กองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติของซาอุดิอาระเบีย (Sovereign Wealth Fund) อาศัยจังหวะที่ราคาหุ้นทั่วโลกกำลังตกต่ำจากวิกฤตไวรัสโควิด-19 ไล่เข้าซื้อหุ้นบริษัทชื่อดังต่างๆของโลก (Blue Chips Companies) ที่กำลังโดนกระทบหนักกว่าเพื่อนในช่วงนี้ เพื่อหวังที่จะกระจายความเสี่ยงที่รายได้หลักของประเทศอาจมาจากแค่การขายน้ำมัน
กองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติซาอุ Public Investment Fund (PIF) นำโดย มกุฎราชกุมาร โมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน (MBS) เป็น Chairman ได้ถูกจัดตั้งขึ้นมาได้เกือบ 50 ปีแล้ว เพื่อนำสภาพคล่องส่วนเกินของประเทศไปลงทุนในสินทรัพย์ต่างประเทศในธุรกิจที่คาดว่าจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศในอนาคต ซึ่งในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมานี้ได้ใช้เงินกวาดซื้อหุ้นทั่วโลกไปมูลค่ากว่า 3 แสนล้านเหรียญหรือ 10 ล้านล้านบาทแล้ว !
โดยหุ้นหลักๆที่ได้ซื้อไปมีดังนี้
ซื้อหุ้นบริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่อย่าง BP ไปรวมกว่า 827.8 ล้านเหรียญ (2.6 หมื่นล้านบาท) โดยเหตุผลหลักที่ยังซื้อหุ้นบริษัทน้ำมันเพิ่มอยู่นั้น เป็นเพราะทางซาอุคาดว่าธุรกิจน้ำมันโดนกระทบหนักที่สุดธุรกิจนึงจากไวรัสโควิด ทำให้มูลค่าตลาดนั้นถือว่ายังต่ำกว่าราคาในอนาคตที่ทางซาอุมองไว้
ทั้งนี้ทางซาอุยังได้เลือกเข้าซื้อหุ้นบริษัทน้ำมันยุโรปใหญ่ๆอย่าง Total, Shell, Equinor ไปมูลค่ากว่า พันล้านเหรียญ (3 หมื่นล้านบาท) เช่นเดียวกันไปในช่วงที่ราคาน้ำมันกำลังตกต่ำสุดๆในช่วงเกิดสงครามราคาน้ำมันท่านกลางไวรัสโควิดระบาด ทำให้ #หลายฝ่ายตั้งข้อสงสัยว่า ทางซาอุมีความตั้งใจที่จะเริ่มสงครามราคาเพื่อช้อนหุ้นน้ำมันหรือไม่...
ท่านใดสนใจรายละเอียดในเรื่องนี้ก็สามารถอ่านบทความก่อนของเราที่แนบไว้ในคอมเม้นท์ได้นะครับ
ซื้อหุ้นบริษัท Boing ไปกว่า 713.7 ล้านเหรียญ (2.3 หมื่นล้านบาท) โดยบริษัท Boing นั้นก็เป็นบริษัทผลิตเครื่องบิน ที่เราก็ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่สายการบินจะกลับมาสั่งเครื่องบินอีกครั้ง เพราะจะมีการกลับมาบินเต็มอีกครั้งเมื่อไหร่ก็ยังไม่มีใครรุ้แถมทุกสายการบินยังมีเครื่องบินล้นกันอยู่บาน ทาง Boing เพิ่งต้องปลดพนักงานไปมากมายและราคาหุ้นก็กำลังตกต่ำ
ซื้อหุ้น Citigroup ไปกว่า 522 ล้านเหรียญ (1.6 หมื่นล้านบาท)
ซื้อหุ้น Facebook ไปกว่า 522 ล้านเหรียญ (1.6 หมื่นล้านบาท) เช่นเดียวกัน
ซื้อหุ้น Walt Disney ไปกว่า 495.8 ล้านเหรียญ (1.5 หมื่นล้านบาท)
ซื้อหุ้น Bank of America ไปกว่า 487.6 ล้านเหรียญ (1.5 หมื่นล้านบาท)
ซื้อหุ้น Marriott International ไปกว่า 513.9 ล้านเหรียญ (1.6 หมื่นล้านบาท)
และที่น่าสนใจที่สุดคือการที่ซาอุเข้าซื้อหุ้น Berkshire Hathaway Inc. ของ Warren Buffet ด้วยครับ โดยเข้าซื้อไปกว่า 78.4 ล้านเหรียญ (2.5 พันล้านบาท)
เหตุผลที่น่าสนใจก็เพราะว่าทางกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติซาอุกำลังมีมุมมองทางธุรกิจที่ตรงกันข้ามกับ Buffet อย่างสิ้นเชิง แต่กลับกำลังเข้าซื้อหุ้นของ Buffet เอง
1) ช่วงนี้ทาง Buffet กำลังมองว่าเป็นจังหวะขายหุ้นมากกว่าซื้อ โดยเมื่อเช้านี้เราเพิ่งรายงานไปว่า Buffet กำลังขายหุ้นธนาคารทิ้งหมดแต่ทางซาอุกลับกำลังซื้อเพิ่ม (แนบบทความไว้ในคอมเม้นท์)
2) ทาง Buffet ได้ขายหุ้นสายการบินทิ้งหมดแล้ว แต่ทางซาอุกลับกำลังเข้าซื้อหุ้น Boing ครั้งใหญ่ ! ซึ่งแน่นอนว่าผลประกอบการของ Boing นั้นขึ้นอยู่กับว่าธุรกิจสายการบินจะกลับมาโตอีกครั้งได้ไหม ? และเมื่อไหร่ ?
