การที่คนๆหนึ่งสู้ทุกวิถีทางเพื่อให้ได้ทรัพย์สินของครอบครัวคืนมาจากธนาคารพัฒนาวิสาหกิจหรือSMEแบงค์สู้ไปทุกทางจนบิดามาเสียชีวิต เพราะทนรอที่จะได้ทรัพย์สินคืนมาไม่ไหว
เริ่มจากที่ข้าพเจ้านางดารารัตน์ คำมาเป็นลูกหนี้ของทางธนาคารพัฒนาวิสาหกิจหรือSMEแบงค์โดยได้จดจำนองแบงค์ไว้สามแปลงในราคา12,000,000บาท(สิบสองล้านบาท) แต่เพราะเจอมรสุมเศรษกิจไม่ดี ทำให้ไม่สามารถหาเงินส่งแบงค์ได้ ทำให้ทางธนาคารฟ้องและให้กองบังคับคดียึดทรัพย์มาดำเนินการขายทอดตลาด ทั้งสามแปลง โดยมีทรัพย์โฉนดเลขที่1252,52749,54101 รวมสามแปลงกองบังคับคดีได้ประมาณราคารวมไว้ทั้งสิ้น 9,207,606บาท(เก้าล้านสองแสนเจ็ดพันหกร้อยหกบาท) ในวันที่2กุมภาพันธ์2553 กองบังคับคดีได้ประกาศขายทอดตลาด ซึ่งข้าพเจ้าก็ได้ไปที่กองบังคับคดีเพื่อจะประมูลทรัพย์ แต่ข้าพเจ้าได้ไปเจอกับคุณนพรัตน์ ชาญวนังกูรหรือชื่อเล่นว่าดำ เป็นพนักงานของSMEแบงค์สาขาพะเยาได้บอกให้ข้าพเจ้าว่าให้ทางธนาคารประมูลทรัพย์ไปก่อนไม่ให้ข้าพเจ้าคัดค้าน และไม่ให้ข้าพเจ้าร่วมประมูลด้วย ค่อยไปติดต่อขอซื้อทรัพย์คืนที่ธนาคาร ซึ่งทางธนาคารได้ซื้อทรัพย์ไปดังรายการต่อไปนี้
1.โฉนดเลขที่1252ประมูลไปในราคา7,100,000บาท(เจ็ดล้านหนึ่งแสนบาทถ้วน)
2.โฉนดเลขที่52749ประมูลไปในราคา800,000บาท(แปดแสนบาทถ้วน)
3.โฉนดเลขที่54101ประมูลไปในราคา750,000บาท(เจ็ดแสนห้าหมื่นบาท)
รวมทรัพย์ที่ทางธนาคารประมูลไปเป็นเงินจำนวน8,650,000บาท(แปดล้านหกแสนห้าหมื่นบาทถ้วน) (ทรัพย์โฉนดเลขที่52749,54101ทางธนาคารได้ขายให้บุคคลอื่นไปแล้วในราคาสองล้านกว่าบาท)
หลังจากวันนั้นข้าพเจ้าก็ได้ติดต่อยื่นหนังสือขอซื้อทรัพย์กับผู้จัดการSMEสาขาพะเยาคุณวิทยา มหาคุณวงศ์ แต่ทางผู้จัดการบอกว่าส่งเรื่องไปถึงสำนักงานใหญ่แล้วต้องรอก่อน พอไม่นานผู้จัดการสาขาพะเยาก็มาขับไล่ข้าพเจ้าและครอบครัวโดยบอกว่าสำนักงานใหญ่ใช้มา ซึ่งข้าพเจ้าก็ถามว่าแล้วเรื่องที่ข้าพเจ้าขอซื้อไว้ว่ายังไง ผู้จัดการสาขาบอกว่าให้ไปสอบถามทางสำนักงานใหญ่เอาเอง
ข้าพเจ้าก็รีบเดินทางขึ้นไปที่กรุงเทพฯและขอพบคุณโสฬส สาครวิศวกรรมการผู้จัดการSMEแบงค์หรือเรียกทางภายในว่าMDซึ่งดำรงตำแหน่งในขณะนั้น
