สวัสดีค่ะ โพสนี้ขอมาระบายนะคะ
ทำงานบริษัทนี้มาได้ 2 ปี 6 เดือน เงินเดือนคือ 15,000 แล้วขึ้นเป็น 16,000 ในตำแหน่งธุรการ ฝ่ายสำนักกรรมการ ขึ้นตรงกับผู้บริหาร กรรมการผู้จัดการ เราได้ทำในส่วน เลขาผู้ช่วยกรรมการ ก่อนหน้านี้ที่ผู้ช่วยกรรมการจะเข้ามา เราทำงานประมูลราชการค่ะ จัดเตรียมเอกสารทุกอย่างไปจดถึงขั้นตอนการประมูลในระบบ ประสานงานทุกอย่างเองหมด ทำคนเดียว ปรึกษาคนอื่นบ้างเป็นบางครั้ง (เราขึ้นตรงกับ MD ดังนั้นปรึกษาได้แค่เรื่องสำคัญๆ แต่หลักๆคือต้องคิดเอง MD ชอบให้ใช้สมองเยอะๆ) แต่คนตัดสินใจให้ประมูลหรือไม่ประมูลคือ MD
ซึ่งงานนี้สำหรับเราคือโคตรกดดัน โคตรเครียด เนื่องจากบริษัทเรางานไม่ค่อยเป็นระบบ กว่าจะตามเอกสารจากฝ่ายประมาณราคาได้ บางครั้งก็ก่อนวันประมูล 1 วัน จะไปโทษฝ่ายประมาณราคาก็ไม่ได้ เพราะเค้าก็งานเยอะมากๆ ด่วนๆ ทั้งนั้น รวมถึงของเราด้วย เอกสารที่ใช้ก็ยุ่งวุ่นวาย ใช้เอกสารเยอะ ตามสไลต์ราชการ ซึ่งทำเองคนเดียว งานมูลค่า 10 ล้าน ไปจนถึง 300 ล้าน
พลาดในเรื่องของเอกสารมาคือเราผิดคนเดียวเต็มๆ (เคยเกิดขึ้นแล้ว 1 ครั้ง งาน 12 ล้าน ขาดเอกสารแผ่นเดียว เราทำแล้ว แต่ลืมใส่เข้าไป)
ยิ่งงานมูลค่าสูงๆ ยิ่งกดดัน ตอนเคาะราคาคือมือไม้สั้นไปหมด ทั้งเครียดทั้งกดดันสุดๆ ไม่รู้จะอธิบายยังไง ต่อมาโดนให้มาช่วยเป็นธุรการผู้จัดการโครงการ จึงมีงานเพิ่มมาแบบงงๆ 😂
ก็ก้มหน้าก้มตาทำไป บางวันก่อนประมูลเตรียมเอกสารไม่เสร็จก็นั่งทำถึง 2-3 ทุ่มคนเดียว ไม่มีโอที จนผู้ช่วยกรรมการ (นายคนปัจุบัน) เข้ามาก็ได้มาเป็นเลขาเค้า + งานประมูล ถือว่างานหนักกว่าเดิมเยอะมากๆ เพราะนายเราเป็นหัวทุกฝ่าย ดังนั้นการตัดสินใจทุกอย่างเป็นของนายเรา ถ้าเรื่องใหญ่ๆ นายเราอนุมัติ ก็ส่ง MD อนุมัติต่อ งานทุกอย่างจึงมากองอยู่กับนายเราหมด ดังนั้นทุกคนเวลาตามงานจึงมาตามกับเรา ไหนจะปัญหาจุกจิกสารพัด งานเยอะมากๆ
ช่วงหลังๆมานี่ MD เร่งให้หางานเข้าบริษัท นายเราจึงมาเน้นงานประมูล หามาที 3-4 งานพร้อมๆกัน เราทำไม่ทัน ทุกอย่างมันเยอะไปหมด แต่เราก็ค่อยๆทำไป ไล่ลำดับความสำคัญ เหมือนจะผ่านไปได้ด้วยดี ต้นปีนี้โบนัสไม่มี เงินเดือนไม่ขึ้นเนื่องจากบริษัทไม่มีกำไร เราเข้าใจได้แต่ก็ท้ออยู่ดี เพราะงานที่เราทำมันหนัก ความรับผิดชอบสูง ความกดดันเยอะมากๆๆๆ แล้วคืองานประมูลทั้งบริษัท มีเราทำเป็นอยู่คนเดียว ตอนประมูล ตอน Bid ราคาก็มีเราทำได้อยู่คนเดียว พูดง่ายๆคือถ้าวันเคาะราคาเราป่วย หรือมีอุบัตติเหตุก็คือต้องถอดสายน้ำเกลือมาทำอะค่ะ🤣
