บอกได้เลยว่า ในบรรดา ตระกูลมังกรหยกทั้งสามภาค ผมชอบภาคนี้ที่สุด สาเหตุเป็นเพราะว่า
ผมชอบ เตียบ่อกี้ ครับ(ฮ่าาาๆ) คือมันจะมีหนังจีนชุดสักกี่เรื่องที่พระเอก เหมือนเป็นจ้าวยุทธภพ
เป็นประมุขพรรคมาร(ตามคำครหาของยุทธภพ แต่ทำความดี) เป็นผู้นำเหล่าจอมยุทธ์ต่อต้านมองโกล
เก่งจัด คือแกแทบจะไม่เคยเสียท่าใครให้เห็นเลยนะครับในเรื่อง(ยกเว้นที่จี้เยียกแทงนะ อันนั้นแกยอมโดน
เอื้ออออ เกือบตายเหมือนกันนะน่ะ 555) เต็มที่ก็เล็กน้อย โดนวางยายังไม่เป็นไรเลย เทพจัด
ซึ่งต้องขออภัยท่านทั้งหลายด้วยครับ บางคนมองว่ามันเก่งเว่อร์ไป แต่ผมชอบแบบนี้ครับ อิอิ มันเท่ดี

เวอร์ชั่นนี้จริงๆฉายต้นปีที่แล้วครับ(2019) ถ้าผมจำไม่ผิดตอนนั้นมีเพจเอามาแปลซับไทยเอามาให้ดู
พร้อมกันกับที่ออกอากาศที่ประเทศจีนเลย คือแบบทันใจมาก แต่ในส่วนของพากย์ไทย เพิ่งจบไปไม่นาน
ช่วงต้นๆปีนี้เอง ช่องเก้าเอามาฉายครับ ทีมพากย์พันธมิตรซะด้วยนะ พระเอกเสียงหล่อเลย(ฮ่าาาๆ)



ข้อมูลเล็กๆน้อยๆ และภาพรวมสำหรับเวอร์ชั่นนี้ครับ
1.ช่วงหลังมานี้หนังจีนชุด ใช้แต่นักแสดงอายุน้อยๆและนักแสดงหน้าใหม่กันทั้งนั้นเลยครับ ในเรื่องนี้ก็เช่นกัน (มันคงสำเร็จกับอึ้งย้ง2017)
โดยเฉพาะพระเอก เดียบ่อกี้ อายุ20ต้นๆเอง น้อยกว่า ผญ ในเรื่องซะอีก เพราะส่วนใหญ่คนที่รับบทนี้ อายุแตะเลขสามกันหมด555
2.มีนักแสดงอยู่สองคนในเรื่อง คือ ราชสีห์ขนทอง กับ ทูตขวาเม้งก่า ซึ่งถ้าใครตามดู หนังจีนชุดยุคนี้มาตลอด จะเห็นได้ว่าสองคนนี้
แกเล่นเป็นตัวร้ายตัวใหญ่ทุกเรื่องเลยนะ แต่มาเรื่องนี้แกเล่นเป็นตัวดีแฮะ (ผมไม่รู้จักชื่อนะครับ คุณไปดูเองแล้วจะรู้ หน้าพวกแกคุ้นมาก)
3.อย่างที่เราทราบกันดีว่าตัวร้ายตัวบงการในเรื่องทั้งหมดคือ เซ่งคุน แต่ทำไมผมรู้สึกว่าตัวร้ายอีกตัว มันคือ จูหยวนจาง วะ ฮ่าๆๆ
ซึ่งเค้าเพิ่มบทของ จูหยวนจาง เข้ามาพอสมควร (สำหรับคนไม่รู้ จูหยวนจางคือคนในพรรคครับ แต่ท้ายที่สุดเค้าคือ ฮ่องเต้ตามประวัติศาสตร์จริง)
4.ผมเคยทราบมาว่า ที่ออกฉายทั้งหมด 50 ตอน จริงๆแล้วมันโดนตัดออกไปด้วยนะครับ แต่ก็ไม่ทราบว่ามากน้อยแค่ไหน
เค้าว่ามันเป็นเหตุผลของการออกอากาศที่จีนครับ(เวลาต่อ1ตอนมันคงเกินไปมั้ง) แต่เท่าที่ดูก็ปกติครับ ไม่ได้รู้สึกว่าอะไรขาดหายไป
5.เราจะได้เจอการนำเสนออะไรแปลกๆใหม่ๆในช่วงตั้งแต่ ตอนที่ 47 ครึ่งหลัง จนถึงตอนสุดท้าย ตอนที่ 50 ครับ (3ตอนครึ่งโดยประมาณ)
คงไม่สปอยแล้วเนอะ อย่างเช่น ขยายความตอนสู้รบกับมองโกลช่วงท้าย, ตัวละครที่ไม่ตายกลับตายในภาคนี้, พระเอกกับนางเอกลงเอยยากขึ้น
ดาบและกระบี่ที่พังไปแล้ว ถูกตีกลับขึ้นมาใหม่, ในตอนสุดท้ายมีการอัญเชิญ เตียบ่อกี้ ขึ้นเป็นฮ่องเต้ด้วยนะ!!(อันนี้มาไกลมาก)