แต่ทางMDไม่ให้พบมีแต่พนักงานมาพบและบอกให้ข้าพเจ้าไปทำหนังสือขอซื้อทรัพย์ส่งไปถึงMDให้ลงทะเบียนตอบรับด้วย ข้าพเจ้าก็เดินทางกลับระหว่างที่กลับทางผู้จัดการสาขาพะเยาได้โทรศัพท์ไปสอบถามข้าพเจ้าว่าทางMDว่าอย่างไร ซึ่งข้าพเจ้าก็ได้ตอบว่าทางMDให้ข้าพเจ้าส่งหนังสือไปขอซื้อคืน เมื่อข้าพเจ้าส่งหนังสือไปแล้วก็ไม่ได้รับคำตอบใดๆกลับมา เท่านั้นยังไม่พอทางธนาคารกับมีหนังสือไปขออนุญาติกระทรวงการคลังเอาทรัพย์ไปทำเป็นสาขา และได้ฟ้องศาลขับไล่ข้าพเจ้าและครอบครัวพร้อมให้ผู้รับมอบอำนาจโจทย์ไปแจ้งความจับข้าพเจ้าและบิดาไปโรงพักทั้งยังพาไปส่งที่ศาลเพื่อขังในข้อหาบุกรุก ทำให้ข้าพเจ้ากับบิดาต้องดิ้นรนประกันตัวออกมา และขอโอกาสศาลเพื่อไปดำเนินการติดต่อทางธนาคารอีกครั้งการที่บอกข้าพเจ้าว่าจะนำทรัพย์ไปทำเป็นสาขาแต่กลับนำไปถามขายให้บุคคลอื่นรวมทั้งนายประชาด้วยได้ค่าเปอร์เซ็นเท่าไร ทำไมไม่เสนอข้าพเจ้าอยากได้เท่าไรบอกมา
และข้าพเจ้าได้นำหนังสือที่ข้าพเจ้าทำส่งถึงMDให้ทางผู้รับมอบอำนาจดูว่าข้าพเจ้าติดต่อแล้วแต่ยังไม่ได้รับคำตอบขอเวลาให้ข้าพเจ้าได้ทวงถามทางMDก่อน ผู้รับมอบอำนาจก็เข้าใจบอกให้ข้าพเจ้ารีบดำเนินการ หลังจากนั้นข้าพเจ้าก็ทำหนังสือส่งไปอีกรายฉบับพร้อมทั้งได้เดินทางไปยื่นหนังสือด้วยตัวเองและได้ให้พนักงานธนาคารเซ็นรับด้วยแต่ก็ไม่เกิดผลอะไรขึ้นมา ข้าพเจ้าก็ได้ติดตามเรื่องโดยตลอดจนวันที่4กันยายน2555ได้มีหนังสือจากคุณสุวิทย์ จุติประเสริฐ ผู้อำนวยการฝ่ายสินทรัพย์รอการขายในขณะนั้น ได้แจ้งว่าจะนำทรัพย์โฉนดเลขที่1252ออกขายทอดตลาดและจะแจ้งวันเวลาสถานที่ให้ทราบ แต่ก็เงียบหายไปไม่นำออกขาย
พร้อมแจ้งว่าจะดำเนินการเป็นสาขาเหมือนเดิม ข้าพเจ้าคิดว่ามันไม่มีเหตุผลเลยที่ทำอย่างนี้เพราะข้าพเจ้าไม่ได้เสียใต้โต๊ะ10%ในการกู้เงินจากSMEแบงค์เหรอ หรือเพราะการขายทรัพย์ของข้าพเจ้าให้คนอื่นได้เปอร์เซ็น หรืออาจเป็นเพราะการทำสาขาได้ประโยชน์จากการฮั้วประมูลในการทำสำนักงานสาขา สิ่งเหล่านี้เกิดจากการที่พนักงานไม่มีมโนธรรมจิตใจทำด้วยอะไร ธนาคารนี้ตั้งขึ้นมาเพื่ออะไรจริยธรรมจรรยาบรรณไปไหน ยังไม่หมดนะทางพนักงานธนาคารได้ถามข้าพเจ้าว่าถ้าทางธนาคารยอมขายแล้วการไปขอกระทรวงการคลังใครจะเป็นผู้ทำเรื่องไปขอ วันที่26เมษายน2556 