นี่เป็นเวลาที่ควร #ซื้อ หรือ #ขาย หุ้น ?
ตลาดในช่วงนี้นั้นถือว่ามองได้สองด้านจริงๆ เพราะถ้าหากเรามีเงินสดเยอะและต้องการลงทุนในระยะยาว การเข้าซื้อหุ้นที่กำลังวิกฤตอยู่ก็ถือว่าเป็นจังหวะที่ดี แต่ในระยะสั้นนี้นักวิเคราะห์หลายคนกำลังกลัวว่าวิกฤตไวรัสครั้งนี้จะยังไม่จบและอาจจะก่อให้เกิดวิกฤตหนี้สินได้อีกด้วย ทำให้หลายฝ่ายเชื่อว่าราคาหุ้นอาจจะยังลงไปได้ถูกกว่านี้ในระยะสั้น
ถึงแม้จะมีมุมที่มองได้ทั้งระยะยาวและระยะสั้น แต่สิ่งที่ทำให้ผมหวั่นใจก็คือ... Warren Buffet ไม่ใช่นักเก็งกำไรระยะสั้นแน่ๆ... #แต่ทำไมเขาถึงเทขายเนี่ยสิ... เขาอาจจะมั่นใจว่าตลาดจะซืมยาวๆหรือ ??
ที่มา OilTradingKP
กองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติของซาอุดิอาระเบียไล่เข้าซื้อหุ้นบริษัทชื่อดังต่างๆของโลก รวมถึงบริษัทน้ำมันชื่อดัง
กองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติซาอุ Public Investment Fund (PIF) นำโดย มกุฎราชกุมาร โมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน (MBS) เป็น Chairman ได้ถูกจัดตั้งขึ้นมาได้เกือบ 50 ปีแล้ว เพื่อนำสภาพคล่องส่วนเกินของประเทศไปลงทุนในสินทรัพย์ต่างประเทศในธุรกิจที่คาดว่าจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศในอนาคต ซึ่งในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมานี้ได้ใช้เงินกวาดซื้อหุ้นทั่วโลกไปมูลค่ากว่า 3 แสนล้านเหรียญหรือ 10 ล้านล้านบาทแล้ว !
โดยหุ้นหลักๆที่ได้ซื้อไปมีดังนี้
ซื้อหุ้นบริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่อย่าง BP ไปรวมกว่า 827.8 ล้านเหรียญ (2.6 หมื่นล้านบาท) โดยเหตุผลหลักที่ยังซื้อหุ้นบริษัทน้ำมันเพิ่มอยู่นั้น เป็นเพราะทางซาอุคาดว่าธุรกิจน้ำมันโดนกระทบหนักที่สุดธุรกิจนึงจากไวรัสโควิด ทำให้มูลค่าตลาดนั้นถือว่ายังต่ำกว่าราคาในอนาคตที่ทางซาอุมองไว้
ทั้งนี้ทางซาอุยังได้เลือกเข้าซื้อหุ้นบริษัทน้ำมันยุโรปใหญ่ๆอย่าง Total, Shell, Equinor ไปมูลค่ากว่า พันล้านเหรียญ (3 หมื่นล้านบาท) เช่นเดียวกันไปในช่วงที่ราคาน้ำมันกำลังตกต่ำสุดๆในช่วงเกิดสงครามราคาน้ำมันท่านกลางไวรัสโควิดระบาด ทำให้ #หลายฝ่ายตั้งข้อสงสัยว่า ทางซาอุมีความตั้งใจที่จะเริ่มสงครามราคาเพื่อช้อนหุ้นน้ำมันหรือไม่...
