเข้ามา และการแพร่กระจายเชื้อออก ในการเล่นแบดมินตันมี 4 ตัวกลาง ที่อาจทำให้เชื้อติดต่อกันได้ คือ 1. เชื้อที่ลอยในอากาศ, 2. ลูกแบดมินตัน, 3. พื้นสนาม และ 4. ร่างกายผู้เล่น
สรุปตารางที่ 1 ถ้าไม่ป้องกันและไม่ระมัดระวัง มีโอกาสติดเชื้อได้สูง และสามารถติดได้ทั้ง 4 ตัวกลาง
สรุปตารางที่ 2 ถ้าใส่หน้ากากปิดทั้งปากและจมูก ไม่มีโอกาสติดเชื้อ(หรือติดยาก) ทั้ง 4 ตัวกลาง แต่จะทำให้หายใจยาก เลือดขาดอ๊อกซิเจน เหนื่อย หมดสติ หรือถึงแก่ชีวิตได้ (อักษรสีเขียว หมายถึงปลอดภัยต่อการติดต่อเชื้อ)
สรุปตารางที่ 3 ปิดปากอย่างเดียว มีโอกาสติดเชื้อได้ ทั้ง 4 ตัวกลาง แต่เฉพาะโอกาสติดเชื้อทางเชื้อที่ลอยในอากาศ ต่ำลง (อักษรสีเขียว หมายถึงปลอดภัยต่อการติดต่อเชื้อ)
สรุปตารางที่ 4 ระมัดระวังไม่ให้มือสัมผัสปากหรือจมูกตัวเอง มีโอกาสติดเชื้อได้ตัวกลางเดียว คือทางเชื้อที่ลอยในอากาศ แต่มีโอกาสติดเชื้อสูง (อักษรสีเขียว หมายถึงปลอดภัยต่อการติดต่อเชื้อ)
สรุปตารางที่ 5 ปิดปากและระมัดระวังไม่ให้มือสัมผัสปากหรือจมูกตัวเอง มีโอกาสติดเชื้อได้ตัวกลางเดียว คือติดทางเชื้อที่ลอยในอากาศ และมีโอกาสติดเชื้อต่ำ (อักษรสีเขียว หมายถึงปลอดภัยต่อการติดต่อเชื้อ)
เท่าที่คิดได้ตอนนี้ จากตารางที่ 5 เป็นวิธีที่ดีที่สุด เพราะเพียงใส่หน้ากากปิดแค่ปากอย่างเดียว (ไม่แพร่เชื้อแรง ๆให้ผู้อื่น แต่ต้องทำทุกคน) และไม่เผลอเอามือไปลูบหน้าก็ปลอดภัยพอสมควรแล้ว
ผู้เล่นน่าจะยอมรับได้ เจ้าของสนามก็พอจะบอกขอความร่วมมือจากผู้มาใช้บริการได้
ทำอย่างไร มือของผู้เล่นจึงไม่สัมผัสปากและจมูกตัวเอง สามารถทำโดย 1 ตั้งสติไม่เผลอ หรือ 2ใสถุงมือเฉพาะข้างที่ไม่ถือแรคเก็ตเพื่อช่วยย้ำเตือนไม่ให้เผลอ หรือ 3 .ใส่หน้ากากปิดทั้งปากและจมูก แต่ส่วนที่ตรงรูจมูกกรีดช่องไว้เล็กน้อยเพื่อให้หายใจโล่ง ถ้าเผลอเอามือมาลูบหน้าจะได้ไม่โดนทั้งจมูกและปาก 4. ......... (ช่วยกันคิดหน่อย)
ขอบคุณครับ
ตอนนี้ เราไปออกกำลังกายเล่นแบดมินตันในสนามแบดมินตันโดยไม่มีอะไรป้องกันกันเ ทำให้เกิดการติดต่อของเชื้อโควิด-1