ข้าพเจ้าได้ทำหนังสือและเดินทางไปยื่นหนังสือที่กระทรวงการคลังเพื่อขอความอนุเคราะห์ในการซื้อทรัพย์จากทางธนาคาร ซึ่งทางกระทรวงการคลังก็ได้ส่งหนังสือแจ้งให้ข้าพเจ้าทราบว่าได้ส่งหนังสือถึงทางธนาคารแล้วว่าให้ทางธนาคารพิจารณาในเรื่องการทำสำนักงานสาขาใหม่ ความจริงแล้วในสภาวะขณะนั้นทางธนาคารไม่มีเงินทุนที่จะมาทำสาขาแล้วแต่ก็ยังฝืนที่จะยืนยันทำสาขา ซึ่งที่ทำเลของทรัพย์นี้ก็ไม่เหมาะที่จะทำสำนักงานสาขาได้ แต่พอมีการเปลี่ยนแปลงคณะประธานกรรมการและคณะกรรมการข้าพเจ้าก็ได้เดินทางไปติดต่อขอซื้อคืนอีกครั้ง ครั้งนี้กรรมการผู้จัดการหรือMDคุณสุพจน์ อาวาส ยินยอมที่จะขายทรัพย์แปลงนี้และขอเวลาทำหนังสือแจ้งกระทรวงการคลังก่อนและจะนำทรัพย์ออกประมูลขายตามระเบียบและ/หรือ วิธีปฎิบัติของธนาคารต่อไป จากนั้นคุณธนินพิพัฒน์ก็ติดต่อมาว่าจะขึ้นมาขายทรัพย์ที่สาขาพะเยา ข้าพเจ้าก็ยังแย้งว่าไม่ใช่ว่าทางพนักงานสาขาไปบอกให้คนอื่นมาซื้อนะ คุณธนินพิพัฒน์ก็ตอบว่าไม่หรอกเขารู้ว่าข้พเจ้าเป็นคนยังไงและวิ่งเต้นไปที่ไหนมาบ้างหลังจากนั้นทางธนาคารได้นำทรัพย์ของข้าพเจ้าออกมาประมูลขายที่ธนาคารสาขาพะเยา โดยได้มีนายบัญชา จิตรกุลเดชามาร่วมประมูลด้วยซึ่งนายบัญชาได้เคยติดต่อกับนายนพรัตน์ที่เป็นพนักงานสาขาพะเยาได้เคยแจ้งให้ข้าพเจ้าทราบว่าเขาไปติดต่อซื้อทรัพย์จากทางธนาคารแล้วในราคา9,000,000บาท(เก้าล้านบาทถ้วน)และจะจ่ายให้ข้าพเจ้า1,000,000บาท(หนึ่งล้านบาทถ้วน) ให้ขนของออกจากทรัพย์แปลงนี้ แต่ทางข้าพเจ้าไม่ยินยอม ซึ่งการประมูลแข่งกันครั้งนี้มันยุติธรรมไหมข้าพเจ้าวิ่งเต้นมา4ปีขึ้นศาลนับไม่ถ้วนเดินทางไปกรุงเทพฯเป็นสิบๆครั้งทั้งต้องไปยื่นขอความอนุเคราะห์จากกระทรวงการคลังอีกเสียเงินเสียเวลาจนบิดาข้าพเจ้ารับไม่ไว้ตรอมใจตาย ณ.ตอนนี้ข้าพเจ้าเหลือมารดาอยู่อีกคนซึ่งอายุ74ปีแล้วต้องให้ท่านตรอมใจตายไปอีกคนไหมโลกนี้ถึงจะมีความยุติธรรม วิ่งสู้มา4ปีแต่สุดท้ายต้องมาประมูลแข่งขันกับคนที่ต้องการทรัพย์ของข้าพเจ้างั้นหรือถ้าจะประมูลขายทำไมเมื่อ4ปีที่แล้วไม่นำมาประมูลขาย อีกทั้งยังหลอกลวงไม่ให้ข้าพเจ้าไป ประมูลที่กองบังคับคดีอีก
ทุกอย่างที่เกิดขึ้นมาจากขบวนการที่เขาทำกันเป็นทีมดังนี้
1.นายโสฬส สาครวิศว อดีตรกรรมการผู้จัดการ
2.นายสมชัย ตันติทนวัฒน์ อดีตรองกรรมการฝ่ายบริหารสินทรัพย์
