▼ กำลังโหลดข้อมูล... ▼
แสดงความคิดเห็น
คุณสามารถแสดงความคิดเห็นกับกระทู้นี้ได้ด้วยการเข้าสู่ระบบ
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
เที่ยวต่างประเทศ
บันทึกนักเดินทาง
สถานที่ท่องเที่ยวต่างประเทศ
นักท่องเที่ยว
เที่ยวทะเล
พาเที่ยวย้อนหลังประเทศ Mauritius เกาะที่มีหาดทรายสีขาว ทะเลสีสวย
ประเทศ Mauritius เรา 4 ชีวิต 2 คู่ (สามี-ภรรยา) ซึ่งเป็นเพื่อนเที่ยวกันอย่างเหนียวแน่นในวัย 50 กว่า ได้ไปกันมาเมื่อ March 2017 ค่ะ ระยะเวลา 7 คืน 8 วัน 4 คนเราแทบไม่รู้จักประเทศนี้และไม่อยู่ในหัวสมองเลยด้วยซ้ำ สาเหตุเกิดจากการเสริชหาดูว่าในเดือนมีนาคมนั้น มี package ใด ๆ ที่ราคาไม่แพงเกินไป เรา 2 คนตั้งใจอยากไปประเทศ Maldives มากเพราะจะไปฉลองสามีอายุ 50 ปีพอดีด้วย เลยลองเสริชดู Maldives 4 คืน 5 วัน ราคาตกประมาณ $5600 ออส (ตอนนั้น $1 = 24 บาท) ราคารวมอาหาร 2 มื้อและ Sea plan แต่ไม่รวมค่าตั๋วเครื่องบินจากเมืองไทยที่จะต้องบินไปให้ถึง สนนราคาที่นั่นแพงหูดับตับไหม้ (ซึ่งเราก็พอรู้และทำใจอยู่แล้วว่ามันแพงมาก) ด้วยนิสัยของสามีถ้าให้ไปพักผ่อนแบบทัวร์ชะโงก 2-3 วันเพื่อประหยัดทรัพย์คุณสามีก็ไม่เอา เลยต้องลองหาดูประเทศอื่นก็มาเจอะราคาของประเทศ Mauritius ซึ่ง ณ ช่วงประมาณปีนั้นทางประเทศ Mauritius เริ่มเข้ามาโปรโมทการท่องเที่ยวที่ประเทศไทย จึงได้ตั๋วในราคาที่ไม่ไปไม่ได้แล้ว ราคาเพียง $2138 ออส 7 คืน 8 วัน ราคานี้รวมบินไป-กลับ Bkk - Port Louis ด้วยเครื่อง Dreamliner 787 ซึ่งตอนนั้นเครื่องรุ่นนี้ฮือฮาเพราะยังใหม่สำหรับหลาย ๆ ประเทศ รวมอาหารเช้า-เย็น โรงแรม 5 star พักที่โรงแรม The Residence แถบ Belle Mare ฝั่งตะวันออกของประเทศ ราคานี้คิดว่าฟลุ๊คมากค่ะ ตอนนั้นบุ๊คกับ Expedia.com
เราทำการบ้านโดยทันทีเพราะเท่าที่ทราบมาอยู่ในมหาสมุทรอินเดีย ต้องบินข้ามประเทศ Madacasca และประเทศ Reunion Island เห็นแค่ภาพหาดทรายและทะเลก็รีบจองทันที ประเทศนี้เป็นเกาะที่มีอะไรให้ทำให้ดูมากมายสามารถเช่ารถขับเที่ยวได้ไม่ต้องนั่ง-นอนกันอยู่แต่ในโรงแรม พอบุ๊คแล้วเพื่อนที่ทำงานก็บอกว่ามีเจ้าหน้าที่ที่ทำงานหน่วยงานเดียวกันแต่อยู่กันคนละเมืองเธอมาจากประเทศนี้ ลองโทรไปขอคำแนะนำดูว่าโรงแรมในแพ๊กเกจอยู่แถบไหนของเกาะ อากาศแถบนั้นจะเป็นอย่างไรในช่วงเดือนนั้นและทิศทางลมมาทางด้านไหน ซึ่งเราไปถึงวันที่ 16 มีนาจะเป็นช่วงปลายฝน จะมีฝนตกบ้างเป็นบางวันในแถบที่เราพักแต่เราก็ขับรถออกไปอีกแถบหนึ่งแทนค่ะ (โชคเข้าข้างแทบจะไม่เจอะเลย หรือเจอะก็น้อยมาก)
เราจะไม่เล่าเรื่องของประเทศนี้นะคะ เดี๋ยวนี้หาอ่านได้ในเน็ตแต่ที่รู้ ๆ ประเทศนี้ถูกปกครองด้วยทั้งฝรั่งเศสและอังกฤษ ฉะนั้นป้ายชื่อสถานที่ต่าง ๆ จะเป็นฝรั่งเศสแต่คนปัจจุบันพูดภาษาอังกฤษเป็นภาษาราชการแต่ก็ยังพูดภาษา Creole และ French ค่ะ
จุดสีแดง 1 จุดเป็นสนามบินและเช่ารถขับกันไปยังโรงแรมที่ Belle Mare จุดสีแดง 2 จุด