และก็มาถึงสิ่งผมอยากจะพูดถึงมากที่สุดคือสาวงามในเรื่อง ต้องบอกก่อนว่า เราคงทราบกันดีแล้วว่า ตัวละคร
เตียบ่อกี้ ถูกวางให้เป็น คนที่จิตใจโลเลเรื่องความรัก คนในพรรคง้อไบ้ ให้สมญานามว่า โจรราคะน้อย แถมยังโดน
แม่นางเตี่ยเมี่ยง กัดแซะเรื่องนี้บ่อยมาก "ได้ยินชื่อ จิวจี้เยียก แล้ว สติหลุด ไม่อยู่กับตัวเลย" นางได้กล่าวไว้ ผมนี่ฮามาก
ปัญหาอย่างเดียวคือ หนังชุดนี้ ถูกทำขึ้นมานับไม่ถ้วนแล้วละไม่รู้กี่รอบแล้วด้วย
ทำให้เราคนดูมีภาพจำ และก็รู้อยู่แล้วว่าใครคือ คู่ พระ-นาง แต่ถ้าคนที่ดูเป็นครั้งแรก
(มันจะมีอยู่มั้ยวะเนี่ย คนที่เพิ่งเคยดูหรือเพิ่งเคยรู้จักหนังเรื่องนี้เป็นครั้งแรกอ่ะ คุณไปอยู่ส่วนไหนของโลกมา555)
ให้ลองมองมุมที่มันต่างออกไปบ้าง ผมทำสรุปรวมๆแต่ละคนไว้แบบนี้ครับ...



5. ฮึงลี้ อาลี้ หรือ ตู้ยี้ - นางมีรอยกัดในตำนาน ทำให้จำและชอบบ่อกี้แบบไม่ลืมเลยทีเดียว
นางต้องถูกตัดออกจากลิส เพราะ นางเป็นลูกของลุงเตียบ่อกี้ ถ้านับญาติกันก็เหมือนพี่สาวแหละนะ

4. ปุ้กฮุ่ย - มาเปิดใจช่วงกลางเรื่อง ว่าระหว่างนางกับบ่อกี้ ต่างคนต่างคิดกันแบบพี่น้อง
นางต้องถูกตัดออกจากลิส เพราะ ไปลงเอยกับจอมยุทธ์หก อาจารย์อาของบ่อกี้แทน

3. เสี่ยวเจีย - แม่กระต่ายน้อยของเรื่อง(เตี่ยเมี่ยงเรียกแบบนั้น555) ตามติดบ่อกี้แทบจะทั้งเรื่อง ในฐานะสาวใช้
นางต้องถูกตัดออกจากลิส เพราะ หลังจากความจริงเปิดเผย ต้องเดินทางกลับไปยังเปอร์เซีย

2. จิวจี้เยียก - จากคนดีสู่คนร้าย ช่วงแรกเหมือนจะมีใจให้บ่อกี้ เคยช่วยบ่อกี้หลายๆครั้ง
ผมกลับมองว่า อาจารย์นางนี่แหละตัวแสบ ที่ปั่นความคิดนาง ทำให้นางเป็นแบบนี้
และมาระเบิดเอาตอน โดนเจ้าบ่าวหนีงานแต่ง เข้าสู่ด้านมืดเต็มตัว(แต่งชุดดำ ขอบตาดำ ทาปากดำ บรึ๋ยยย!!)
การกระทำที่ผิดรุนแรงที่สุดคือ เหตุการณ์ชิงดาบกระบี่ ที่วางแผนฆ่าเตี่ยเมี่ยงและพลั้งมือฆ่าตู้ยี้
แต่!!! กลายเป็นว่า ไม่มีใครตายเลย ความผิดก็เลยเหมือนจะน่าให้อภัย ซึ่งช่วงหลังนางกลับคืนสู่ด้านสว่าง
ตามคำแนะนำของเจี่ยซุ่น สุดท้ายปรับความเข้าใจกับเตียบ่อกี้ได้ในตอนจบ และต่างคนต่างแยกย้ายกันไป