เงินเดือน 16,000 ถามว่าน้อยมั้ยสำหรับเรามันอยู่ได้ แต่เนื้องานต้องเหมาะกับเงินเดือน แต่นี้เงินเดือนเท่านี้แต่เนื้องาน ความรับผิดชอบมันเยอะ ยิ่งเราได้คุยกับพี่ในบริษัทที่แกเล่าว่าที่เก่าแกก็มีประมูลแบบนี้ แต่ของเค้าระดับผู้จัดการเป็นคนประมูล เป็นคน Bid พี่ในหมู่บ้านเราบริษัทก็ประมูลเหมือนกัน พอถามแกแกก็บอกหัวหน้าพี่เป็นคนทำ พี่สองคนนี้พูดเป็นเสียงเดียวกันเลยว่าทำไมบริษัทเค้าถึงกล้าให้เราทำ บริษัทเราเรียกได้ว่าใช้คนมั่วมากๆ คุ้มมากๆ คนเก่าออกก็ไม่หาคนใหม่ แต่เอางานไปเพิ่มให้คนอื่นทำ
ปัจจุบันพึ่งได้งานใหม่ ใกล้บ้านกว่าเดิม ตำแหน่งธุรการขาย เงินเดือนได้เพิ่มนิดหน่อย แต่มีค่าคอมมิชชั่นจากยอดที่เซลล์ขายได้ ก็จะมาแบ่งให้เราด้วยเพราะถือว่าเป็นทีมเดียวกัน มีโอที มีโบนัสทุกปี มากน้อยแล้วแต่ผลประกอบการ เราก็ถาม HR ว่าจะขาดทุนก็ไม่ได้ใช่มั้ย เค้าบอกพี่อยู่มาหลายปีก็ได้ทุกปี (ก็ไม่รู้เค้าหลอกรึเปล่านะคะ😂) พอเค้าโทรมาประกาศผลก็ดีใจนะ
พรุ่งนี้เริ่มงานวันแรกไม่รู้จะเป็นไง ไม่รู้จะเจอเพื่อนร่วมงานแบบไหน พี่ๆ บริษัทเก่าพอรู้ว่าเราจะออกก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าทำที่นี้ได้ ไปที่ไหนก็สบาย เราก็สบายใจนะ เพราะงานที่เราทำมันหนักมันกดดันจริงๆ 😂
ตอนลาออกนายเรา MD ก็เรียกไปคุยไม่รู้กี่รอบ เราก็ยืนยันคำเดิมว่าเราจะออก นายเราไม่เซ็นใบลาออกให้เราด้วยซ้ำ จนใกล้ถึงวันทำงานวันสุดท้าย MD ก็เรียกไปถามว่าที่ใหม่ให้เท่าไหร่ เราก็รวมนั้น นี่ ที่เราคิดว่าจะได้ ก็บอกเค้าไปว่า 19500฿ เพิ่มจากที่เดิม 3,500฿ MD ก็ไม่ได้พูดไรต่อ จนวันศุกร์ทำงานวันสุดท้ายก็เก็บของกลับบ้าน งานเยอะยันวันสุดท้าย เหมือนงานทิ้งทวน กว่าจะได้กลับบ้านเกือบ 2 ทุ่ม ถามว่าถ้าเค้าเพิ่มเงินเดือนให้เรา เราอยู่มั้ย ถ้าเพิ่มให้เราถึง 25,000 เราอยู่ค่ะ แต่ถ้าน้อยกว่านี้เราไม่อยู่ แต่เค้าก็ไปพูดกับเลขาเค้านะว่าจะเพิ่มให้เรา แต่เค้าไม่ได้พูดกับเรา เราก็เฉยๆ ถามว่าเสียใจมั้ยก็ใจหายนะ แต่ไม่ได้เสียใจ เรารู้สึกว่าบริษัทเอาเปรียบเรา งานเลขาอย่างเดียวก็หนักแล้วมีงานอื่นมาอีก
สุดท้าย ขอบคุณทุกคนที่อ่านนะคะ ☺
