เครียดค่ะเจ้าของที่ดินจะขายที่ดินซึ่งเป็นบ้านเราอาศัยอยู่

คือครอบครัวหนูไม่มีที่ดินของตัวเองค่ะที่จริงเคยมีเเต่โดนยึดเพราะมีหนี้ค่ะ จึงอาศัยที่ดินของพี่ของตาอาศัยมาเกือบ10ปี เป็นบ้านไม้ค่ะ ตอนนี้เเม่หนูกำลังจะสร้างห้องครัวกับห้องนอนใหม่ อยู่ๆลูกของพี่ตา(เจ้าของที่ดิน)​ก็โทรมาบอกเเม่เราว่าประกาศขายที่ดินตั้งนานเเล้วเเต่ยังไม่มีใครซื้อ เเละก็ไม่ให้สร้างห้องครัวหรือสร้างอะไรทั้งสิ้นด้วยค่ะ เเล้วเเม่หนูเสียค่าปูนหินทราย ไปเเล้ว เเล้วเเม่ก็ไม่มีเงินเยอะทั้งหมดนั้นกู้มาทั้งนั้น หนูโมโหมากค่ะเเต่ก็ทำอะไรไม่ได้ รออย่างเดียวว่าจะต้องออกวันไหน ตอนนี้หนูจะขึ้นม.4ค่ะ เดิมทีเป็นโรคซึมเศร้าเพราะเครียดอยู่เเล้ว ตอนนี้ก็เครียดหนักกว่าเดิมเพราะถ้าที่ดินขายได้เเล้ว จะไปอยู่ที่ไหน ตอนนี้หนูก็ช่วยเเม่หาเงินอยู่ค่ะรับจ้างนู่นนี่ หรือถ้าตาหนูเสียเขาอาจจะไล่ยายหนูเเม่ออกไปก็ได้ค่ะ ช่วยหนูคิดหน่อยค่ะ เเนะนำได้นะคะ ขอบคุณค่ะที่อ่านจนจบ🙏🙏
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 1
มองอีกมุม เค้าเมตตาให้คุณอยู่มาเป็นสิบปี
เค้าติดค้างอะไรคุณ จึงไปโกรธเคืองเค้า
การจะไปสร้าง ต่อเติมอะไรในที่ดินของคนอื่น
บ้านคุณไปขออนุญาตเค้าหรือยัง
นี่ยังดีเค้าบอกก่อน ไม่ใช่ปล่อยให้ทำจนเสร็จค่อยมาบอก

ก่อนอื่นแนะนำให้เปลี่ยน mind set ที่บ้านคุณรู้สึกว่า เป็นเจ้าของที่ดินผืนนี้
อย่าไปลงทุนอะไรกับที่ดินผืนนี้อีก นอกจากจะซื้อเป็นของตัวเอง
ความคิดเห็นที่ 17
จาก คห 1 กลับมาอีกครั้ง

คนสมัยนี้ต่างจากคนสมัยก่อน
รุ่นพ่อรุ่นแม่ผม ตอนเค้าลำบาก ใครช่วยอะไรเค้าไว้ เค้าจำไม่ลืม แล้วหาทางตอบแทนในทุกโอกาส 40-50 ปี ผ่านมาแล้วก็ยังตอบแทนกันไม่เลิกรา
รุ่นพ่อรุ่นแม่ตายไปแล้วก็ยังตอบแทนไปถึงรุ่นลูกรุ่นหลานเค้าอีก แล้วสั่งลูกหลานตัวเองไว้ด้วย ว่าถ้าบ้านนี้เดือดร้อนต้องหาทางช่วยเค้านะ
รุ่นผมขนาดเข้าใจ รู้เห็นความเป็นมาเป็นไป มองแล้วยังรู้สึกว่ามันมากเกินไป รู้สึกว่าที่ตอบแทนกันไปนี่มันเกิน 10 เท่าที่เค้าช่วยเราไปแล้ว

ในอีกมุมหนึ่งก็มีอีกหลายคนที่พ่อแม่ผมช่วยเค้าไว้ตอนลำบากเช่นกัน แล้วก็มีหลายคนที่ยังคงตอบแทนพ่อแม่ผมมาถึงปัจจุบัน แล้วก็สั่งลูกหลานไว้แบบเดียวกันพ่อแม่ผม
(แต่พวกที่ช่วยแล้วไม่สำนึกในบุญคุณก็มีนะ จริงๆเค้าไม่ได้หวังอะไรตอบแทนหรอก แค่ปีใหม่โทรมาถามไถ่ อวยพรขอให้สุขภาพแข็งแรง แค่ยังจำกันได้ว่าเคยช่วยเหลือกันมา ก็พอแล้ว)