ผมขออนุญาตแสดงความคิดเห็น ในการป้องกันการติดต่อของโรคระบาดโควิด-19 บนสมมุติฐานเมื่อมีคนใดคนหนึ่งเป็นพาหะของเชื้อโควิด-19 อยู่ ในเฉพาะช่วงเวลาลงเล่นในสนามแบดมินตัน (ประเภทคู่) หากผิดพลาดสิ่งใด ขออภัยไว้ ณ ตรงนี้ และอยากให้สมาชิกร่วมแบ่งปันความคิดเห็น เราจะได้เล่นแบดมินตันกันอย่างสนุกและปลอดภัย
หลัก ๆ เชื้อโควิด-19 มันมากับน้ำมูกหรือน้ำลาย เข้าสู่ร่างกายคนทางปาก หรือทางจมูก (เหงื่อ และ ช่องทางตา ขอข้ามไปก่อนเพราะข้อมูลการติดต่อน้อย)
น้ำมูก น้ำลาย เดินทางเข้าสู่คนได้ จากละอองฝอยของน้ำมูกน้ำลายที่ฟุ้งกระจายในอากาศแล้วไปสูดดมรับมันเข้า หรือจากที่มือไปสัมผัสกับน้ำมูกหรือน้ำลายแล้วนำมาสัมผัสปากหรือจมูก
การเล่นแบดมินตันประเภทคู่ ผู้เล่นมีการเคลื่อนไหวที่เร็ว เคลื่อนที่ทดแทนตำแหน่งกันระหว่างผู้เล่น และเคลื่อนที่เกือบตลอดเวลาทั่วทั้งสนาม (มีโอกาสใกล้กันหรือชนกัน) ละอองฝอยของน้ำมูกน้ำลาย (ที่เกิดจากการไอ จาม ส่งเสียงดัง พูด หายใจแรง ) ของผู้เล่นคนหนึ่ง ที่ฟุ้งกระจายขึ้นมา ยังไม่ทันจะตกพื้นหรือลอยหายไปไหน ผู้เล่นอีกคนก็จะวิ่งเข้ามาสูดดมเข้าไปแล้ว ละอองฝอยที่ฟุ้งกระจายสามารถลอยอยู่ได้เป็นนาที ถ้าเรามีกล้องพิเศษส่องดู เราอาจจะเห็นละอองฝอยที่ฟุ้งกระจายอยู่เต็มพื้นที่ทั้งสนาม แม้แต่ผุ้เล่นคู่ต่อสู้ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามหรือผู้เล่นสนามข้าง ๆ อาจมีผลต่อการติดต่อเชื้อด้วยก็เป็นได้
การติดต่อของเชื้อโควิด-19 อาจเกิดจากการสัมผัสโดยมือของผู้เล่นเอง เพราะมือของผู้เล่นอาจไปสัมผัสกับลูกแบดมินตันที่เปื้อนน้ำมูกน้ำลาย หรือมือของผู้เล่นไปสัมผัสกับสนามแบดมินตันที่เปื้อนน้ำมูกน้ำลาย หรือมือของผู้เล่นไปสัมผัสกับร่างกายของผู้เล่นที่เปื้อนน้ำมูกน้ำลาย แล้วนำมือมาสัมผัสปากจมูกตัวเอง
- ลูกแบดมินตันปื้อนน้ำมูกน้ำลายได้เพราะ ผู้เล่น(เผลอ)เอามือไปสัมผัสปาก สัมผัสจมูกตัวเอง น้ำลายน้ำมูกตัวเองมาเปื้อนมือ แล้วเอามือนั้นไปจับลูกแบดมินตัน น้ำมูกน้ำลายนั้นก็จะไปเปื้อนลูกแบดมินตัน หรือเพราะลูกแบดมินตันตกลงบนพื้นสนามที่เปื้อนน้ำมูกน้ำลาย
- สนามแบดมินตันเปื้อนมูกน้ำลายได้เพราะ น้ำมูก น้ำลาย ไหล กระเด็นลงจากผู้เล่น หรือจากการ ไอ จาม ส่งเสียงดัง พูด หายใจแรง แล้วละอองฝอยน้ำมูกน้ำลายล่วงลงสู่พื้นสนาม
