คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 19
ตามประกาศกระทรวงคมนาคม ปี 53 ข้อ 5 (1) (ก) สายการบินจะต้องคืนเงินเต็มจำนวนครับ
ถ้าจะเสนออย่างอื่นต้องให้ผู้โดยสารยินยอม จะมาบังคับไม่ได้ครับ
https://www.airportthai.co.th/wp-content/uploads/2019/06/คุ้มครองสิทธิผู้โดยสาร.pdf?fbclid=IwAR25KjuWnLOH7FYIR8pXTWFlZ68N_8pn8O7EdLk7jBEPAC9u8BVphrxp0ng
และข้อ 10 ของประกาศดังกล่าว ผู้โดยสารสามารถร้องเรียนไปที่กรมการบินพลเรือนได้ตามช่องทางที่ระบุไว้ครับ
ผมแนะนำให้ดำเนินการทำเรื่องร้องเรียนไปครับ โอกาสได้มีมากกว่า เพราะอย่าลืมว่าปัญหาที่สายการบินต้องยกเลิก
หลักๆเกิดจากนโยบายของรัฐ รัฐก็มีหน้าที่ต้องไปตามทวงเงินคืนให้ผู้โดยสาร ไม่ใช่ให้ผู้โดยสารทวงเงินกันเอง
ถ้ากรมไม่ดำเนินการก็ให้ฟ้องกรมต่อศาลปกครอง ขอให้ดำเนินการจนกว่าจะได้เงินเลยครับ ไม่เสียค่าธรรมเนียมศาล
อย่าไปยอมบอกว่าให้เห็นใจว่าเขาขาดกระแสเงินสด คือถ้าคุณไม่อยากจ่ายเงินสด อยากให้ผู้โดยสารรับเงื่อนไขอื่น
ก็ต้องเสนอเครดิตที่ดีกว่านี้ เช่นให้มูลค่า 2 เท่าของค่าโดยสารเดิมที่จ่ายและไม่จำกัดระยะเวลาที่ใช้
เพราะถ้าคุณยอมรับเครดิตเท่าเดิม คุณจะไปบินอีกในราคาเดิมก็ไม่ได้แล้วครับ เพราะตอนนี้แนวโน้มที่แน่นอน
คือสายการบินทุกเจ้าจะต้องขึ้นราคา เพราะต้องลดจำนวนที่นั่ง ถ้ารับข้อเสนอเครดิตเท่าเดิม เท่ากับว่าคุณก็ต้องจ่ายเพิ่มอยู่ดี
คุณว่าแฟร์ไหมล่ะ จริงใจกับผู้โดยสารไหมล่ะ
ถ้าจะเสนออย่างอื่นต้องให้ผู้โดยสารยินยอม จะมาบังคับไม่ได้ครับ
https://www.airportthai.co.th/wp-content/uploads/2019/06/คุ้มครองสิทธิผู้โดยสาร.pdf?fbclid=IwAR25KjuWnLOH7FYIR8pXTWFlZ68N_8pn8O7EdLk7jBEPAC9u8BVphrxp0ng
และข้อ 10 ของประกาศดังกล่าว ผู้โดยสารสามารถร้องเรียนไปที่กรมการบินพลเรือนได้ตามช่องทางที่ระบุไว้ครับ
ผมแนะนำให้ดำเนินการทำเรื่องร้องเรียนไปครับ โอกาสได้มีมากกว่า เพราะอย่าลืมว่าปัญหาที่สายการบินต้องยกเลิก
หลักๆเกิดจากนโยบายของรัฐ รัฐก็มีหน้าที่ต้องไปตามทวงเงินคืนให้ผู้โดยสาร ไม่ใช่ให้ผู้โดยสารทวงเงินกันเอง
ถ้ากรมไม่ดำเนินการก็ให้ฟ้องกรมต่อศาลปกครอง ขอให้ดำเนินการจนกว่าจะได้เงินเลยครับ ไม่เสียค่าธรรมเนียมศาล
อย่าไปยอมบอกว่าให้เห็นใจว่าเขาขาดกระแสเงินสด คือถ้าคุณไม่อยากจ่ายเงินสด อยากให้ผู้โดยสารรับเงื่อนไขอื่น
ก็ต้องเสนอเครดิตที่ดีกว่านี้ เช่นให้มูลค่า 2 เท่าของค่าโดยสารเดิมที่จ่ายและไม่จำกัดระยะเวลาที่ใช้
เพราะถ้าคุณยอมรับเครดิตเท่าเดิม คุณจะไปบินอีกในราคาเดิมก็ไม่ได้แล้วครับ เพราะตอนนี้แนวโน้มที่แน่นอน
คือสายการบินทุกเจ้าจะต้องขึ้นราคา เพราะต้องลดจำนวนที่นั่ง ถ้ารับข้อเสนอเครดิตเท่าเดิม เท่ากับว่าคุณก็ต้องจ่ายเพิ่มอยู่ดี
คุณว่าแฟร์ไหมล่ะ จริงใจกับผู้โดยสารไหมล่ะ
แสดงความคิดเห็น
ขอความเป็นธรรมจาก AirAsia ด้วยครับ! ขอคืนเป็น full refund แต่ได้เป็น credit account ทั้งๆที่ไม่เคยตอบตกลง
ก่อนหน้านี้ ผมกับเพื่อนอีก 4 คน มีแผนจะไปโครงการแลกเปลี่ยนของมหาวิทยาลัย ที่ฮกไกโด ช่วงวันที่ 4 เมษายน - 3 พฤษภาคม 2563
จึงได้ทำการจองตั๋วไปกลับ กรุงเทพ-ซับโปโร ไปตั้งแต่วันที่ 16 มกราคม 2563
แต่เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ในวันที่ 13 มีนาคมที่ผ่านมา เราได้รับแจ้งจากทางสายการบินแอร์เอเชียว่า
เที่ยวบินถูกยกเลิกทั้งขาไปและขากลับ โดยที่ทางสายการบินได้ยื่นข้อเสนอดังนี้
ซึ่งแน่นอนว่า ตัวผมและเพื่อน ก็ได้เลือกรับข้อเสนอ 3. Full refund หลังจากนั้น สถานะการคืนเงินก็เป็น in progress ไปเกือบสองเดือน
ซึ่งทางเราก็ตั้งใจรอคอยอย่างมีความหวังว่าจะได้เงินคืนเข้าบัญชีธนาคาร แต่ทว่า...
