The story of us เรื่องรักระหว่างเรา เป็นโปรเจคอดีตกาลระหว่างกชมน และ สิบทิศ โปรเจคที่ฝ่ายหลังให้คำมั่นเมื่อครั้งยังคบหาว่า จะไม่ทำกับใครนอกจากทำกับเธอ สัมพันธ์วัยหวานจบลงด้วยความแตกร้าวไม่มีชิ้นดี เรื่อง "รัก" ระหว่างเรา ไปแล้วไปลับอย่างถาวร แต่โปรเจคละครกลับย้อนซ้อนทับกับปัจจุบัน ด้วยความจำเป็นอย่างยิ่งยวดทั้งปากท้องพนักงานในบริษัท ค่าใช้จ่ายเรื่องลูก ผลประโยชน์ต่าง ๆ นานา สิบทิศถึงขั้นยอมคุกเข่าให้แฟนเก่าอย่างกชมนมาเป็นผู้กำกับ ส่วนกชมน .... การตัดสินใจเมื่อเริ่มแรกผูกพันให้ตกในวังวนอลเวงอย่างไม่รู้ว่าจะไปจบลงตรงที่ใด
โปรเจคเจ้าปัญหาย้อนอดีตกลับมาอีกครั้ง ในวันวานที่สิบทิศ และ กชมน เคยร่วมเคียงบ่าเคียงไหล่ ความทรงจำร้าย ๆ ลบเลือนไปบ้าง เมื่อสิบทิศลุกขึ้น defend งานให้กชมนอย่างไม่ต้องร้องขอ ภาษากายของเขา วิธีการของเธอ สายตาที่สบกันก็รู้ว่าควรจะไปทางไหนอย่างไรต่อ เข้าท่าเข้าทางเข้าวรรคเข้าตอนจนกระทั่งเกิดคำถามขึ้นมาในใจ เข้ากันได้ดีขนาดนี้ ..... เกิดอะไรขึ้นถึงได้เลิกกันด้วยไม่ดีขนาดนั้น พี่สิบทิศเขาแสบ นี่คือคำให้การจากโตเกียว รุ่นน้องร่วมคณะ ตอนนั้นเขาเป็นคู่จิ้นกัน ดังกันทั้งคู่ พี่สิบทิศก็ตัวท็อป ดัง ๆ ปัง ๆ ส่วนพี่เกี้ยวน่ะหรือ เรียกว่าจัดจ้านในย่านนี้ สวย เก่ง หาตัวจับยาก ต่างคนก็ต่างมีดีมีเด่นสมกัน แต่เมื่อคบหากันเข้าจริง ๆ กลับเกิดปัญหา ปัญหาที่นำมาสู่การบอกเลิกอันเป็นเหตุการณ์ในตำนานของคณะ เหตุการณ์ที่ทิ้งแผลใหญ่เอาไว้ในใจกชมน และ มากน้อยก็เปลี่ยนแปลงสิบทิศไปด้วยเช่นกัน
สารกระตุ้นความห่วยแตก
เธอต้องอยู่คนเดียวไปตลอดชีวิต
หนึ่งวลีหนึ่งประโยคจำฝังใจ
แผลใหญ่คิดว่าไม่ใช่การอยากได้สิบทิศกลับคืนมาอะไรแบบนั้นนะ แต่เป็นแผลใหญ่ที่รู้สึกว่า "การเป็นเกี้ยว กชมน" คือสิ่งที่ผิดพลาด ตัวตนของ เกี้ยว กชมน คือ สิ่งที่ผิดพลาด เพราะ เธอเป็นแบบนี้ ถึงไม่มีใคร ถึงต้องอยู่คนเดียว ไม่อยากยอมรับความจริง แต่เหตุผลที่สิบทิศเทมันก็คือเรื่องนี้แหละ ความ perfectionist เจ้าอารมณ์ วีนเหวี่ยง เอาแต่ใจ ไม่สนความรู้สึกคนอื่น สำหรับเกี้ยวสิ่งที่เกี้ยวทำมันคือ fact แต่สำหรับคนอื่นมันคือการ attack เออ ไง ใครจะไปทน และ สิ่งนี้มันคงติดอยู่ในใจของสิบทิศอยู่บ้าง (ไม่ใช่เชิงชู้สาวนะ) แต่เป็นเชิงที่มักจะยกเรื่องนี้ขึ้นมาข่มเกี้ยว แล้วก็ทำให้เกี้ยวชะงักได้อย่างถนัดถนี่ ข้อนี้มันทำให้คิดทบทวนไปตั้งแต่ช่วงต้นเรื่อง
สิบทิศตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัย ก็เป็นคนที่ขอแนะนำจากเกี้ยวเสมอมา สิบทิศแบบนี้มันไม่ใช่ แล้วยังไงถึงใช่ล่ะเธอสอนเราได้ไหม เราไม่เก่งเรื่องนี้ แต่เธอก็ต้องทำไหม เป็นยังไงบ้าง ก็ได้เกรด A+ น่ะสิ บทสนทนาระหว่างสิบทิศและกชมนเป็นแบบนี้ แม้กระทั่งยามนี้มันก็ยังไม่เปลี่ยนแปลงไปสิบทิศมาคุกเข่าวอนขอให้เกี้ยวช่วยทำงานด้วย แต่พี่ทิศก็เก่งนะ นนท์ว่า แต่ก็ยังขอให้พี่เกี้ยวมาช่วย อันนี้อาเธอร์ว่า สิบทิศเป็นคนมีฝีมือนั่นแหละ แต่คงเฉียบคมไม่เท่าเกี้ยว ถึงจะกล้าเถียง ถึงจะกล้า discuss อย่างไร แต่สุดท้ายเอาเกี้ยวไม่ลง มันอาจจะเป็นเรื่องที่สะสมจนกระทั่งเกิดอินเนอร์บางอย่าง สิบทิศอาจตั้งใจพูดให้เจ็บ แต่คงไม่ได้ตั้งใจทำลายอีโก้ของกชมนขนาดนั้น เพียงแต่ว่าในภาวะของการเป็นผู้ชาย (ส่วนใหญ่) ก็คงประสงค์จะเป็นคนคุมเกมบ้าง แต่เมื่อคุมไม่อยู่ (บวกด้วยความแสบสันตอนยังวัยรุ่น) มันก็เลยออกมาเป็นว่า เธอคิดว่าตัวเองเลิศลอยมาจากไหน ที่จริงก็ไม่เท่าไหร่ป่ะ เธอโสดแล้ว โสดเพราะฉันทิ้งเธอว่ะ ถ้าเธอบอกว่าเราห่วย ตัวเธอนั่นแหละที่กระตุ้นไอ้ความห่วยนั้นออกมา รู้ไว้ซะด้วย
โปรเจคละครมันเลยซ้อนกับบทสนทนาในคราวนี้ มันก็ต้องปรับตัวดิ บ้า ... ไม่สบายใจแล้วจะเลือกทำไม สิบทิศว่า ก็ต้องรับตัวตนกันให้ได้สิ มันถึงจะเรียกว่ารักจริง กชมนว่า ธรรมดามันก็ต้องเป็นแบบนั้นรึเปล่า สิบทิศเถียง ก็เพราะธรรมดามันถึงได้ครึ่ง ๆ กลาง ๆ อยู่แบบนี้ไง บทจะเข้ากันดีก็เป็นปี่เป็นขลุ่ย บทจะทะเลาะกันก็แผ่นดินแทบแยก บทละครมันดันไปซ้อนกับของจริงนี่สิ กลไกในใจเกี้ยวทำงานอีกครั้ง นานขนาดนี้แล้ว คำพูดของสิบทิศก็ยังกระทบความรู้สึกของกชมนอยู่ดี ความรู้สึกว่าผิดที่เป็นตัวเอง เฮ้ย แต่ใช่เหรอ การที่ใครซักคนจะเป็นแบบไหนมันเป็นเรื่องผิดหรือไม่ ต้องเป็นคนธรรมดาเหรอถึงจะถูกเลือกอ่ะ ด้วยเหตุนี้กชมนจึงทำแบบเดิม เหมือนที่เคยทำ เชิดหน้าขึ้นอีกครั้ง คนเก่งที่ไหนเขาอ่อนแอกัน ไม่ไหวบอกไหว ถึงแคร์ก็ต้องบอกไม่แคร์ กล้ำกลืนมันลงไป แล้วพิสูจน์ว่าสิ่งที่สิบทิศคิดนั้นผิด เธอต่างหากที่เป็นคนผิด ฉันไม่ใช่ และ นี่คือที่มาของสงครามกะเพรากั้ง ยำไก่ทอด และ ไข่พะโล้ เออ ฉันก็จัดจ้านของฉันแบบนี้ละกัน แล้วมาดูว่าใครผิดใครถูก