เงินเดือนธุรการ แต่งานกดดันระดับผู้จัดการ
ทำงานบริษัทนี้มาได้ 2 ปี 6 เดือน เงินเดือนคือ 15,000 แล้วขึ้นเป็น 16,000 ในตำแหน่งธุรการ ฝ่ายสำนักกรรมการ ขึ้นตรงกับผู้บริหาร กรรมการผู้จัดการ เราได้ทำในส่วน เลขาผู้ช่วยกรรมการ ก่อนหน้านี้ที่ผู้ช่วยกรรมการจะเข้ามา เราทำงานประมูลราชการค่ะ จัดเตรียมเอกสารทุกอย่างไปจดถึงขั้นตอนการประมูลในระบบ ประสานงานทุกอย่างเองหมด ทำคนเดียว ปรึกษาคนอื่นบ้างเป็นบางครั้ง (เราขึ้นตรงกับ MD ดังนั้นปรึกษาได้แค่เรื่องสำคัญๆ แต่หลักๆคือต้องคิดเอง MD ชอบให้ใช้สมองเยอะๆ) แต่คนตัดสินใจให้ประมูลหรือไม่ประมูลคือ MD
ซึ่งงานนี้สำหรับเราคือโคตรกดดัน โคตรเครียด เนื่องจากบริษัทเรางานไม่ค่อยเป็นระบบ กว่าจะตามเอกสารจากฝ่ายประมาณราคาได้ บางครั้งก็ก่อนวันประมูล 1 วัน จะไปโทษฝ่ายประมาณราคาก็ไม่ได้ เพราะเค้าก็งานเยอะมากๆ ด่วนๆ ทั้งนั้น รวมถึงของเราด้วย เอกสารที่ใช้ก็ยุ่งวุ่นวาย ใช้เอกสารเยอะ ตามสไลต์ราชการ ซึ่งทำเองคนเดียว งานมูลค่า 10 ล้าน ไปจนถึง 300 ล้าน
พลาดในเรื่องของเอกสารมาคือเราผิดคนเดียวเต็มๆ (เคยเกิดขึ้นแล้ว 1 ครั้ง งาน 12 ล้าน ขาดเอกสารแผ่นเดียว เราทำแล้ว แต่ลืมใส่เข้าไป)
ยิ่งงานมูลค่าสูงๆ ยิ่งกดดัน ตอนเคาะราคาคือมือไม้สั้นไปหมด ทั้งเครียดทั้งกดดันสุดๆ ไม่รู้จะอธิบายยังไง ต่อมาโดนให้มาช่วยเป็นธุรการผู้จัดการโครงการ จึงมีงานเพิ่มมาแบบงงๆ 😂
ก็ก้มหน้าก้มตาทำไป บางวันก่อนประมูลเตรียมเอกสารไม่เสร็จก็นั่งทำถึง 2-3 ทุ่มคนเดียว ไม่มีโอที จนผู้ช่วยกรรมการ (นายคนปัจุบัน) เข้ามาก็ได้มาเป็นเลขาเค้า + งานประมูล ถือว่างานหนักกว่าเดิมเยอะมากๆ เพราะนายเราเป็นหัวทุกฝ่าย ดังนั้นการตัดสินใจทุกอย่างเป็นของนายเรา ถ้าเรื่องใหญ่ๆ นายเราอนุมัติ ก็ส่ง MD อนุมัติต่อ งานทุกอย่างจึงมากองอยู่กับนายเราหมด ดังนั้นทุกคนเวลาตามงานจึงมาตามกับเรา ไหนจะปัญหาจุกจิกสารพัด งานเยอะมากๆ
ช่วงหลังๆมานี่ MD เร่งให้หางานเข้าบริษัท นายเราจึงมาเน้นงานประมูล หามาที 3-4 งานพร้อมๆกัน เราทำไม่ทัน ทุกอย่างมันเยอะไปหมด แต่เราก็ค่อยๆทำไป ไล่ลำดับความสำคัญ เหมือนจะผ่านไปได้ด้วยดี ต้นปีนี้โบนัสไม่มี เงินเดือนไม่ขึ้นเนื่องจากบริษัทไม่มีกำไร เราเข้าใจได้แต่ก็ท้ออยู่ดี เพราะงานที่เราทำมันหนัก ความรับผิดชอบสูง ความกดดันเยอะมากๆๆๆ แล้วคืองานประมูลทั้งบริษัท มีเราทำเป็นอยู่คนเดียว ตอนประมูล ตอน Bid ราคาก็มีเราทำได้อยู่คนเดียว พูดง่ายๆคือถ้าวันเคาะราคาเราป่วย หรือมีอุบัตติเหตุก็คือต้องถอดสายน้ำเกลือมาทำอะค่ะ🤣