- ร่างกายของผู้เล่นเปื้อนน้ำมูกน้ำลายเพราะ น้ำมูก น้ำลาย ไหล กระเด็นลงจากผู้เล่น หรือจากการ ไอ จาม ส่งเสียงดัง พูด หายใจแรง แล้วละอองฝอยน้ำมูกน้ำลายล่วงลงสู่ร่างกาย
ลองพิจารณาจากตาราง การติดต่อประกอบด้วย การรับเชื้อเข้ามา และการแพร่กระจายเชื้อออก ในการเล่นแบดมินตันมี 4 ตัวกลาง ที่อาจทำให้เชื้อติดต่อกันได้ คือ 1. เชื้อที่ลอยในอากาศ, 2. ลูกแบดมินตัน, 3. พื้นสนาม และ 4. ร่างกายผู้เล่น
สรุปตารางที่ 1 ถ้าไม่ป้องกันและไม่ระมัดระวัง มีโอกาสติดเชื้อได้สูง และสามารถติดได้ทั้ง 4 ตัวกลาง
สรุปตารางที่ 2 ถ้าใส่หน้ากากปิดทั้งปากและจมูก ไม่มีโอกาสติดเชื้อ(หรือติดยาก) ทั้ง 4 ตัวกลาง แต่จะทำให้หายใจยาก เลือดขาดอ๊อกซิเจน เหนื่อย หมดสติ หรือถึงแก่ชีวิตได้ (อักษรสีเขียว หมายถึงปลอดภัยต่อการติดต่อเชื้อ)
สรุปตารางที่ 3 ปิดปากอย่างเดียว มีโอกาสติดเชื้อได้ ทั้ง 4 ตัวกลาง แต่เฉพาะโอกาสติดเชื้อทางเชื้อที่ลอยในอากาศ ต่ำลง (อักษรสีเขียว หมายถึงปลอดภัยต่อการติดต่อเชื้อ)
สรุปตารางที่ 4 ระมัดระวังไม่ให้มือสัมผัสปากหรือจมูกตัวเอง มีโอกาสติดเชื้อได้ตัวกลางเดียว คือทางเชื้อที่ลอยในอากาศ แต่มีโอกาสติดเชื้อสูง (อักษรสีเขียว หมายถึงปลอดภัยต่อการติดต่อเชื้อ)
สรุปตารางที่ 5 ปิดปากและระมัดระวังไม่ให้มือสัมผัสปากหรือจมูกตัวเอง มีโอกาสติดเชื้อได้ตัวกลางเดียว คือติดทางเชื้อที่ลอยในอากาศ และมีโอกาสติดเชื้อต่ำ (อักษรสีเขียว หมายถึงปลอดภัยต่อการติดต่อเชื้อ)
เท่าที่คิดได้ตอนนี้ จากตารางที่ 5 เป็นวิธีที่ดีที่สุด เพราะเพียงใส่หน้ากากปิดแค่ปากอย่างเดียว (ไม่แพร่เชื้อแรง ๆให้ผู้อื่น แต่ต้องทำทุกคน) และไม่เผลอเอามือไปลูบหน้าก็ปลอดภัยพอสมควรแล้ว
ผู้เล่นน่าจะยอมรับได้ เจ้าของสนามก็พอจะบอกขอความร่วมมือจากผู้มาใช้บริการได้
ทำอย่างไร มือของผู้เล่นจึงไม่สัมผัสปากและจมูกตัวเอง สามารถทำโดย 1 ตั้งสติไม่เผลอ หรือ 2ใสถุงมือเฉพาะข้างที่ไม่ถือแรคเก็ตเพื่อช่วยย้ำเตือนไม่ให้เผลอ หรือ 3 .ใส่หน้ากากปิดทั้งปากและจมูก แต่ส่วนที่ตรงรูจมูกกรีดช่องไว้เล็กน้อยเพื่อให้หายใจโล่ง ถ้าเผลอเอามือมาลูบหน้าจะได้ไม่โดนทั้งจมูกและปาก 4. ......... (ช่วยกันคิดหน่อย)
ขอบคุณครับ