โอ้โห พลังบวกที่ล้นปรี่ในทุก EP (ในซีซั่น 1 – เพิ่งดูจบแค่ซีซั่นแรกจ้า!) ของ Queer Eye มันทำให้เรามีชีวิตชีวา มองโลกในแง่บวก และเต็มเปี่ยมไปด้วยแรงบันดาลใจในการใช้ชีวิตเหลือเกิน นั่งน้ำตาไหลด้วยความซาบซึ้ง ปิติยินดี ตลอดทั้ง 8 EP เลยจริงๆ ต่อให้มีบาง EP ที่เราไม่อินไม่เก็ตอยู่บ้างในพาร์ตแรกๆ (เพราะเรื่องราวหรือไลฟ์สไตล์ของแขกรับเชิญ) แต่พอถึงพาร์ตสุดท้าย ที่ 5 เกย์หนุ่ม The Fab Five นั่งดูซีนสำคัญของหนุ่มๆ ที่พวกเค้าเข้าไปช่วยเหลือปรับลุคปรับทัศนคติ รับมือกับวันสำคัญของตัวเอง เราก็ต้องนั่งเช็ดน้ำตาป้อยๆ ทุกทีไป

.
Queer Eye เป็นรายการเรียลิตี้สไตล์เมคโอเวอร์ ที่นำรายการ Queer Eye for the Straight Guy (เคยออกอากาศทางช่อง Bravo ในช่วงปี 2003 – 2007) กลับมาทำใหม่ให้เป็นเวอร์ชั่นที่อัพเดตทันโลกมากขึ้น โดยมีทีม The Fab Five รุ่นใหม่ เป็นกูรูรอบรู้ในหลากหลายด้านมาคอยดูแลปรับเปลี่ยนปรุงโฉมให้แขกรับเชิญได้เป็นผู้ชายคนเดิมในเวอร์ชั่นที่ดีขึ้น ซึ่ง 5 เกย์หนุ่มที่ว่าก็ช่างสดใส มีพลังบวก และส่งมอบแรงบันดาลใจให้ทั้งแขกรับเชิญและคนดูอย่างเราๆ ได้ดีเยี่ยมเหลือเกิน ไม่ว่าจะเป็น Antoni ดูแลเรื่องอาหารการกิน, Tan ดูแลเรื่องแฟชั่นการแต่งตัว, Jonathan ดูแลเรื่องทรงผมและกรูมมิ่ง, Bobby ดูแลเรื่องดีไซน์การตกแต่งบ้าน และ Karamo ดูแลเรื่องวัฒนธรรม หรือการปรับวิธีคิด วิธีการใช้ชีวิต

.
ชอบความหลากหลายของแขกรับเชิญทั้ง 8 EP นี้มาก ในความเป็นผู้ชายบ้านๆ พื้นๆ แมนๆ (หรือแม้แต่แขกรับเชิญเกย์หนึ่งเดียวของซีซั่น 1 ก็เป็นเกย์ที่ยังปิดตัวเองอยู่) มันเหมือนจะมีอะไรที่เราคาดเดาได้ว่า The Fab Five ต้องเจอกับอะไร แต่กลายเป็นว่า ทุกคนต่างก็มีเรื่องราว ภูมิหลัง ปมในใจ ปัญหายิ่งใหญ่ หรือสถานการณ์อันยากลำบากแตกต่างกันไป แล้วบอกเลยว่า มันไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลย แล้ว Queer Eye ก็ทำให้เราได้เห็นความงดงามของการเปิดใจของผู้คน ทั้งการยอมเปิดเผยเรื่องราวแสนส่วนตัวของแขกรับเชิญ ความอ่อนแอที่ซ่อนอยู่ในตัวผู้ชาย การเปิดใจยอมรับ The Fab Five เข้ามาเป็นเพื่อนคนสำคัญในชีวิตของเค้า และการเปิดใจของแก๊ง The Fab Five ที่มีต่อสถานการณ์ยากๆ เองก็ด้วย

.
ความน่าสนใจก็คือ ในความเป็นรายการที่น่าจะทำให้ทุกเพศทุกวัยดูได้แบบเพลินๆ Queer Eye ก็ไม่ลืมสอดแทรกประเด็น LGBT แทรกเข้าไปแบบเนียนๆ โดยย้ำชัดว่า การเปิดใจยอมรับคือกุญแจสำคัญที่จะทำให้โลกใบนี้น่าอยู่ขึ้น มีหลายตอนที่เราชอบมาก อาทิ เกย์หนุ่มผิวสีที่ตัดสินใจจะ Come Out บอกกับแม่เลี้ยงที่เป็นสมาชิกครอบครัวเพียงคนเดียวของเค้าว่า “ผมเป็นเกย์” มันเป็นฉากที่เราดูซ้ำมาแล้วจากหนังจากซีรี่ส์หลายต่อหลายเรื่อง แต่มันก็ยังมีภาพที่งดงามเสมอ, การเปิดใจของตำรวจผิวขาวผู้เป็นแขกรับเชิญกับ Karamo เกย์หนุ่มผิวสี ที่สะท้อนภาพสังคมอเมริกันในประเด็นอันอ่อนไหว ระหว่างตำรวจกับคนผิวสีได้ชัดเจน, คุณพ่อเคร่งศาสนาที่เปิดรับ 5 เกย์หนุ่มเข้าบ้านและโอบรับพวกเค้าไว้ด้วยความรัก โดยไม่ได้สนใจเรื่องเพศสภาพใดๆ หรือแม้แต่การได้เห็นหนุ่มๆ ตำรวจดับเพลิงเล่นสนุกกับ The Fab Five อย่างสนิทใจ ก็ทำให้เราตื้นตันมากเช่นกัน

.
Queer Eye ทำให้เราอยากเป็นคนที่ดีขึ้นกว่าเดิมในทุกมิติ เราอยากจะใส่ใจกับคุณภาพชีวิตของตัวเองมากขึ้น ให้รางวัลกับตัวเองบ้างนิดๆ หน่อยๆ ทั้งเรื่องอาการการกิน การดูแลตัวเอง เสื้อผ้า หน้าผม (ย้ำว่า ไม่ใช่แค่เพื่อตัวเราเอง แต่เราก็อยากจะบอกกับคนข้างๆ เช่นกันว่า เราให้เกียรติเค้า และการดูแลตัวเราเองก็คือการบอกรักเค้าในวิถีทางหนึ่ง) มั่นใจในตัวเองมากขึ้น มองโลกในแง่บวกมากขึ้น และอยากจะส่งต่อพลังดีๆ ออกไปรอบๆ ตัวมากขึ้นพร้อมๆ กัน

ชม Queer Eye ได้ที่ Netflix
อ่านบทความอื่นๆ ได้ที่ เพจ ชีวิตผมก็เหมือนหนัง