JJNY : ธนาธรลั่นไม่แฟร์กับปชช./ยุคแม้วกำไรดี สุชาติชี้บินไทยขาดทุนเละปี 60-63/ปชช.ประสานเสียงยกเลิกพรก./ป่วยเพิ่ม6

ธนาธร ลั่น ไม่แฟร์กับปชช. รัฐบาลอุ้มแบบไร้เงื่อนไข พร้อมโชว์โมเดลทางออกที่ดีกว่า
https://www.matichon.co.th/politics/news_2179601
 

 
ธนาธร ลั่น ไม่แฟร์กับปชช. รบ.อุ้มการบินไทยแบบไร้เงื่อนไข พร้อมโชว์โมเดลทางออกที่ดีกว่า
 
เมื่อวันที่ 10 พ.ค. นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ แกนนำกลุ่มก้าวหน้า ไลฟ์สด แสดงความเห็นเรื่อง ปัญหาการบินไทย และแนวทางการแก้ไขของรัฐ  ระบุ กรณีข่าวการเอาเงินห้าหมื่นกล่าล้านไปอุ้มการบินไทย นั้นในความเป็นจริง ห้าหมื่นล้านเป็นการกู้จ่ายเงินเดือนรักษาสภาพคล่อง โดยมีรัฐบาลค้ำประกัน อนาคตหากการบินไทยล้มละลาย เจ้าหนี้ก็จะได้เงินคืนทุกบาทจากรัฐบาล  แต่ตามที่มีข่าว จะมีการเพิ่มทุนอีกก้อนคือกว่า 80,000 ล้านบาท เป็นการจ่ายเพื่อปรับปรุงงบการเงินให้แข็งแรง เดินต่อได้ระยะยาว ทั้งสองก้อน เป็นเงิน รวมกว่า 1.3 แสนล้านบาท ไม่ใช่แค่ 50,000 ล้านบาท จึงเป็นหน้าที่คนไทยต้องตั้งคำถาม เงิน 1.3 แสนล้าน เอาไปใช้ประชาชนได้ประโยชน์หรือไม่ ตนไม่เห็นด้วยกับการที่รัฐบาลไปอุ้ม ด้วยวิธีรัฐบาล เพราะหากการบินไทยเจ๊ง ประชาชนแพ้ หากการบินไทยไปได้ ผู้ถือหุ้นได้ประโยชน์ ประชาชนไม่ได้อะไรเลย ส่วนตัวจึงเห็นว่า มีวิธีจัดการปัญหาการบินไทยได้ดีกว่านี้
 
นายธนาธร ระบุต่อว่า ทั้งนี้แผนจะลดต้นทุนตามแผนธุรกิจของการบินไทยที่ถูกเผยแพร่ออกมา คาดหวังกำไรปีละกว่าหมื่นล้าน ส่วนตัวไม่เชื่อว่าจะเป็นไปได้จริง เป็นการทำขึ้นมาเพื่อไปขอเงินกระทรวงการคลัง ปี 2019 ที่ผ่านมายังขาดทุนกว่าหมื่นล้าน การลดต้นทุนในสองปีตามแผน และกลับมามีกำไรในปีหน้า 4,000 ล้านเป็นไปได้ยาก ทั้งนี้สายการบินอย่างสิงคโปรแอร์ไลน์ จ่ายเงินเดือนและสวัสดิการให้พนง. 1 คน ได้รับ 183,000 บาทต่อเดือน การบินไทยได้ 121,572 บาท ต่อเดือน เจแปนแอร์ไลน์ 55,727 ต่อเดือน สายการบินเกาหลี 34,545 บาทต่อเดือน สายการบินไทยได้รับสูงกว่าสายการบินอื่นในภูมิภาคเอเชีย และเมื่อเอายอดขายมาหารจำนวนพนักงาน เพื่อดูการสร้างรายได้ต่อปีของพนักงานหนึ่งคน พบว่าประสิทธิภาพการทำงานต่อพนักงาน 1 คนกลับต่ำกว่าค่าเฉลี่ยสายการบินอื่น นั่นแปลว่า ต้นทุนค่าเฉลี่ยสายการบินไทยสูงกว่า แต่ประสิทธิภาพต่อหัวพนักงานได้ต่ำกว่า แสดงให้เห็นความล้มเหลวผู้บริหาร และการบริหารองค์กร นี่จึงหนีไม่พ้นการปฎิรูปครั้งใหญ่ หากเห็นว่าจำเป็นต้องมีสายการบินแห่งชาติต่อไป
 