3.นายศุภกิจ แป้นเจริญ อดีตผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายงานบริหารสินทรัพย์และกฎหมาย
4.นายนพรัตน์ ชาญวนังกูร ผู้ช่วยผู้จัดการสาขาพะเยา
5.นายวิทยา มหาคุณวงศ์ ผู้จัดการสาขาพะเยา
บุคคลเหล่านี้มีมโนธรรมไหมธนาคารนี้ตั้งมาเพื่ออะไรเห็นใจประชาชนตาดำๆไหม ข้าพเจ้าอยากขอความเมตตาช่วยเหลือในการแก้ไขปัญหานี้ ข้าพเจ้าต้องแข่งขันประมูลทรัพย์นี้สูงถึง15,840,000บาท(สิบห้าล้านแปดแสนสี่หมื่นบาทถ้วน)โดยที่ทางธนาคารอ้างว่าต้องเป็นไปตามระเบียบ แล้วคำว่าความถูกต้องยุติธรรมอยู่ไหน ไม่มีข้อยกเว้นหรือแก้ไขหรือไง ประโยคที่ว่าและ/หรือวิธีปฎิบัติของทางธนาคารมันคืออะไร ใครก็ได้ช่วยสอบถามทางธนาคารให้ทีว่าทำไมตอนแรกไม่มาเปิดประมูลขายยึดไว้ทำไม แล้วยังมีการไปถามขายให้คนอื่น ไม่ยอมขายให้เจ้าของเดิม และมาฟ้องร้องขับไล่อีก มันถูกต้องไหมคิดว่าเป็นคนของรัฐทำอย่างไรก็ได้ใครไม่กล้ามาสู้งั้นเหรอ
สุดท้ายนี้ถ้าหากยังมีความหลงเหลือมนุษย์ธรรมอยู่ในใจบ้าง ข้าพเจ้าวิงวอนขอวามเห็นใจและความเป็นธรรมกับครอบครัวของข้าพเจ้า ขอโปรดเมตตาและแสดงให้เห็นว่าความยุติธรรมกับความถูกต้องมีอยู่จริง
นางดารารัตน์ คำมา
โลกนี้มีความยุติธรรมอยู่ไหม???
เริ่มจากที่ข้าพเจ้านางดารารัตน์ คำมาเป็นลูกหนี้ของทางธนาคารพัฒนาวิสาหกิจหรือSMEแบงค์โดยได้จดจำนองแบงค์ไว้สามแปลงในราคา12,000,000บาท(สิบสองล้านบาท) แต่เพราะเจอมรสุมเศรษกิจไม่ดี ทำให้ไม่สามารถหาเงินส่งแบงค์ได้ ทำให้ทางธนาคารฟ้องและให้กองบังคับคดียึดทรัพย์มาดำเนินการขายทอดตลาด ทั้งสามแปลง โดยมีทรัพย์โฉนดเลขที่1252,52749,54101 รวมสามแปลงกองบังคับคดีได้ประมาณราคารวมไว้ทั้งสิ้น 9,207,606บาท(เก้าล้านสองแสนเจ็ดพันหกร้อยหกบาท) ในวันที่2กุมภาพันธ์2553 กองบังคับคดีได้ประกาศขายทอดตลาด ซึ่งข้าพเจ้าก็ได้ไปที่กองบังคับคดีเพื่อจะประมูลทรัพย์ แต่ข้าพเจ้าได้ไปเจอกับคุณนพรัตน์ ชาญวนังกูรหรือชื่อเล่นว่าดำ เป็นพนักงานของSMEแบงค์สาขาพะเยาได้บอกให้ข้าพเจ้าว่าให้ทางธนาคารประมูลทรัพย์ไปก่อนไม่ให้ข้าพเจ้าคัดค้าน และไม่ให้ข้าพเจ้าร่วมประมูลด้วย ค่อยไปติดต่อขอซื้อทรัพย์คืนที่ธนาคาร ซึ่งทางธนาคารได้ซื้อทรัพย์ไปดังรายการต่อไปนี้