เงินเดือน 16,000 ถามว่าน้อยมั้ยสำหรับเรามันอยู่ได้ แต่เนื้องานต้องเหมาะกับเงินเดือน แต่นี้เงินเดือนเท่านี้แต่เนื้องาน ความรับผิดชอบมันเยอะ ยิ่งเราได้คุยกับพี่ในบริษัทที่แกเล่าว่าที่เก่าแกก็มีประมูลแบบนี้ แต่ของเค้าระดับผู้จัดการเป็นคนประมูล เป็นคน Bid พี่ในหมู่บ้านเราบริษัทก็ประมูลเหมือนกัน พอถามแกแกก็บอกหัวหน้าพี่เป็นคนทำ พี่สองคนนี้พูดเป็นเสียงเดียวกันเลยว่าทำไมบริษัทเค้าถึงกล้าให้เราทำ บริษัทเราเรียกได้ว่าใช้คนมั่วมากๆ คุ้มมากๆ คนเก่าออกก็ไม่หาคนใหม่ แต่เอางานไปเพิ่มให้คนอื่นทำ
ปัจจุบันพึ่งได้งานใหม่ ใกล้บ้านกว่าเดิม ตำแหน่งธุรการขาย เงินเดือนได้เพิ่มนิดหน่อย แต่มีค่าคอมมิชชั่นจากยอดที่เซลล์ขายได้ ก็จะมาแบ่งให้เราด้วยเพราะถือว่าเป็นทีมเดียวกัน มีโอที มีโบนัสทุกปี มากน้อยแล้วแต่ผลประกอบการ เราก็ถาม HR ว่าจะขาดทุนก็ไม่ได้ใช่มั้ย เค้าบอกพี่อยู่มาหลายปีก็ได้ทุกปี (ก็ไม่รู้เค้าหลอกรึเปล่านะคะ😂) พอเค้าโทรมาประกาศผลก็ดีใจนะ
พรุ่งนี้เริ่มงานวันแรกไม่รู้จะเป็นไง ไม่รู้จะเจอเพื่อนร่วมงานแบบไหน พี่ๆ บริษัทเก่าพอรู้ว่าเราจะออกก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าทำที่นี้ได้ ไปที่ไหนก็สบาย เราก็สบายใจนะ เพราะงานที่เราทำมันหนักมันกดดันจริงๆ 😂
ตอนลาออกนายเรา MD ก็เรียกไปคุยไม่รู้กี่รอบ เราก็ยืนยันคำเดิมว่าเราจะออก นายเราไม่เซ็นใบลาออกให้เราด้วยซ้ำ จนใกล้ถึงวันทำงานวันสุดท้าย MD ก็เรียกไปถามว่าที่ใหม่ให้เท่าไหร่ เราก็รวมนั้น นี่ ที่เราคิดว่าจะได้ ก็บอกเค้าไปว่า 19500฿ เพิ่มจากที่เดิม 3,500฿ MD ก็ไม่ได้พูดไรต่อ จนวันศุกร์ทำงานวันสุดท้ายก็เก็บของกลับบ้าน งานเยอะยันวันสุดท้าย เหมือนงานทิ้งทวน กว่าจะได้กลับบ้านเกือบ 2 ทุ่ม ถามว่าถ้าเค้าเพิ่มเงินเดือนให้เรา เราอยู่มั้ย ถ้าเพิ่มให้เราถึง 25,000 เราอยู่ค่ะ แต่ถ้าน้อยกว่านี้เราไม่อยู่ แต่เค้าก็ไปพูดกับเลขาเค้านะว่าจะเพิ่มให้เรา แต่เค้าไม่ได้พูดกับเรา เราก็เฉยๆ ถามว่าเสียใจมั้ยก็ใจหายนะ แต่ไม่ได้เสียใจ เรารู้สึกว่าบริษัทเอาเปรียบเรา งานเลขาอย่างเดียวก็หนักแล้วมีงานอื่นมาอีก
สุดท้าย ขอบคุณทุกคนที่อ่านนะคะ ☺