1. มินมิน เท่อมูเอ้อ หรือ เตี่ยเมี่ยง - นางคือด้านสลับขั้วของจิวจี้เยียกอย่างชัดเจน คือ จากคนร้ายสู่คนดี
โอเคถ้าผมบอกนางเป็นคนร้ายมาก่อน อาจจะดูโหดร้ายเกินไปสำหรับนางเอกของเรา แต่ว่า ช่วงที่นางมีบทเข้ามา
นางมีเจตนาจะทำร้ายหกสำนักใหญ่ ช่วงที่จะไปจัดการกับบู๊ตึ้ง ดีที่ว่ากลุ่มพวกพระเอกไปถึงทันเวลาพอดี
เคยลองคิดดูว่า ถ้าพวกกลุ่มพระเอกไปไม่ทันจะเป็นยังไง คงต้องมีตายกันบ้างแหละ แถมนางยังเป็นคนทาง
ฝั่งมองโกลอยู่ก่อนแล้ว ทำให้ค่อนข้างจะติดลบกับพวกเตียบ่อกี้ หลังจากผ่านช่วงหลังจากนั้นมาแล้ว
นางแสดงออกว่าชอบเตียบ่อกี้ และไม่เคยทำร้ายใครอีกเลย จนสุดท้ายฝ่าฟันอุปสรรคกันมา คู่กับเตียบ่อกี้ ได้สำเร็จ

จากที่บอกข้อมูลตัวละครหญิงมาคร่าวๆแล้ว ผมสรุปได้เองแบบนี้ครับ
1. ให้มองแบบนี้ครับว่า พระเอกของเรา มันนิสัยโลเลเรื่องความรักอยู่ก่อนแล้ว แม่เตี่ยบอกว่า มันมากรักครับ555
2. สาวงามในเรื่อง แทบทุกคนพฤติกรรม ไม่ขาว ไม่ดำ ซะทีเดียวครับ จะเป็นแบบ เทาๆ ซะมากกว่า
3. งั้นถ้าทุกคนนิสัยเทาๆ ผมมองว่าทุกคน(โดยเฉพาะเตี่ยเมี่ยงกะจี้เยียก) ใครก็มีโอกาสเป็นนางเอกได้ครับ แต่หวยมาออกที่ แม่น่างเตี่ย
4. ถ้าจะให้มองแบบนิสัยขาวสะอาด ในที่นี้ผมให้แค่ 2 คนครับ คือ เสี่ยวเจียว กับ ปุ้กฮุ่ย
5. ขยี้หนักเข้าไปอีกจากข้อที่แล้ว ถ้าจะเอาแบบ สวย ใส ไร้เดียงสา ตัดปุ้กฮุ่ย ออกก่อน
ผมให้ เสี่ยวเจียว คนเดียวเลยครับ เพราะนางไม่เป็นแม้แต่วรยุทธ์เลยนะ คือแม่กระต่ายน้อยจริงๆ555

*****************************************************************************************************************

ร่ายมาซะยาวเลยทั้งหมดก็ประมาณนี้นะครับ อ้อ เกือบลืมไป เวอนี้ห่างจากเวอก่อน 10 ปีเลยครับ
และก็ยังคงอรรถรสไว้เหมือนเดิม เพิ่มเติมคือ นักแสดง เสื้อผ้า หน้า ผม ฉาก เอฟเฟ็ค สมกับเป็นหนังยุคนี้ ขอย้ำนะครับว่า
***ทั้งหมดเป็นความเห็นส่วนตัว จากเวอร์ชั่นนี้เท่านั้นนะครับ และไม่อ้างอิงถึงภาคก่อนๆหรือฉบับนิยายบทประพันธ์ใดๆทั้งสิ้น***
ขอขอบคุณทุกท่าน ที่เข้ามาอ่านนะครับ อิอิ

ปล. เพลงเปิดหนังเรื่องนี้เป็นเพลงเดียวกันที่ใช้กับตอนเวอร์ชั่น ปี19..เท่าไรนี่แหละ
ที่แม่ชีมิกจ้อเวอร์นี้คือจิวจี้เยียกเวอร์นั้น คำร้อง คนร้อง ทำนอง ดนตรี ทุกอย่างเหมือนเดิมเป้ะๆ
(แต่อาจเอามาขับร้องใหม่อีกรอบมั้ง) ซึ่งฟังดูเพลงมันก็ไม่ได้โบราณเลยนะ ยังฟังดูแล้วเข้ากับหนังยุคนี้มาก