ถ้าเราศึกษาประวัติศาสตร์การเงินการธนาคาร
มนุษย์เราเริ่มแลกเปลี่ยนค้าขายจากยุคเริ่มต้นที่นำสินค้ามาแลกเปลี่ยนสินค้า
ยุคแรกเรียกว่า Barter การค้าขายก็เริ่มต้นเมื่อประมาณ 7000 ปี ที่แล้ว
การพัฒนาเรื่องเงินตราก็พัฒนาเรื่อยมา มีการใช้ดินเหนียว โลหะ ทองสัมฤทธิ์ มาแทนเงินตรา
ในสมัยราชวงค์ฮั่น เริ่มใช้กระดาษมาเป็นตั๋ว เรียกว่าเงินตรา หรือ พันธบัตรรัฐบาล
ต่อมา มาร์โคโปโร ก็นำวัฒนธรรมจีนไปเผยแพร่ในยุโรป และพัฒนาเป็นเงินกระดาษมาถึงปัจจุบัน
ในอดีต สหภาพยุโรป โดยมีอังกฤษ ฝรั่งเศสเป็นตัวตั้งตัวตี
ในการใช้ทองคำมาเป็นตัวการันตีค่าของเงินกระดาษเรียกว่า Gold Standard แต่เพราะสภาวะสงคราม
ที่จะต้องใช้เงินมหาศาลในการทำสงคราม เช่นซื้ออาวุธยุโธปกรณ์ต่างๆ
อเมริกา เป็นเจ้าแรกที่พิมพ์ธนบัตรออกมาเกินกับจำนวนทองคำที่ฝากไว้
ทำให้ทั้งอังกฤษและฝรั่งเศสสั่งถอนทองคำขนกลับประเทศ
แต่อเมริกามันฉลาด การที่จะคงมูลค่าของเงินดอลล่าร์ ให้เป็น The World Currency
เลยเอาเงินดอลล่าร์ไปผูกกับราคาน้ำมันเรียกว่า Petro Dollars ใครจะซื้อ-ขายน้ำมันต้องแลกเงิน
เป็นดอลล่าร์ก่อน จึงจะซื้อได้ ซึ่งสร้างความไม่พอใจแก่ประเทศต่างๆ ทั่วโลก
โดยเฉพาะค่ายคอมมิวนิสต์อย่าง รัสเซีย และ จีน
ประเทศจีนถึงขนาดประกาศจะใช้ Petro Yuan แต่ก็ไม่สำเร็จ
เพราะแหล่งน้ำมันในตะวันออกกลาง อเมริกาควบคุมดูแลอยู่ จีน-รัสเซีย
ได้แต่มองตาปริบๆ ทำอะไรไม่ได้
การเมืองคือเรื่องผลประโยชน์ โดยเฉพาะการเมืองระหว่างประเทศ
สืบไปสืบมา อ่านไปอ่านมา คนที่ควบคุมโลก ก็ไม่ใช่อเมริกา แต่เป็นกลุ่มนักธุรกิจไม่กี่ตระกูล
ที่ควบคุม เศรษฐกิจโลก กำหนดค่าเงินต่างๆ รวมทั้งเป็นเจ้าของ Central Bank ที่กำหนดค่าเงินโลก
และเรียกเก็บค่าธรรมเนียมต่างๆ
แนวคิดในการโค่นล้มระบบการเงิน Fiat Money มีมานานแล้วตั้งแต่ประธานาธิบดี นิกสัน
จึงได้เกิด decentalize money ที่เรียกกันว่า Clypto Currency โดยต้นแบบคือ Bitcoin ในปี 2008 และ
ตามมาอีกหลายสกุลเงิน Etherium, Ripple และอื่นๆ อีกมากมาย มากกว่า 3000 สกุลเงินดิจิตัลในปัจจุบัน
หลายๆคนนักลงทุน นักเศรษฐศาสตร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินเชื่อว่า Cypto Currency จะมา Disrupted
วงการการเงินโลก
แต่ดูเหมือนว่า ปัจจุบันความเห่อเหรียญคลิปโต เหมือนจะค่อยๆหายไป ทำให้เหรียญสกุลต่างเริ่มร่วงลงๆ เรื่อยๆ
จีนเป็นประเทศมหาอำนาจที่สามารถคานอำนาจอเมริกา
และจีน เป็นประเทศที่พัฒนาสกุลเงินดิจิตัลได้ต่อเนื่อง เพราะรัฐบาลจีน มีความเป็เอกภาพมากกว่า อเมริกา
ธนาคารกลางของจีน เงินหยวน รัฐบาลตวบคุมได้ แต่ เงินดอลล่าร์ แม้จะเป็นของรัฐบาล
แต่ผู้ที่ควบคุมมูลค่าของเงินดอลล่าร์ เป็นของเอกชนกลุ่มนักธุรกิจ ที่มีอิทธิพลมากกว่า
ผู้ควบคุมมูลค่าดอลล่าร์จึงกลายมาเป็นกลุ่มนักธุรกิจ แทนที่จะเป็นรัฐบาล
ผมเชื่อว่า สกุลเงินดิจิตัล Clypto Currency ที่จะเกิดขึนในโลกนี้
และใช้ได้จริงเป็นรูปธรรมแทนเงินดอลล่าร์ น่าจะเป็นของจีน
มันจะเกิดขึ้นจริงหรือไม่ ผมว่าไม่น่าเกิน 5-10 ปีนี้แน่นอน
:: เงินดิจิตัล Clypto Currency จะมาเปลี่ยนโลกจริงหรือ ?