นายธนาธร ระบุต่อว่า  โดยการแก้ปัญหาการบินไทยมีหลายระดับ ส่วนตัวไม่เห็นด้วยการถือหุ้น 100% ระยะยาวของรัฐ หรือการถือหุ้นแบบเดิม เกิน 51%  ปัญหาตอนนี้คือไม่มีการพูดถึงการร่วมรับผิดชอบของผู้ถือหุ้น ไม่มีการพูดเรื่องการปลดบอร์ด การเปลี่ยนแปลง ในนโยบายรัฐบาลปัจจุบัน ตอนนี้เป็นการผลักภาระทุกอย่างมาที่ภาษีประชาชน  ซึ่งในปีนี้ จากสถานะทางการเงินของการบินไทย ไม่ว่าจะมีหรือไม่มีโควิด ก็ล้มละลายเหมือนเดิม แต่ผู้บริหารกลับไม่รู้สึกรู้สาในอนาคตของตัวเองเลย มีความพยายามซื้อฝูงบินใหม่ 38 ลำในช่วงมีนาคมปีที่แล้ว ถ้าเราอนุมัติซื้อตอนนั้น ตอนนี้ยังไม่รู้เลยจะเป็นอย่างไร
 
ยืนยันว่า ประเทศไม่จำเป็นต้องถือหุ้นเกิน 51% ประเทศไทยในภาวะแบบนี้ การบินไทยก็จะกลับไปสู้หรอบเดิม ควรจะต้องเปิดเสรีน่านฟ้า รัฐบาลถือหุ้น 0% ปล่อยกลไกตลาดทำงาน หรืออีกทางเลือกคือเปิดเสรีน่านฟ้า และถือหุ้นน้อยกว่า 25 % ปัญหาตอนนี้ ที่รัฐบาลทำอยู่ คือหากเจ๊งประชาชนรับ หากกำไร ผู้ถือหุ้นเอาไป มันไม่ยุติธรรมกับประชาชน มันไม่มีการปรับโครงสร้างหนี้การเงินที่ไหนเป็นแบบนี้ ไม่มีการช่วยเหลือใดที่ประชาชนผู้เสียภาษีต้องแบกรับความรับผิดชอบขนาดนี้ ยืนยันว่ามีทางเลือกที่ดีกว่าปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นการปล่อยล้มละลายไปเลย ปล่อยกู้เพื่อล้มละลายอย่างมีการจัดการ เพื่อให้เอกชนเข้ามาถือหุ้น เปิดเสรีน่านฟ้าให้มีการแข่งขันด้านราคา ประชาชนได้ประโยชน์ หรือการดึงการบินไทยกลับมาเป็นของรัฐ เพื่อแปรรูป แล้วลดการถือหุ้นของรัฐ หรือ ถือหุ้นเป็นร้อยเปอร์เซ็นก็ได้ แต่นี่คือข้อเสนอที่ตนไม่เห็นด้วย แต่ก็ยังเป็นหนทางที่ดีกว่า สิ่งที่รัฐบาลกำลังทำตอนนี้แน่นอน
 
“ยืนยันรัฐบาลมีทางเลือกอื่นที่ทำให้ประชาชนไม่ต้องแบกรับทั้งหมด เงิน 1.3 แสนล้านเป็นเงินที่เยอะมาก เป็นเงิน 3-4 %ของงบประมาณประเทศ เราจะเอาไปอุ้มการบินไทย โดยคนมีส่วนได้เสีย ไม่ต้องรับผิดชอบ ตนจึงไม่เห็นด้วย” นายธนาธรกล่าว
 

 
ยุค 'แม้ว' กำไรดี 'สุชาติ' ชี้ 'บินไทย' ขาดทุน'เละ' ปี 60-63
https://www.matichon.co.th/economy/news_2179830
 
เมื่อวันที่ 11 พ.ค.นายสุชาติ ธาดาธำรงเวช อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ระบุว่า ‘การบินไทย​’ เคยทำกำไรอย่างดี ในสมัยรัฐบาลทักษิณฯ แต่ในช่วงหลังๆ​ นี้ มีการขาดทุนจำนวนมาก​ ต่อเนื่อง​มากว่า​ 3 ปี​ในปี​ 2560-63 จึงเป็นหน้าที่ของผู้ถือหุ้น​ เจ้าหนี้​ และผู้บริหารที่​ ต้องทำแผนฟื้นฟู ต้องปรับสภาพบริษัทให้เป็นจริง​ (Due​ diligence​)​ ปรับโครงสร้างและการบริหารให้แข่งขันในตลาดโลกได้​ ต้องลดการแทรกแซงทางการเมือง​ ลดการหาผลประโยชน์และคอรัปชั่น
 
“ประเด็น ข้างต้น ควรแก้ไขก่อนกู้เงินเพิ่มอีก​ 54,000 ล้านบาท​ โดยให้จะรัฐบาลค้ำประกัน​ แต่การบินไทยมีผู้ถือหุ้นเอกชน​ (มีกองทุนต่างชาติถือด้วย)​ ถึง​ 49% มีคนพูดไว้ว่า​ มีกฎหมายห้ามรัฐบาลค้ำประกันเงินกู้ให้เอกชน​ จึงยังเป็นปัญหาว่า​ ในส่วน​ของทุนเอกชน รรัฐบาลจะค้ำประกันได้หรือไม่”
 
” เราเป็นประเทศยากจน​ คนอดอยากไม่มีจะกิน​ กว่า​ 6.7​ ล้านคน​ เราจะเอาเงินภาษี​ มาอุ้มการบินไทยต่อไปเรื่อยๆ​ ไม่สามารถเป็นไปได้” นายสุชาติกล่าว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่