ท่านใดสนใจรายละเอียดในเรื่องนี้ก็สามารถอ่านบทความก่อนของเราที่แนบไว้ในคอมเม้นท์ได้นะครับ
ซื้อหุ้นบริษัท Boing ไปกว่า 713.7 ล้านเหรียญ (2.3 หมื่นล้านบาท) โดยบริษัท Boing นั้นก็เป็นบริษัทผลิตเครื่องบิน ที่เราก็ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่สายการบินจะกลับมาสั่งเครื่องบินอีกครั้ง เพราะจะมีการกลับมาบินเต็มอีกครั้งเมื่อไหร่ก็ยังไม่มีใครรุ้แถมทุกสายการบินยังมีเครื่องบินล้นกันอยู่บาน ทาง Boing เพิ่งต้องปลดพนักงานไปมากมายและราคาหุ้นก็กำลังตกต่ำ
ซื้อหุ้น Citigroup ไปกว่า 522 ล้านเหรียญ (1.6 หมื่นล้านบาท)
ซื้อหุ้น Facebook ไปกว่า 522 ล้านเหรียญ (1.6 หมื่นล้านบาท) เช่นเดียวกัน
ซื้อหุ้น Walt Disney ไปกว่า 495.8 ล้านเหรียญ (1.5 หมื่นล้านบาท)
ซื้อหุ้น Bank of America ไปกว่า 487.6 ล้านเหรียญ (1.5 หมื่นล้านบาท)
ซื้อหุ้น Marriott International ไปกว่า 513.9 ล้านเหรียญ (1.6 หมื่นล้านบาท)
และที่น่าสนใจที่สุดคือการที่ซาอุเข้าซื้อหุ้น Berkshire Hathaway Inc. ของ Warren Buffet ด้วยครับ โดยเข้าซื้อไปกว่า 78.4 ล้านเหรียญ (2.5 พันล้านบาท)
เหตุผลที่น่าสนใจก็เพราะว่าทางกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติซาอุกำลังมีมุมมองทางธุรกิจที่ตรงกันข้ามกับ Buffet อย่างสิ้นเชิง แต่กลับกำลังเข้าซื้อหุ้นของ Buffet เอง
1) ช่วงนี้ทาง Buffet กำลังมองว่าเป็นจังหวะขายหุ้นมากกว่าซื้อ โดยเมื่อเช้านี้เราเพิ่งรายงานไปว่า Buffet กำลังขายหุ้นธนาคารทิ้งหมดแต่ทางซาอุกลับกำลังซื้อเพิ่ม (แนบบทความไว้ในคอมเม้นท์)
2) ทาง Buffet ได้ขายหุ้นสายการบินทิ้งหมดแล้ว แต่ทางซาอุกลับกำลังเข้าซื้อหุ้น Boing ครั้งใหญ่ ! ซึ่งแน่นอนว่าผลประกอบการของ Boing นั้นขึ้นอยู่กับว่าธุรกิจสายการบินจะกลับมาโตอีกครั้งได้ไหม ? และเมื่อไหร่ ?
นี่เป็นเวลาที่ควร #ซื้อ หรือ #ขาย หุ้น ?
ตลาดในช่วงนี้นั้นถือว่ามองได้สองด้านจริงๆ เพราะถ้าหากเรามีเงินสดเยอะและต้องการลงทุนในระยะยาว การเข้าซื้อหุ้นที่กำลังวิกฤตอยู่ก็ถือว่าเป็นจังหวะที่ดี แต่ในระยะสั้นนี้นักวิเคราะห์หลายคนกำลังกลัวว่าวิกฤตไวรัสครั้งนี้จะยังไม่จบและอาจจะก่อให้เกิดวิกฤตหนี้สินได้อีกด้วย ทำให้หลายฝ่ายเชื่อว่าราคาหุ้นอาจจะยังลงไปได้ถูกกว่านี้ในระยะสั้น
ถึงแม้จะมีมุมที่มองได้ทั้งระยะยาวและระยะสั้น แต่สิ่งที่ทำให้ผมหวั่นใจก็คือ... Warren Buffet ไม่ใช่นักเก็งกำไรระยะสั้นแน่ๆ... #แต่ทำไมเขาถึงเทขายเนี่ยสิ... เขาอาจจะมั่นใจว่าตลาดจะซืมยาวๆหรือ ??
ที่มา OilTradingKP