ด้านสิบทิศเอง ... แต่ก่อนสิบทิศก็ไม่ธรรมดา จัดจ้านในย่านนี้พอ ๆ กับเกี้ยว คิดเหมือนกันว่าตอนที่เลิกกับเกี้ยว ในใจของสิบทิศมีอะไรเปลี่ยนไป แต่คงไม่ได้แบบ โห กระทบใหญ่หลวง impact รุนแรง สิบทิศ move on ไปไกลมากแล้ว แต่สิ่งที่เกิดหลังจากเลิกกันอาจเป็นหลักคิดที่ว่าจะไม่ปวดหัวกับคนจัดจ้านอีกแล้ว เหมือนไอเดียเขียนบทที่บอกว่า (คนรัก) คนใหม่ของพระเอกมันก็คือต้องเปลี่ยนไทป์ ว่านอนสอนง่าย หัวอ่อน แต่พอได้ยินการโต้กลับของเกี้ยว มันจะมีอะไรอย่างหนึ่งผุดขึ้นมาในใจว่าอันที่จริงแล้ว ถ้าสมมติว่าเราพยายามไปจนสุดทางกับ "คนไม่ธรรมดา" ในตอนนั้นผลมันจะเปลี่ยนแปลงไปยังไงรึเปล่า เราอาจก้าวข้ามผ่านไปจนสุดศักยภาพของตัวเองแบบนี้หรือไม่ ทั้งเรื่องงาน และ เรื่องส่วนตัว จริง ๆ เราเทเขาเพราะเราเอาไม่อยู่ หรือ เขาเป็นแบบที่เราพูดจริง ๆ (ตรงนี้มันก็ย้อนกลับไปตอนที่สิบทิศพูดกับพ่อตัวเองว่าไม่คิดว่าเกี้ยวจะแต่งงานมีสามีทำนองนี้) แต่มันก็เป็นแค่ตะกอนความคิดแค่นั้น เพราะ สิบทิศในตอนนี้คือข้ามผ่านอดีตไปโฟกัสกับความอยู่รอดปัจจุบันโดยแท้จริง
เรื่องระหว่างเราจบไปแล้ว
แต่บทละครที่ซ้อนชีวิตจริงมันเพิ่งเริ่มต้นเท่านั้น
อุ้มรักเกมลวง (กึ่งวิเคราะห์) : สิบทิศ กชมน - The story of us เมื่อละครซ้อนชีวิต -
โปรเจคเจ้าปัญหาย้อนอดีตกลับมาอีกครั้ง ในวันวานที่สิบทิศ และ กชมน เคยร่วมเคียงบ่าเคียงไหล่ ความทรงจำร้าย ๆ ลบเลือนไปบ้าง เมื่อสิบทิศลุกขึ้น defend งานให้กชมนอย่างไม่ต้องร้องขอ ภาษากายของเขา วิธีการของเธอ สายตาที่สบกันก็รู้ว่าควรจะไปทางไหนอย่างไรต่อ เข้าท่าเข้าทางเข้าวรรคเข้าตอนจนกระทั่งเกิดคำถามขึ้นมาในใจ เข้ากันได้ดีขนาดนี้ ..... เกิดอะไรขึ้นถึงได้เลิกกันด้วยไม่ดีขนาดนั้น พี่สิบทิศเขาแสบ นี่คือคำให้การจากโตเกียว รุ่นน้องร่วมคณะ ตอนนั้นเขาเป็นคู่จิ้นกัน ดังกันทั้งคู่ พี่สิบทิศก็ตัวท็อป ดัง ๆ ปัง ๆ ส่วนพี่เกี้ยวน่ะหรือ เรียกว่าจัดจ้านในย่านนี้ สวย เก่ง หาตัวจับยาก ต่างคนก็ต่างมีดีมีเด่นสมกัน แต่เมื่อคบหากันเข้าจริง ๆ กลับเกิดปัญหา ปัญหาที่นำมาสู่การบอกเลิกอันเป็นเหตุการณ์ในตำนานของคณะ เหตุการณ์ที่ทิ้งแผลใหญ่เอาไว้ในใจกชมน และ มากน้อยก็เปลี่ยนแปลงสิบทิศไปด้วยเช่นกัน