ถามว่าทำแบบนี้ เป็นคนแบบนี้แล้วได้อะไร
เวลาที่เค้าลำบาก ใครๆก็อยากช่วยเหลือ เพราะรู้ว่าบ้านนี้ไม่เนรคุณคน รู้ว่าบ้านนี้จำบุญคุณคนไม่ลืม และจะหาทางตอบแทนแน่ๆเมื่อมีโอกาส
แต่ถ้าคุณเลือกจะเป็นคนเนรคุณคนแล้ว ต่อไปเวลาลำบาก อย่าไปหวังให้คนมาเหลียวแลช่วยเหลืออะไรอีก อย่าไปโทษฟ้าโทษดิน ให้โทษตัวเอง

วิธีแสดงน้ำใจ การรู้สำนึกในบุญคุณมีหลายวิธีไม่ต้องใช้เงินทอง เช่น
- ผักหญ้าผลไม้อะไรที่ปลูกบนที่ดิน ถึงฤดูกาลก็เก็บที่งามๆ เอาไปฝากเจ้าของที่
- เวลาบ้านเค้ามีงานบุญอะไร ต้องการมือไม้แรงงาน ก็อาสาไปช่วยเหลือ
- ปีใหม่พาลูกหลานไปสวัสดีทักทาย

คนโน้นคนนี้มาให้ความคิดเห็น แต่ชีวิตคุณอยากเลือกจะเป็นคนแบบไหน คุณเลือกเอาเอง
ความคิดเห็นที่ 19
จขกท.คะ เราเป็นนักกฎหมาย เราอยากบอกแค่ว่าอย่าบ้าจี้ตามความเห็นที่ให้ฟ้องครอบครองปรปักษ์นะคะ ฟ้องไปก็แพ้ เสียเงินเปล่าๆค่ะ เคสของ จขกท. ไม่ครบองค์ประกอบของการครอบครองปรปักษ์ค่ะ เอาเวลาไปคิดหาทางขยับขยายดีกว่าค่ะว่าต่อจากนี้จะทำยังไงดี
ความคิดเห็นที่ 28
นึกถึงลูกน้องผมเลย
ยายเค้ามีลูกจ้าง ไม่มีที่อยู่ เค้าก็ให้อยู่ในไร่ ปลูกบ้านให้อยู่
ให้ดูแลที่ดินให้อยู่มาตั้งแต่สาวๆจนมีลูกมีหลาน
ก่อนตายสั่งให้ลูกหลานให้เค้าอยู่ต่อ
อย่าไปเก็บค่าเช่าเค้า ลูกหลานก็เมตตาให้อยู่ต่อ
ไปฟังใครมาไม่รู้ มาฟ้องครอบครองปรปักษ์
สุดท้ายขึ้นศาลแล้วแพ้ ไม่มีที่อยู่เลยทีนี้
ลูกน้องเอาหมายศาล เอาคนไปรื้อบ้าน
ทำได้แค่มายืนร้องด่า หาว่าใจดำ อำมหิต
ลูกน้องผมนี่มองบนเลย ด่ากลับยับ อยู่ดีๆไปหาเรื่องแท้ๆ
ความคิดเห็นที่ 20
เราว่าญาติคุณ จขกท. คงไม่ใจร้ายไล่หรอก
อาจจะหมั่นไส้แกมโมโหมากกว่า
เพราะให้คุณอยู่มาเป็น 10 ปึแล้ว
และต่างฝ่ายต่างรู้ดีว่าที่ดินนี้เป็นของใคร

ที่โมโหเพราะรู้ทั้งรู้ว่าไม่ใช่ที่ดินของตัวเอง
แต่คุณแม่ จขกท. ยังจะไปต่อเติมห้องครัว
โดยไม่แจ้งบอกกล่าวให้เจ้าของที่อนุญาตก่อน

ถ้ามีเงินพอจะซื้อวัสดุเพื่อก่อสร้างห้องเพิ่มเติม
แสดงว่ามีเงิน ก็น่าจะเจรจาขอซื้อที่ดินของญาติดู
เผื่อญาติจะให้ราคาที่เราพอจะซื้อได้
ญาติพี่น้องกันคงพูดกันง่ายนะเราว่า
ลองเจรจาทำนองขอความกรุณาดูก่อน
จะได้ไม่ต้องขยับขยายไปไหน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่