มนุษย์เราเริ่มแลกเปลี่ยนค้าขายจากยุคเริ่มต้นที่นำสินค้ามาแลกเปลี่ยนสินค้า
ยุคแรกเรียกว่า Barter การค้าขายก็เริ่มต้นเมื่อประมาณ 7000 ปี ที่แล้ว
การพัฒนาเรื่องเงินตราก็พัฒนาเรื่อยมา มีการใช้ดินเหนียว โลหะ ทองสัมฤทธิ์ มาแทนเงินตรา
ในสมัยราชวงค์ฮั่น เริ่มใช้กระดาษมาเป็นตั๋ว เรียกว่าเงินตรา หรือ พันธบัตรรัฐบาล
ต่อมา มาร์โคโปโร ก็นำวัฒนธรรมจีนไปเผยแพร่ในยุโรป และพัฒนาเป็นเงินกระดาษมาถึงปัจจุบัน
ในอดีต สหภาพยุโรป โดยมีอังกฤษ ฝรั่งเศสเป็นตัวตั้งตัวตี
ในการใช้ทองคำมาเป็นตัวการันตีค่าของเงินกระดาษเรียกว่า Gold Standard แต่เพราะสภาวะสงคราม
ที่จะต้องใช้เงินมหาศาลในการทำสงคราม เช่นซื้ออาวุธยุโธปกรณ์ต่างๆ
อเมริกา เป็นเจ้าแรกที่พิมพ์ธนบัตรออกมาเกินกับจำนวนทองคำที่ฝากไว้
ทำให้ทั้งอังกฤษและฝรั่งเศสสั่งถอนทองคำขนกลับประเทศ
แต่อเมริกามันฉลาด การที่จะคงมูลค่าของเงินดอลล่าร์ ให้เป็น The World Currency
เลยเอาเงินดอลล่าร์ไปผูกกับราคาน้ำมันเรียกว่า Petro Dollars ใครจะซื้อ-ขายน้ำมันต้องแลกเงิน
เป็นดอลล่าร์ก่อน จึงจะซื้อได้ ซึ่งสร้างความไม่พอใจแก่ประเทศต่างๆ ทั่วโลก
โดยเฉพาะค่ายคอมมิวนิสต์อย่าง รัสเซีย และ จีน
ประเทศจีนถึงขนาดประกาศจะใช้ Petro Yuan แต่ก็ไม่สำเร็จ
เพราะแหล่งน้ำมันในตะวันออกกลาง อเมริกาควบคุมดูแลอยู่ จีน-รัสเซีย
ได้แต่มองตาปริบๆ ทำอะไรไม่ได้
การเมืองคือเรื่องผลประโยชน์ โดยเฉพาะการเมืองระหว่างประเทศ
สืบไปสืบมา อ่านไปอ่านมา คนที่ควบคุมโลก ก็ไม่ใช่อเมริกา แต่เป็นกลุ่มนักธุรกิจไม่กี่ตระกูล
ที่ควบคุม เศรษฐกิจโลก กำหนดค่าเงินต่างๆ รวมทั้งเป็นเจ้าของ Central Bank ที่กำหนดค่าเงินโลก
และเรียกเก็บค่าธรรมเนียมต่างๆ
แนวคิดในการโค่นล้มระบบการเงิน Fiat Money มีมานานแล้วตั้งแต่ประธานาธิบดี นิกสัน
จึงได้เกิด decentalize money ที่เรียกกันว่า Clypto Currency โดยต้นแบบคือ Bitcoin ในปี 2008 และ
ตามมาอีกหลายสกุลเงิน Etherium, Ripple และอื่นๆ อีกมากมาย มากกว่า 3000 สกุลเงินดิจิตัลในปัจจุบัน
หลายๆคนนักลงทุน นักเศรษฐศาสตร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินเชื่อว่า Cypto Currency จะมา Disrupted
วงการการเงินโลก
แต่ดูเหมือนว่า ปัจจุบันความเห่อเหรียญคลิปโต เหมือนจะค่อยๆหายไป ทำให้เหรียญสกุลต่างเริ่มร่วงลงๆ เรื่อยๆ
จีนเป็นประเทศมหาอำนาจที่สามารถคานอำนาจอเมริกา
และจีน เป็นประเทศที่พัฒนาสกุลเงินดิจิตัลได้ต่อเนื่อง เพราะรัฐบาลจีน มีความเป็เอกภาพมากกว่า อเมริกา
ธนาคารกลางของจีน เงินหยวน รัฐบาลตวบคุมได้ แต่ เงินดอลล่าร์ แม้จะเป็นของรัฐบาล
แต่ผู้ที่ควบคุมมูลค่าของเงินดอลล่าร์ เป็นของเอกชนกลุ่มนักธุรกิจ ที่มีอิทธิพลมากกว่า
ผู้ควบคุมมูลค่าดอลล่าร์จึงกลายมาเป็นกลุ่มนักธุรกิจ แทนที่จะเป็นรัฐบาล
ผมเชื่อว่า สกุลเงินดิจิตัล Clypto Currency ที่จะเกิดขึนในโลกนี้
และใช้ได้จริงเป็นรูปธรรมแทนเงินดอลล่าร์ น่าจะเป็นของจีน
มันจะเกิดขึ้นจริงหรือไม่ ผมว่าไม่น่าเกิน 5-10 ปีนี้แน่นอน