เมื่อวันที่ 29 เมษายนที่ผ่านมา ก็มีอีเมลจากแอร์เอเชียเนื้อหาแปลกๆบอกว่า Account ของเราไม่สามารถใช้การได้
ให้สมัครใหม่ เพื่อให้สามารถรับ credit count ได้ ซึ่งผมก็ไม่เข้าใจมากๆ เพราะก็ขอคืนเป็น full refund มาตั้งแต่ตอนแรก
แต่ว่าทางเราก็ไม่ได้สมัคร account ใหม่ตามที่ทางนั้นบอกแต่อย่างใด
นอกจากนี้ สถานะการดำเนินการก็กลายเป็น under investigation งงมากๆ
แต่พอมาวันที่ 8 (เมื่อวานนี้) สถานะดำเนินการก็กลายเป็น in progress เหมือนเดิม
พอมาวันนี้ ปรากฏว่า ได้กลับมาเป็นแต้มเฉยเลย แล้วก็ account กลับมาใช้ได้ซะงั้น
ทางเราเข้าใจถึงความลำบากของสายการบินเช่นกัน แต่อย่างไรก็ตาม สิ่งที่อยากจะเน้นย้ำก็คือ ตัวผมเองและเพื่อนๆ ก็ได้ยอมรับข้อเสนอเป็น full refund มาตั้งแต่ช่วงมีนาคมแล้ว เป็นช่วงก่อนที่สายการบินจะปิดรับข้อเสนอนี้เสียอีก ผมอยากให้สายการบิน มีความซื่อสัตย์และรับผิดชอบต่อการตัดสินใจของลูกค้า
หลายคนอาจจะคิดว่า ได้เป็นแต้มน่าจะโอเคแล้ว แต่พวกเราซึ่งเป็นลูกค้าเองก็เดือดร้อนไม่แพ้กัน พวกเรายังเป็นนักศึกษา ค่าตั๋วที่จ่ายไปไม่ใช่
ราคาโปรโมชั่น เพราะเดินทางไปศึกษาแลกเปลี่ยนในช่วงเวลาที่ถูกกำหนดไว้แล้ว ไม่สามารถหาตั๋วที่ราคาถูกได้ ค่าเดินทางไปกลับ รวมค่าน้ำหนักกระเป๋า ตกคนละ 20,xxx บาท ซึ่งราคาแพง เราต้องการเงินคืนมากกว่า เพื่อนำมาใช้จ่ายด้านการเรียน ด้านการใช้ชีวิตประจำวันในช่วงเวลาวิกฤตเช่นนี้
นอกจากนี้พวกเราเองไม่สะดวกที่จะรับเป็น credit account เนื่องจากว่า ผมและเพื่อนๆเรียนค่อนข้างหนัก หลังเหตุการณ์โควิด-19 ก็อาจจะไม่ได้มีเวลาที่จะใช้แต้มเพื่อเดินทางพักผ่อนที่ไหนภายในระยะเวลา 2 ปีนี้ ผมคิดว่ามันไม่ถูกต้องที่จะบีบบังคับให้ลูกค้าต้องมาแบกรับความเสี่ยงให้ใช้แต้มภายในระยะเวลาที่กำหนด ผมคิดว่า ลูกค้าท่านใดที่มีศักยภาพ และต้องการก็รับข้อเสนอนั้นก็ตามนั้น ไม่ควรมาบีบบังคับแบบนี้ เงินของลูกค้า ลูกค้าก็ควรจะมีสิทธิว่าจะใช้จ่ายกับสิ่งใดไม่ใช่หรือครับ