1.โฉนดเลขที่1252ประมูลไปในราคา7,100,000บาท(เจ็ดล้านหนึ่งแสนบาทถ้วน)
2.โฉนดเลขที่52749ประมูลไปในราคา800,000บาท(แปดแสนบาทถ้วน)
3.โฉนดเลขที่54101ประมูลไปในราคา750,000บาท(เจ็ดแสนห้าหมื่นบาท)
รวมทรัพย์ที่ทางธนาคารประมูลไปเป็นเงินจำนวน8,650,000บาท(แปดล้านหกแสนห้าหมื่นบาทถ้วน) (ทรัพย์โฉนดเลขที่52749,54101ทางธนาคารได้ขายให้บุคคลอื่นไปแล้วในราคาสองล้านกว่าบาท)
หลังจากวันนั้นข้าพเจ้าก็ได้ติดต่อยื่นหนังสือขอซื้อทรัพย์กับผู้จัดการSMEสาขาพะเยาคุณวิทยา มหาคุณวงศ์ แต่ทางผู้จัดการบอกว่าส่งเรื่องไปถึงสำนักงานใหญ่แล้วต้องรอก่อน พอไม่นานผู้จัดการสาขาพะเยาก็มาขับไล่ข้าพเจ้าและครอบครัวโดยบอกว่าสำนักงานใหญ่ใช้มา ซึ่งข้าพเจ้าก็ถามว่าแล้วเรื่องที่ข้าพเจ้าขอซื้อไว้ว่ายังไง ผู้จัดการสาขาบอกว่าให้ไปสอบถามทางสำนักงานใหญ่เอาเอง
ข้าพเจ้าก็รีบเดินทางขึ้นไปที่กรุงเทพฯและขอพบคุณโสฬส สาครวิศวกรรมการผู้จัดการSMEแบงค์หรือเรียกทางภายในว่าMDซึ่งดำรงตำแหน่งในขณะนั้น
แต่ทางMDไม่ให้พบมีแต่พนักงานมาพบและบอกให้ข้าพเจ้าไปทำหนังสือขอซื้อทรัพย์ส่งไปถึงMDให้ลงทะเบียนตอบรับด้วย ข้าพเจ้าก็เดินทางกลับระหว่างที่กลับทางผู้จัดการสาขาพะเยาได้โทรศัพท์ไปสอบถามข้าพเจ้าว่าทางMDว่าอย่างไร ซึ่งข้าพเจ้าก็ได้ตอบว่าทางMDให้ข้าพเจ้าส่งหนังสือไปขอซื้อคืน เมื่อข้าพเจ้าส่งหนังสือไปแล้วก็ไม่ได้รับคำตอบใดๆกลับมา เท่านั้นยังไม่พอทางธนาคารกับมีหนังสือไปขออนุญาติกระทรวงการคลังเอาทรัพย์ไปทำเป็นสาขา และได้ฟ้องศาลขับไล่ข้าพเจ้าและครอบครัวพร้อมให้ผู้รับมอบอำนาจโจทย์ไปแจ้งความจับข้าพเจ้าและบิดาไปโรงพักทั้งยังพาไปส่งที่ศาลเพื่อขังในข้อหาบุกรุก ทำให้ข้าพเจ้ากับบิดาต้องดิ้นรนประกันตัวออกมา และขอโอกาสศาลเพื่อไปดำเนินการติดต่อทางธนาคารอีกครั้งการที่บอกข้าพเจ้าว่าจะนำทรัพย์ไปทำเป็นสาขาแต่กลับนำไปถามขายให้บุคคลอื่นรวมทั้งนายประชาด้วยได้ค่าเปอร์เซ็นเท่าไร ทำไมไม่เสนอข้าพเจ้าอยากได้เท่าไรบอกมา
