ตู้แบ่งปัน ตู่ปันน้ำใจ จะอยู่ได้นานแค่ไหน

ตู้แบ่งปัน ตู่ปันน้ำใจ จะอยู่ได้นานแค่ไหน

จดหมายฉบับที่ 133/2563       บ้านดิโอเรียนทอล เชียงใหม่
                                   วันอังคารที่   12   พฤษภาคม  พ.ศ. 2563
ถึง   ญาณศรณ์
         ผู้มีความรู้เป็นที่พึ่ง เป็นอย่างไรบ้างกับการให้ในช่วงที่ผ่านมา ที่เชียงใหม่หลายท่านออกมาช่วยเหลือผู้อื่นด้วยการจัดหาสิ่งของเครื่องใช้อาหารน้ำดื่มจัดไว้เป็นชุดทำป้ายประกาศบอกวันเวลาที่จะแจก ตั้งเป็นโรงทานตามวัด นำของออกมาวางบนโต๊ะ วางท้ายรถกระบะจอดข้างถนน วางบนชั้น ใส่ตู้  ตั้งชื่อ ตู้แบ่งปัน ตู้ปันสุข ตู้ปันน้ำใจ ฯลฯ ไว้ตามที่ต่างๆหรือหน้าบ้านเพื่อแจกให้กับผู้คนที่ขาดแคลนขัดสนยากไร้ไม่มีกินหรือมีความต้องการใช้ให้มาหยิบเอาไปเอง อย่างไม่ต้องผิดกฎหมาย แต่ควรจะให้ความรู้แก่ผู้รับอย่างไรดี ญาณศรณ์
      ที่ไหนมีแจกที่นั่นจะมีผู้คนออกมารอรับกันก่อนเวลาเป็นจำนวนมากบางบ้านพากันมาทั้งครอบครัว คนเฒ่าคนแก่คนป่วยลูกเด็กเล็กแดงกระเตงกันมาขอรับหมดจนบางครั้งของที่แจกไม่พอกับจำนวนผู้คนที่มารับของ คนที่ได้ไปก็เป็นสุขทั้งผู้ให้และผู้รับ ส่วนคนที่ไม่ได้ต่างผิดหวังต้องออกไปหาที่มีการแจกใหม่ในที่อื่นที่รู้ว่าจะมีการแจกเป็นประจำต่อไป บ่นก่นด่ากันบ้างตามประสาผู้ผิดหวัง ที่บั่นทอนความรู้สึกของคนให้หรือผู้พบเห็นก็คงจะเป็นผู้ที่มาหยิบเอาของไปเองตามตู้หรือชั้นวางของทั้งที่มีป้ายติดบอกไว้ให้หยิบท่านละ 1 ชุด หยิบไปแต่พอดี บ้างนำถุงขนาดใหญ่มาใส่แบบกวาดเอาไปเองเกือบหมดชั้นหมดตู้ หยิบแล้วหยิบอีกวนเวียนสองสามรอบจนของหมดนำไปใส่ตะกร้าจนเต็มหน้ารถขับผ่านหน้าคนจัดไว้ให้ไปชนิดไม่คิดถึงผู้อื่นที่ไม่ได้บ้าง
      จากปัญหาการห้ามแจกของเองผิดกฎหมาย จะต้องแจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบล่วงหน้า จะได้จัดสถานที่แจกให้ จัดคิวผู้ที่มารับ หรือจัดเจ้าหน้าที่เป็นผู้แจกให้เอง เจ้าของสิ่งของเพียงเอาของมาให้เจ้าหน้าที่แจกได้เท่านั้น เจ้าหน้าที่มากเรื่อง มากความจนผู้ให้กลายเป็นคนผิดชนิดไม่อยากให้อีกต่อไป แนวคิดการเอาของใส่ตู้วางโต๊ะไว้ติดป้ายบอก ปันของ ปันน้ำใจ หยิบไปฟรี ใครต้องการก็มาหยิบเอาไปเองจึงเกิดขึ้นโดยไม่ต้องเอาของไปให้เจ้าหน้าที่อีกต่อไป มีการชื่นชมยกย่องบอกต่อกลายเป็นไวรอลไปภายในไม่กี่เวลา ข่าวต่างชาติพากันนำเสนอเรื่องราวเหล่านี้ของผู้ใจบุญและนิสัยคนไทยที่ชอบช่วยเหลือผู้อื่นช่วยเหลือซึ่งกันและกันด้วยน้ำใจเมื่อพบเห็นผู้ยากไรขัดสนกว่าตนต่างก็มีจิตกุศลที่จะแบ่งปันกันและกัน
      แต่จิตสำนึกของผู้รับ ความรู้จักคำว่าพอดี นั้นมีไหม การบ่อนทำลายศรัทธาของผู้ให้แบบให้ครั้งเดียวเห็นแล้วเข็ดจึงเกิดขึ้น ทำอย่างไรดี วาน ญาณศรณ์ ออกมาให้ความรู้ปลุกจิตสำนึกของผู้รับกันหน่อย ไม่อย่างนั้นสิ่งดีงามอย่างนี้จะหายไปจากสังคมไทยในไม่ช้า
      เชียงใหม่ยังคงร้อนอบอ้าว เมนูอาหารอยู่กินง่ายบ้านเราเช้านี้ กะเพราถั่ว ผัดกะหล่ำ ปลากะตั๊กทอด ต้มกะหล่ำ ขอให้ท่านผู้ให้มีจิตใจที่เป็นสุข ญาณศรณ์และผองเพื่อน พ้นจากทุกข์ภัยห่างไกลโรคร้ายทุกท่านด้วยเทอญ 
                                ด้วยรักและห่วงใย
                                   Noohom Ja

อย่าทำให้ผู้ให้เบื่อหน่าย ไม่นานจะไม่มีใครออกมาให้เราอีก รับไปแต่พอดี อย่าริเก็บไปครั้งเดียวพอ เราจะแก้ไขปัญหาสังคม ผู้เห็นแก่ตัวนี้กันอย่างไรดี
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่