การที่เราตกงาน มาอยู่บ้านแม่ มันทำให้เรากลายเป็นชนชั้นสองของบ้าน มันสมควรแล้วใช่ไหม

เราลาออกจากงานมา 4เดือนกว่าแล้วค่ะ  อายุ 31แล้ว อยู่บ้านเฉยๆ ก็ทำงานบ้าน กวาดบ้าน ถูบ้าน กวาดสวน ทุกวัน
จริงๆก็หางานไปด้วย ไม่ได้คิดว่า โคดวิดมันจะเป็นอุปสรรคอะไรอ่ะนะ เพราะมันก็มีงานเปิดรับสมัครอยู่
เรารู้สึกว่าเวลามีอะไรมี่ผิดในบ้าน มีอะไรทผิดพลาด เสียหาย เช่น ไข่หมด ค่าไฟแพง บ้านเลอะ พี่เราก็พูดกระทบมาทางเราตลอด  แม่เราจะเอาใจพี่มาก เพราะพี่เงินเดือนสูงมาก (เค้าช่วยจ่ายค่าบ้าน ช่วยเหลือบ้านมาตลอด แต่เราไม่เคย) พอมาช่วงโควิด wfh ต้องอยู่ด้วยกันตลอดเจอหน้ากันทุกวัน มันก็คงจะเหม็นหน้ากันอะนะ

ตอนนี้คำถามคือ เราสมควรแล้วที่จะโดนข่ม โดน ทำให้เป็นชนชั้นสอง เพราะว่าเราตกงานใช่หรือมั้ย
คือเพราะเราไม่ได้ออก เงินช่วย มันเหมือนเรากำลังเอาเปรียบ เราเลยสมควรถูกที่ข่ม หรือเปล่า คือมีนก็ดูเหมือนเป็น ตรกกะง่ายๆดี มากิน แต่ไม่ช่วยออก ก็สมควรโดนแบ้ว แต่เราก็รู้สึกว่ามันไม่ถูกอยู่ในใจน่ะ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 3
ถ้าลาออกมาเอง แล้วยังเอื่อยเฉื่อยไม่รีบหางาน (จริงๆ ก็คิดว่าด้วยสถานการณ์ตอนนี้มันไม่ได้หางานได้ง่ายๆ แต่ จขกท. บอกว่ามันไม่ใช่อุปสรรคใดๆ)  มันเป็นการเอาเปรียบคนที่บ้านนะ ไม่ใช่เด็กน้อย หรือพิกลพิการที่เค้าจะต้องทำมาหาเลี้ยงไปตลอด

แต่ถ้าคิดจะเกาะที่บ้านกินแบบไม่ควักจ่ายอะไรเลยซักสตางค์ ก็อย่าริใส่ใจคำพูดใดๆ เลย ทำหูทวนลมไปซะเถอะ กินเงินเค้า ใช้เงินเค้าก็สงบปากคำไป ขืนไปเถียงกับเขาจะโดนล้ำเลิกบุญคุณไปเปล่าๆ

แล้วถ้าไม่ชอบใจสถานการณ์แบบนี้ ไม่ยินยอมที่จะเป็นพลเมืองชั้นสองในบ้าน ก็รีบหางานทำเถอะ ยืนได้ด้วยขาตัวเอง มันมีความสุขกว่าเยอะเลย

ปล. เข้าใจว่าบ้านแม่ จขกท. มีสิทธิ์ที่จะอยู่ แต่พี่เป็นคนช่วยแม่ออกค่าบ้าน ออกค่าใช้จ่ายในบ้าน พี่คุณก็มีสิทธิ์มีเสียงที่จะพูด เพราะเค้าจ่ายให้แม่คุณ ไม่ได้อยากจ่ายให้คุณค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่