และข้าพเจ้าได้นำหนังสือที่ข้าพเจ้าทำส่งถึงMDให้ทางผู้รับมอบอำนาจดูว่าข้าพเจ้าติดต่อแล้วแต่ยังไม่ได้รับคำตอบขอเวลาให้ข้าพเจ้าได้ทวงถามทางMDก่อน ผู้รับมอบอำนาจก็เข้าใจบอกให้ข้าพเจ้ารีบดำเนินการ หลังจากนั้นข้าพเจ้าก็ทำหนังสือส่งไปอีกรายฉบับพร้อมทั้งได้เดินทางไปยื่นหนังสือด้วยตัวเองและได้ให้พนักงานธนาคารเซ็นรับด้วยแต่ก็ไม่เกิดผลอะไรขึ้นมา ข้าพเจ้าก็ได้ติดตามเรื่องโดยตลอดจนวันที่4กันยายน2555ได้มีหนังสือจากคุณสุวิทย์ จุติประเสริฐ ผู้อำนวยการฝ่ายสินทรัพย์รอการขายในขณะนั้น ได้แจ้งว่าจะนำทรัพย์โฉนดเลขที่1252ออกขายทอดตลาดและจะแจ้งวันเวลาสถานที่ให้ทราบ แต่ก็เงียบหายไปไม่นำออกขาย
พร้อมแจ้งว่าจะดำเนินการเป็นสาขาเหมือนเดิม ข้าพเจ้าคิดว่ามันไม่มีเหตุผลเลยที่ทำอย่างนี้เพราะข้าพเจ้าไม่ได้เสียใต้โต๊ะ10%ในการกู้เงินจากSMEแบงค์เหรอ หรือเพราะการขายทรัพย์ของข้าพเจ้าให้คนอื่นได้เปอร์เซ็น หรืออาจเป็นเพราะการทำสาขาได้ประโยชน์จากการฮั้วประมูลในการทำสำนักงานสาขา สิ่งเหล่านี้เกิดจากการที่พนักงานไม่มีมโนธรรมจิตใจทำด้วยอะไร ธนาคารนี้ตั้งขึ้นมาเพื่ออะไรจริยธรรมจรรยาบรรณไปไหน ยังไม่หมดนะทางพนักงานธนาคารได้ถามข้าพเจ้าว่าถ้าทางธนาคารยอมขายแล้วการไปขอกระทรวงการคลังใครจะเป็นผู้ทำเรื่องไปขอ วันที่26เมษายน2556 ข้าพเจ้าได้ทำหนังสือและเดินทางไปยื่นหนังสือที่กระทรวงการคลังเพื่อขอความอนุเคราะห์ในการซื้อทรัพย์จากทางธนาคาร ซึ่งทางกระทรวงการคลังก็ได้ส่งหนังสือแจ้งให้ข้าพเจ้าทราบว่าได้ส่งหนังสือถึงทางธนาคารแล้วว่าให้ทางธนาคารพิจารณาในเรื่องการทำสำนักงานสาขาใหม่ ความจริงแล้วในสภาวะขณะนั้นทางธนาคารไม่มีเงินทุนที่จะมาทำสาขาแล้วแต่ก็ยังฝืนที่จะยืนยันทำสาขา ซึ่งที่ทำเลของทรัพย์นี้ก็ไม่เหมาะที่จะทำสำนักงานสาขาได้ แต่พอมีการเปลี่ยนแปลงคณะประธานกรรมการและคณะกรรมการข้าพเจ้าก็ได้เดินทางไปติดต่อขอซื้อคืนอีกครั้ง ครั้งนี้กรรมการผู้จัดการหรือMDคุณสุพจน์ อาวาส ยินยอมที่จะขายทรัพย์แปลงนี้และขอเวลาทำหนังสือแจ้งกระทรวงการคลังก่อนและจะนำทรัพย์ออกประมูลขายตามระเบียบและ/หรือ วิธีปฎิบัติของธนาคารต่อไป จากนั้นคุณธนินพิพัฒน์ก็ติดต่อมาว่าจะขึ้นมาขายทรัพย์ที่สาขาพะเยา ข้าพเจ้าก็ยังแย้งว่าไม่ใช่ว่าทางพนักงานสาขาไปบอกให้คนอื่นมาซื้อนะ คุณธนินพิพัฒน์ก็ตอบว่าไม่หรอกเขารู้ว่าข้พเจ้าเป็นคนยังไงและวิ่งเต้นไปที่ไหนมาบ้างหลังจากนั้นทางธนาคารได้นำทรัพย์ของข้าพเจ้าออกมาประมูลขายที่ธนาคารสาขาพะเยา โดยได้มีนายบัญชา