เริ่มการเดินทางที่สุวรรณภูมิ หวังสูงว่าทุกอย่างต้องไปได้สวยเครื่องบินออกประมาณ 10.50 ตอนเช้า พวกเราไปถึงสนามบินเกือบ 6 โมงเช้า คิดว่ามีเวลามากมายคงจะไม่มีคนบินแถบนี้กันเยอะ ด้วยการบริการล่าช้าตรง Check in โดยไม่ทราบสาเหตุพวกเรายืนกันตั้งแต่เริ่มเปิดให้ check in ก็ไม่มีทีท่าว่าจะเสร็จง่ายดาย เครื่องก็ใกล้เวลาออกแต่ก็ยังมีผู้โดยสารต่อคิวยาว เป็นอันว่าเครื่องดีเลย์ไป 1 ชม.ค่ะ
ระยะบินจากกรุงเทพ 7.35 ชั่วโมง ต้องไปถึงเวลาท้องถิ่นประเทศ Reunion Island เพื่อเปลี่ยนเครื่อง ตามกำหนดจะแลนด์ดิ่งที่บ่าย 3.25 โมง เครื่องพาเรามาถึงที่นั่นแบบจวนแจประมาณเกือบ 4 โมงเย็น ตามกำหนดต้องต่อเครื่องไปยังประเทศ Maritius บินออกตอนบ่าย 4.15 โมง แต่เพราะที่สนามบินประเทศ Reunion International Transit ตอนนั้นเป็นเพียงช่องทางแคบ ๆ มีการปรับปรุงในสนามบินเป็นบางช่วงแถมห้องสแกนเช็ค Passport เล็กมากมีเครื่องสแกนกระเป๋าผู้โดยสารเพียงเครื่องเดียว ผู้โดยสารมากโขรอคิวอยู่แถมพนักงานมีเพียง 2 คนพูดภาษาอังกฤษไม่ได้เลยค่ะ (ประเทศนี้พูดภาษาฝรั่งเศสเป็นภาษาราชการ) เธอประกาศอะไรก็ไม่รู้พวกเราก็งงกันเป็นไก่ตาแตก คอยฟังผู้โดยสารคนอื่นที่พอจะพูดได้ 2 ภาษาแปลได้บ้างกว่าจะหลุดออกมาได้ เครื่องที่จะพาเราไปประเทศ Mauritius ก็ต้องรอพวกเราอีก โดยหมายกำหนดการณ์แล้วระยะเวลาบินเพียง 45 นาทีต้องไปถึงบ่าย 5 โมงตรง แต่พวกเราไปถึงเวลา 5 โมง 45 นาที ส่วนกระเป๋าสัมภาระขนมาไม่ทันเครื่องที่เรานั่งเพราะจะมีเครื่องบินที่จะต้องมาแลนด์ดิ่งอย่างกระชั้นชิด กระเป๋าของพวกเราขนขึ้นเครื่องมากับเราไม่ทันเลยบินตามมาทีหลังถึงประมาณ 6 โมงครึ่งค่ะ โชคดีที่ระยะบินเพียง 45 นาที (ตอนเครื่องเราแลนด์ดิ่งที่ประเทศมอริเชียส พวกผู้โดยสารตบมือกันกราวใหญ่ ไม่ทราบว่าเพราะดีใจว่าถึงเสียทีด้วยจากเหตุการณ์ล่าช้าดีเลย์แถมติดขัดกันที่ประเทศ Reunion Island หรือเป็นนิสัยของพวกเค้าก็ไม่ทราบ เรา 4 คนก็ตบมือตามและก็หัวเราะกันตามพวกเขาไปค่ะ)
หลังจากเสร็จภาระกิจ Visa on Arrival แล้วพวกเรามารับรถเช่า เราเช่าขณะอยู่ที่นั่นในราคาที่ไม่แพงเลยค่าเช่า 7-8 วันประมาณ $350 ออส เรารับรถที่สนามบินและต้องแวะเติมน้ำมันเองเพราะที่นั่นไม่มีการเติมน้ำมันเต็มถังรอลูกค้าคนต่อไปนะคะ แถมต้องซื้อซิมมือถือที่ปั้มน้ำมันด้วย เมื่อปี 2017 ยังเป็นแค่ 3G สามีพยายามหา Google map เพื่อจะขับไปยังโรงแรมใช้เวลาพอสมควรกว่าจะหาสัญญานได้ ตอนบุ๊ครถคิดว่าตะวันยังไม่ตกดินคงพอจะขับกันได้สะดวก แต่พออะไร ๆ ดีเลย์ไปหมดเลยทำให้ต้องขับแบบคลำทางและคลานกันไปยังโรงแรม ระยะทางเพียง 50 กม. น่าจะใช้เวลา 1 ชั่วโมง แต่กว่าจะไปถึงก็เกือบ 3 ทุ่มค่ะ
ไปถึงโรงแรมก็ได้รับการต้อนรับขับสู้อย่างดีสไตล์ 5 ดาวทั่วไป โรงแรมใหญ่มากเดินลงมาก็เป็นทะเล ทรายขาวละเอียดยิบ น้ำทะเลสีสวยมากค่ะ พักหายเหนื่อยกัน 1 วันโดยไม่ได้ไปไหนในวันแรก ทางโรงแรมมีบริการเรือท้องกระจกออกไปดูปลาและ Paddle boats ให้เล่นฟรีค่ะ รูปอาจจะไม่ค่อยสวยเท่าตาเห็นเพราะตอนนั้นถ่ายด้วย Samsung Note 5 กล้องเดียวค่ะ