จิตรกุลเดชามาร่วมประมูลด้วยซึ่งนายบัญชาได้เคยติดต่อกับนายนพรัตน์ที่เป็นพนักงานสาขาพะเยาได้เคยแจ้งให้ข้าพเจ้าทราบว่าเขาไปติดต่อซื้อทรัพย์จากทางธนาคารแล้วในราคา9,000,000บาท(เก้าล้านบาทถ้วน)และจะจ่ายให้ข้าพเจ้า1,000,000บาท(หนึ่งล้านบาทถ้วน) ให้ขนของออกจากทรัพย์แปลงนี้ แต่ทางข้าพเจ้าไม่ยินยอม ซึ่งการประมูลแข่งกันครั้งนี้มันยุติธรรมไหมข้าพเจ้าวิ่งเต้นมา4ปีขึ้นศาลนับไม่ถ้วนเดินทางไปกรุงเทพฯเป็นสิบๆครั้งทั้งต้องไปยื่นขอความอนุเคราะห์จากกระทรวงการคลังอีกเสียเงินเสียเวลาจนบิดาข้าพเจ้ารับไม่ไว้ตรอมใจตาย ณ.ตอนนี้ข้าพเจ้าเหลือมารดาอยู่อีกคนซึ่งอายุ74ปีแล้วต้องให้ท่านตรอมใจตายไปอีกคนไหมโลกนี้ถึงจะมีความยุติธรรม วิ่งสู้มา4ปีแต่สุดท้ายต้องมาประมูลแข่งขันกับคนที่ต้องการทรัพย์ของข้าพเจ้างั้นหรือถ้าจะประมูลขายทำไมเมื่อ4ปีที่แล้วไม่นำมาประมูลขาย อีกทั้งยังหลอกลวงไม่ให้ข้าพเจ้าไป ประมูลที่กองบังคับคดีอีก
ทุกอย่างที่เกิดขึ้นมาจากขบวนการที่เขาทำกันเป็นทีมดังนี้
1.นายโสฬส สาครวิศว อดีตรกรรมการผู้จัดการ
2.นายสมชัย ตันติทนวัฒน์ อดีตรองกรรมการฝ่ายบริหารสินทรัพย์
3.นายศุภกิจ แป้นเจริญ อดีตผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายงานบริหารสินทรัพย์และกฎหมาย
4.นายนพรัตน์ ชาญวนังกูร ผู้ช่วยผู้จัดการสาขาพะเยา
5.นายวิทยา มหาคุณวงศ์ ผู้จัดการสาขาพะเยา
บุคคลเหล่านี้มีมโนธรรมไหมธนาคารนี้ตั้งมาเพื่ออะไรเห็นใจประชาชนตาดำๆไหม ข้าพเจ้าอยากขอความเมตตาช่วยเหลือในการแก้ไขปัญหานี้ ข้าพเจ้าต้องแข่งขันประมูลทรัพย์นี้สูงถึง15,840,000บาท(สิบห้าล้านแปดแสนสี่หมื่นบาทถ้วน)โดยที่ทางธนาคารอ้างว่าต้องเป็นไปตามระเบียบ แล้วคำว่าความถูกต้องยุติธรรมอยู่ไหน ไม่มีข้อยกเว้นหรือแก้ไขหรือไง ประโยคที่ว่าและ/หรือวิธีปฎิบัติของทางธนาคารมันคืออะไร ใครก็ได้ช่วยสอบถามทางธนาคารให้ทีว่าทำไมตอนแรกไม่มาเปิดประมูลขายยึดไว้ทำไม แล้วยังมีการไปถามขายให้คนอื่น ไม่ยอมขายให้เจ้าของเดิม และมาฟ้องร้องขับไล่อีก มันถูกต้องไหมคิดว่าเป็นคนของรัฐทำอย่างไรก็ได้ใครไม่กล้ามาสู้งั้นเหรอ
สุดท้ายนี้ถ้าหากยังมีความหลงเหลือมนุษย์ธรรมอยู่ในใจบ้าง ข้าพเจ้าวิงวอนขอวามเห็นใจและความเป็นธรรมกับครอบครัวของข้าพเจ้า ขอโปรดเมตตาและแสดงให้เห็นว่าความยุติธรรมกับความถูกต้องมีอยู่จริง
นางดารารัตน์ คำมา